|
รังไรลวงรัก รังที่ 23
รังไรลวงรัก รังที่ 23
รังที่ 23
พลอยพิณกับชุดสูทสวยวางมาดนิ่งอยู่กลางห้องประชุม เธอดูทะมัดทะแมงและพูดคุยงานอย่างฉะฉาน ระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ กับงานโฆษณาโปรเจคยักษ์ที่เจ้าของสินค้าต้องการทำให้เป็นเรื่องสั้นกับชาดังยี่ห้อหนึ่ง เธอจัดแจงวางแผนงานและนั่งฟังความคืบหน้าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทีมงานวางแผนไว้
ดิฉันได้ส่งเรื่องดาราที่แคสติ้งให้เจ้าของชาทราบแล้วนะคะ ถือว่าเป็นคู่ขวัญที่ทางลูกค้าชอบมากอีกอย่างทั้งสองคนก็มีชื่อเสียงมาก และส่วนเรื่องเสื้อผ้ายังไงทางฝ่ายเสื้อผ้าก็นัดเจ้าตัวมาฟิตติ้งได้เลยขอให้ทุกอย่างเรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า สไตล์การแต่งหน้า เครื่องประดับต่าง ๆ อันไหนจะต้องติดต่อกับทางซัพพลายเออร์แล้วมีปัญหาก็แจ้งดิฉันได้นะคะ เผื่อจะได้ช่วยกันอีกทาง อ้อแล้วด้านโปรดักส์ชั่น จุลได้เตรียมงานพร้อมหรือยังคะ พลอยพิณหันมาถามจุล วันนี้เขาแต่งตัวเรียบร้อยเพื่อเข้าร่วมประชุม
สักเก้าสิบเปอร์เซ็นแล้วครับทุกอย่างพร้อมแล้วครับ ผมได้จัดส่งให้ทีมโลเกชั่นไปดูสถานที่ล่วงหน้าแล้วรวมถึงเรื่องสตอรี่บอร์ดและบทต่าง ๆ ได้ส่งให้นักแสดงแล้วเหมือนกัน ติดต่อที่อุปกรณ์ประกอบฉากบางอย่างซึ่งยังมีบางบริษัทยังลังเลอยู่และกำลังต่อรองเรื่องค่าเช่าของอยู่ครับ จุลยื่นภาพอุปกรณ์ที่ยังยืมไม่ได้ให้พลอยพิณดู
อืม ได้ค่ะ บริษัทนี้ดิฉันพอจะรู้จักเจ้าของ ยังไงคงต้องเอาชื่อไปรับประกันความเสียหายก่อน เธอหัวเราะออกมา
ถ้าอย่างนั้นวันจันทร์หน้าพวกเราก็จะเริ่มงานกันได้เลย ผู้กำกับพูดออกมา
ถ้าทุกอย่างพร้อมดิฉันก็พร้อม ว่าแต่งานนี้พวกคุณว่าจะใช้เวลาสักกี่วัน
ผมว่าน่าจะสักสามวันเต็ม ๆ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ผู้กำกับแสดงความเห็น
อย่ากะเกณฑ์แบบนั้นนะคะ พอว่าดาราไม่สามารถให้คิวเราได้ขนาดไหน พลอยพิณกล่าว
ฝ่ายดาราว่าไงคะ เธอหันไปถามทีมงานคนอื่นอีก
คิวที่ดาราให้ไว้คือสามวันค่ะ
คุณพลอยครับ ผู้กำกับหมายถึงว่าสามวันสำหรับดารา เราจะเจาะถ่าย แต่ส่วนวันที่เหลือก็น่าจะเป็นการเก็บรายละเอียดอื่น ๆ ที่ทางทีมงานจะทำต่ออีกสักประมาณสองถึงสามวันน่าจะเสร็จ ผู้กำกับต้องการความละเอียดอ่อนของภาพที่จะออกมาด้วยครับ จุลอธิบายเพิ่มเติม
อ้อ โอเคเข้าใจค่ะ ตามนั้นนะคะ งานนี้ดิฉันจะไปร่วมงานกับคุณด้วย ถ้าไม่เสร็จคงไม่หนีกลับกรุงเทพฯก่อน ฝ่ายจัดหาคะ ยังไงเตรียมที่พักให้ทีมงานและทีมนักแสดงด้วยนะคะ ถ้าทุกคนอยู่สบายงานก็จะออกมาดีว่าไหมคะ พลอยพิณยิ้ม
