Group Blog
 
All blogs
 
*** มารู้จัก วิญญาณ กันเถอะ ***





สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่าน พระสารีบุตรเถระ


ความรู้จักวิญญาณ


คือ รู้จักวิญญาณ


รู้จักเหตุเกิดแห่งวิญญาณ คือรู้จักว่า เพราะ สังขารเกิด วิญญาณจึงเกิด

รู้จักความดับแห่งวิญญาณ ก็คือรู้จักว่า เพราะ สังขารดับ วิญญาณจึงดับ

รู้จักทางปฏิบัติให้ถึงความดับวิญญาณ ก็คือรู้จักว่า มรรค์มีองค์ 8 เป็นทางปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งวิญญาณ


รู้จักวิญญาณ


คือ รู้จักหมู่แห่ง วิญญาณ 6 คือ

1. หมู่แห่งจักขุวิญญาณ วิญญาณทางตา

2. หมู่แห่งโสตวิญญาณ วิญญาณทางหู

3. หมู่แห่งฆานวิญญาณ วิญญาณทางจมูก

4. หมู่แห่งชิวหาวิญาณ วิญญาณทางลิ้น

5. หมู่แห่งกายวิญญาณ วิญญาณทางกาย

6. หมู่แห่งมโนวิญญาณ วิญญาณทางมโนคือใจ

อันคำว่า วิญญาณ นั้น ได้มีใช้ในทางพุทธศาสนาหลายความหมาย

มีคำว่า จิต คำหนึ่ง

มีคำว่า วิญญาณ คำหนึ่ง

มีคำว่า มโนหรือใจ คำหนึ่ง

สำหรับคำทั้ง 3 คำนี้ เมื่อใช้ต่างก็ใช้ต่างกันดังนี้

ให้อบรมจิต ให้รักษาจิต ให้ชำระจิตของตนให้ผ่องใส

และยังได้ตรัสเอาไว้อีกว่า

จิตเป็นธรรมชาติปภัสสรคือผุดผ่อง

แต่เศร้าหมองไปเพราะอุปกิเลส

เครื่องเศร้าหมองที่จรเข้ามา

จิตเป็นธรรมชาติธรรมดา อันเรียกว่าเป็นธาตุ

คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ วิญาณธาตุ

วิญญาณธาตุในธาตุ 6 นี้ จึงมีความหมายเสมอกับคำว่า จิต

อาการของจิตออกรับอารมณ์ทั้งหลายมาสู่ทวารทั้ง 6

หรือเรียกว่า อายตนะภายใน กับอายตนะภายนอกมาประจวบกัน

จิตจึงออกน้อมรับอารมณ์

ตั้งต้นตั้งแต่ รู้อารมณ์

ดังที่เรียกว่าเห็นรูป

ที่เรียกว่าได้ยินเสียง

ที่เรียกว่าทราบกลิ่น

ที่เรียกว่าทราบรส

ที่ทราบว่ารู้เรื่องราว

ที่ทราบโผฏฐัพพะ

ตั้งแต่รู้ทีแรกดังกล่าว เรียกว่า วิญญาณ

แล้วจึงรู้ที่ยิ่งๆขึ้นไป เรียกว่า ผัสสะ หรือสัมผัส

แล้วจำได้ เป็นสัญญา

เป็นสังขาร ความคิดปรุงหรือ ปรุงคิด

ก็ล้วนแต่ จิตรู้ ทั้งนั้น

เมื่อรู้ที่เป็นการเห็นการได้ยิน เป็นต้น ก็เป็น วิญญาณ

เป็นวิญญาณในขันธ์ 5 ( วิญญาณ ผัสสะ เวทนา สัญญา สัวขาร )

วิญญาณในขันธ์ 5 เป็นสิ่งเกิดดับ

คือ อนิจจะไม่เที่ยง ทุกขะเป็นทุกข์ ต้องแปรปรวนเปลี่ยนแปลง

เป็นอนัตตามิใช่อัตตาตัวตน


อธิบายหมู่แห่งวิญญาณ 6

ก็คือ วิญญาณในขันธ์ 5 นั่นเอง

และที่เรียกว่าหมู่

ก็เพราะว่า วิญญาณในขันธ์ 5 นี้เกิดดับไปในทุกอารมณ์ที่ผ่านทวาร 6

เมื่อเห็นรูปอันใดก็เกิดขึ้นดับไปในรูปนั้น

ทุกๆคนย่อมเห็นรูปต่างๆมากมาย เป็นรูปนั่น รูปนี่

วิญญาณก็เกิดดับในรูปนั้น รูปนี้

เพราะฉะนั้น ในเวลาประเดี๋ยวเดียว

วิญญาณก็เกิดดับอยู่ในรูปนั้นรูปนี้

หลายสิบหลายร้อยหลายพัน

เพราะฉะนั้นจึงเรียกว่าหมู่ หมู่แห่งวิญญาณ

เมื่อเกิดขึ้นทางตาก็เรียกว่า หมู่แห่ง วิญญาณทางตา

ใช้สติกำหนดดูให้รู้จักหมู่แห่งวิญญาณ

กำหนดดูด้วย สติ

คือมีสติกำหนด อยู่ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

เมื่อตาเห็นอะไร หูได้ยินอะไร

เห็น หรือ ได้ ยิน นั่นแหละ คือ วิญญาณ

เมื่อมีสติกำหนดรู้ดังนี้ ก็จะรู้ได้ว่า วิญญาณเกิดที่นั่น ที่นี่

เกิดจากที่นี่ ดับที่นี่ ไปเกิดที่โน้น แล้วก็ไปดับที่โน้น

เป็นสิ่งๆไป

จะเห็นว่าเป็นหมู่จริงๆ มากมาย

จะมองเห็นความเกิดดับ ซึ่งเป็นตัวอนิจจะ คือไม่เที่ยง

จะทำให้มองเห็นทุกข์ คือสิ่งแปรเปลี่ยนไป

จะมองเห็นอนัตตา

ว่าเป็นสิ่งที่บังคับให้เป็นไปตามปรารถนาไม่ได้

ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เป็นไปอยู่อย่างนี้







Create Date : 07 ธันวาคม 2549
Last Update : 8 ธันวาคม 2549 19:37:21 น. 0 comments
Counter : 742 Pageviews.

รักดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




นามแฝง ชื่อ รักดี

ชอบดอกไม้ รักหมา

ไม่รังเกียจแมว

ไม่อาลัยในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว

อยู่กับปัจจุบัน

และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ไม่กังวลหรือเป็นทุกข์

กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง












Friends' blogs
[Add รักดี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.