ข้าวเหนียวมะม่วง อร่อยดีมีประโยชน์
ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นที่นิยมมากๆในหมู่ชาวต่างชาติ ตามร้านอาหารไทยที่ต่างประเทศถือว่าเป็นของขึ้นชื่อและมีราคาแพง แต่ในเมืองไทยของเรานั้น หากินได้ง่ายและราคาไม่แพง หลายๆคนคงจะชอบกิน ข้าวเหนียวมะม่วง กันใช่มั๊ยคะ? หลายๆคนอาจจะคิดว่า กินแล้วต้องอ้วนแน่ๆ แต่ถ้าหากเรารับประทานในปริมาณทีพอเหมาะ ข้าวเหนียวมะม่วง ก็มีประโยชน์มากเช่นกัน นพ.กฤษดา ศิรามพุธ ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า องค์การอหารและเกษตรโลก หรือ เอฟเอโอแนะให้ประเทศกำลังพัฒนาที่มีปัญหาขาดวิตามินสำคัญอย่างวิตามินเอ วิตามินซีและธาตุเหล็กกิน มะม่วง เพื่อช่วยป้องกันโรคและแก้การขาดสารอาหาร มะม่วง เหมาะกับ 1. ผู้มีปัญหาสิว เพราะมะม่วงมีกรดดีอยู่หลายชนิดช่วยบำรุงผิว มีวิตามินเอ วิตามินอีและซีลีเนียมสำหรับผิวพรรณอยู่มาก และสารต้านอนุมูลอิสระ (แอนตี้ออกซิแดนท์) จะช่วยล้างอนุมูลอิสระที่จับผิว 2. ผู้เบื่ออาหาร เพราะมะม่วงมีวิตามินหลายชนิดช่วยชดเชย อาทิ วิตามินเอ วิตามินอี ธาตุเหล็กและแอนตี้ออกซิแดนท์ กลุ่ม ฟีโนลิก และยังมีส่วนป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งทางเดินอาหารและมะเร็งลำไส้ใหญ่ 3. คนท้องเสีย น้ำมะม่วงคั้นสดช่วยเป็นแหล่งน้ำตาล ฟรุกโตส ชั้นดีที่ช่วยเติมเต็มให้ในช่วงที่ขาดน้ำและเสียเกลือแร่ 4. คนท้องผูก มะม่วงช่วยคลายไส้ให้บีบตัวดีแถมมีเส้นใยมากช่วย ดีท็อกซ์ ลำไส้ได้ ในคนธาตุแข็งขอให้รับประทานมะม่วงสุกที่ยิ่งเปรี้ยวได้ยิ่งดี มะม่วงมีน้ำย่อยเป็นเอนไซม์ชื่อ แมนีเฟอริน คาทีคอล ออกซิเดส และ แลกเทส อยู่มาก 5. ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ กรดเปรี้ยวในน้ำมะม่วงช่วยล้างตั้งแต่กรวนไตไปจนถึงท่อปัสสาวะได้สะอาดหมดจดดี มะม่วงไม่เหมาะกับ 1. โรคไต เพราะขับเกลือแร่ออกได้ไม่ดี อาจมีเกลือแร่บางชนิดคั่งมาก 2. โรคหัวใจรุนแรง เพราะมะม่วงมีแร่ธาตุเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจอย่าง โพแทสเซียม อยู่ค่อนข้างสูง ถ้ายังไม่เป็นโรคหัวใจแต่ต้องการป้องกันโรคหัวใจไว้ก่อนขอให้เลือกมะม่วงน้ำดอกไม้เพราะมีเบต้าแคโรทีนเป็นธาตุบำรุงหัวใจที่ดี มะม่วงสุกที่กินกับ ข้าวเหนียวมะม่วง มักมีวิตามินแร่ธาตุไม่ต่างกันมาก ถ้าอยากได้ชนิดที่เนื้อเยอะวิตามินเอเยอะ ให้เลือ น้ำดอกไม้ มีเบต้าแคโรทีนสูงกว่ามะเขือเทศราชินีและมะละกอสุกอีก ถ้าอยากได้แป้งน้อยกว่าให้เลือกมะม่วงสุก ถ้าอยากได้น้ำตาลน้อยให้เลือกมะม่วงดิบ ข้าวเหนียวมูน มีแคลอรี่สูงจากแป้งขาว จึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน ถ้าจำเป็นต้องกินขอให้เน้นที่มะม่วงมากกว่าข้าวเหนียวเพราะเนื้อมะม่วงมีกากช่วยกันไม่ให้น้ำตาลซึมเข้าเลือดเร็วไป และไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงและความดันโลหิตสูง เพราะข้าวเหนียวกับกะทิมีความหวานและมันสูง เทคนิคการกิน ข้าวเหนียวมะม่วง ไม่เพิ่มพุง คือ - ให้หนักมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียว
- ใช้ข้าวเหนียวดำเพราะมีไฟเบอร์และแอนตี้ออกซิแดนท์ชั้นดี
- มื้อใดกิน ข้าวเหนียวมะม่วง มื้อนั้นไม่ควรรับประทานข้าวแล้ว
- ให้ถือ ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นอาหารมื้อหนักมื้อหนึ่ง
- รับประทานทีละชุดเล็ก เช่น มะม่วงหนึ่งลูกต่อข้าวเหนียวมูนขนาดเท่ามะม่วงครึ่งลูก
- ขอให้รับประทานช่วงเที่ยงจะดีกว่าก่อนนอน
ประโยชน์ของ ข้าวเหนียวมะม่วง - กะทิในข้าวเหนียวมูนช่วยทำให้วิตามินเอและอีจากมะม่วงดูดซึมดีขึ้น
- เนื้อมะม่วงสุกช่วยชะชอให้น้ำตาลจากข้าวเหนียวดูดซึมช้าลง
- เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง
- มะม่วงให้ไฟเบอร์สูง
- ช่วยทำให้สดชื่นในผู้ที่เบื่ออาหารหรือรับประทานอาหารมื้อหลักไม่ค่อยได้
โทษของ ข้าวเหนียวมะม่วง - เพราะเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงจึงไม่เหมาะกับผู้มีน้ำหนักเกิน
- แป้งข้าวเหนียวเปลี่ยนเป็นไขมัน ไตรกลีเซอไรด์ ได้ ถ้าหนักข้าวเหนียวเกินไปทำให้เกิด มันจุกตับได้
- กะทิกับข้าวเหนียวมีธาตุเค็มที่เร่งความดันสูง
- มะม่วงสุกหวานกับข้าวเหนียวหวานมันกระตุ้นอาการอักเสบร้อนในได้
- ถ้ากินร่วมกับอาหารมื้อหลักอาจทำให้นอนไม่หลับหรือรู้สึกไม่สดชื่นเพราะให้พลังงานสูงมาก
ขอบคุณที่มาจาก : //www.healthcarethai.com
Create Date : 07 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 7 ธันวาคม 2557 20:01:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1018 Pageviews. |
|
|
|