ฉันเชื่อว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ใด สักวันคนที่เกิดมาเพื่อเป็นคู่กัน ก็ต้องมีวันได้เจอกันไ ม่วันใดก็วันหนึ่ง ดั่งเช่น วันนั้น ที่ฉัน และเธอ หากันจนเจอ...........
Group Blog
 
All Blogs
 
พรหมลิขิตรักข้ามจอ บทที่ 13

บทที่ 13
แล้วเราก้อรักกัน

หลังจากที่เราเปิดกล้องนอนครั้งแรก มันเป็นความรู้สึกประทับใจที่ผมไม่คิดจะลืมเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อ ว่าคนเราครั้งหนึ่งในชีวิต จะได้พบอีกครึ่งหนึ่งของตัวเองที่ขาดหายไป เทอเป็นเหมือนครึ่งของผมที่เมื่อไหร่ผมขาดเทอไป ผมก้อคงไม่เต็มสักที ผมก้อคงจะหาจุดยืนของตัวเองไม่ได้ เมื่อได้สนิทกันผมรู้สึกเหมือนผมได้คุยกับตัวเอง เทอมีทักษะความคิด และ แนวทางชีวิตที่เหมือนผมมากๆ เราชอบอะไรหลายๆอย่างเหมือนกัน และทุกๆวันหลังจากวันนั้น เราก้อจะอยู่ด้วยกันตลอด แม้กระทั้งเวลานอน หรือเวลาอยู่ที่ออฟฟิต เราสองคนจะแอบออนไลด์หากันเสมอ โดยที่พวกเพื่อนร่วมงานก้อแซวเราอยู่บ่อยๆ หลัวจากวันนั้น ที่เราเปิดกล้องนอนจนถึงเช้า เทอได้ถามผมว่า กำลังหลอกเทอหรือป่าว เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาของเทอ เทอเจอ แต่คนที่ไม่จิงใจ แค่ผ่านเข้ามา แล้วก้อออกไป ผมได้ฟังแล้วก้อรู้สึกคุ้นเคยกับเหตุการ์ณนั้นมาก เราสองคนกำลังตามหาคนที่จิงใจทั้งคู่ แล้วเราก้อได้เจอกัน ขอบคุนพรหมลิขิต ที่สร้างหัยเราได้มาเจอกัน ขอบคุนแคมฟร็อคที่เอื้ออำนวย ทำหัยคนสองคนได้โคจรมาพบกัน และรักกันในที่สุด ขอบคุนจอสี่เหลี่ยมๆ ที่ทำหัยเราได้มีโอกาศเห็นน่ากัน ในยามที่คิดถึง เทอบอกกับผมว่าเทอกำลังจะกลับมาไทยในอีกไม่กี่เดือนข้างน่านี้ ซึ้งมันก้อทำหัยผมแอบดีใจเป็นอย่างมาก แต่อีกใจก้อเพื่อใจเอาไว้ สมมุติว่าเทอไม่มาละ จิงมั้ย?
ผมเล่าเรื่องนี้หัยเอกชัยมันฟังอย่างระเอียด เอกชัยจึงเป็นเสมือนพยานรักของเรา อิอิ ถ้านับจากวันนี้ก้อคงจะเหลือเวลาอีก สี่ เดือนกว่าๆ ที่เทอจะกลับมาถึงเมืองไทย เทอตั้งใจจะกลับมาหัยทันเทศการ สงการณ์ แต่รู้มั้ยว่ายิ่งเรารู้เวลา ว่าเมื่อไหร่ ตอนไหน มันยากมากแค่ไหน ที่จะพยายามไม่นับวันเวลา อยากหัยถึงวันนั้นเร็วๆจัง อยากหัยเทอมาพรุ่งนี้เลยด้วยซํ้า แถมไอ้เจ้าเอกชัยพอได้เริ่มคุยกับน้องกรีนแล้วดันถูกคอกันสะนี่ ผมไม่ได้หึงมันหรอกน่ะ แต่แค่หมั้นใส้ แหม๋ทำท่าทางสนิทกันมากกว่าผมซึ่งเป็นเพื่อนมันมาตั้งหลายปี มีการสั่งของฝากนู้นนี่อีก ไอ้นี่จริงๆเลย ทีตอนแรกละก้อหาว่าเทอจะมาหลอกผม ตอนนี้กลับกลายเป็นมันนั้นหละ ที่เป็นไปหลอกหัยเทอซื้อของฝากมาหัย จริงๆเลยเอกชัย ติ๊งต๊อง ติ๊งต๊อง! เสียงกริ๊งที่ประตูบ้านผมดังติดกันสองที ผมจึงรีบลุกไปดูโดยที่เปิด คอมและ ออนตัวเปิดกล้องไว้ในห้อง เพื่อยอดยาหยีผมเทอจะเข้ามา ตอนนี้ชักประมาณสี่ทุ่มได้เวลาอย่างนี้คงไม่มีคัยมาหรอก ถ้าเดาไม่ผิดเจ้าเอกมันคงลืมกุญแจบ้านอีกตามเคย....

