beauty  Review Malissa K.I.S.S White Me Up Sleeping Pack

 สวัสดีจ้าสาวๆทุกคน
สำหรับวันนี้นิหยิบเอาผลิตภัณฑ์อีกชิ้นในเรื่องของการบำรุงผิวมารีวิวให้ชมกันค่ะ
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่ายๆเพียงขั้นตอนเดียว
ที่จะช่วยให้ผิวเราดูกระจ่างใสขึ้นค่ะ 







Malissa K.I.S.S White Me Up Sleeping Pack

ยุคนี้เป็นยุคแห่ง Sleeping Pack จริงๆค่ะ ไม่ว่าใครก็ต้องมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ออกมา
เพราะมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องหลายขั้นตอน
ให้การบำรุงที่เข้มข้นแบบที่เรียกว่าเหมือนใช้มาส์คแต่เรามาส์คแล้วนอนไปได้เลย









สำหรับชิ้นนี้ของ Malissa K.I.S.S เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงผิวล้ำลึก
ช่วยเรื่องทำให้ผิวดูกระจ่างใส ลดริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆ ช่วยในเรื่องรูขุมขนให้กระชับ
สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว มีสารสกัดจาก 
Pueraria Mirifica Extract ที่จะช่วยให้ผิวเรียบเนียน ขาวกระจ่างใส 
Madonna Lily Leaf Cell Extract ช่วยลดฝ้ากระ จุดด่างดำ
ยับยั่งเมลานิน และต้านอนุมูลอิสระ
Malt Berley ป้องกันการเสื่อมของสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย
Aloe Vera Extract ปลอบประโลมผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น
Red Algae Extract ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายด้วยแสงแดด
Comfrey Extract กักเก็บความชุ่มชื้น ฟื้นฟูเซลล์ผืวที่เสื่อมสภาพและลดริ้วรอย








มาดูที่แพ็คเกจจิ้งกันบ้าง ขอบอกก่อนว่าส่วนตัวนิเป็นคนชอบดูเรื่องแพ็คเกจจิ้งมาก
เพราะมันเป็นอีกส่วนที่ทำให้เราเห็นว่าเค้าใส่ใจในผลิตภัณฑ์มากแค่ไหน 
เหมาะสมพอมั้ย โดยเฉพาะเรื่องของความสะอาด
สำหรับแพ็คเกจจิ้งของ Malissa K.I.S.S ชิ้นนี้ นิเลิฟค่ะ
เป็นกระปุกแบบสูญญากาศ คือเป็นหัวปั๊มที่เราต้องกดเพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์ออกมา
นั่นแปลว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ยังสดใหม่ ไม่ได้สัมผัสกับอากาศภายนอกมาก่อน
ใช้งานง่าย สะดวกสบาย กะปริมาณต่อการใช้ได้สะดวกค่ะ









มาดูในส่วนของเนื้อผลิตภัณฑ์กันบ้าง 
สำหรับเนื้อผลิตภัณฑ์นั้นจะเป็นลักษณะเจลหยุ่นๆสีขาวขุ่นนิดๆ
ดูสะอาดสะอ้านน่าใช้ เนื้อมีความชุ่มแต่เมื่อทาบนผิวแล้วไม่เหนอะหนะ สบายผิวดีค่ะ
กลิ่นหอมอ่อนๆทำให้รู้สึกผ่อนคลายดี นิชอบกลิ่นเค้าหอมกำลังดีค่ะ









วิธีใช้ของนิจะใช้หลังจากลงเซรั่มเข้มข้นไปที่ผิวแล้วค่ะ 
โดยใช้พอกไปที่ผิวหน้า 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ ใช้วันเว้นวันได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันค่ะ
โดยพอกให้หนากว่าที่เราทาครีมปกติ 2-3 เท่า ใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำคอ
หรือบริเวณที่ต้องการการบำรุงเข้มข้นเป็นพิเศษตามต้องการ
ใช้พอกข้ามคืนได้เลย แต่ต้องหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นสิวอักเสบนิดนึงค่ะ