แหมตั้งแต่ทำงานมาสงสัยจะมีแต่เจ้านายอย่างคุณพลอยพิณนะฮะ ที่ห่วงใยสวัสดิภาพพนักงาน ช่างแต่งหน้าคนหนึ่งพูดออกมา
จริงหรือคะ ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็ตั้งใจทำงานด้วยนะคะ งานชิ้นนี้จะถือเป็นหน้าเป็นตาของบริษัทเลยค่ะ คิดถึงคุณปวินท์นะคะ ดิฉันอยากให้เขาได้เห็นผลงานของพวกเราจังเลยค่ะ พลอยพิณยิ้มเหงา ๆ ออกมา
ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ปิดประชุมค่ะ พลอยพิณลุกขึ้น ทุกคนทยอยเดินออกมาจากห้อง แต่ทีมงานบางส่วนยังจับกลุ่มประชุมกันต่อ
จุล เดี๋ยวไปพบพี่ที่ห้องด้วย เธอเดินฉับ ๆ ออกไปพร้อมกับเลขานุการและนั่งดื่มกาแฟรออยู่ที่ห้องทำงาน สีหน้าเธอค่อนข้างเครียดหลังจากประชุมแล้ว
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เชิญค่ะ จุลมานั่งนี่ซิ จุลเดินไปนั่งที่เก้าอี้รับแขกในห้องทำงานสุดหรู พลอยพิณหันไปสั่งเครื่องดื่มให้กับเขา
ไม่นานนักเลขานุการก็เข้ามาเสิร์ฟชาร้อน ๆ พร้อมชุดน้ำชาที่สวยงาม
ชาจากอังกฤษจ้ะ เธอยกแก้วชาใบสวยขึ้นจิบทั้งที่ยังร้อนอยู่
จุลนั่งยิ้มออกมาเมื่อเห็นพลอยพิณเป่าชาไปจิบชาไปทั้งที่มันร้อน
ยิ้มอะไรจ้ะจุล มีอะไรน่าขำงั้นหรือ อ้าวแล้วไม่ดื่มหรือไงเรา ชากานี้มาไกลนะรสนุ่มทีเดียวแก้เครียดหลังประชุม พลอยพิณพูดอย่างอารมณ์ดี
การดื่มชามีคำทำนายนิสัยด้วยนะครับ
พลอยพิณเอียงหน้ามองจุลอย่างแปลกใจ
จริงหรือจ้ะ เอามาจากไหน หรือว่าเป็นพล็อตโฆษณา
พล็อตโฆษณาหรือครับ น่าจะใช่ ผมคงต้องเพิ่มเรื่องนี้ลงไปเพื่อเป็นหนึ่งในความทรงจำของชิ้นงาน จุลยกแก้วชาขึ้นแล้วหมุนไปมาอยู่หลายรอบและจิบชานั้นอย่างละมุนละไม ชาอุ่น ๆ พอกลืนลงคอมันช่างสบายคอและสบายไปถึงท้องอย่างที่โสมนัสเคยพูดไว้
พูดจาแปลก ๆ นะเรา
จุลยิ้ม ว่าแต่พี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ เมื่อกี้ผมเห็นสีหน้าพี่พลอยไม่สู้ดีนัก
ดูออกด้วย พลอยพิณยิ้มและนั่งพิงเก้าอี้พร้อมถอนใจออกมา
พี่ส่งสายสืบไปตามหาวินท์แล้วนะ
จุลรู้สึกใจหายแว้ปขึ้นมา ทั้งที่เขารู้เรื่องทั้งหมดแต่กลับไม่บอกอะไรให้กับพลอยพิณรู้สึกนิด
แล้วคืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ
สายสืบบอกว่าเขายังอยู่ในจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุ เพราะเช็คตามโรงพยาบาลแล้วทราบชื่อว่าเป็นคนไข้และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตอนนี้เขาหายดีแล้วแต่อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เขายังไม่กลับมาเพราะว่าเขาความจำเสื่อม พลอยพิณก้มหน้าและเงยหน้าขึ้นมาพร้อมน้ำตา
