ฤา สเปน จะเป็นแชมป์แบบ “ไร้หัวหอก“

การผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกยูโร 2012 หลังดวลลูกโทษที่จุดโทษเอาชนะเหนือคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ทีมแดนขนมฝอยทอง "โปรตุเกส" 4-2 ประตู เมื่อคืนวันพุธ (27 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

ได้ทำให้ทีมชาติสเปน ภายใต้การนำทีมของ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ เป็นชาติแรกที่สามารถคว้าแชมป์รายการเมเจอร์มาครอบครองได้ 3 รายการติดต่อกัน หลังจากพวกเขา ซิวแชมป์ยูโร 2008 และแชมป์เวิลด์คัพ 2012 มาครองก่อนหน้านี้

แต่หากมองย้อนกลับไป ในเกมกับ โปรตุเกส ที่เมืองโดเน็ตส์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ทีมแดนกระทิงดุชุดนี้ หากไปเทียบกับชุดที่ซิวแชมป์ยุโรป เมื่อ 4 ปีก่อน และคว้าแชมป์โลกที่แอฟริกาใต้ เมื่อ 2 ปีก่อน ดูเหมือนว่าบรรดาผู้สันทัดและไม่สันทัดกรณี ต่างมองว่า สเปน ชุดนี้ ดีไม่เท่ากับ 2 ชุดที่สร้างประวัติศาสตร์ก่อนหน้า

นั่นคงจะไปโทษ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือของทีมแดนกระทิงดุแบบเต็ม ๆ ไม่ได้ เนื่องเพราะว่า สถานการณ์ของ สเปน ชุดนี้ กับ 2 ชุดแห่งความสำเร็จก่อนหน้านี้ แตกต่างกันมากนัก

การขาด ดาวิด บีญ่า ศูนย์หน้าคนสำคัญที่มีส่วนร่วมในการคว้าแชมป์ยูโร และ เวิลด์คัพ 2 ทำให้ สเปน ดูจะขาดประสิทธิภาพไปไม่น้อยเลยทีเดียว กับจังหวะสุดท้ายของการทำประตู

แท็กติก ใช้ผู้เล่นมิดฟิลด์ลงไปเต็มพรึดในสนามของ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ที่ถูกสื่อและแฟนบอลเมืองกระทิงดุ ออกมาตำหนิว่า ทำให้ทีมชาติสเปน ต้องเล่นในแบบ "บอริ่งฟุตบอล" คือครองบอล ต่อบอลไป-มา แบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ จำเป็นที่จะต้องนำออกมาใช้

แต่นั่นคือสิ่งที่ เดล บอสเก้ ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ เนื่องเพราะว่า บรรดากองหน้าที่ถูกนำมาใช้งานในศึกยูโรหนนี้ ก็ไม่ได้มีใคร แสดงให้เห็นผลงานที่น่าประทับใจเลยสักคนเดียว

เฟร์นานโด ตอร์เรส อาจจะยิงได้แล้ว 2 ประตู แต่ก็เกิดจากนัดที่สเปน ต้องเจอกับทีมที่ดู "อ่อน" ที่สุดของทัวร์นาเมนต์อย่าง สาธารณรัฐไอร์แลนด์

ในขณะที่ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจออกมาได้เลย ในเกมที่ สเปน เจอกับ โปรตุเกส แถม เนเกรโด้ แทบจะไม่มีส่วนร่วมในเกมเลยด้วยซ้ำไป

เพราะว่า เกมรุกของ สเปน หลังเปลี่ยน เนเกรโด้ ออก แล้วส่ง เชส ฟาเบรกาส ลงสนาม ดูจะหวือหวามีสีสันมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ที่ทีมกระทิงดุ เกือบจะจัดการเช็กบิลทีมแดนฝอยทองได้

เพราะฉะนั้น "คำถาม" ที่ดูเหมือนว่าจะมี "คำตอบ" เรียบร้อยแล้ว สำหรับทีมชาติสเปน ในเกมนัดชิงชนะเลิศก็คือ ไม่ว่าจะเจอกับใคร จะเป็น เยอรมนี หรือว่า อิตาลี ก็เชื่อว่า ทีมของ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ยังไงก็ต้องเล่นในรูปแบบ "ไร้หัวหอก" อย่างแน่นอน

แม้ว่าแท็กติกดังกล่าวจะทำให้ทีมแดนกระทิงดุ ถูกมองว่า มีประสิทธิภาพในเกมรุกที่ "อ่อน" กว่าชุดที่ได้แชมป์โลก หรือ แชมป์ยูโร ก่อนหน้านี้

แต่แท็กติกเดียวกันนี้แหละ ทำให้ สเปน ไม่ว่าจะเจอกับทีมไหน ก็สามารถที่จะครอบครองสถานการณ์การเล่นเอาไว้ได้เหนือกว่าคู่ต่อสู้ทุกทีม

เพียงแต่ว่า มันจะดีถึงขั้นไปถึงแชมป์ได้หรือไม่?

คำตอบรออยู่ ตอนค่อนรุ่งเช้าวันจันทร์ (2 ก.ค.) ที่จะถึงนี้ครับ

สนับสนุนเนื้อหา

Create Date : 30 มิถุนายน 2555
Last Update : 30 มิถุนายน 2555 9:53:09 น.		0 comments
Counter : 1516 Pageviews.
Share Tweet