เริ่มเกมมา ในช่วง 5 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังไม่มีโอกาสทำประตูกันเท่าไร โดยจะเป็นการต่อบอลในแดนกลางซะมากกว่า น. 9 ทีม ออสตาร์ ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม กิลเบิร์ต คูมสัน โยนบอลเข้ามากลางประตู ผู้เล่นทีมชาติไทย โหม่งสกัดมาเข้าทาง ซารูตะ ยิงสวนด้วยหลังเท้าทันที บอลไม่ตรงกรอบ

น. 13 ทีม ออลสตาร์  ได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ กิลเบิร์ต คูมสัน รับบอลบริเวณ 25 หลา ก่อนที่จะแตะหนี จักรพันธ์ แล้วยิงด้วยขวาทันที แต่ยังตรงตัว ศิวลักษณ์

 

น. 15 ยังเป็น ทีม ออลสตาร์ ที่ทำเกมได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด จากจังหวะเล่นลูกเตะมุมสั้น คูมสัน รับจาก ซารูตะ ก่อนจะผ่านเร็วให้กับ มาริโอ ดา ซิลวา  แปด้วยขวาเน้นๆ บอลก็ยังเบาไป ทำให้ ศิวรักษ์ รับสบาย จากนั้นนาที 17 เป็นโอกาสแรกของ ทีมชาติไทยบ้าง จากจังหวะที่ ธีรศิลป์ หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่เจ้าตัวจะยิงยัดทางเสาแรก เดวาลา กอร์ลิค ปัดทิ้งออกหลังไปได้

 

น.28 ทีมชาติไทย ที่ทำเกมบุกได้น้อยกว่ากลับมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ดัสกร แทงบอลทะลุช่องให้กับ ธีรศิลป์ ที่เข้าถึงบอลก่อนกองหลัง ทีม ออสตาร์ ก่อนที่จะชิพบอลข้ามตัวของ เดวาลา กอร์ลิค ที่พยายามจะออกมารับบอล เข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูขึ้นนำให้กับ ทีมชาติไทย 1-0 หลังจากเสียประตูทีมออลสตาร์ พยายามเปิดบุกเข้าใส่อย่างหนักหวังทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่ยังไม่มีจังหวะลุ้นเท่าไร

 

น. 39 ทีม ออลตาร์ ได้จังหวะลุ้นประตูตีเสมอจากการหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายของ โอกาวา เคซูเกะ ก่อนยิงด้วยซ้ายหักข้อมากไปทำให้บอลโค้งผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย น.42 คูมสัน พาบอลเข้ามาทางฝั่งขวาก่อนที่เจ้าตัวจะผ่านบอลเร็วเข้ามาหน้าปากประตู ดูดู้ พยายามจะล้มตัวยิงอต่ไม่โดนบอล น.43 เป็นโอกาสที่ ทีมชาติไทย จะทำประตูนำห่าง อนุชา ขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้ายก่อนถึงเส้นหลัง ผ่านบอลย้อนกลับมาให้กับ ดัสกร แปด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งผ่านมือของ เดวาลา กอร์ลิค ไปแล้ว ยังดีที่ อมาร่า เจอรี่ ยืนคุมเส้นอยู่ตรงนั้นเตะทิ้งออกมาได้

 

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีม ออลสตาร์ มาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ ภานุพงษ์ ไปทำฟาวล์ ซารูตะ ในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ชัยยะ มหาปราบ ไม่รอช้า เป่าให้จุดโทษแก่ ทีม ออลสตาร์ ทันที และเป็น ดั๊กลาส การ์โดโซ่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เป็นประตูตีเสมอให้กับ ทีมออลสตาร์ไทยพรีเมียร์ลีก หลังจากเขี่ยลูกผู้ตัดสินก็เป่าหมดเวลาทันที ทำให้หมดครึ่งแรก ทีมชาติไทย เสมอกับ ทีมออลสตาร์ไทยพรีเมียร์ลีก 1-1

 

กลับเข้าสู่ครึ่งเวลาหลังทั้งสองทีมกับการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นกันพอสำ ควร โดยทีมชาติไทย ถอดเอา ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ดัสกร ทองเหลา และ กีรติ เขียวสมบัติ ออกไปพักแล้วส่ง สุมัญญา ปุริสาย จิรวัฒน์ มัครมย์ สุริยา ดอมไธสง ลงมาเล่นแทน ทางฝั่ง ทีม ออลสตาร์ ทำการเปลี่ยนตัวยกชุด 

 

น. 50 ทีมชาติไทย ขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย อนุชา เปิดบอลให้กับ ธีรศิลป์ วอลเล่ย์ด้วยขวา บอลไม่ตรงกรอบ หลังจากนั้นอีก 2 นาที เชเฟอร์ ได้ถอดเอา ธีรศิลป์ ไปพักแล้วส่งตัว ชาตรี ฉิมทะเล ลงไปแทน 

 

น.56 อัตนัน มีโอกาสพลิกบอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนที่จะยิงด้วยซ้าย ศิวรักษ์ ล้มตัวรับไว้ได้ น.60 ทีมชาติไทย ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ จักรพันธ์ เลี้ยงบอลสุดเส้นหลังผ่านบอลเข้ามาหน้าประตู สุมัญญา วิ่งเข้ามายิงเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ทีมชาติไทย นำ 2-1

 

น.68 โซโลม่อน แทงบอลให้กับ ฮิโรกิ วิ่งตัดหลังมารับบอลก่อนจะยิงด้วยขวา บอลตรงตัว ศิวรักษ์ น.74 ทีมชาติไทยมีโอกาสอีกครั้ง จากจังหวะที่ สุริยา ขึ้นเกมมาทางขวา ก่อนที่จะไหล่ให้กับ สุมัญญา แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยขวา บอลติดเซฟ น.77 มงคล ผ่านบอลเข้ากลางให้กับเลยไปเสาสองที่มี สุริยา รออยู่จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงเต็มข้อบอลเข้าข้างตาข่าย

 

น. 78 สกอร์ขยับไปเป็น 3-1 จากจังหวะที่ ธีรทร โยนบอลลึกไปเสาสองให้กับ สุริยา โหม่งตั้งคืนกลับมาให้กับ อดุล หละโสะ จะแตะบอลหลบกองหลังทีม ออลสตาร์แล้วจ่ายให้กับ ชาตรี ยิง จากนั้นอีก 4 นาทีสกอร์ขยับหนีห่างออกไปอีกเป็น 4-1 สุมัญญา จ่ายบอลให้กับ มงคล วิ่งมายิงด้วยซ้ายข้างถนัดบอลพุ่งผ่านหน้า วาตานาเบ เข้าไป

ถัดมาอีกนาทีเดียว ทีมชาติไทย ขยับหนีไปอีก จากจังหวะที่ ณภัทร ขึ้นเกมมาก่อนที่จะจ่ายบอลให้กับ อดุล วิ่งเข้ามายิง ทีมชาติไทยหนีห่างไป 5-1 ช่วงท้ายเกมทั้งสองทีมไม่มีจังหวะได้ลุ้นประตูกันเท่าไร ทำให้จบเกม ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีม ออลสตาร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ไป 5-1

 

 

ทีมชาติไทย : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน(GK), ภานุพงษ์ วงศ์ษา (อดุลย์ หละโสะ น.63), ชลทิตย์ จันทคาม, นิเวศ ศิริวงษ์, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ (สุมัญญา ปุริสาย)(c), ดัสกร ทองเหลา(จิรวัฒน์ มัครมย์ น.46 สุเชาว์ นุชนุ่ม น.66), กีรติ เขียวสมบัติ (สุริยา ดอมไธสง น.46), ธีรศิลป์ แดงดา(ชาตรี ฉิมทะเล น.56), อนุชา กิจพงษ์ศรี (มงคล นามนวด น.72), จักรพันธ์ แก้วพรหม (พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ น.72), ธีรทร บุญมาทัน (ณภัทร ธำรงศุภกร น.79),

 

ออลสตาร์ ไทยพรีเมียร์ลีก : เดวาลา กอร์ลิค (จูนิชิ วาตานาเบ น.46)(GK), เดยัน วูคาดิโนวิช(โซโลมอน โอคูตู น.46), มาริโอ้ ดา ซิลวา(โคเน่ เซย์ดู น.46), อมาร่า เจอรี่ (ดับดุล คูริบาลี น.46), โอกาวา เคซูเกะ (ดั๊กลาส โคโบ น.46), หลุยส์ เอดูอาร์โด (อัตนัน บาราคัต น.46), ดั๊กลาส การ์โดโซ่ (เปาโล บาร์โบซ่า น.46), กิลเบิร์ต คูมสัน (คิม บา วี น.46), ซอน กวาง จิน(มุสซ่า ซิลล่า น.46), โจเซฟ โอบาม่า (อัลฟ่า ซามา น.46) (c), ฮิโรโนริ ซารูตะ (ยูกิ บัมบะ น.46)

 

หลังจบเกมด้าน วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย กล่าวว่า "เป็นเกมที่นักเตะทุกคนทำผลงานได้ดี และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น แม้จะเป็นแค่เกมอุ่นเครื่องก็ตาม ที่ผ่านมาทีมชาติไทยทำประตูได้น้อย แต่วันนี้ยิงได้ถึง 5 ลูกก็ถือว่าน่าพอใจมาก"

"โดยเกมนี้ตนได้ลองปรับมาเล่นกองหลัง 5 คน ซึ่งก็ทำให้เห็นถึงศักยภาพของทีมชาติไทยมากขึ้น โดยหลังจากนี้ในช่วงเดือนกันยายน ที่มีโปรแกรมของฟีฟ่าตนนั้นต้องการให้ทีมชาติไทยมีโปรแกรมอุ่นเครื่องเหมือน เดิม โดยพรุ่งนี้จะเข้าไปคุยกับนายกสมาคมฯ ถึงเรื่องดังกล่าวด้วย"

สนับสนุนเนื้อหา