พี่พลอยจะตามไปไหมครับ
มันจะดีหรือจุล เขาความจำเสื่อมเขาจะจำพวกเราได้ไหม พลอยพิณกล้า ๆ กลัว ๆ
แล้วพี่ทราบหรือเปล่าว่าเขาอยู่กับใคร ใครเป็นคนดูแลพี่ปวินท์
พลอยพิณส่ายหน้า แต่นี่จ้ะ
เธอเลื่อนกระดานแผ่นหนึ่งให้กับจุลดู จุลหยิบกระดาษขาวแผ่นนั้นขึ้นมาดู ไร่ชา ไร่ชา
ใช่จ้ะ ไร่ชาที่เราจะไปถ่ายทำโฆษณา จุลกำลังปิดบังอะไรพี่อยู่หรือเปล่า พลอยพิณเสียงเศร้า เธอมองหน้าเขา แววตาที่ส่งออกมาไม่ได้แสดงความผิดหวัง หรือ ความโกรธแต่อย่างใด ดูเหมือนพลอยพิณค่อนข้างจะโล่งอกด้วยซ้ำ
พี่พลอยครับ น้ำเสียงของจุลแหบเศร้า
พี่เลยจะไปงานนี้ด้วย
ไม่เกี่ยวหรอกจ้ะ เพราะถึงยังไงคงไม่มีประโยชน์ที่พี่จะต้องตามตัวของเขากลับมา
หมายความว่ายังไง จุลทำหน้าสงสัย
วันก่อนวินท์โทรศัพท์มาหาพี่ถามถึงเรื่องงาน
จุลยิ่งทำหน้าสงสัยไปกันใหญ่
สงสัยใช่ไหม ในเมื่อใบทะเบียนคนไข้บอกว่าเขาความจำเสื่อม แต่ทำไมถึงโทรศัพท์กลับมาหาพี่ได้ พลอยพิณลุกขึ้นยืนและกอดอกเดินวนไปวนมาสักพัก จุลเริ่มใจคอไม่ดีนักกับสิ่งที่กำลังจะได้ยินได้ฟัง
เกิดอะไรกันแน่ครับพี่พลอย
วินท์ตั้งใจความจำเสื่อมเพียงเพื่อที่เขาจะได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เขารัก พลอยพิณน้ำตาร่วงพรู แต่เธอก็ฝืนยิ้มออกมา
อุบัติเหตุวันนั้นเกิดขึ้นเพราะพี่เอง ตอนที่เรากำลังจะไปเที่ยวดอยชิดฟ้า จู่ ๆ วินท์ก็ขอเลิกกับพี่ทั้งที่งานแต่งงานของเรากำลังจะเริ่มขึ้น ตอนนั้นพี่รับไม่ได้เลย เรามีปากเสียงกันและพี่ก็เป็นคนหักพวงมาลัยรถเองตอนนั้นแค่โมโหมันควบคุมสติไม่ได้ ทุกอย่างมันจบลงแล้วเพราะพี่เอง พลอยพิณยิ้มทั้งน้ำตา นี่คือน้ำตาแห่งความเสียใจที่ดูสุขุมที่สุดตั้งแต่เขาเคยเห็นมา
พี่พลอยครับ แต่มันไม่ใช่ความผิดของพี่เลย
ไม่หรอก พี่ผิดเองที่พยายามผลักดันให้งานแต่งงานเกิดขึ้นทั้งที่วินท์ไม่พร้อมกับเรื่องแบบนี้ ตลอดเวลาพี่เองก็รู้สึกว่าลึก ๆ ในใจของวินท์เหมือนมีใครบางคนซุกซ่อนอยู่พี่เดาไม่ออกจริง ๆ ว่าคนที่เขารักคือใครกันแน่ แต่อีกหนึ่งสิ่งที่พี่สบายใจคือไร่ชาที่วินท์ไปพักรักษาตัวคือไร่ชาของโสมนัสเพื่อนสนิทของเขา พลอยพิณยิ้มและถอนใจออกมา
ทำไมพี่พลอยถึงไม่กระโตกกระตากอะไรออกมา
พี่เริ่มทำใจได้บ้างตอนที่พี่หายป่วยแล้วจริง ๆ มานั่งคิดทบทวนงานที่ทำทุกวันนี้มันดึงเวลาฟุ้งซ่านไปได้หมดทีเดียว วินท์บอกว่าถ้าเขาพร้อมเขาจะกลับมาทำงานต่อ แต่ตอนนี้ขอเวลาเขาพักผ่อนก่อนน่ะ พลอยพิณพูดอย่างปลง ๆ
เรื่องแบบนี้ก็มีด้วย พี่ได้คุยอะไรกับพี่ปวินท์มากกว่านั้นหรือเปล่าครับ
