Bloggang.com : prim_pm - Kansai Fu (II) ร้านอาหารญี่ปุ่นต้นตำหรับ ย่านถนนข้าวสาร โอโค ซูชิ ไอติมชาเขียวอร่อยมาก ห้ามพลาด!!

ถึงทุกท่านที่หลงรักใน Kansai Full (รวมทั้งผมด้วย)
ก่อนอื่นผมคงต้องบอกว่าการเขียนครั้งนี้เพราะการเสียความรู้สึกล้วนๆ วันนี้ (9/1/11) ผมมีความตั้งใจอย่างสูงเพื่อไปทานที่ร้าน Kansai Full เป็นครั้งที่สองโดยผมเลี่ยงที่จะไปตอนเที่ยงเพราะกลัวคนจะเยอะ ระหว่างดินทางภรรยาผมได้โทรไปที่ร้านเพื่อเช็คว่าจะต้องจองโต๊ะไว้ไหมหรือพอมีที่ว่างไหมเนื่องจากขนาดของร้านไม่ใหญ่มากนัก ผู้รับสายก็บอกว่ายังว่างอยู่เราก็โอเค พอถึงบางลำพูเราก็มุ่งตรงไปหาที่จอดที่วัดชนะสงครามแต่เนื่องจากเราไม่ทราบมาก่อนว่ามีการชุมนุมเสื้อแดงในวันนั้นจึงทำให้ที่จอดรถเต็มและเราก็รถติดในบริเวณสัดกว่าจะออกมาได้ก็สักพักใหญ่ หลังจากออกมาได้เราก็ยังพยายามที่จะหาที่จอดต่อไปและก็นึกได้ว่ามีที่จอดรถของ กทม. อยู่สองซอยก่อนที่จะถึงซอยร้าน เราก็เลยขับรถวนไปที่นั่นจนได้ที่จอด หลังจอดเสร็จผม, ภรรยา และลูกสาววัย 6 ขวบก็พยายามรีบเดินไปที่ร้านเพราะตอนนั้นลูกสาวหิวมาก พอถึงหน้าร้านปรากฏว่าเจ้าของร้านชายหนุ่มหน้าตี๋ๆก็ทำไม้ทำมือว่าไม่ให้เข้าเพราะร้านปิด ซึ่งผมก็สังเกตเห็นว่ายังมีลูกค้านั่งอยู่ในร้านพอสมควรและพ่อครัวก็ยังทำอาหารอยู่ ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมรู้สึกโกรธมากๆเพราะด้วยความตั้งใจที่กลับมาทานรวมทั้งลูกสาวก็หิวมากๆด้วย ผมก็ไม่ได้เอะใจเรื่องเวลาอะไรเพราะด้วยความโกรธบวกกับยังงงๆอยู่ก็เลยเดินออกมาข้างนอกร้าน ผมเองยังเถียงกับภรรยาว่าเค้าไม่ได้พูดอะไรเหรอตอนที่เธอโทรมาถามเค้าตอนก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกว่าทางร้านควรจะแจ้งให้ลูกค้าทราบเรื่องเวลาปิดด้วยเพราะตอนที่โทรมาก็บ่ายโมงเข้าไปแล้ว ผมมั่นใจว่าคงไม่มีใครที่จะโทรเข้ามาถ้าเค้าอยู่ใกล้ๆร้านแล้ว ผมก็ยังต่อว่าภรรยาอีกว่าทำไมไม่ดูเวลาในนามบัตรที่ภรรยาผมถืออยู่ ภรรยาผมบอกว่าไม่เห็นมีบอก ผมจึงตัดสินใจเดินกลับเข่าไปในร้านอีกทีเพื่อไปหาเจ้าของร้านและผมบอกว่าช่วยเขียนในนามบัตรด้วยเรื่องเวลาเปิด-ปิด เจ้าของร้านก็ชี้มาที่นามบัตรว่านี่ไงเวลาเปิด-ปิดด้วยท่าทางที่เฉยเมย (ในข้อนี่ผมยอมรับว่าผมผิดพลาดเองที่ไม่ได้รอบคอบเรื่องการดูเวลาในนามบัตร แต่ขอบอกว่าเวลานั้นเป็นตัวหนังสือสีเหลืองซึ่งมองเห็นได้ยากครับ) ผมจึงเดินกลับออกมาอีกทีด้วยจากความรู้สึกโกรธเป็นการเสียความรู้สึกอย่างแรงแทนและผมก็ยอมรับว่าผมก็ทำในสิ่งที่ไม่ดีโดยการโยนนามบัตรนั้นไว้ที่หน้าร้าน ตอนนั้นเองที่ผมกำลังมองหาร้านใหม่ให้ลูกสาวผมเพื่อทานอาหารผมได้หยิบมือถิอมาเพื่อดูเวลาซึ่งมันทำให้ผมกลับมาโกรธอย่างมากอีกทีเพราะตอนนั้นมันคือเวลา 14:02 น. ไม่อยากเชื่อว่าเกินมาแค่ 2 นาทีและผมมั่นใจว่า ณ. ตอน ที่เจ้าของร้านปฏิเสธมันต้องเกินมาเป็นหลักวินาทีหรือ 1 นาทีเท่านั้น และในคำถามหรือข้อสงสัยดังต่อไปนี้ผมจึงอยากให้คนที่เป็นคนที่รัก Kansai Full หรือคนที่คิดที่จะไปทานช่วยบอกความรู้สึกให้ผม, ภรรยาและลูกสาววัย 6 ขวบให้ผมด้วยครับ

1) ระหว่างถ้ามาตอน 13:59 น. กับ 14:01 น. นั้นมันต่างกันในแง่ของ Service Mind อย่างไร โดยเฉพาะคนตัดสินใจได้นั้นคือเจ้าของร้าน
2) การที่ผมมีความตั้งใจกลับมาในครั้งที่สองรวมถึงผมไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะมีการชุมนุมเสื้อแดงเกิดขึ้นนั้นจึงทำให้ผมพลาดเวลาไป 1 นาที ผมควรจะต้องมีความรู้สึกอย่างไรในการเสียความรู้สึกครั้งนี้
3) ถ้าคุณหลายๆคนในนี้เป็นเจ้าของร้าน คุณคิดว่าคุณจะมีการตอบสนองอย่างไรกับผมและครอบครัวนอกเหนือจากการปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง (ในความคิดเห็นผมนะ: ผมว่าเจ้าของร้านอาจเสนอให้ผมให้สั่งอาหารในทีเดียวเลยก็ได้เพื่อที่จะให้พ่อครัวได้พักหรืออาจเสนอให้ผมสั่งใส่กล่องก็ได้ถ้ากลัวว่าครอบครัวผมจะทำให้เสียเวลาที่จะต้องนั่งในร้าน)
4) ด้วยการเสียความรู้สึกอย่างแรง ผมจึงไม่คิดที่จะกลับไปที่ร้านนี้อีกแล้วและผมเชื่อมั่นว่าคงจะมีร้านที่อร่อยเท่าๆกันที่ร้านนั้นๆมี Service Mind ที่ดีกว่านี้