Bloggang.com : weblog for you and your gang
บันไดมนุษย์
Group Blog
ชีวิต Blogger
ทริปภูกระดึง
ทริปเวียดนาม
ทริปกาญจนบุรี
ทริปนครนายก
ทริปบางน้ำผึ้ง
ทริปอุบล
ทริปเขาค้อ-ทุ่งแสลงหลวง-ภูหินร่องกล้า
ทริปหลวงพระบาง
ทริปเชียงใหม่
ทริปจันทบุรี
ทริปราชบุรี
ทริปเนปาล
ทริปภูเรือ-เชียงคาน-น้ำหนาว
ทริปลาวใต้
ทริปพม่า
ทริปญี่ปุ่น
soft adventure
เพลงรักแห่งสายลม
กวีนิพนธ์
ปัญหาเกี่ยวกับเท้า
ปัญหาการได้ยิน(หูตึง หูหนวก)
เคล็ดลับน่ารู้
ลักษณะนิสัย
ฮวงจุ้ย/เสริมดวง
ออกกำลังกาย
โรคข้อเสื่อม
สัพเพเหระ
ทริปน่าน
ข้อเท็จจริงเรื่องการทำเลสิค(Lasik)
All blogs
รำลึกภูกระดึงอีกครั้ง ตค. 2009
เรื่องราวแห่งชีวิตบนภูกระดึง (บทที่ 2 บางสิ่งเปลี่ยนไปแต่หัวใจไม่เปลี่ยนแปลง)
เรื่องราวแห่งชีวิตที่ภูกระดึงบทที่ 1 (มหัศจรรย์คุณลูกหาบ)
เรื่องราวแห่งชีวิตที่ภูกระดึงบทที่ 1 (มหัศจรรย์คุณลูกหาบ)
พวกเราเคยมีอาชีพในดวงใจหรืออาชีพในฝันกันบ้างไหม ตอนเด็กๆฉันฝันอยากจะเป็นหมอหรือไม่ก็นักวิทยาศาสตร์ ฉันรู้สึกว่า 2 อาชีพนี้ช่างเป็นอาชีพที่เท่ห์แล้วก็ดูดีอะไรเช่นนี้ แต่พอโตขึ้นความคิดความฝันของฉันมันก็เปลี่ยนไปตามวัยด้วย จนตอนนี้ฉันมีอาชีพในดวงใจเยอะแยะไปหมด แต่หลังจากกลับมาจากไปภูกระดึงครั้งนี้ ฉันก็ค้นพบอาชีพใหม่ในดวงใจ นั่นคืออาชีพลูกหาบ
ขอสารภาพตามตรงเลยนะตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตนจนชีวิตจะย่างเข้าสู่วัยเลข 3แล้ว ฉันเพิ่งเคยมีประสบการณ์เดินขึ้นภูแค่ 2 ครั้งเอง ครั้งแรกคือไปภูสอยดาว ครั้งที่สองก็ไปภุกระดึงนี่แหละ แต่ทำไมฉันถึงไม่ได้ประทับใจคุณลูกหาบที่ภูสอยดาวเอาซะเลย ฉันจำได้เลือนลางแค่ว่าคุณลูกหาบแกเดินเร็วมาก เผลอแป้บเดียว เดินลิ่วๆนำหน้าฉันไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ขนาดฉันไม่ได้แบกของอะไรเลยนะเนี่ย
แต่พอมาภูกระดึงความคิดของฉันเกี่ยวกับลูกหาบก็เปลี่ยนไป ฉันมองพวกเขาด้วยสายตาและมุมมองที่แปลกไป มีทั้งความทึ่งผสมปนเปกับความนับถือว่า ในชีวิตของคนคนหนึ่ง ทำไมถึงได้มีความมุ่งมั่น และความอดทนในการทำงานที่แสนยากอย่างนี้ทุกๆวันได้อย่างไร
แต่ก็ขอเริ่มเล่าตั้งแต่เริ่มต้นเลยละกันนะว่าระบบการหาบของขึ้นภูกระดึงเนี่ย เค้าจัดการเป็นระบบระเบียบดีมาก อันดับแรกเราก็ไปซื้อใบติดสัมภาระก่อน ของหนึงชิ้นก้ใช้ใบติดสัมภาะ 1 ใบ อ้อลืมบอกไปใบติดสัมภารใบละ 2 บาทนะ
หลังจากนั้นเราก็เอาสัมภาระทั้งหมดของเราไปชั่งน้ำหนัก ซึ่งเค้าจะชั่งแค่ครั้งละ 1 ชิ้น เศษที่เหลือก็ปัดขึ้นหมด อย่างเช่นครั้งนี้เราเอาโฟมปูรองนอนไปด้วยอันละไม่ถึง 1 ขีด แต่ชั่ง 1 ครั้งมันก็เลยกลายป็น 1 กิโลไป มูลค่าราคาค่าจ้างของมันก้เลยพุ่งปรี๊ดตามไปด้วย ฉันว่านี่อาจจะเป็นวิธีที่เพิ่มกำไรให้กับคุณลูกหาบเค้าก็ได้ ตอนแรกฉันก็เสียดายเงินนะ แต่พอเห็นความยากลำบากในการทำงานของเค้าก็เข้าใจอ่ะนะ
ชั่งเสร็จแล้วก็เอาสัมภาระไปรวมกันเค้าจะพยายามให้ของของคนนึงคนไปกับลูกหาบแค่คนเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นคุณลูกหาบเค้าก็จะเอาของทั้งหมดห่อรวมกันแล้วก็มัดไว้บนคานไม้ไผ่ 1 อัน แต่ละคนก็จะพยายามมัดของให้ได้น้ำหนักมากที่สุด เพราะฉะนั้นของที่เค้าหาบขึ้นไปก็จะไม่ใช่แค่เป้ของนักท่องเที่ยว แต่อาจจะเป็นน้ำอัดลมหลายสิบขวด น้ำเปล่าหลายๆแกลลอน
