Beauty ♥ Review MAC Semi Precious Rose Quart สวัสดีค่าสาวๆ วันนี้อัพเดทถี่อีกแล้ว วันนี้วันว่างของนิ เลยอยากจะทำรีวิวตัวที่คั่งค้างให้เสร็จเท่าที่จะทำได้ค่ะ ตัวนี้เป็นไอเท็มใหม่จาก MAC ซึ่งนิกรี๊ดมากๆ จริงๆมีหลายตัวที่สวยมากเช่นกัน แต่ต้องตัดใจและพยายามเลือกตัวที่จะได้ใช้งานมากที่สุดค่ะ รีวิวอันนี้เป็น Customer Review นะคะ MAC Mineralize Skinfinish Pousre De Finition Semi Precious Rose Quart แกะออกมาน้ำตาจะไหล สวยม๊ากกกกกกกกกก!!!! ตรงกลางเหมือนไอศครีมแพ๊ดเดิลป๊อบเลยค่ะ ซูมกันชัดๆ ยิ่งนำลายสอ สีจะแบ่งออกเป็นสองส่วนค่ะ ส่วนที่นิบอกว่าคล้ายแพ๊ดเดิ้ลป๊อบนี่ จะเป็นในส่วนของไฮไลท์ และตรงส่วนของสีชมพูจะให้เอฟเฟ็คกับผิวแบบอมชมพูดูสุขภาพดีค่ะ ปาดออกมาแล้วช๊อคมาก ชิมเมอร์สวยม๊ากๆๆๆ โอ้ยๆๆๆๆ ซ้ายสุดเป็นสีชมพูอย่างเดียว ตรงกลางคือส่วนของชิมเมอร์อย่างเดียว และขวาสุดคือปาดผสมกันค่ะ จะเห็นว่าสีโทนชมพูมีอมพีชนิดๆ พิกเม้นจะไม่จัดจ้านมาก เพราะเป็นไฮไลท์กับใบหน้า แต่ก็สามารถใช้เป็นบลัชออนได้ด้วย ซึ่งตัวนิเองก็ใช้เป็นบลัชออกค่ะ ปัดช่วงแก้มแบบเน้นๆให้เห็นชัดเจน ละปัดเบาๆช่วงสันจมูก โหนกคิ้ว โหนกแก้ม หน้าผากและคาง ทำให้ผิวดูชมพูระเรื่อๆแบบสุขภาพดี นิชอบไอเท็มที่เป็นในส่วนของพิกเม้นท์ต่างๆจากแม็คมากๆ เพราะคุณภาพเค้าสุดยอดจริงๆ และสีสันที่ทำออกมาทำให้นิทึ่งได้แทบจะทุกครั้งเลย ปลื้มสุดๆค่ะ ให้  10/10 เลย แม้จะแพงไปหน่อยแต่ต้องยอมรับจริงๆว่าคุณภาพเค้าเจ๋งสุดๆ และใช้ได้นานจริงจังคอนเฟิมเลยค่ะ เพราะตัวเก่าที่นิซื้อมาลายพิมพ์ยับยังไม่หายไปไหนเลยอ่ะ คิดว่าอนาคตต้องเสียทรัพย์ให้ MAC อีกหลายตัวแน่ๆค่ะ ขอบคุณที่ติดตามค่า  ^^   Create Date : 13 กรกฎาคม 2554     Last Update : 13 กรกฎาคม 2554 14:12:20 น. Counter : 5529 Pageviews.   5 comment Share Tweet

Beauty ♥ Event Maybelline NY HyperSharp Liner สวัสดีค่าสาวๆ วันนี้นิจะมาเล่าถึงอีกหนึ่งประสบการณ์ ที่ได้ไปร่วมงานกับทาง Maybelline NY ในส่วนของ Product ใหม่ที่วางจำหน่ายไปแ้ล้ว อย่างตัว Hyper Sharp Liner นะคะ งานนี้ค่อนข้างหรูหราทีเดียว เพราะธีมของงานจะเป็นในแนว Back Stage ของ Runway ระดับโลก เป็นการจำลองภาพเบื้องหลังแฟชั่นโชว์ค่ะ ว่าเบื้องหลังเค้าำทำงานกันแบบไหนยังไง