|
ซินจ่าวเวียดนาม...ถนน 36 สายในความทรงจำ
เสียงรถราแผดเสียงลั่นดูวุ่นวายเมื่อตอนที่ก้าวเท้าออกพ้นท่าอากาศยานนานาชาติฮานอย คิดอยู่ในใจ-อะไรมันจะวุ่นวายขนาดนี้ ทั้งที่ทีแรกศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเวียดนามมาก็มาก เอาเข้าจริงพอได้เห็นเวียดนามเต็มสองตา ก็รู้สึกว่า มันต่างจากที่จินตนาการเอาไว้มากโข ซินจ่าวๆๆๆๆ...ผมนั่งมองความเป็นไปของเมืองหลวงเก่าแก่ เมืองหลวงของประเทศที่ผ่านความทุกข์ยากของสงครามมาโดยตลอด ทั้งจากจีน จากฝรั่งเศส และโดยเฉพาะอเมริกา อีตอนที่เปิดประเทศ...ชาวเวียดนามทำใจต้อนรับชาติที่เคยมาทำร้ายย่ำยีชาติตนเองได้อย่างไรกันหนอ เหมือนประโยคที่ว่า "Focus on the journey, not the destination." ตอนที่รถคลานเหมือนเต่ามุ่งสู่ฮาลองเบย์ที่อยู่เหนือฮานอยออกไป สมาชิกหลายคนบ่นกันเกรียว... ผมกลับเพลิดเพลินที่ได้เห็นวิถีชีวิตชาวเวียดนามอย่างค่อยเป็นค่อยไป รถที่ต้วมเตี้ยมทำให้เรามีโอกาสเก็บรายละเอียดสองข้างทางได้มาก เวลานานเท่าไหร่ไม่รู้ที่หมดไปกับการเดินทางไปสู่ที่ไหนสักแห่ง การใส่ใจกับรายละเอียดทางที่ผ่าน เหมือนการคลี่คลายเงื่อนปมของหนังทีละนิดทีละน้อยเพื่อนำไปสู่ไคลแม็กซ์ของเรื่อง... เหมือนการแกะห่อของขวัญที่เราควรค่อยๆแกะโบว์ แงะริบบิ้น ดึงกระดาษห่อออกอย่างละเมียด... เพื่อที่จะเปิดกล่องมาเจอของขวัญสุดเซอร์ไพรซ์.... ผมมักคิดแบบนี้เวลาที่ได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ความทรงจำดีดีมักอยู่ระหว่างทางของการเดินทางเสมอ คราวนี้ก็เช่นกัน... ความรู้สึกตอนที่ได้เห็น "ฮาลองเบย์" มรดกโลกอันแสนภาคภูมิใจของชาวเวียดนาม ไม่สู้ความรู้สึกระหว่างการเดินทางที่ได้เห็นวิถีชีวิตชาวเวียดนามตอนข้ามแม่น้ำแดงที่สะพานล็องเบียน ตอนที่ได้นั่งกินเฝอออยู่ในเพิงข้างถนน...ตอนที่ได้เดินดูตลาดค่ำแถวที่พักริมอ่าว... ตอนที่ยืนดูชาวบ้านพายเรือขายผลไม้ในอ่าว.... จึงเมื่อตอนที่สมาชิกใจจดใจจ่อกับการรอชมหุ่นกระบอกน้ำแถวโฮฮว๋านเกี๋ยม ผมจึงเลือกที่จะมาเตร็ดเตร่อยู่แถวถนน 36 สาย... ดูคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ของเวียดนาม ที่ซึ่งในแววตาไม่หลงเหลือความอาฆาตแค้นต่อสงครามอีกต่อไป กลับเป็นชาวอเมริกันตาน้ำข้าว ที่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุด ที่ดูจะมีความรู้สึกผิดในใจมากกว่า จึงต้องดั้นด้นข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่ เหมือนเมื่อครั้งอเมริกันชนรุ่นก่อนเคยดั้นด้นมา หากแต่จุดมุ่งหมายต่างกันเท่านั้นเอง.... หลับในโรงหุ่นกระบอกน้ำ....