เปล่าจ้ะ เขาโทรศัพท์มาบอกแค่นั้นรีบพูดรีบวาง
เขาทราบหรือเปล่าว่าพวกเรากำลังจะไป จุลถามด้วยความร้อนใจ
ยังไงเขาก็ต้องรู้อยู่ดีนะ เพราะพวกเราต้องแจ้งโสมนัสเขาอยู่แล้ว
ก็จริงครับ แย่จังทำไมวันนี้สมองผมตื้อ ๆ ชอบกล จุลส่ายหน้าไปมา ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนโดนน็อค
แต่เราสองคนควรจะแวะไปเยี่ยมเขาก่อนวันเริ่มงานนะ วันศุกร์นี้จุลไปกับพี่ก่อนจะได้ไหม น้ำเสียงเธอจริงจังมาก
ผมหรือครับ
นะจุล ส่วนตัวนิดนึง เข้าใจพี่นะ
ครับ จบประโยคนั้นจุลยิ่งสมองตันเข้าไปใหญ่ หลังจากคุยกันเรื่องนั้นแล้วมันมีหลายความคิดที่เข้ามากระทบกระเทือนสภาวะทางความรู้สึกของเขามากมายจนเหมือนจะควบคุมความรู้สึกคับคั่งในใจไม่ได้เลย ถ้าปวินท์ไม่ได้ความจำเสื่อม แล้วรังไร แม่มดของเขาตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง จากที่แม่สาวรังไรจะลวงรัก ตอนนี้เธอกำลังเดินชายคนที่เธอรัก ลวงรักเธอแล้วงั้นหรือ
รังไร รังไร จุลพร่ำชื่อนี้ออกมา จนเขาขับรถมาถึงหน้าร้านของลันนา แต่ก็ไม่ได้ลงมาจากรถจนลันเห็นเข้าจึงมาเคาะกระจกเรียก
จุลเป็นอะไรไปแล้วทำไมไม่ลงมาจากรถ ลันนาเห็นจุลหันหน้ามาพร้อมดวงตาแดงกล่ำ เธอตกใจมากที่วันนี้รอยยิ้มแสนทะเล้นและคำพูดจาแบบเด็ก ๆ มันหายไปไหนจากชายคนที่เธอคุ้นเคย
จุลเปิดประตูรถออกมาพร้อมกับกอดลันนาไว้แน่น ลันนากอดเขากลับ
ใจเย็น ๆ นะจุล มีอะไรในใจก็พูดกับลันได้นะ จุลก็เหมือนน้องชายของลันนะ
จุลเอาแต่ร้องไห้ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขายังคงกอดลันนาไว้แน่นอยู่แบบนั้น พอเงยหน้ามายิ่งทำให้เขาประหลาดใจและตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เขารีบผละตัวเองออกจากลันนาทันที ลันนาหันไปมองตามที่จุลมอง
รังไร เขาเรียกชื่อเธอออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว แม่มดตัวแสบของเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าและถือของเต็มไม้เต็มมือ ดวงตาสวยของเธอมองมาที่เขาอย่างตกตะลึง
รังไรมาแล้วเหรอ ลันนาเดินเข้าไปจับไม้จับมือ เธอยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าพร้อมกับรอยยิ้ม
ลันมีนัดนี่เอง ถึงว่าทำไมปิดร้านเร็วจัง
พอดีรังไรลงมากรุงเทพฯ สักระยะหนึ่งแล้ว เธอโทรศัพท์มาลันอยากเจอรังไรมากจริง ๆ ตั้งใจจะให้ของตอบแทนที่มาช่วยตกแต่งร้านแต่สิ่งสำคัญคืออยากจะอวดร้านมากกว่า ลันนาหัวเราะ
ร้านน่ารักดีนะคะ ลูกค้าเยอะไหมคะ
