ทัศนคติคือสิ่งเล็กๆ ที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

ดาลัท...เสียงหัวเราะกับเสียงเพลงของเมือง



ร่วมสองชั่วโมงที่เรือบินลำเล็กพาเหาะเหินฟ้า...
จากเมืองหลวงเก่าสู่เมืองตากอากาศน่ารักกลางหุบเขา
ห้วงเวลานั้นไม่มีวินาทีไหนที่ผมหลับตาลง
...........................
เสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง สลับกับการสั่นโครงของเครื่อง
กลิ่นไอน้ำมันในห้องโดยสารที่เล็กจนน่าอึดอัด
ความเบาหวิวของเรือบินที่โยกเยกตามแรงลม
ยิ่งเมื่อตกหลุมอากาศดังโครม..เสียงกรี๊ดดังลั่นจากทั้งไทย จีน ฝรั่ง ดังระงม
............................
ที่พอจะทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง
เห็นจะเป็นแอร์โฮสเตสสาว หมวย สวย งาม ที่ยิ้มแป้นอยู่บนเครื่องเหมือนเป็นเรื่องปรกติ
กับภาพทิวทัศน์เบื้องล่างที่เป็นทิวเขาสุดลูกหูลูกตา...
นาทีนั้นผมคิดถึงเชียงใหม่...คิดถึงหลวงพระบาง..
ดาลัท หน้าตาจะเป็นอย่างไร
ขณะเดียวกันในห้วงคำนึงนั้น ก็อดคิดไม่ได้ว่า
ถ้าเกิดเครื่องร่วงลงไปในหุบเขาลึก...กี่วันที่ใครเขาจะตามหาเราเจอ???
นั่งคิดอยู่เพลินๆเครื่องก็ร่อนลงอย่างช้าๆและจอดนิ่ง นักบินดับเครื่อง ประตูเปิด บันไดพาดสู่ลานบิน
ความรู้สึกเหมือนตอนรถไฟเหาะตีลังกาหยุดนิ่งกับที่
หลังจากตีลังกากลางอากาศเรียกเสียงกรี๊ดระงมหลายรอบ
เสียงถอนหายใจสั้นยาวสลับกันจากผู้โดยสาร 60 ชีวิต...
ไม่นาน...ความเงียบ ความสงบ ความงาม
สามสิ่งเกิดขึ้นพร้อมกันเหมือนเป็นรางวัลตอบแทนความเสียวไส้
ซินจ่าว-ดาลัท
นึกว่าจะไม่ได้เจอกันเสียแล้ว

ดาลัทเป็นเมืองน่ารักกลางหุบเขา อากาศเย็นสบายตลอดปี
ฝรั่งเศสสร้างเป็นสถานที่ตากอากาศเมื่อครั้งยังยึดครองเวียดนาม...กลิ่นอายตะวันตกมีอยู่มาก
เย็นย่ำที่ดาลัท เริ่มต้นที่โบสถ์หลังใหญ่ใกล้โนโวเทลที่พัก
หลังฟังเพลงสวดอ้อนวอนพระเจ้าอยู่สักพัก
กับเพื่อนร่วมทางอีกสามคนเริ่มออกทอดน่องท่องเมือง
สัมผัสอากาศหนาวเย็น...เห็นความสงบ ความเรียบง่ายแฝงอยู่ในความเป็นไปของเมือง
เหมือนฮานอย คล้ายโฮจิมินจ์ที่ถนนเต็มไปด้วยมอเตอร์ไซค์ เด็กหนุ่ม เด็กสาว พ่อค้าแม่ขาย
ต่างกันที่เมื่อตะวันลับฟ้า ผู้คนเริ่มออกมาเดินบนท้องถนนหนาตา...
ออกมารวมกลุ่ม พบปะ สังสรรค์ ล้อมวงเล่นบอล เดาะลูกยาง ตีแบตฯ
หลายกลุ่มร้องเพลงสนุกสนาน
ผมฟังไม่ออก...แต่รับรู้ถึงความสุขในเสียงเพลง

