ต้นไม้แห่งรัก

เพาะเมล็ด รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย

ฉันเพียรทำทุกวัน ด้วยหวังจะเห็นดอกผล

ต้นไม้ผลิใบ ฉันดีใจ

หวังว่าสักวันจะเห็นดอกผล

ต้นไม้แตกหน่อ ฉันดีใจ

หวังว่าสักวันจะเห็นดอกผล

ต้นไม้เติบโต ฉันดีใจ

หวังว่าสักวันจะเห็นดอกผล

รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย

จนต้นไม้สูงเทียมฟ้า

อนิจจา...เพิ่งรู้ว่าต้นไม้ที่ฉันเพียรปลูกเป็นพันธุ์ไร้ดอกไร้ผล

ฉันหิว...





Create Date : 02 ธันวาคม 2548
Last Update : 2 ธันวาคม 2548 17:55:59 น. 7 comments
Counter : 375 Pageviews.

 
ตอบบล็อกที่แล้ว (มีทั้งบล็อกนั้นและบล็อกนี้)

ตอบชุน
สมัยเรียนมหาวิทยาลัย คณะเราโชคร้ายต้องเรียนภาษาอังกฤษเป็นวิชาบังคับ ๗ ตัว (ตั้งแต่ปี ๑ เทอม ๑ ไปจนถึง ปี ๔ เทอม ๑ เรียกว่าถ้าใครพลั้งพลาดได้ F เข้าเทอมใดเทอมหนึ่งละก็ เป็นอันว่าต้องเรียนนานกว่าเค้าเพื่อน ส่วนคุณปรีดาเป็นคนรักเสียงเพลง คุณครูก็เลยให้ C (กับ) D มาเป็นของกำนัล ไม่เคยได้ดีกว่านั้น แต่ก็ไม่เคยแย่กว่านั้นเช่นกัน) แบ่งนักเรียนเป็นหลาย sec เรียงตามลำดับความรู้ พวกเก่งๆ ก็ได้เรียนกับครูฝรั่ง ส่วนหางแถวอย่างเราได้แต่เรียนกับครูไทยตลอดสี่ปี โดยที่ก่อนหน้านั้นตั้งแต่สมัยเรียนประถมและมัธยมก็ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษกับครูฝรั่งเลย พอเรียนกับครูไทย เราก็เลยไม่สนใจ เพราะถือคติว่าถ้าครูทนไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องพูดภาษาไทยออกมาเองแหละ...การณ์ก็เป็นเช่นนี้จวบจนเรามีเรื่องจะต้องขึ้นเขา ไปอยู่กับกะเหรี่ยงที่ค่ายผู้อพยพแห่งหนึ่งที่แม่สะเรียง พวกเขาพูดภาษาไทยไม่ได้ ส่วนเราก็พูดกะเหรี่ยงไม่ได้ (ไม่ใช่ภาษาไทยสำเนียงกะเหรี่ยงนะ) ช่องทางการสื่อสารมีทางเดียวคือภาษาอังกฤษ (ซึ่งมีพวกมิชชันนารีและเอ็นจีโอฝรั่งไปสอนให้พวกเขาระยะสั้นๆ) ทั้งที่ภาษาอังกฤษของพวกกะเหรี่ยงห่วยกว่าเราเยอะ (แบบที่ทำให้เราภูมิใจได้ว่าตัวเองกลายเป็นคนเก่งขึ้นมาเลย) แต่พวกเขาก็พยายามพูดกับเราโดยไม่อายและไม่กลัวผิด ณ บัดนั้นเอง เราจึงเกิดดวงตาเห็นธรรมว่าเราจะอายหรือกลัวไปทำไม...

ตอบคุณมัช
ถึงผมอ่านพ่อมดแฮร์รี่ทุกเล่ม แต่ก็รู้สึกว่าเล่มแรกดีที่สุด (แฟนพ่อมดอย่าโกรธนะ) ส่วนหนังสือเด็กเล่มแรกที่คุณมัชนึกถึงนั้น....(เสียงหัวใจของคุณปรีดาและเจ้าชายเต้นตึก ตึก และแล้วเราทั้งสองก็หน้าแดงขึ้นพร้อมกัน

