วันแรกที่คุณแฟนไปทำงาน
วันนี้คุณแฟนไปทำงานวันแรก (หลังจากที่ว่างงานมานาน)บอกได้คำเดียวว่า เซ็งโคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรอยากโทรหาก็โทรไม่ได้ เลยกระหน่ำส่ง sms ไป ก็ไม่เชิงกระหน่ำหรอก แค่ 3 เองแต่ก็นะ.... เบื่ออ่ะเมื่อไหร่จะเลิกงานก็ไม่รู้ แถมยังกลัวสาวๆ ในออฟฟิศมาเกาะแกะอีก โอ้ยยยยยยเนี่ยตอนพักกลางวันเห็นมาเลียบๆ เคียงๆ หลายคนแล้ว เซ็งโคตรรรรรรรรทีแรกว่าจะนอนหลับรอให้ถึงเย็นก็ตื่น ก็ดันนอนไม่หลับ ปวดหัวอีกต่างหาก T^Tไมมันเศร้าได้อย่างนี้เนี่ยเอาเถอะอีกหน่อยก็คงจะชิน งือ......ที่เศร้าไปกว่านั้น เดือนนี้ข้าพเจ้าปิดเทอมด้วยหยุด 1 เดือนแบบเซ็งๆ แต่ก่อนอยู่คนเดียวไม่เหงา เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้วอ่ะเฮ้อ...บ่นเสียยืดยาว ใครมาอ่านก็ขออภัยด้วยเน้อที่เอาแต่บ่นๆๆๆๆๆแปะรูปลูกสาวเป็นการตอบแทนที่มาอ่านแล้วกัน T^T
บางอย่างที่เพิ่มเติมเข้ามาในชีวิต
มาฟังเพลงกัน
ของขวัญจากก้อนดิน
ของขวัญจากก้อนดินช่วงนี้ได้รับทราบข่าวการเมืองจากสน.ข่าว INN ทำให้ได้รับทราบสถานการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวายแทบจะทุกชั่วโมง จนรู้สึกเศร้าใจไม่ได้ว่าทำไมบ้านเมืองเราถึงกลายเป็นอย่างนี้มันเป็นเพราะอะไร เงิน อำนาจวาสนา ความเห็นแก่ตัว หรือเป็นเพราะบ้านเมืองจริงๆแน่นอนล่ะว่าเราไม่อาจจะรู้ได้ว่าใครคิดอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือว่าฝ่ายต่อต้านเพราะตัวเราเองก็เป็นเพียงแค่ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งที่อยากจะมีอธิปไตยอยู่ในมือของเราเองโดยไม่ต้องการให้ประเทศชาติเกิดความวุ่นวาย ใจเราคิดอยากจะให้มีการเลือกตั้งเร็วๆ แต่หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่ก็มีโอกาสสูงที่ทางรัฐบาลจะอ้างเหตุแห่งความไม่มั่นคงหรือความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองแล้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป (T^T เศร้า)ความจริงก็ไม่ได้อยากจะเขียนเรื่องนี้ และไม่อยากจะถกประเด็นการเมืองด้วย เดี๋ยวจะยาวเพียงแต่วันนี้นึกถึงเพลงที่ป้าเบิร์ดแกร้องเอาไว้ เพลงของขวัญจากก้อนดิน เห็นว่าความหมายดี เหมาะกับสถานการณ์ เลยเอามาฝากกัน ^^ สู้เค้านะคนไทย... ของขวัญจากก้อนดินคำร้อง/ทำนอง : นิติพงษ์ ห่อนาค เรียบเรียง : สราวุธ เลิศปัญญานุช ขับร้อง : ธงไชย แมคอินไตย์ เราทุกคนก็เหมือนก้อนดินแค่ก้อนหนึ่ง เปราะบาง ไร้ค่า ไร้ความหมาย อ่อนแอเหมือนโคลน ไหลไปตามทางเรื่อยไป เมื่อน้ำแห้งไป ก็แตกระแหง มีพลังเพียงแค่แรงเดียวที่ยึดเรา เหนี่ยวรั้งเราไว้ให้กล้าแข็ง รวมผู้คนมากมาย