Group Blog
 
All Blogs
 
สิงคโปร์ 44 ชม.#3 Marina Bay, City Tour

ช่วงหัวค่ำหลังเติมพลังมาหน่อย ก็เตรียมตัวไปเที่ยว City tour ครับ ไม่ใช่ว่า เวลามีน้อย เลยเลือกที่จะเที่ยวในยามค่ำคืน แต่เหตุผลหนึ่งก็เพราะว่า เดินเที่ยวในเมืองตอนค่ำเนี่ย ผมว่าน่าจะเย็นสบาย ไม่ต้องมาเดินเหงื่อแตกด้วยน่ะครับ แต่ที่ไหนได้ ไม่ต่างกับกลางวันเล๊ย... (เพียงแต่ไม่โดน UV)

มาดูแผนที่กันหน่อยครับ



ผมเลือกมาตั้งต้นที่ MRT สถานี Raffle Place (EW14/NS26) เพราะเห็นว่าจะเดินไป Merlion ใกล้ที่สุดครับ ก่อนที่จะเลือกเดินขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ



จาก สถานี Raffle place โผล่ออกมาตรงประตูไหนก็จำไม่ได้แล้วล่ะครับ



มองหาป้าย มือกางแผนที่ เพื่อจะเดินไป Merlion Park ครับ แต่ว่าเสียเวลา เดินวน หาทางข้ามถนน จนเหงื่อตกเลยล่ะครับ กว่าจะมาถึงเนี่ย



อย่างที่บอกตอนแรกครับว่า Merlion ในสิงคโปร์นี่ มีถึง 3 ตัวเลยทีเดียว คือ ตัวใหญ่ยักษ์ (The Merlion บนเกาะ sentosa) แล้วก็ตัวเล็กอีก 2 ตัวบน Merloin Park

เจ้า Merlion ตัวเล็ก จะหันหน้าเข้าเมือง พ่นน้ำปริบๆ อยู่ข้างหลังเจ้าตัวใหญ่ โดยเจ้าตัวนี้ สูงแค่ 2 เมตร หนัก 3 ตัน ทำจากซีเมนต์ Fundu ส่วนผิว ทำจากจานลายคราม ส่วนตาทำจากถ้วยชาสีแดง




สำหรับ Merlion ตัวใหญ่ ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของสิงคโปร์ (ใครไม่ได้มาถ่ายรูปกับเจ้าตัวนี้ เขาว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์นา) เจ้าสิงโตทะเลทั้งสองตัว สร้างขึ้นโดย Lim Nang Seng ศิลปินที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ในสมัยนั้น และได้รับการออกแบบโดย Fraser Brunner ครับ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1964 เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวสิงคโปร์ แต่ไปๆมาๆ ก็กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาจนถึงปัจจุบันไปแล้ว





Esplanade หรือตึกทุเรียน ที่เราเรียกๆกัน เป็นโรงละคร และศูนย์กลางการแสดงศิลปะ ภายในโรงละครจะมี 2 ส่วนคือ Theatre 2,000 ที่นั่ง และ Concert Hall 1,600 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังมีห้องสมุดศิลปะ ลานกลางแจ้ง และ Esplanade Mall ศูนย์การค้าสำหรับนักช๊อปครับ

สำหรับคนที่จะมา Esplanade นั่ง MRT มาลงที่สถานี City Hall (EW13/NS25) แล้วเดินตรงไปทาง Raffles Avenue ก็จะเจอตึกทุเรียนทางขวามือครับ



Singapore Flyer เป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 165 เมตร โดยการหมุนแต่ละรอบจะใชเวลาประมาณ 30 นาที ค่าขึ้นกระเช้า 29.50 เหรียญ (เด็ก 20.65 เหรียญ ผู้สูงอายุ 23.60 เหรียญ)

สำหรับคนที่อยากขึ้นกระเช้า ก็ลง MRT สถานี City Hall (EW13/NS25) แล้วใช้รถ Shuttle Bus ฟรีได้เลยครับ



เดินจาก Merlion Park ขึ้นมา เดี๋ยวเราจะเดินชมแถบ Boat Quay ก่อนครับ



โรงแรม The Fullerton ที่เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิก สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1928 แน่ะครับ แต่แรกเริ่มใช้เป็นที่ทำการไปรษณีย์มาก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโรงแรมหรูหราอย่างในทุกวันนี้ครับ



ใกล้กับกับ โรงแรม The Fullerton จะมีสะพานข้ามแม่น้ำสิงคโปร์ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1868 ที่ชื่อ Cavenagh Bridge ที่เคยใช้เป็นสะพานให้รถข้ามแม่น้ำสิงคโปร์ แต่ปัจจุบันใช้เป็นเพียงสะพานคนเดิน



รูปหล่อทองแดง เป็นรูปเด็กๆเล่นน้ำ ข้างโรงแรม The Fullerton หรือ People of the River เป็นศิลปะที่แสดงถึงวิถีชีวิตผู้คนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำในอดีตครับ



บรรยากาศยามค่ำคืนของ Boat Quay จะเห็นร้านอาหารและผับให้เลือก hank out มากมายครับ





เมื่อข้าม Cavenagh Bridge จะพบกับ Asian Civilisations Museum ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้เหี่ยวกับวัฒนธรรมของคนเอเชีย บัตรเข้าชม 5 เหรียญ (เด็ก 2.50 เหรียญ)




รูปปั้นทองสำริดของ Sir Stamford Raffles (ผู้สถาปนาสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการค้าแห่งใหม่ สำหรับบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ) ด้านหน้า Victoria Theatre & Memorial Hall