ผมฝันว่านั่งกินเฝอสุดอร่อยอยู่ในแมคโดนัลด์ มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมพลังศรัทธาของชาวเวียดนามต่อลุงโฮฯที่สุสานโฮจิมินจ์ แม้จะไม่ได้ไปเห็นลุงโฮฯในโลงแก้ว เพราะเป็นวันหยุดพอดี แต่แค่ได้เห็นจัตุรัสบาดิงห์ เห็นพิพิธภัณฑ์โฮจิมินจ์ ก็พอจะรับรู้อารมณ์ของคนเวียดนามได้เป็นอย่างดี เทียนอันเหมินยิ่งใหญ่ยังไง..ที่นี่ก็ไม่ต่างกัน... ช่วงบ่ายอันแสนยาวนานที่ทะเลสาปคืนดาบหรือโฮฮว๋านเกี๋ยมที่ได้มาเตร่ก่อนหน้านี้ ติดใจผ่านวาดแบบอิมเพรสชั่นนิสม์ในแกลลอรี่ย่านถนน 36 สาย ภาพสะพานโค้งสีแดงฉาน ตัดด้วยสีสันใบไม้ส้มเหลือง มีสาวเวียดนามในชุดอว๋าวหย๋ายเป็นจุดเด่นในภาพ....ฉากหลังเป็นทะเลสาปคืนดาบ เห็นแล้วรู้สึกได้ว่า คงไม่มีอะไรที่จะทำให้คิดถึงฮานอยได้ดีกว่าภาพๆนี้อีกแล้ว คุยกับพนักงานที่เป็นนักศึกษาจบใหม่...เธอพูดอังกฤษคล่องแคล่ว เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศบ้านเกิดของเธอด้วยรอยยิ้มและความหวัง ในยุคที่การท่องเที่ยวเป็นศาสนาใหม่สำหรับผู้คนบนโลกใบนี้ เธอมีความสุขที่ได้เจอผู้คนมากมาย ต่างชาติต่างภาษาที่ย่านโอลด์ควอเตอร์แห่งนี้ คนเวียดนามดูจะมีทัศนคติที่ดีต่อโลก อาจเพราะเป็นประเทศเปิดใหม่ และทุกคนเชื่อในผู้นำที่วางนโยบายหลักของชาติคือ "โดยเมื๋อยตื่อชี่" แปลว่า เปลี่ยนความคิดใหม่ แต่ไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ เธอบอกว่า ประวัติศาสตร์สอนให้เธอรักชาติ ภูมิใจในบรรพบุรุษที่ต่อสู้เพื่อชาติ ไม่ได้สอนให้เธอไปเกลียดชังใคร..... เล่าไปยิ้มไป ตามองที่ภาพวาดแผ่นนั้นจนสะท้อนดวงตาเป็นประกายสดใส เป็นวันที่สวยงามสำหรับผมที่นี่..
ฮานอย....โอลด์ควอเตอร์ ถนน 36 สาย ริมทะเลสาปคืนดาบ ที่แกลลอรี่แห่งนี้ คงจะเป็นตอนที่ผมเปิดกล่องของขวัญออกดูและรู้ว่าข้างในคืออะไร หลังจากใส่ใจในการแกะกระดาษห่อด้วยความสุขมาก่อนหน้า.... เอาเข้าจริง...ผมไม่รู้หรอกว่า จุดหมายปลายทางของที่นี่ ที่แท้จริงคือที่ไหน คืออะไร.... ไม่เป้นไร..ให้แต่รู้ว่า การเดินทางมาฮานอยคราวนี้มีความทรงจำที่มีคุณค่าดีๆ ก็คงเพียงพอแล้ว....
Create Date : 25 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 25 ตุลาคม 2551 21:42:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 347 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
คีตกวี |
|
|
|
|