ซึ่งเบื้องหลังก็จะมีในส่วนของการทำงานต่างๆของเมคอัพอาร์ทิส ซึ่งจากภาพจะเห็นว่ากระเป๋าเครื่องสำอางใหญ่มาก และมีกระดาษที่วาดภาพตัวอย่างเมคอัพอยู่ หรือที่เค้าเรียกว่า Face Chart ทำหน้าทีทดลองเทสสีสัน และการเมคอัพต่างๆก่อนลงหน้าจริงๆของนางแบบค่ะ งานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากคุณพลอย ซึ่งเป็นเจ้าแม่แฟชั่นมาเล่าถึงประสบการณ์ต่างๆ ทั้งในเรื่องสไตล์และการแต่งหน้าเฉพาะตัวค่ะ และได้รับเกียรติจากคุณมาริสา ในส่วนของประสบการณ์ด้านแฟชั่นต่างๆ แถมยังได้รับการสนับสนุนกิจกรรมด้านเสื้อผ้าและ Accessary ต่างๆในงานด้วยค่ะ หลังจากได้ฟังประสบการณ์ของทั้งสองสาวแล้ว ทุกคนก็จะได้ลองประสบการณ์จำลอง ของการทำงาน Back Stage บน Runway ค่ะ คือทุกคนจะไ้ด้ Face Shart มาคนละ 1 แผ่น แล้วทำการออกแบบจริงๆ และแต่งจริงเพื่อไปเดินแฟชั่นโชว์ ซึ่งนิได้จับคู่กับพี่หมอกิ๊ฟคนสวย ทำการเลือกเสื้อผ้าเพื่อให้เหมาะกับลุ๊คที่เราแต่งค่ะ อยู่ในช่วงของการแต่งหน้าให้เหมือนดีไซน์บน Face Chart ที่เราออกแบบค่ะ หลังจากนั้นก็ได้มาเดินบนรันเวย์เพื่อโชว์ดีไซน์การเมคอัพ และเสื้อผ้าที่แมทช์กับสไตล์ของเมคอัพค่ะ ขอบอกว่าเขินม๊ากกกกก เพราะแต่ละคนจัดเต็มกันสุดๆ อย่างกับนางแบบมืออาชีพกันเลยทีเดียว ดีไซน์ของนิเป็นดีไซน์ง่ายๆค่ะ เป็นการเขียนเส้นไลน์เนอร์สองชั้น เพื่อเพิ่มชั้นให้ดวงตา เพราะนิเป็นคนตาชั้นเดียวค่ะ สำหรับ Maybelline HyperSharp Liner นิเคยทำรีวิวไว้แล้ว ลองคลิกที่ภาพเพื่อไปชมรีวิวได้เลยค่ะ Credit ภาพ : จากเฟซบุ๊คของ Maybelline NY Thailand ค่ะ สุดท้ายนี้ขอบคุณทีมงาน Maybelline NY มากๆสำหรับกิจกรรมสนุกๆนะคะ แต่ครั้งหน้าอย่าจัดให้เดินแบบอีกเลยน้าา เขิลลลลล >////< ขอบคุณสาวๆที่ติดตามค่ะ ^^     Create Date : 13 กรกฎาคม 2554     Last Update : 13 กรกฎาคม 2554 11:09:05 น. Counter : 2503 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Beauty ♥ Review Etude House Aloha V-line Slim Maker #01 สวัสดีค่าสาวๆ วันนี้มีไอเท็มใหม่มารีิวิวให้ชมกันอีกแล้ว ตัวนี้ก็เป็นในส่วนของสปอนเซอร์รีวิวอีกแล้วนะคะ มาดูกันเลย Etude House Aloha V-line Slim Maker สีที่จะรีวิวคือเบอร์ 01 Sun Gold/Wood Brown ค่ะ เซทนี้มีแปรงแถมมาให้ด้วยค่ะ นิชอบดีไซน์ตัวตลับมากเลย