ดูกันชัดๆ ทำไมต้อง รถไฟทางคู่ !?
ทำไมต้อง รถไฟทางคู่ ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่มีรถไฟใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนิ่นนานหลายปี ระบบการคมนาคมทางรถไฟของไทย ยังคงมีเสียงตอบรับจากผู้โดยสารที่ไม่รู้สึกปลื้มเท่าไหร่นัก กับการบริการที่มักจะล่าช้า กลายเป็นตัวเลือกสุดท้ายในการเดินทางที่ต้องอาจจะต้องพบเจอกับความสกปรก ทั้งเบาะนั่ง และห้องน้ำ และยังคงความคลาสสิกไม่เปลี่ยนแปลง จนกระทั่งหลายคนต้องการให้มีการ ปฏิรูปรถไฟไทย โละปรับโฉมใหม่ยกเข่ง ทั้งบุคลากร ระบบราง คุณภาพของรถ และหัวรถจักรที่ทันสมัย และแม้ว่า รถไฟความเร็วสูง ยังไม่ใช่โครงการเร่งด่วนของ คสช. เนื่องจากใช้งบประมาณสูง แต่ทาง สคช.เอง สนใจศึกษารายละเอียดในการจัดการเดินหน้าระบบราง นั่นก็คือ รถไฟทางคู่ ด้วยการแข่งขันทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ การข่นส่ง คมนาคม เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เราจะเห็นข้อด้อยของรถไฟไทยเป็นอย่างมาก หนทางที่จะต้องเดินหน้าคือ เน้นมาพัฒนาระบบขนส่งทางราง เพราะมีราคาถูกปลอดภัยสะดวกและรวดเร็ว ได้รับการยอมรับในระดับสากลเพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียน รถไฟทางคู่ ก็คือรถไฟที่วิ่งบนรางคู่ ระบบรางเหมือนรถไฟความเร็วสูง แต่ใช้ความเร็วประมาณ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แก้ปัญหา รถไฟรอสลับราง ไม่ต้องรอหลีกทางเมื่อรถสวนกัน สามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าเดิม และช่วยในเรื่องของการข่นส่งสินค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้กับประเทศให้ดึงดูดกับการลงทุน โดยความคืบหน้าของโครงการ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิด เผยว่า ขณะนี้ได้เริ่มเปิดประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่แล้ว 1 เส้นทาง คือ ระหว่างถนนจิระถึงขอนแก่น ส่วนอีก 5 เส้นทางที่อยู่ในแผนของการรถไฟฯ นั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับเลี่ยงเส้นทางบางจุด ขณะที่ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยข้อมูล เกี่ยวกับค่าโดยสารรถไฟ ที่คาดว่าจะมีอัตราค่าโดยสารดังนี้ เส้นทางกรุงเทพฯ เชียงใหม่ รถไฟทางคู่ ค่าโดยสาร 881 บาท ระยะทางกรุงเทพฯ หนองคาย รถไฟทางคู่ 758 บาท ระยะทางกรุงเทพฯ หาดใหญ่ ค่าโดยสารรถไฟทางคู่ อยู่ที่ 945 บาท แน่นอนว่า รถไฟทางคู่ ย่อมใช้งบประมาณน้อยกว่ารถไฟความเร็วสูง เพราะรถไฟความเร็วไม่ได้วิ่งอยู่บนรางเดิม ต้องสร้างระบบทุกอย่างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เมื่องบประมาณยังมีไม่มากนัก การสร้างทางคู่ไปก่อน ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาไปอีกขั้น หากมีการเสริมการพัฒนาด้านขบวนรถ เปลี่ยนหัวรถจักรใหม่ใหม่ ให้สามารถวิ่งได้รวดเร็ว และพัฒนาคุณภาพในตัวขบวนรถ เชื่อว่าอีกไม่ช้า เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น แต่การบริการ จะเหมือนเดิมๆหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นผู้ให้บริการเดินรถ หากยังเป็นการรถไฟอยู่ก็ต้องมีการปรับโฉมการให้บริการเสียใหม่ให้ไฉไลมากกว่านี้
เพรชพิริยะ MThai News
Create Date : 11 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 11 มิถุนายน 2557 20:11:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1352 Pageviews. |
|
|
|