สวนตัวใช้แล้วนิว่ามันทำให้ผิวหยุ่นๆชุ่มชื่นขึ้นเล็กน้อยค่ะ
เนื้อผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้นิค่อนข้างชอบอยู่แล้ว
เวลาทานิจะชอบโบกไปเยอะๆชุ่มๆ ตื่นเช้ามารู้สึผิวนุ่มขึ้นจนสัมผัสได้ค่ะ

ก่อนใช้อยากให้เทสอาการแพ้ก่อนด้วย สำหรับใครที่แพ้ผลิตภัณฑ์บ่อยๆนะคะ
เทสโดยการทาไว้ที่ท้องแขนข้ามคืน หากไม่มีอาการผื่นคันก็สามารถใช้ได้ค่ะ









สำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ Malissa K.I.S.S White Me Up
สามารถหาซื้อได้ง่ายๆที่ Watsons, Tsuruha, Vamilla Market,
EVEANDBOY, //www.shopat7.com และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศจ้า




รีวิวนี้นิทำเพื่อให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และพูดถึงความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ลองผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองค่ะ
ในเรื่องของผลลักธ์เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่หามาตรวัดเป้ะๆยาก
ผลของการใช้ในแต่ละบุคคลไม่เหมือนกันด้วยปัจจัยสภาพผิวเดิม
และการใช้ชีวิตของแต่ละคน เพราะฉะนั้นนิอยากให้ทดลองด้วยตัวเองดีที่สุด
ก่อนจะตัดสินใจก็อยากให้ศึกษาข้อมูลจากหลายๆแหล่งด้วยนะคะ


ขอบคุณที่ติดตามค่ะ 


MINIPANDAZ









 

Create Date : 08 ธันวาคม 2557    
Last Update : 13 มกราคม 2558 7:37:51 น.
Counter : 2671 Pageviews.  

Beauty Preview Citra Pearly White UV และพูดถึงทริปสุดพิเศษกับน้องต่อ Hormones

 สวัสดีจ้า วันนี้นิมาพูดถึงกิจกรรมแสนพิเศษสำหรับแฟนคลับ CITRA กันจ้ะ 
ก่อนหน้านี้มีกิจกรรมพิเศษจากทาง CITRA THAILAND
ให้ร่วมแชะภาพเซลฟี่เก๋ๆกับผลิตภัณฑ์ของซิตร้าเพื่อลุ้นไปร่วมทริป
 "ซิตร้าสาวผิววิ้งค์ 3D สวยฟรุ้งฟริ้งแบบมีออร่า"
กับน้องต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร หรือ ต่อ Hormones นั่นเอง

นิเป็นหนึ่งในบล็อกเกอร์ที่ได้ไปร่วมประสบการณ์พิเศษครั้งนี้ด้วยจ้ะ






สำหรับทริปในครั้งนี้เราไปกันที่ Primo Piazza เขาใหญ่จ้า 
บรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกเหมาะกับทริปครั้งนี้มากๆ








ก่อนจะเริ่มต้นกิจกรรม ทางทีมซิตร้าให้เราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศกันซักครู่ก่อน
อย่างที่ทราบกันว่า Primo Piazza 
เป็นสถานที่ที่จำลองสถาปัตยกรรมของหมู่บ้านโบราณอายุกว่า 500 ปี 
ในแคว้นทัสกานี (Tuscany) ประเทศอิตาลี มาไว้ในวงล้อมของผืนป่าเขาใหญ่ได้อย่างลงตัว
บรรยากาศดีมากๆ เสียนิดที่บ้านเราอากาศค่อนข้างร้อน
แต่ในเรื่องสถานที่นิชอบมาก เลือกได้ดีทีเดียวค่ะ ถ่ายรูปเพลินเชียวละ








พูดถึงเสื้อผ้ากันเล็กน้อย ด้วยความที่ครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่ทาง CITRA จัดขึ้น
เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าธีมกันเล็กน้อย นิเลือกชุดเดรสผ้าชีฟองหวานๆลายดอกไม้สีชมพู
คาดิแกนนิตติ้งสบายๆให้เข้ากับบรรยากาศผ่อนคลายในวันนี้ค่ะ 








