ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

เป็นไปได้ และมันก็เป็นไปแล้ว!

เป็นไปได้ และมันก็เป็นไปแล้ว!
เป็นไปได้ และมันก็เป็นไปแล้ว!

การแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่หลายคนเฝ้าฝันและรอคอยว่า มันจะเป็นการชิงชัยกันระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่ "ขึ้นหม้อ" อย่างมากในช่วงนี้ นั่นก็คือ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด และ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า

ทำไปทำมา กลายมาเป็นเกมระหว่าง "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค กับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ซะงั้น

ทีมแรกไปก่อนเพื่อนนั่นคือ บาร์เซโลน่า ที่พลาดท่าทั้งที่มีโอกาสที่จะปลิดชีพทีมเก๋าจากลอนดอน แต่กลับทิ้งขว้างโอกาสไปซะทั้งหมด

ทีมที่สองคือ เรอัล มาดริด ก็มีโอกาสแล้วเช่นกัน แต่ก็ทำไม่ได้

สิ่งที่เหมือนกันแบบบังเอิญก็คือ ทั้ง บาร์ซ่า และมาดริด มีโอกาสนำคู่แข่งไปก่อน 2 ลูก แต่กลับไม่สามารถรักษาสกอร์นำ และไม่สามารถรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้ได้ ทำให้เสียประตูที่มีค่าไปอย่างรวดเร็ว และไม่ห่างมากนักจากประตูแรกที่ทำได้

ยิ่งไปกว่านั้น สองนักเตะที่ว่ากันว่า “ดีที่สุดแห่ง ค.ศ.นี้” อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ต่างพลาดจุดโทษกันทั้งคู่...เหมือนกันโดยมิได้นัดหมาย!

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ทำไม “เดอะ สเปเชี่ยล วัน” โจเซ่ มูรินโญ่ เลือกที่จะให้ลูกทีม “ถอยทัพ” แทนที่จะ “ยาตราทัพ” ทั้งที่เหลืออีกถึง 30 นาทีในครึ่งเวลาหลัง

มาดริด ไม่ได้เล่นเกมรุกอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับเลือกที่จะยืนปักหลักตำแหน่ง โดยเฉพาะเกมรับไม่มีการเติมขึ้นไป เช่นเดียวกับ ชาบี อลอนโซ่ กับ ซามี่ เคดิร่า ไม่ขึ้นเกินกว่า 40 หลาหน้าโกล์ตัวเอง

จุดนี้ผมมองว่า นี่คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ มูรินโญ่

หากบุกขึ้นไปแล้วได้ประตู มันก็ไม่แปลกเมื่อสถานการณ์จะเหมือนกับช่วงต้นเกมทันที และไม่ต้องไปเสี่ยงกับการที่จะต้องมาดวลจุดโทษ

ไม่เข้าใจ อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ

ทุกคนในโลก รวมทั้ง มูรินโญ่ ด้วย ย่อมรู้ดีว่า พวกเยอรมนีมีเรื่องแปลกๆ อยู่ก็คือ พวกเขามี DNA การยิงจุดโทษอยู่ในตัวมาตั้งแต่เกิด

แน่นอนว่า จะต้องมีพลาดบ้าง แต่ถามหน่อยว่า เมื่อคัดรวมออกมาแล้ว เยอรมนี ที่ทุกท่านได้เห็นนั้น แพ้จุดโทษยากมาก

ตำนานระบุไว้ในระดับทีมชาติ พวกเขาแพ้ครั้งแรกและครั้งเดียวเมื่อปี 1976 ยูโรที่พวกเขาเป็นเจ้าบ้านและพ่าย เชโกสโลวะเกีย ในยุคที่ยังไม่ล่มสลายแค่หนเดียวเท่านั้น

บอกตามตรงว่า เกิดไม่ทันเหมือนกัน

ส่วนที่เกิดทันก็ไม่เห็นมีเยอรมนีพ่ายการดวลเป้า

เมื่อไม่มี “เอล กลาซิโก้” การได้เห็นคู่ชิงที่สะบักสะบอมที่สุดอีกครั้งในวงการฟุตบอล ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะชี่อของ บาเยิร์น มิวนิค ขายได้ทุกยุคทุกสมัย เช่นเดียวกับ เชลซี นาทีนี้คนรู้จักทั้งโลก

น่าดูและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับเกมตัดสินเจ้ายุโรปหนนี้ และที่สำคัญทั้งสองทีมก็มีลุ้น “ดับเบิลแชมป์บอลถ้วย” เหมือนกันอีกด้วย

ว่ากันว่า หลังจากจบเกมนี้ แฟนบอลบาเยิร์น กับ แฟนบอลเชลซี รวมถึงชมรมคนหมั่นไส้ความสำเร็จของบาร์ซ่า และเบื่อการทุ่มซื้อของ มาดริด จะได้เริงร่ากันสุดๆ แล้ว มีอยู่องค์กรหนึ่งของประเทศไทย ที่น่าจะคึกคักและมีความสุขไม่แพ้กัน

นั่นคือ สิงห์ คอร์ปอเรชั่น นั่นเอง

อย่างที่ทราบกันว่า เป็น "โกลบอล พาร์ตเนอร์" ให้กับ เชลซี และที่สำคัญมีโรงงานปรุงรสเบียร์อยู่ที่แคว้นบาวาเรีย

ณ มหานครมิวนิค อีกด้วย!   

บี แหลมสิงห์

//sport.sanook.com/1114561




Create Date : 28 เมษายน 2555
Last Update : 28 เมษายน 2555 9:57:10 น. 0 comments
Counter : 1103 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]