ที่นี่ที่ไหน...ทำไมมองเห็นแต่ความสุข

ตอนแวะนั่งจิบน้ำถั่วเขียวร้อนอยู่ริมทาง ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นถึงขั้วหัวใจ
วัยรุ่นกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าขี่จักรยานผ่านไป
ทิ้งเสียงหัวเราะ เสียงเพลงกังวาลใสไว้ให้ประทับใจเสมอ...
"ยี่" ลูกสาวคุณป้าน้ำถั่วเขียวหอมอร่อยบอกว่า เป็นกิจกรรมหลักของวัยรุ่นที่นี่
เธอบอกว่าคนที่นี่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อาจเพราะอากาสดีตลอดปี และที่นี่เป็นเมืองแห่งดอกไม้..
อากาศดีหรือสีสันของดอกไม้ที่ทำให้เกิดเสียงหัวเราะและเสียงเพลง???

โชคดีที่ค่ำคืนนี้คุณป้าขายน้ำถั่วเขียวหมดไว
เลยได้ "ยี่" กับน้องสาวเป็นไกด์จำเป็นพาเดินเที่ยวเมืองดาลัท
และด้วยสภาพของเมืองกลางหุบเขา เราจึงได้เดินขึ้นลงชมความงาม
ทั้งตามหาเสียงเพลงและเสียงหัวเราะ
เดินขึ้น-ลง ชมบ้านเรือน วิถีชีวิต ผู้คน..วนเวียนไปอยู่อย่างนั้น
แต่แปลกที่ไม่ยักกะรู้เหนื่อย....
หรือเพราะไกด์สาวงามที่หัวใจงามกว่าใบหน้าก็ไม่อาจทราบได้...

อิ่มข้าวจี่ อิ่มส้มหวานตามสองข้างทาง
"ยี่"และน้องสาวพาเราเดินเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนของที่นี่
คาเฟ่ยาวเหยียดริมเนินเขามีให้เลือกนั่งมากมาย
หากไม่มีเสียงเพลงกระหึ่มร้าน ไม่มีวัยรุ่นคับร้าน...
เป็นเพียงเสียงดนตรีบรรเลงเบาๆให้วัยรุ่นกลุ่มเล็กๆได้นั่งจิบชากาแฟ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดกัน
ตอนนั่งคุยกันในร้านๆหนึ่ง "ยี่"แปลกใจมากที่ผมบอกว่า
ที่เมืองไทยไม่เป็นแบบนี้..แตกต่างกันกับที่นี่มาก
เธอไม่เคยไปที่ไหนไกลจากที่นี่
ที่สำคัญคือ ไม่เคยคิดจะไปไหนด้วย
เธอบอกว่า ใครๆต่างบอกว่า เมืองไทยสวยงามมาก โดยเฉพาะกรุงเทพฯ
แต่ไม่ว่าที่ไหนจะเป็นอย่างไร เธอก็ยังอยากให้ดาลัทเป็นอย่างนี้ตลอดไป

ผมเองก็คิดอย่างนั้น เมืองที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงเพลง..

แยกจากกันกลางดึกคืนนั้น เราต่างรู้ว่าอาจจะไม่ได้เจอกันอีกตลอดไป
แต่ตอนที่พวกเราโบกมือลาและกล่าววอำลา Good Bye..Good Luck...ต่อกัน
มันกลับเป็นการบอกลาที่มีความรู้สึกอย่างเต็มเปี่ยม...

เหมือนว่าเราต่างรู้จักกันมานานแสนนาน....


Create Date : 25 ตุลาคม 2551
Last Update : 25 ตุลาคม 2551 21:44:57 น. 0 comments
Counter : 223 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คีตกวี
Location :
สุรินทร์ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add คีตกวี's blog to your web]