Victoria Theatre & Memorial Hall เป็นโรงละคร รวมทั้งคอนเสิร์ต ละเป็นที่จัดแสดงของ วงออร์เคสตราของสิงคโปร์ด้วย ในส่วน Memorial Hall เป็นการต่อเติมอาคารเดิมเพื่อเป็นอนุสรณ์การสวรรคต ของราชินีวิคตอเรียครับ




อาคารศาลฎีกาหลังเก่าสไตล์โคโลเนียลที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1939 ปัจจุบันใช้เป็นห้องแสดงประวัติศาสตร์



รูปปั้นของ Sir Stamford Raffles ตรงข้างแม่น้ำสิงคโปร์ แสดงจุด Raffles Landing Site ที่ท่านมาเหยียบแผ่นดินสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 1819 อันหมายถึงนำความเปลี่ยนแปลง ความเจริญมาสู่เกาะสิงคโปร์



นั่งพักเหนื่อยข้างแม่น้ำสิงคโปร์ครับ



The Art House อาคารแสดงศิลปะ ดนตรี ที่ในอดีตเคยใช้เป็นอาคารรัฐสภา



รูปปั้นช้างที่ ร.5 พระราชทานเป็นที่ระลึก เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จเยือนสิงคโปร์ในปี ค.ศ.1871 อยู่หน้า The Art House






สนาม The Padang เป็นลานกิจกรรม (นึกถึงสนามหลวงบ้านเรา) ที่สำคัญก็คือเป็นลานแข่ง cricket ที่เป็นกีฬาประจำชาติของสิงคโปร์ครับ



เดินลัดเลาะ ถนน St.Andrew's มา ใต้ทางข้ามถนน Stamford จะเจอวัยรุ่นสิงคโปร์มาฝึกเต้น B-boy บ้าง หรือหัดเล่น skete board ไม่เหมือนบ้านเราที่คอยจะเป็นเด็กแว๊นกันนะครับ



พอขึ้นมาก็จะเจอ
ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงชาวสิงคโปร์ที่เสียชีวิตจากการยึดครองของญี่ปุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เสาทั้ง 4 ต้นนี้ยังเป็นสัญลักษณ์การรวมชนชาติทั้ง 4 ของสิงคโปร์อีกด้วย



จุดสุดท้ายที่จะไปก็
เราจะไปดูน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ เดินไกลหน่อย มุ่งไปทาง Raffles Boulevard



เมื่อเข้ามาในห้างแล้ว มองหาป้ายนี้เลยครับ อย่าแปลกใจที่เป็นการเดินลงชั้นใต้ดินนะครับ เพราะว่าเราจะเดินลงไปใต้ฐานของน้ำพุเลย แล้วมีประตู้กั้น ป้องกันละอองน้ำ (ที่รุนแรง) เข้ามาในตัวอาคาร



Fountain of Wealth น้ำพุแห่งโชคลาภ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (กินเนสส์บุ๊กปี 1997) สูงถึง 13.8 เมตร จะอยู่ตรงกลางของตึก Suntec City ทั้ง 5 ตึกพอดีครับ คล้ายนิ้วมือตามหลักฮวงจุ้ย






จะมีการจัดแสดงแสง สี เวลา 20.00, 20.30 และ 21.00 ของทุกวัน
และให้สัมผัสละอองน้ำ (เพื่อเป็นศิริมงคล) ได้ในเวลา 9.00-12.00, 14.00-18.00, 19.00-19.50 และ 21.30-22.00





ผมมาช่วงสามทุ่มกว่าพอดี เลยได้ทั้งชม และลงมาสัมผัสน้ำพุเลย

(กล้องแบตหมดพอดี เลยใช้มือถือถ่ายแทน คุณภาพของภาพอาจจะแย่หน่อยครับ)



ลงไปเดินวนลูบน้ำกันครับ



นั่ง MRT กลับมา Chinatown ครับ แวะทานอาหารบน Smith Street (ถนนนี้เคยเป็นย่านโคมแดง ก่อนจะกลายมาเป็นถนนอาหารยามค่ำคืน) ร้านที่นี่จะเปิดตอนค่ำๆ แล้วก็ปิดหรือของหมดตั้งแต่ 4-5 ทุ่มเลยครับ ไม่เหมือนบ้านเรา ที่ยังขายถึงดึกนะครับ ถ้าจะมาทาน คำนึงเรื่องเวลานึดนึง





หอยนางรมสดก็ทานกับเครื่องแปลกดีครับ สิ้มจี๊ดนี่ก็ให้กลิ่นหอมและรสเปรี้ยว เข้ากับหอยนางรมเหมือนกันนะเนี่ย




อีกเมนูเป็นกุ้งซอสมะขาม กับไข่เจียวครับ ได้ชิมแล้ว ไข่เจียวที่ไหน ก้ไม่อร่อยเท่าบ้านเราหรอกครับ





Create Date : 13 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 1 มิถุนายน 2553 18:34:46 น. 4 comments
Counter : 5308 Pageviews.

 
เข้ามาชม และเก็บข้อมูลครับ


โดย: บุรุษแห่งดาวดวงที่3 IP: 58.11.68.181 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:53:14 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ...


โดย: เขาพิงกัน วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:40:00 น.  

 
อยากกินหอยนางรมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น่ากินมั่กๆ เลยค๊าบบบ


โดย: Pluto Tanyong IP: 210.246.192.15 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:44:56 น.  

 
ขอบคุณค่ะ เรากำลังทำรายงานเรื่องนี้อยุ่พอดีเลย ข้อมลูลเหล่านี้ช่วยได้มากเลยค่ะ
(จาก ผู้สนับสนุนความรู้นอกห้องเรียน)


โดย: V R Student IP: 125.25.144.71 วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:12:05:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prapasawat
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




Friends' blogs
[Add prapasawat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.