ทัศนคติคือสิ่งเล็กๆ ที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

ปารีส...เสน่ห์ไม่มีวันจบ

หลงชมความงามธรรมชาติสองข้างทางสวิสฯอยู่นาน....
จากอินเทอลาเก้นช่วงแดดเช้าอ่อนๆ พวกเรามาถึงพรมแดนสวิสฯ-ฝรั่งเศสอีตอนแดดสายแล้ว
ผมรู้สึกไม่นาน ให้นั่งชมวิวแบบนี้อีกกี่นานก็ไม่เบื่อ
จากอิตาลี เข้าสวิสฯ มาจนถึงพรมแดนฝรั่งเศส ที่เมืองบาเซิล
คนยุโรปสัญจรข้ามประเทศกันเป็นเรื่องปรกติ
นึกถึงบ้านเรา ถ้าระบบคมนาคมของไทย ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม มาเลย์ สิงคโปร์
เชื่อมต่อกันได้ดีแบบที่นี่...เราคงจะมีความสุขในการออกท่องเที่ยวบ้านพี่เมืองน้องได้มากกว่าที่เป็นอยู่
อย่ากระนั้นเลย....แค่เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดในไทย เราก็ยังพัฒนาไปไม่ถึงไหน...

อิ่มมื้อเที่ยงที่เมืองดิจอง แคว้นเบอร์กันดี ทุ่งราบกว้างใหญ่ที่เป็นแหล่งปลูกต้นมาสต้าเพื่อผลิตมัสตาร์ด
ที่นี่จึงได้เห็นร้านรวงมากมายที่วางขายมัสตาร์ดในขวดลวดลายหลากสี
ก่อนที่จะนั่ง TGV 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมุ่งสู่มหานครปารีส-มหานครโรแมนติค มหานครในฝันของใครหลายคน
สถานีรถไฟ Gare Du Lyon ในสองชั่วโมงต่อมาเป็นก้าวแรกของมหานครแห่งนี้
ปารีสสร้างบรรยากาศแรกพบด้วยสายฝนที่โปรยปราย
หากเป็นรักแรกพบ คงเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ...
ซึ่งไม่ใช่สำหรับผม....
ยังไงก็แล้วแต่ แม้สาวงามอย่างปารีสที่ใครๆต่างยกยอว่า คือสาวงามที่มีเสน่ห์และสวยที่สุดในโลก
จะไม่ได้ติดตรึงใจผมขนาดเป็นรักแรกพบ แต่ยังเชื่ออยู่ลึกๆว่า หากได้สัมผัสเธอมากขึ้นในเวลาต่อมา
ผมจะตกหลุมรักสาวงามคนนี้เข้าสักวัน...
..........................................