หลังจากถ่ายรูปกันจนอิ่มหนำสำราญใจแล้ว
เข้าสู่การรับประทานอาหารกลางวันกัน และเป็นครั้งแรกที่เราได้พบกับน้องต่อจ้ะ
ครั้งนี้มีหนุ่มหล่ออย่าง น๊อต อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล ที่โด่งดังจากเรื่อง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก
มาเป็นพิธีกรให้ด้วย
เพิ่มสีสันและความสนุกสนานให้กับกิจกรรมได้เยอะเลย








กิจกรรมในครั้งนี้เน้นไปที่ไข่มุก แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ Pearly White UV
ย่อมจะต้องมีไข่มุกผสมอยู่แน่นอน 








สำหรับผลิตภัณฑ์เด่นในวันนี้เป็นตัวใหม่ล่าสุดของ CITRA เลยจ้ะ

CITRA Pearly White UV Nutri-Serum
ความเด่นของ Pearly White UV นี้คือคุณค่าของไข่มุกที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสแบบ 3 มิติ
ซึ่งมีผงไข่มุกแท้ผสมอยู่เข้มข้นถึง 10 เท่า จึงไม่เพียงทำให้ผิวสวยใสแบบ 3 มิติ
แต่จะทำให้สีผิวแลดูสม่ำเสมอ สว่างสดใส และให้ผิวที่เปล่งประกายยิ่งขึ้น
แถมยังมีส่วนผสมป้องกันรังสี UVA และ UVB อีกด้วย

และอีกตัวคือ

CITRA Pearly White UV Lotion
สำหรับชิ้นนี้นอกจากคุณค่าของไข่มุกแล้ว ยังมีสารแอนติออกซิแดนท์ในบัวหิมะเพิ่มเข้ามา
ช่วยให้ผิวกระจ่างใสเปล่งประกายเพิ่มขึ้น และเช่นกันค่ะ 
มีในส่วนผสมป้องกันรังสี UVA และ UVB ด้วย







เนื้อของ CITRA Pearly White UV Nutri-Serum
จะเป็นครีมข้นสีขาว มีความเข้มข้นแต่ไม่ทำให้ผิวรู้สึกเหนียวเหนอะหนะค่ะ
กลิ่นหอมฟุ้งมากๆ เชื่อว่าเมื่อทาแล้วจะทำให้เราเป็นผู้หญิงตัวหอมชวนเหลียวมองแน่ๆ 

ขนาด 300ml. ราคา 209.-








CITRA Pearly White UV Lotion
สำหรับชิ้นนี้ก็เนื้อไม่ได้ต่างกันมากค่ะ คือเป็นเนื้อครีมข้นสีขาวขุ่น 
แต่นิว่าชิ้นนี้จะรู้สึกเข้มข้นกว่าเล็กน้อย คือมีความชุ่มมากกว่า แต่ก็เช่นกันว่า
ไม่ได้ทำให้รู้สึกเหนอะหนะรำคาญผิวแต่อย่างใด ระดับความหอมฟุ้งของทั้งสองชิ้นนี้
พอๆกันเลย คือหอมติดผิวมากๆ 

ขนาด 250 ml. ราคา 109.-








ในกิจกรรมครั้งนี้นิได้ร่วมแชร์เคล็ดลับเรื่องการดูแลผิวของนิเองด้วย
โดยน้องน็อตถามถึงเดทแรกว่าเราเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
เอาจริงๆมันไม่ใช่แค่เดทแรกหรอกเนอะที่เราจะดูแลผิวของเรา
เราต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพราะของแบบนี้มันต้องใช้เวลา
ส่วนตัวนิก็จะเน้นเรื่องการทานอาการด้วย เพราะมันต้องดูแลทั้งภายในและภายนอก
โชคดีว่าเป็นคนชอบทานผักผลไม้มากอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยมีปัญหาส่วนนี้ 