แต่คนที่ยืนอยู่น่าประตูกลับไม่ไช่เอกชัยอย่างที่ผมคิดไว้ สามปีกว่าแล้วสิน่ะ ที่ผมเจอเทอครั้งสุดท้าย คนที่ผอมยอมทุ่มหมดใจหัย เราจากกันเมื่อสามปีก่อนและผมเอง ก้อไม่เคยคิดว่าจะได้เจอเทออีก โดยเฉพาะลักษณะนี้ ผู้หญิงที่ผมคิดว่ารักเทอหมดหัวใจ ยอมทุ่มทุกอย่างเพื่อเทอตลอดสี่ปีที่เราคบกัน แต่ทุกอย่างที่ผมทำกับไม่ได้ช่วยหัยเทอซื่อสัตย์กับผม ช่วงสองปีก่อนที่เราคบกันและเป็นช่วงเดียวกับที่ผมนั้นยุ่งกับโปรเจ็คที่มหาลัยเพราะใกล้จะจบ ทำหัยช่วงนั้นผมมีเวลาหัยเทอไม่มาก และนั้นก้อทำหัยเทอลืมคำว่าซื่อสัตย์ที่เทอเคยมีต่อผมไปสะหมดสิ้น มารู้ตัวอีกทีเทอก้อแอบคบคนอื่นสะแล้ว โดยที่คนอื่นที่ว่าก้อไม่ไช่ใครที่ไหน เพื่อนที่ผมสนิทและไว้วางใจมากที่สุด แต่สิ่งที่ทำหัยผมรู้สึกแย่นั้นก้อคือ ทุกคนที่อยู่รอบตัวผมรู้เรื่องหมด แต่ไม่มีแม้แต่คนเดียว ที่จะเอ่ยปากกกล่าวบอกผมสักคน ปล่อยผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นลาโง่ๆอยู่ตั้งนานที่ปล่อยหัยผู้หญิงคนนี้หลอกเอา..... ไอ้เจ้าเอกชัยเพื่อนตัวดีของผม พอผมรู้เรื่องทั้งหมดมันก้อหัยเหตุผลที่ว่า กลัวว่าผมจะทำใจไม่ได้ แล้วเสียผู้เสียคนไป ผมหัยเหตุผลแค่ว่า ถ้ามาพูดกันดีๆ ผมอาจจะยินดีด้วยซํ้าไปที่คนที่รู้สึกดีๆด้วยทั้งสองคนจะมีความสุข แต่ไม่ไช่แบบนี้ แบบที่ผมต้องรู้เอง แบบที่ผมต้องมารู้เป็นคนสุดท้าย มันไม่ใช่สิ่งที่คนๆหนึ่งจะยิ้มและยินดีปรีดาด้วยอย่างไม่รู้สึกอะไร. นึกถึงสมัยแรกๆที่ผมเจอเทอ เทอ ชื่อ อินทิรา บริรักษ์สุภวรรณ์ เป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของโรงแรมยักษ์ใหญ่ใน กรุงเทพมหานคร ของเรานี่เอง ซึ่งช่วงหนึ่งตอนผมเรียนอยู่ที่มหาลัยได้มีโอกาสไปฝึกงาน และได้พบเทอที่นั้น อินทิราในตอนนั้นเป็นผู้หญิงที่สดใสน่ารัก อ่อนหวาน และมีความจริงใจหัยกับทุกคน ผิดกับตอนนี้ที่เทอดูจะเปรี้ยว ทันสมัย และดูจะวางอำนาจ เอาแต่ใจตัวเองในบางครั้ง หลังจากที่ความจริงเรื่องเทอกับเพื่อนผมคนนั้น ผมก้อได้ตัดขาดความสัมพันธ์ของผมกับเทอลง พร้อมด้วยเหตุผลสั้นๆว่า เราเข้ากันไม่ได้ เทอในตอนนั้นดูเหมือนจะไม่แคร์กับคำพูดของผมสักเท่าไหร่ เทอยักไหล่ แล้วตอบแค่ว่า แล้วแต่สิค่ะ พร้อมทั้งเดินจากไป ส่วนตัวผมก้อออกมาตามทางที่ผมเลือกเช่นกัน แล้วผมก้อไม่ได้เจอเทออีกเลยตั้งแต่วันนั้น ได้ข่าวว่าเทอเดินทางไปศึกษาต่อที่อเมริกาเมื่อสองปีก่อน และได้มาเจออีกทีก้อวันนี้ละ ที่บ้านของผมเองอัศจรรย์ใจจริงๆ หรือจะพูดอีกอย่างคือ แย่จริงๆที่ดันโผล่มาตอนนี้ ตอนที่ผมไม่มีความรู้สึกใดๆหัยเทอแล้ว ผมทำน่าเป็นประโยคคำถามอยู่นานจนเทอรำคาญ
“นี่ พี่จะไม่เชิญเค้าเข้าบ้านจริงๆหรอเนี่ย?” ว่าแล้วเทอก้อดันผมจากทางแล้วเดินผ่านผมเข้าไปในบ้าน โดยที่ตัวผมเองยังไม่ได้เอ่ยปากใดๆทั้งสิ้น ผมจึงรีบเดินตามเทอเช้าไปในบ้าน เห็นเทอนั่งท่าสบาย อยู่บนโซฟาที่ผมนั่งอยู่เมื่อสักครู่นี้



Create Date : 05 มกราคม 2552
Last Update : 5 มกราคม 2552 5:54:30 น. 0 comments
Counter : 246 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มดจัง87
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขอขอบคุนเพื่อนๆทุกคน
ที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยี่ยนน่ะค่ะ
Friends' blogs
[Add มดจัง87's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.