เป็นคอลเล็คชั่นอโลฮ่าที่ดูแล้วให้ฟิลลิ่งทะเล๊ทะเลจริงๆ สดใสมากๆ มาดูที่แปรงกันก่อน นิต้องขอบอกก่อนว่านิค่อนข้างชอบแปรงของอีทูดี้นะคะ เมื่อก่อนนิเคยได้เซทแปรงที่แถมมาเป็นเซทเล็กๆของอีทูดี้นี่ล่ะ แล้วประทับใจทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่ เพราะขนแปรงเค้านิ่มมากๆ ไม่บาดหน้าเลย ซึ่งตัวนี้ก็เช่นกันค่ะ ความแน่นของแปรงจะระดับกลางๆไม่ได้แน่นมาก แต่ขนแปรงนิ่มไม่บาดผิวค่ะ เปิดมาดูข้างในก็กรี๊ดมากๆเลยค่ะ พิมพ์ลายออกมาได้สวยสมใจมากๆ จะมีสองสีในตลับเดียวคือในส่วนของบลอนเซอร์ที่เอามาทำเฉดดิ้ง และตัวไฮไลท์ค่ะ สว๊อทช์สีออกมา ซ้ายเป็นสี Sun Gold และขวาคือ Wood Brown ค่ะ ตัว Sun Gold จะเห็นว่าเข้ากับผิวนิสุดๆ คือทาแล้วกลืนกันไปเลย มองเห็นความวิ๊งของชิมเมอร์ระเรื่อๆ ซึ่งตรงนี้นิชอบมากๆค่ะ เพราะทาไปแล้วดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติสุดๆ ส่วน Wood Brown ก็ออกมาดูเป็นธรรมชาติ แต่ตินิดนุึงคือสีมันค่อนข้างอ่อนมากๆ อาจเพราะคอนเซปของ V-line ตัวนี้คือพยายามทำให้กลืนกับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ แต่นิอยากให้มันออกมาชัดอีกนิดนึงเพราะสีมันอ่อนไป ทำให้นิต้องปัดหลายรอบมากๆ หลังจากใช้ Etude House Aloha V-line Slim Maker ค่ะ จะเห็นความใบหน้าดูมีมิติแต่เป็นธรรมชาติ ชิมเมอร์จะดูฉ่ำๆวาวๆ แต่ไม่มัน สรุปให้ 8/10 ตัดตรงที่บอกว่าสี Wood Brown ค่อนข้างอ่อนเกินไปหน่อย ทำให้เสียเวลาที่จะต้องปาดๆหลายรอบ และนิไม่ค่อยชอบเครื่องสำอางที่ทำลายมาสวยๆเลยอ่ะ ทำให้นิไม่กล้าปาด กลัวลายมันหายอ่ะค่ะ แฮ่ๆ จบการรีวิวค่า ขอบคุณพี่ตั๊ก ณ Etude House มากๆสำหรับสินค้าที่ให้มาลอง ขอบคุณสาวๆที่ติดตามนะคะ ^^     Create Date : 13 กรกฎาคม 2554     Last Update : 13 กรกฎาคม 2554 10:40:37 น. Counter : 7578 Pageviews.   4 comment Share Tweet

Beauty ♥ Review Etude House AlohaGlittering Sherbet Eyes #01 สวัสดีค่าสาวๆทุกท่าน วันนี้นิมีไอเท็มใหม่ที่ปลื้มอีกแล้วมารีวิวให้ชมกันค่ะ ตัวนี้เป็นคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจาก Etude House ที่ได้มาลองอีกเช่นกัน เป็นในส่วนของสปอนเซอร์รีวิวนะคะ ETUDE HOUSE Glittering Sherbet Eyes สีที่นิได้มาคือสี 01 Pearl Luster ค่ะ แพ๊คเกจทำออกมาไม่หวือหวาแต่นิค่อนข้างชอบค่ะ คือแพ๊คเกจแบบนี้มันเบาและพกพาง่าย วัสดุทำจากพลาสติกแข็งทั้งหมดเลย ตัวฝาจะเป็นเนื้อทึบ แต่ตัวขวดจะเป็นแบบใส ทำให้เห็นเนื้อผลิตภัณฑ์ชัดเจน แปรงที่ทาจะเป็นขนๆคล้ายๆแปรงของทินท์อะำไรแบบนี้ค่ะ หัวแปรงก็ไซส์ปกติกับที่เห็นทั่วๆไป สีที่ออกมาจะเป็นโทนน้ำตาลอ่อนๆปนชมพูนิดๆ ชิมเมอร์ละเอียดมากแบบเนื้อมุกเลยค่ะ ซึ่งทางแบรนด์บอกคำโปรยไว้ว่าตัวนี้จะเน้นให้ดวงตาดูระยิบระยับแม้จะอยู่ในแสงจันทร์ และทำให้ดวงตาดูเหมือนมีความชุ่มฉ่ำเคลือบอยู่ตลอดเวลา ลองเกลี่ยดูแล้วเนื้อจะเบาๆไม่ให้ความรู้สึกหนักผิวค่ะ ไม่หนืดและไม่เหลวจนเกินไป กลางๆกำลังพอดี เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ สี Pearl Luster จะเป็นโทนสีที่ใกล้กับสีผิวนิมากๆ ทำให้มองเห็นไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่สังเกตุความเป็นประกายเวลาแสงที่กระทบ ให้ความรู้สึกฉ่ำวาวสวยมากค่ะ พอลองแต่งหน้าโดยการลงอายชาโดว์ทับ ก็ยังคงเห็นว่าดวงตานิยังมีความฉ่ำเคลือบอยู่ ปลื้มตรงนี้ล่ะ เพราะต่อจากนี้ถ้าหากอยากได้ลุ๊คฉ่ำวาว นิก็สามารถใช้ตัวนี้ลงเป็นเบสให้กับเปลือกตาได้เลย และสิ่งที่ชอบอีกอย่างคือมันไม่เป็นคราบเลย พอแห้งแล้วไม่แตกระแหงออกจากกันด้วย มันจะมีอีกถ้าจำไม่ผิด อีก 2 เฉดที่จะออกทองกว่า และน้ำตาลกว่า ซึ่งสวยมากเช่นกันค่ะ คิดว่าคงได้เสียตังค์อีกแน่ๆเลย สรุปให้คะแนน 9/10 คือนิชอบมากจริงๆสำหรับตัวนี้ นิไม่แน่ใจว่ามีแบรนด์อื่นๆที่ใช้ีดีกว่าหรือเปล่า แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าตัวนี้โอเคแล้วสำหรับนิค่ะ ตินิดนึงตรงขวดเล็กไปนิดนึง คือมันอาจจะใช้ได้นานจริงๆเพราะใช้ทีละน้อย แต่ถ้ามีไซส์ใหญ่กว่านี้อีกหน่อยน่าจะดีค่ะ จบการรีวิวค่า ขอบคุณที่ติดตามนะคะ   Create Date : 06 กรกฎาคม 2554     Last Update : 6 กรกฎาคม 2554 0:27:24 น. Counter : 4082 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Beauty ♥ Review Etude House Matte Nail New Collection and Crack สวัสดีค่าสาวๆ วันนี้มีไอเท็มใหม่มาเสนอค่ะ เป็นในส่วนของยาทาเล็บจาก Etude House ค่ะ รีวิวนี้เป็นในส่วนของสปอนเซอร์รีวิวนะคะ สีที่ออกมาใหม่เป็นเบอร์ 6-11 ค่ะ แต่นิได้มาลองแค่สามสีเท่านั้น แต่เจ่มทุกตัวนะขอบอก อิอิ   เครดิต :  น้องเช่ Porsche ถ่ายภาพค่ะ และได้ในส่วนของ Crack หรือสีทาเล็บแบบแตกมาด้วย มาดูกันทีละตัวเลยดีกว่าค่ะ เริ่มกันที่เบอร์  7 เป็นสีเหลืองแบบพาสเทล สีนี้เจิดมากๆ นิแนะนำมากค่ะ เปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ กำลังน่ารักเลยล่ะ สีที่ 2 ที่นิมีคือสีฟ้า เบอร์ 9 ค่ะ เป็นฟ้าแบบ Baby Blue น่ารักๆ โทนพาสเทลอีกเหมือนกัน ส่วนสีที่สามที่นิมีคือเบอร์ 10 เป็นโทนชมพูนมๆหวานๆ พาสเทลอีกเช่นกันค่ะ สำหรับคอลเลคชั่นนี้อีกสามสีที่เหลือจะเป็นโทนฟ้าอมเขียว พีช และม่วง ซึ่งแน่นอนเป็นโทนพาสเทลทั้งหมดค่ะ สวยทุกสีเลย ให้คะแนน 8/10 สิ่งที่มาคู่กับสีทาเล็บแบบแมทคือความแห้งไว ซึ่งพอมันแห้งไว เนื้อสีจะข้นมาก ทำให้ทายาก และดูหนามากค่ะ ต้องทาไปแล้วปิดฝาขวดไปด้วย ไม่งั้นแป๊บเดียวสีจะข้น ทาออกมาแล้วไม่สวยค่ะ แต่ข้อเสียนี้เป็นกับทุกยี่ห้อที่ออกแมทคอลเลคชั่นเลยล่ะ และข้อเสียอีกอย่างของแมทคอลเลคชั่นคือ ขึ้นเงาง่ายมากๆ บางครั้งไม่ถึงวันก็เงาซะแล้ว คือแมทสวยจริง แต่แป๊บเดียวก็หมดความแมทซะแล้วค่ะ สำหรับ Crack ที่นิได้มาคือสีดำค่ะ จริงๆมีอีกสีคือสีน้ำเงิน จี๊ดมากๆ  ส่วนสีดำเป็นสีเบสิคที่ทาได้กับทุกๆสี วิธีใช้สำหรับสาวๆที่ไม่ทราบ คือเราต้องทาสีพื้น ซึ่งก็คือสีทาเล็บปกติของเรานี่ละ ปล่อยให้แห้งก่อน แล้วค่อยทาสี crack ทับลงไปเพียงชั้นเดียวพอ อย่าทาทับซ้ำๆนะคะ เพราะจะทำให้สีมันไม่แตกลาย แค่นี้เราก็จะได้เล็บเก๋ๆไม่เหมือนใครแล้ว ให้ 9/10 มันคือความน่าประหลาดใจมากๆที่สามารถแตกลายออกมาได้ การแตกของลายออกมาสวยมาก แต่เนื้อก็แอบข้นเช่นกันค่ะ เพราะเนื้อของสี crack จะคล้ายๆกับแมทคอลเลคชั่นเลยค่ะ คือแห้งไวมาก เลยทำให้ข้นง่าย ต้องรีบๆทาเช่นกัน แต่ให้อภัยได้มากกว่าเพราะมันแตกออกมาสวยค่ะ ชอบ สำหรับวันนี้จะมารีวิวเท่านี้ก่อนนะคะ ครั้งหน้านิมีคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจาก Etude House มาให้ดู รอติดตามค่า ขอบคุณค่ะ   Create Date : 29 มิถุนายน 2554     Last Update : 29 มิถุนายน 2554 17:25:28 น. Counter : 3305 Pageviews.   4 comment Share Tweet

• purrhouse
• Webmaster - BlogGang

• N i c H a * Hi5
• N i c H a * Jeban
• N i c H a * TheWos
• N i c H a * Exteen
• N i c H a * Multiply
• N i c H a * Twitter
• BlogGang.com