พอควรจ้ะ ตอนนี้ใกล้วาเลนไทน์เลยมีสาว ๆ มากันเยอะหน่อย นี่จุลตอนนี้หนูนิปมาเป็นลูกค้ากับพี่ด้วยนะ หนูนิปบอกว่าอยากจะถักผ้าพันคอให้กับคนสำคัญ ลันนาหัวเราะเสียงใส
ไม่ได้เจอหนูนิปนานแล้ว อยากเจอแกอยู่เหมือนกัน จุลพูดเสียงเรียบ เขาหันหลังและทำทีท่าล็อคประตูรถ
งั้นเย็นนี้ทานข้าวด้วยกันก่อนกลับนะ ไปร้านอาหารญี่ปุ่นของพ่อหนูนิปดีกว่า รถมันติดมากเดินทางไปมาก็เสียเวลาว่าไหม ลันนามองหน้าจุลและรังไร ซ้ายทีขวาทีแต่ทั้งสองคนก็เอาแต่ยิ้มไม่ได้ปริปากอะไรออกมา
อ้าว ไม่มีใครตอบลัน งั้นเจ้าภาพจะเป็นคนเลือกร้านเอง ไป ไป เดินตามกันมาเร็ว บรรยากาศแสนจะอึดอัดชอบกล แต่ลันนาพอจะรู้อยู่แล้ว เพราะจุลเคยบอกว่าเลิกรากันไป มันคงไม่แปลกเมื่อทั้งสองคนกลับมาพบหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย
สั่งเลยจ้ะ ลันนาเลือกนั่งที่โต๊ะมุมใกล้ ๆ เคาน์เตอร์เธอเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนได้นั่งคุยกัน เธอเลือกเดินไปที่หน้าบาร์อาหารแล้วสั่งอาหารกับพ่อของนิปอย่างคุ้นเคย
พนักงานนำชามาเสริฟ์ จุลสังเกตการดื่มชาของรังไร มันกลายเป็นเรื่องตลกในเช้าวันนั้นจากโสมนัสที่กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขาชอบสังเกตอาการดื่มชาของคนอื่นโดยไม่รู้ตัว แต่ในเรื่องตลกนั้นกลับฝังใจเขาตลอดเวลาเขาเผลอยิ้มออกมา ยิ่งตอนนี้ท่าทางในการดื่มชาของเขากับรังไรช่างเหมือนกันเสียจริง ทั้งสองคนโอบแก้วชาร้อนไว้ในมือทั้งสองข้างและหมุนไปมาสักพักพออุณหภูมิอุ่นพอได้ที่ก็ยกมันขึ้นดื่มพร้อม ๆ กัน
ชารสชาติดีนะคะ รังไรเริ่มก่อน
อุ่นกำลังดีเหมือนกับ... เขาหยุดพูด เขาก้มหน้าลงไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเธอ ตอนนี้สายตาเขาได้แต่มองแสงจากหลอดไฟที่ส่องกระทบกับผิวชา
ลันนาทิ้งระยะไว้สักครู่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้นเลยจึงเดินกลับมาที่โต๊ะแทน ไม่นานนักอาหารญี่ปุ่นหลายอย่างก็พร้อมวางบนโต๊ะ ทุกคนทานอาหารเหมือนกับว่ามันไม่อร่อย ส่วนลันนาก็ทานอย่างอร่อยจนท้องตึง
นี่ไม่อร่อยหรือไง ทานกันนิดเดียว
เปล่าค่ะ เปล่าครับ ทั้งสองคนปฏิเสธ
เก็นจิ เธอเรียกพ่อครัวหนุ่มน้อยผู้ช่วยพ่อของนิปมาที่โต๊ะ
ช่วยใส่ห่อกลับบ้านแบ่งเป็นสองห่อนะคะ ลันนาหันไปสั่ง
ทั้งสามคนเดินกลับมาที่หน้าร้าน
ลันเดี๋ยวจุลไปส่ง
ไม่ต้องจุลลืมไปแล้วหรือไงว่าลันซื้อรถแล้วน่ะ จุลแวะไปส่งรังไรเถอะนะ วันนี้ลันมีความสุขมากเลยที่ได้เลี้ยงอาหารผู้มีพระคุณทั้งสองคนไม่อย่างนั้นร้านนี้คงไม่สวยน่ารักแบบนี้หรอก ลันนายิ้ม
ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ น่าจะเป็นที่การบริการของพี่ลันมากกว่า รังไรยิ้มน้อย ๆ ออกมา
ไปดีกว่าดึกแล้ว นี่รังไรยังไงก่อนกลับแวะมาที่ร้านอีกนะ พี่มีเรื่องจะคุยกับเรามากมายแบบสองต่อสองไม่มีชายหนุ่มคนนี้มาขัดจังหวะ ลันนาหันมาโบกมือให้ จุลเดินไปปิดประตูรถให้ที่ข้างรถ
จุลจ้ะ ลันเชื่อนะว่าจุลต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง แต่อย่าปฏิเสธหัวใจตัวเองเลยนะ ถ้าคิดจะรักก็รักอย่างที่หนูนิปบอก ลันนายิ้มและจับมือเขาอย่างแผ่วเบา
ขอบคุณมากคนดีของผม จุลยิ้มและยืนล้วงกระเป๋า
ฉันกลับนะ เธอยิ้มและหันหลังเดินกลับไป ตลอดเวลาที่อยู่ร้านอาหารถ้าลันนาไม่โยงเรื่องถามนั่นนี่ทั้งสองก็คงไม่ได้พูดอะไรออกมามากนัก
จุลยืนมองเธอเดินออกไปจากหน้าร้านของลันนาตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว ร้านลวงสำหรับตอนกลางคืนย่านญี่ปุ่นเมืองไทยก็เริ่มทยอยปิดร้าน รังไรดูเศร้า ๆ และเหงาเขาสัมผัสได้ หรือว่าเธอกับปวินท์จะจบกันแล้ว เรื่องความจำเสื่อมของพี่ปวินท์ถูกเผยแล้วหรือยังทำไมรังไรทำหน้าแบบนั้น แต่เขาเคยสัญญากับเธอไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่ง ไม่ให้ทักทายกัน แต่มันไม่ใช่นิสัยของเขาเลยสักนิด
จุลหันไปมาอยู่ข้างรถแล้วก็ต้องรีบออกวิ่งอย่างสุดแรง จนถึงตัวเธอเขากอดเธอจากด้านหลังไว้แน่นเชยคางของเขาไว้ที่ไหล่ของเธอ ความรู้สึกท่ามกลางสายลมกลางดึกช่างแสนเงียบเหงา แต่ทว่าความรู้สึกในหัวใจตอนนี้แสนอบอุ่นเหลือเกิน
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2555 12:56:05 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1916 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Mrs IP: 171.100.142.41 วันที่: 27 มีนาคม 2556 เวลา:19:42:37 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
นลินโนเวล เป็นบล็อกที่รวบรวมผลงานเขียนทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย โดยมีนามปากกาว่า นลิน คือ รักหวาน - Sweet ฟุ้งรัก คือ รักสดใส - Pastel จุล คือ เรื่องสั้นและบทความ - A love aleart -Aom อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านผลงานของนลินแล้วรู้สึกว่ากำลังทำสปาอยู่เลยค่ะ เลยแยกผลงานไว้ให้เข้าใจและเลือกประเภทที่จะทำให้ทุกคนRelax ได้ตามอัธยาศัย และสักวันหนึ่งหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะได้พบกับผลงานของนลินตามแผงหนังสือนะคะ ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้นลินด้วยนะ ขอบคุณค่ะ
|
|
|
|
|
|
|