ปารีสยังพรมสายฝนไม่ขาดสาย..
จากสถานีเมโทรที่ปอมปิดูเซ็นเตอร์ เดินข้ามสะพานผ่านคุกกงซิแอร์ฌรีมายังเกาะอิลเดอลาซิเต้ แหล่งกำเนิดเมืองของชาวปารีเชียง
ที่หน้าจัตุรัสมหาวิหารนอเตรอดามยามพลบค่ำ สถาปัตยกรรมที่เคยวาดแบบและร่ำเรียนมาเมื่อครั้งเป็นนิสิตสถาปัตย์
เปิดไฟประดับฉาดฉายแสงให้มหาวิหารดูขลัง เบื้องหลังเป็นผืนฟ้าปารีสสีฟ้าเข้ม และเข้ม...
ผมอยู่ที่สะดือปารีส ที่ว่ากันว่า เมื่อเหยียบและหมุนตัวไปหนึ่งรอบแล้วจะได้กลับมาปารีสอีกครั้ง
มุขเดิมคล้ายๆกับน้ำพุเทรวี่ที่โรม ที่นักท่องเที่ยวทั้งหัวดำหัวแดงพยายามปฏิบัติเช่นเดียวกันหมด
เสน่ห์ปารีสคงโดนใจ และสะดือปารีสน่าจะเป็นกุศโลบายในการดลใจให้ใครต่อใครกลับมาที่นี่อีกครั้ง...
ผมไม่ได้โยนเหรียญที่น้ำพุเทรวี่ ไม่ได้หมุนตัวที่สะดือปารีส
คิดเพียงว่าครั้งหนึ่งในชีวิต นั่นก็เป็นบุญโขแล้ว
โลกกว้างใหญ่มากเกินกว่าที่จะย่ำอยู่ในสถานที่เดียว นอกากสถานที่นั้นจะเป็นสถานที่ที่เรารักจับจริตหัวใจ
นอเตรอดามเป็นวิหารคู่บ้านคู่เมืองปารีสมาแต่ยุคกลาง
เป็นผลงานชิ้นอกของสถาปัตยกรรมกอธิก ยอดโดมจึงเป็นทรงกรวยแหลมจนต้องแหงนคอตั้งบ่า
ประดับประดาด้วยกระจกสีบานใหญ่รูปวงกลมคล้ายดอกไม้บานที่เรียกว่า Rose Window
หอคอยคู่สี่เหลี่ยมด้านหน้าวิหารงดงามติดตา...
ใช่หรือไม่ที่เรียกกันว่า "ศรัทธา" - "ศรัทธา" เท่านั้นที่ผลักดันให้มนุษย์สร้างสิ่งที่วิจิตรตระการตาได้แบบนี้ ค
วามสวยงามและยิ่งใหญ่อลังการของที่นี่ ทั้งยังเป็นศูนย์รวมใจของคนปารีสมาตั้งแต่ยุคก่อร่างสร้างเมือง
ไม่แปลกเลยที่นโปเลียน โบนาปาร์ต จะเลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่จัดงานราชาภิเษกตนเองเมื่อปี 1804
...................................................



ขากลับจากนอเตรอดาม-ฝนยังพรำ
ปารีสเริ่มอวดแสงสียามค่ำคืน เสน่ห์ปารีสเริ่มแผลงฤทธิ์กระตุกต่อมหัวใจให้ใหลหลง
คุกกงซิแอร์ฌรีที่ผ่านเมื่อเย็นและดูธรรมดา กลับสวยถนัดตาเมื่ออยู่ภายใต้แสงสียามค่ำคืน
ตอนที่พระนางมารี อังตัวเนตต์ภูกคุมขังอยู่ที่นี่ หากเป็นวันที่ฝนพรำพร่างพรมเหมือนฟ้าโศกแบบนี้
มองออกนอกหน้าต่าง...แม่น้ำแซนแสนงดงามทอดผ่านเบื้องหน้า...
เห็นเมืองแสนสวยงามที่พระนางเคยเสพสุขเมื่อครั้งเป็นราชินี
หัวใจของคนแบบไหนที่จะทนสภาพการถูกจองจำรอวันประหารแบบนั้นได้
ประวัติศาสตร์ย่อมมีทั้งดีและเศร้าคละเคล้าให้ได้ระลึกถึงและจดจำ
ปารีสมีเกร็ดประวัติศาสตร์มากมาย และเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนจากทุกมุมโลกต้องมนต์สะกด...
หากคนๆนั้น หัวใจไม่ด้านชาเสียจนเกินไป....

ปารีสยังโปรยเสน่ห์ไม่ยั้งและไม่ให้ตั้งตัว...
จากท่าเรือมาโตบุช การได้ล่องเรือชมทัศนียภาพสองฟากฝั่งแม่น้ำแซน
ทำเอาใครหลายคนบนเรือที่หลงเสน่ห์ปารีสอยู่แล้ว มีอันต้องเทใจให้หมดหน้าตัก
โบราณสถานและอาคารเก่าแก่ที่สร้างด้วยศิลปะยุคเรอเนสซองส์พร้อมใจประดับแสงสีสวยงามกลมกลืนทั้งเมือง
หากเปรียบปารีสเป็นเหมือนโรงละครโรงใหญ่
ที่นี่คงจะเป็นโรงละครที่มีฉากละครมากที่สุดในโลก
หรือหากเปรียบปารีสเป็นพิพิธภัณฑ์หลังใหญ่
ที่นี่ก็คงจะเป็นพิพิธภัณฑ์ใหญ่ที่มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆแฝงตัวอยู่เต้มไปหมด
ความยิ่งใหญ่ คลาสสิค โรแมนติค ที่เป็นตำนานของปารีส
น่าจะเกิดจากความมีศิลปะที่ฝังอยู่ในดวงใจของคนฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ที่นี่มีศิลปะแทรกซึมอยู่ทุกที่ ตั้งแต่ศิลปะยุคเก่า ยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการจนถึงศิลปะร่วมสมัย
ปารีสเป็นศูนย์กลางและเป็นที่รวมตัวของศิลปินที่ต่างมุ่งหน้ามาสร้างงาน มาแสดงผลงาน
หลายคนมาอยู่ และใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่...อยู่กับศิลปะจนวาระสุดท้ายของชีวิต ...............................