ให้ทรงพลังแข็งแรง รวมเม็ดดินทุกเม็ด ให้เป็นแผ่นดิน เราก็รู้ พ่อต้องเหนื่อยสักเพียงใหน ต้องลำบากใจกายไม่เคยสิ้น เพราะพ่อรู้ พ่อคือพลังแห่งแผ่นดิน ให้เราพออยู่พอกินกันต่อไป หากจะหาของขวัญให้พ่อสักกล่อง เราทั้งผอง จะพร้อมกันได้ไหม บวกกันเป็นดินเดียว ให้พ่อได้สุขใจ ไม่ต้องเหนื่อยเกินไป อย่างที่เป็นมา ช่วยกันทำความดีให้พ่อได้สุขใจ ไม่ต้องเหนื่อยเกินไป อย่างที่แล้วมา มาเป็นดินเดียวกันเถอะค่ะหากว่ามีประเด็นขัดแย้งกันทางการเมืองก็คุยกันดีๆ อย่าให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นเลยเราอาจจะไม่มีสิทธิ์ไปจัดการอะไรได้ เพราะอำนาจไม่มีแต่แค่เริ่มที่ตัวเราและคนรอบตัวขนาดเรายังรู้สึกกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้น ลองคิดดูว่าท่านจะกังวลแค่ไหนท่านมีพระชนมายุมากแล้ว ควรจะได้พักผ่อน ไม่ต้องคิดมากอย่าทะเลาะกันเลย ป.ล. เราไม่ชอบทักษิณ ไม่เอาทหาร รักประชาธิปไตย และไม่เอาความรุนแรงและเราก็ไม่ได้อ้างในหลวงพร่ำเพรื่อเพื่อตัวเอง ขอขอบคุณทีมงาน GMM ที่แต่งและร้องเพลงนี้คุณ Modular ที่โพสต์คลิปนี้ที่ Mthaibloggang และ Mthaiขอกราบแทบฝ่าพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงมีพระกรุณาอันเหลือล้นต่อปวงชนชาวไทย
ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยรักใคร.. [Me..Myself]
เมื่อวันก่อนไปดูหนังเรื่อง Me...Myselfวิจารณ์หนังไม่เป็น บอกได้แต่ชอบกับไม่ชอบสนุกหรือว่าหลับเรื่องนี้ก็ขอบอกว่าชอบและสนุกรสชาติของหนังกลมกล่อมไปทั้งเรื่องเราไม่เคยชอบอนันดามาก่อน มาดูเรื่องนี้ยังนึกชื่นชมอยู่เลยชอบบท ชอบบทบาทการแสดง ชอบเด็ก ชอบคาแรกเตอร์ตัวละคร หนังเรื่องนี้มันดูไม่ดัดจริตมากดี สรุปก็ชอบแหละ 5555ถ้าว่างก็ลองไปดูกันแล้วกัน สำหรับคนที่ชอบดูหนังรักโรแมนติก คงจะถูกใจไม่น้อยสุดท้ายก็เอาเพลงประกอบมาฝากกันเพลงฟั่นเฟือน(แอบชอบเวอร์ชั่นนี้มากกว่าเวอร์ชั่นเก่าแหะ 555)เพลงฟั่นเฟือนคนร้อง -- จันทนี กุณฑลจินดา (เวอร์ชั่นเก่า ของคุณออฟ พงพัฒน์ผู้กินกับ เอ้ยผู้กำกับเรื่องนี้นั่นเอง)จากครั้งเราเคยมีกัน อยู่ ๆ ก็พลัน มาทิ้งกันไปเจ็บช้ำเธอทำกันลงได้ หักอกห้ามใจไม่เคยลืมลงเจ็บนี้มันแรงเกินตัว เรื่องราวในหัว มันตามมันเตือนจะพร้อมจะยอมฟั่นเฟือน สติเลอะเลือน ถ้าลืมได้ลงไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยรักใครไม่อยากรู้ว่าเคย เคยถูกใคร หลอกจนเสียคนอย่างนี้ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยนอนร้องไห้ไม่อยากรู้ว่าเคย เคยให้ชีวิตใครไปเจ็บลึกมันจมลงใจ สลบไสลไปเลยคงดีให้ฟื้นมาเป็น เป็นคนที่ไม่มีเรื่องราว ไม่มีหัวใจ