แต่ที่ฉันคาดไม่ถึงเอาซะเลยก็คือ "ถังแก้ส" เค้าแบกถังแก้สอันใหญ่บิ๊กเบิ้ม ไม่ใช่แค่ถังแก้สปิกนิคนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด แล้วก็ไม่ได้แบกแค่ถังเดียวนะ แบกตั้ง 2 ถัง เพราะฉะนั้นความเร็วในการเดินของคุณลูกหาบของเราก็จะช้ามากเพราะน้ำหนักอันมหาศาลที่แบกอยู่บนบ่า ฉันสังเกตว่าแต่ละก้าวที่เค้าเดินไป เหมือนเค้าจะต้องคิดทุกครั้งว่าจะวางเท้าลงบนหินก้อนไหน จะถ่ายเทน้ำหนักตัวอย่างไร เพราะถ้าเกิดพลาดพลั้งคงไม่ใช่แค่ตัวเค้าจะบาดเจ็บ แต่อาจจะหมายถึงเงินที่จะไปซื้อข้าวให้ลูกและเมียที่บ้านกินก็คงจะหายไปด้วย เพราะเหตุนี้ฉันก็เลยรู้สึกว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความอดทน ความมุ่งมั่น แล้วก็ต้องอาศัยความมีสติและสมาธิอย่างมากอาชีพหนึ่ง จนฉันนำเอาข้อคิดที่ได้จากคุณลูกหาบบนภูกระดึงมาใช้ในการวิ่ง 10 กิโลของฉัน เวลาที่ฉันรู้สึกเหนื่อย ล้าแล้วก็ท้อ ฉันจะพยายามใส่ใจในทุกๆก้าวย่างที่ฉันวิ่งไป พอทำอย่างนั้นแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงมีกำลังฮึดสู้ขึ้นมาใหม่ก็ไม่รู้
บางครั้งการเกิดของอย่างหนึ่ง ทำให้อีกสิ่งหนึ่งหายไป
แล้วการมีกระเช้าละ จะทำให้อาชีพของลูกหาบหายไปหรือเปล่า
Create Date : 29 ตุลาคม 2549
Last Update : 29 ตุลาคม 2549 20:33:15 น.
7 comments
Counter : 2756 Pageviews.
Share
Tweet
อืม น่าสนใจจริง ๆ ครับ
โดย: Skyman (
Analayo
) วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:15:59:16 น.
เห็นด้วยว่าเค้าเก่งมากๆ
แต่ไม่อยากเป็นอ่ะครับ เดินตัวเปล่าก็แย่ล่ะ
โดย: pok (
pilok
) วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:19:11:05 น.
ปีนี้กะว่าจะหาโอกาสไปแน่ ๆ
โดย: Nueng (
Nueng_Zaa
) วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:21:59:52 น.
ไปภูกระดึงทีไร ก็อดสงสารลูกหาบไม่ได้สักที
เขาเเบกของขึ้น สบาย ๆ
ส่วนเราแบกสังขารขึ้น...จะตาย 5555
แต่ก็ยังรักที่จะไปภูกนะดึงอยู่ดี
ปีนี้คงจะไม่ได้ไป...เสียดายจัง
โดย:
แทนทะเล
วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:8:28:48 น.
เขียนได้เก่งมากเจ้าค่ะ เหมือนอ่านหนังสือพี่เพลงดาบยังไงยังงั้นเลยนะ ฝึกไปเรื่อย ๆ สงสัยได้เขียน pocket book ของตัวเองแน่ ๆ สู้ สู้ นะจ๊ะ
โดย: แม่สื่อ IP: 202.28.181.9 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:25:47 น.
ขอบคุณที่แวะไปทักทาย
โดย:
พิกกี้เม้าส์
วันที่: 8 ตุลาคม 2550 เวลา:21:39:57 น.
คิดถึงน้ำตกทับกวาง เพ็ญพบ โผนพบ
ผาหมากดูก ผาหล่มสัก ผานกแอ่น
กวางแก่และร้านอาหารแสนแพงจังค่ะ
โดย: N_O_I (
anoii_anoi
) วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:0:17:04 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ลานสน
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
ตราบที่ยังมีความฝัน ตราบนั้นก็ยังเดินหน้าสู้ต่อไป
Custom Search
Friends' blogs
คนผ่านทางมาเจอ
annie_martian
โสดในซอย
ดอกหญ้าเมืองเลย
ป้ามด
Webmaster - BlogGang
[Add ลานสน's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.