ตอบคุณมณีฯ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าเรื่องชุดนาร์เนียไม่ใช่เรื่องหวือหวาแบบพ่อมดแฮร์รี่ แต่มันเป็นเรื่องของเทพนิยายผสมกับคัมภีร์ไบเบิล (อย่าเพิ่งทำหน้าเบ้สิ) แต่เราจะอ่านแบบไม่ตีความเป็นศาสนาก็ได้ จุดเด่นที่สุด (ตามความคิดผม) ที่ทำให้เรื่องชุดนาร์เนียต่างจากเรื่องเด็กอื่นๆ ก็คือกล่าวถึงเมืองนาร์เนียในช่วงระยะเวลานับร้อยนับพันปี ทำให้เรื่องนี้เหมือนเป็นมหากาพย์ และเราได้เรียนวิชาประวัติศาสตร์เมืองนาร์เนีย (ในแบบสนุกสนาน) ตัวละครจำนวนมากมีพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลง

ตอบคุณหนุ่ม
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคอมเม้นท์สองบรรทัดแรกจะออกมาจากปากคนธัมมะธัมโมอย่างคุณหนุ่ม ดูๆ แล้วคุณหนุ่มก็อ่านหนังสือเด็กมาเยอะไม่เบานี่นา

ตอบคุณ snodgirl
ยินดีต้อนรับครับ เห็นด้วยว่าหนังตัวอย่างทำได้น่าดูมาก อลังการกว่าที่ผมคิดเยอะเลย อาจเป็นเพราะใช้ทีมงานศิลป์จากลอร์ด ออฟ เดอะ ริง บรรยากาศมันเลยออกมาดูโทนนั้น ส่วนเนื้อเรื่องก็อย่างที่บอกแหละครับว่ามันไม่หวือหวาอย่างแฮร์รี่ แนะนำว่าถ้าเริ่มต้นอ่านแล้วขอให้อ่านให้ครบเจ็ดเล่มครับ มีตัวละครมากมายรอคุณอยู่ และยิ่งเมื่อถึงเล่มสุดท้าย การที่เราได้เห็นตัวละครบางตัวโผล่มามีบทบาทอีกครั้ง ก็จะทำให้อิ่มใจได้ไม่น้อยเลยครับ (อ้าว สปอยล์รึเปล่าเนี่ย)

ตอบคุณ Batgirl


ตอบคุณชมทะเล
ซูซานเขาอาจไม่คิดว่าตัวเองน่าสงสารก็ได้นะครับ ช่างเถอะ แต่ละคนต่างก็มีวิถีชีวิตและวิธีคิดแตกต่างกันไป


โดย: Aka Prita วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:17:54:35 น.  

 
ต้นไม้บ้านอินทรีทองคำ โดนตัดอะนะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:22:43:47 น.  

 
สำหรับคนหนักแน่น รักแล้วรักเลย... แนะนำให้ปลูกไม้ยืนต้น
สำหรับคนขี้เบื่อ... แนะนำให้ปลูกไม้ล้มลุก

เอิ๊กๆๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 3 ธันวาคม 2548 เวลา:0:00:45 น.  

 
สองบรรทัดแรก แซวอ่ะครับ

แต่เนื้อหาวันนี้หว่านความรักแล้วหวังผลก็ต้องเลือกเมล็ดพันธุ์ให้ถูกกับความต้องการล่ะครับ เหมือนเลือกคนที่เค้ารักเราดีกว่า ดีกว่าไปเลือกคนที่เค้าไม่รักเรา หว่านยังไงมันก็ไม่ออกดอก

^
เกี่ยวกับเนื้อหาหรือเปล่านา


โดย: noom_no1 วันที่: 3 ธันวาคม 2548 เวลา:0:09:44 น.  

 







โถๆ อุตส่าห์ทะนุถนอมเนาะ



ไม่ได้ดูดีๆตั้งแต่แรกนี่นา..ว่าต้นที่ปลูกน่ะมีคุณสมบัติอย่างไร

แต่ก็นะ....ความรู้สึกแรกที่พบมันคงปิดบังหัวใจ

ทำให้ลืมนึกถึงเรื่องดอกเรื่องผลในตอนท้าย

สิ่งแรกที่คิดคือขอแค่ได้ลงมือปลูกได้ดูแล.. ก็พอแล้ว

รึ เ ป ล่ า



โดย: มัชฌิมา วันที่: 3 ธันวาคม 2548 เวลา:10:57:49 น.  

 
อืมม์ เปรียบเทียบได้กับความรักเลยนะเนี่ยคุณปรีดา


โดย: p_tham วันที่: 4 ธันวาคม 2548 เวลา:2:43:50 น.  

 
หวังดอกผล

แต่ต่อให้ไม่ให้ผล ก็ยังได้ต้นไม้ แถมความปิติในระหว่างที่ได้เห็นมันเติบโต ก็ยังดีอะนะ


เป็นคนชอบปลอบใจตัวเองอะจ้ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 7 ธันวาคม 2548 เวลา:10:20:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aka Prita
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Aka Prita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.