ธรรมาสน์วัดใหญ่สุวรรณาราม



ใครๆก็รู้จักวัดใหญ่สุวรรณาราม เมืองเพชรบุรี ถ้าชื่นชอบงานช่างโบราณของชาวเมืองเพชร ต้องมาที่นี่ เพราะวัดแห่งนี้เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมศิลปกรรมเก่าแก่โบราณ หลายชิ้นเห็นแล้วต้องทึ่งว่าผ่านกาลเวลามาได้อย่างไร ทั้งสถาปัตยกรรม จิตรกรรม งานไม้แกะสลัก ประติมากรรม ยังเหลือให้ศึกษาครบทุกแขนง พระโบราณท่านเป็นช่างอยู่ในตัว รู้จักและเห็นคุณค่าของ อันไหนผุพังก็ค่อยๆซ่อมแปลงไป เปลี่ยนเครื่องไม้ทีละชิ้นๆ ไม่ใช่รื้อโครมลงแล้วสร้างใหม่เหมือนปัจจุบันนี้ี


ธรรมาสน์ที่ผมขอนำเสนอวันนี้ตั้งอยู่ในศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นตำหนักทองสมัยอยุธยาตอนปลาย แต่เดิมเชื่อว่าคงเป็นตำหนักในกรุงศรีอยุธยา มีร่องรอยลงรักปิดทองทั้งองค์ แต่ทุกวันนี้ทาสีแดงทับไปแล้วอย่างน่าเสียดาย เอาเถิด เราไปชมธรรมาสน์กันดีกว่า ดูว่างานช่างอยุธยาท่านจะเลิศเลอแค่ไหน




ธรรมาสน์สมัยอยุธยามีข้อสังเกตแตกต่างไปจากธรรมาสน์สมัยรัตนโกสินทร์ คือ มักจะใช้เสาสี่้ต้น ไม่มีการย่อมุม (หรือเรียกว่าเพิ่มมุมก็ได้) ใต้ถุนมักจะเจาะโปร่ง เรียกว่า "ล่องถุน" ประดับด้วยลวดลายสมัยอยุธยา ซึ่งใช้ลายขนาดใหญ่ สะบัดเปลว และเป็นอิสระกว่าลายสมัยรัตนโกสินทร์ มักจะประด้บด้วยกระจกสีเขียวแผ่นใหญ่ สีคล้ายๆปีกแมลงทับ (สมัยอยุธยาเห็นใช้กระจกอยู่แค่ 2 สี คือ สีเขียวและสีขาว)



ภาพนี้เป็นพนักธรรมาสน์ครับ ที่ขอบตกแต่งด้วยลายข้ออ้อย พื้นพนักเป็นลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่นิยมมากในสมัยอยุธยา ล้อมรอบด้วยลายสี่เหลี่ยมเพิ่มมุมไม้สิบสอง ขอบล่างตกแต่งด้วยลายกระจังน้อยใหญ่ และที่เด่นที่สุดคือ การใช้ฐานแอ่นโค้งแบบ "ตกท้องช้าง" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะอยุธยาตอนปลาย ที่ช่างกรุงเทพไม่นิยมแล้ว





เครื่องยอดของธรรมาสน์ครับ ตัวกนกที่ขอบนั้นเรียกว่า "ตัวเหงา" ยังใช้ตัวเหงาแบบหันเข้าอยู่ ซึ่งตัวเหงาปัจจุบันจะหันออก หรือแทนที่ด้วย "หางหงส์" แทน




ดาวเพดานด้านในธรรมาสน์ครับ น่าเสียดายที่สูญหายไปแล้ว คงจะถูกโจรกรรม เพราะไม้แกะสลักงามๆมีค่าหลายสตางค์ในตลาดค้าของเก่า เศร้าไหมล่ะครับ
กระจกสีเขียวแผ่นใหญ่ๆเป็นเอกลักษณ์ของธรรมาสน์สมัยอยุธยา ส่วนลายขอบของกรอบสี่เหลี่ยมเป็นลายไข่ปลา ทำจากรักปั้นเป็นก้อนกลมๆแล้วปิดทองทับ ประณีตยิ่งนัก




ทวยของธรรมาสน์องค์นี้ค่อนข้างแปลก เป็นเพียงเส้นโค้งเส้นเดียว ไม่ตวัดเป็นตัว s หรือเป็นรูปตัวนาคเหมือนแห่งอื่นๆ ทวยแบบนี้จะพบมากในจิตรกรรมฝาผนัง แต่ไม่ค่อยพบเห็นของจริงสักเท่าใดนัก


ภาพล่างเป็นบันไดนาคครับ เรียกกันเล่นๆว่านาคเอเลี่ยน เพราะเหมือนเอเลี่ยน มันจะมีไม่กี่รุ่นที่ทำออกมาแบบนี้ ตัวอย่างชัดๆที่วัดครุฑ อยุธยามีครับ กับวัดนางพญา พิษณุโลกก็มีเช่นกัน บันไดนี้มาจากภาพถ่ายเก่า ปัจจุบันเจ้าอาวาสท่านเก็บตายไว้อย่างดี ห้ามใครดู เพราะของหายบ่อยเหลือเกินวัดนี้





Create Date : 04 พฤษภาคม 2554
Last Update : 31 ตุลาคม 2559 11:55:23 น.
Counter : 5009 Pageviews.

4 comments
  
ทักทายยามค่ำคืนนะจ่ะ อิอิ
โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:20:40 น.
  
สวยงาม

ดูเก่าแก่มากเลยค่ะ


โดย: เด็ก(อยาก)แนว วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:40:08 น.
  
สวัสดีคุณตะวันเจ้าเอยและคุณเด็ก (อยาก) แนวครับ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมนะครับ
โดย: ปลาทองสยองเมือง วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:59:09 น.
  
เนื้อหาดี อ่านง่ายครับ
โดย: Amon Bunn IP: 110.164.141.222 วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:10:27:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลาทองสยองเมือง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]



New Comments