ผมปีนขึ้นมาอยู่บนดาดฟ้าเรือที่ไม่มีใครขึ้นมานั่งให้เปียกละอองฝน
แม่น้ำแซนมีสะพานมากมาย ว่ากันว่าทั้งปารีสมีกว่า 30 สะพาน แต่ละสะพานมีความงดงามแตกต่างกันไป...
เรือลำใหญ่ลอยล่องพามาชมความงามเกาะเอลเดอลาซิเต้ ทำให้ได้เห็นมาหวิหารนอเตรอดามเต็มตาอีกครั้ง
แล้วจึงม้วนตัวกลับ วกกลับมาอีกมุมหนึ่งของเมืองที่มีหอไอเฟลอวดโฉมอยู่
ผมยืนมองโครงเหล็กใหญ่ยักษ์มหึมาที่ดูแข็งแรงแต่อ่อนช้อย
ใครจะไปคิดว่า สิ่งก่อสร้างมหึมาที่เคยถูกคนปารีสรังเกียจและต่อต้านไม่ให้สร้างนั้น
ปัจจุบันจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของคนจากทั่วทุกมุมโลก



อิ่มอกอิ่มใจอิ่มไอละอองฝนปารีสกว่าชั่วโมง
ได้มาอิ่มอร่อยกับหอยเอสคาโก้และสเต๊กเนื้อนุ่มสไตล์ยุโรปที่ Saint Germain Restaurant
ตบท้ายด้วยไวน์แดงกลิ่นหอมหวานที่ไม่ยักกะเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน..บรรยากาศมันคงพาไป - ใครๆว่างั้น
แล้วคืนแรกที่ปารีสก็ผ่านไปไวเหมือนตอนนั่งรถไฟด่วน TGV
ความสุขที่ได้รับจากเมืองโรแมนติคนี้ อาจนับหน่วยได้เป็นนาทีต่อนาที
เป็นความสวยงามโรแมนติคที่ไม่อยากแม้จะหลับตาให้ผ่านไปสักนาที
เป็นความรู้สึกที่รับรู้ได้ว่า....
แม้ค่ำคืนนี้ใต้ผ้าห่มอุ่นที่ Mercure Porte De Versailles Expo Hotel
............................
ในภาพฝัน....ปารีสก็จะยังคงวนเวียนอยู่ในนั้นทั้งคืน....



Create Date : 28 ตุลาคม 2551
Last Update : 28 ตุลาคม 2551 10:40:28 น. 5 comments
Counter : 398 Pageviews.  

 
แสงสีสวยงามมากๆครับ


โดย: Lucky in Life วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:18:07:04 น.  

 
คำบรรยายดีมากเลยค่ะ ภาษาสวย ชื่นชมค่ะ


โดย: Yai Kaew วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:18:43:13 น.  

 
่ไฝ่ฝันอยากไปค่ะ คิดว่าต้องมีสักวัน


โดย: forenoon (forenoon ) วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:22:59:27 น.  

 
สวยมาก ๆค่ะ


โดย: da IP: 115.67.217.80 วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:16:00:26 น.  

 
ตามมาเที่ยวปารีสด้วยคนค่ะ สิ่้นปีนี้จะไปแน่ๆ


โดย: ayuruka วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:4:32:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คีตกวี
Location :
สุรินทร์ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add คีตกวี's blog to your web]