ส่วนเรื่องของการดูแลภายนอกคือเน้นในเรื่องของความชุ่มชื่นและกระจ่างใสของผิวเป็นหลัก
คนเราไม่ว่าจะผิวสีไหนก็ตาม แต่ของให้ชุ่มชื่นและกระจ่างใสยังไงก็สวยค่ะ









หลังจากพูดคุยแชร์เคล็ดลับกันเรียบร้อย
เราก็ออกไปเซลฟี่กับน้องต่อกันจ้ะ ได้ร่วมกันให้อาการน้องแกะและอัลปาก้าด้วย
เพลิดเพลินกันไป แม้อากาศจะร้อนแต่ก็สนุกกันมาก
ทั้งน้องต่อและน้องน็อตเป็นกันเองและเอนเตอร์เทนให้บรรยากาศรู้สึกสนุกลืมร้อนกันไปเลย 








ในระหว่างวันมีกิจกรรมเล็กๆด้วย โดยกันแบ่งกันเป็นทีม ทีมละ 3 คน ให้เซลฟี่กับโจทย์ที่ได้
แล้วลงรูปใน Instagram ใครได้ยอดไลค์สูงสุดจะได้รับรางวัลเซอร์ไพร์สไปเลย

และทีมที่ได้รางวัลนอกจากจะได้รางวัลเก๋ๆอย่างจี้ไข่มุกแท้แล้ว 
ยังได้รับรางวัลแบบโรแมนติกสุดๆโดยที่น้องต่อจะเป็นคนสวมให้เองเลย อิจฉาป่ะล่ะะะะ 
พูดเลยว่าเป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพร์สและเอ็กครูซีฟสุดพลัง










ขอซักรูป ฮ่าๆๆ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่น่ารักมากจริงๆค่ะ
น้องต่อและน้องน็อตน่ารักมากๆ เป็นกันเองสุดๆ
ถ่ายรูปคู่ คนเกิดวันเดียวกัน แต่ห่างกันหลายปี ว่าไปก็เจ็บปวดนะเนี่ยะ
คำว่าแก่ พูดเบาๆก็เจ็บ ฉึกฉึก!!! 










สุดท้ายของบล็อกนี้ นิอยากจะขอขอบคุณทาง CITRA THAILAND 
ที่ให้นิได้ร่วมประสบการณ์สุดพิเศษครั้งนี้ด้วยค่ะ 
ไม่ได้กระชุ่มกระชวยแบบนี้นานแล้ว ฮ่าๆๆๆ 
ติดตามกิจกรรมดีๆแบบนี้กันได้ใน 






ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

MINIPANDAZ








 

Create Date : 07 ธันวาคม 2557    
Last Update : 11 ธันวาคม 2557 15:27:40 น.
Counter : 2848 Pageviews.  

Beauty  How To 'BELLA SWAN' Inspired Makeup



 สวัสดีจ้าสาวๆ
วันนี้นินึกครึ้มอกครึ้มใจอีกแล้ว
มาทำฮาวทูให้ชมกันค่ะ
เมื่อวันสองวันก่อนนิดู DRACULA UNTOLD ไป
แล้วนึกขึ้นได้ว่า อูยยยย เคยคิดไว้ว่าอยากทำลุ้ค BELLA SWAN ตอนเป็นแวมไพร์
ค้างเติ่งโปรเจคนี้มาหลายปีทั้งๆที่ตามล่าหาสีลิปสติกที่ถูกใจอยู่นาน
อย่าปล่อยให้นานไปกว่านี้เลย มาเริ่มกันดีกว่า





คงต้องออกตัวก่อนว่าโครงหน้านิกับสาวคริสเตนนั้น มันคนละโลกกัน ฮ่าๆๆ
คือคริสเตนนี่โครงหน้าเค้าชัดเจนแบบฝรั่งเลย
ส่วนเรานั้นเป็นสาวเอเชียหน้าแป้น คงทำให้เหมือนนางเด้ะๆไม่ไหว
นิแต่งลุ๊คนี้ด้วยการประยุกต์ให้เหมาะกับตัวเองด้วยนะคะ
เอาแบบที่สามารถใช้ชีวิตได้ ไม่แปลกประหลาดเกินมนุษย์เนาะ








ก็หมวยนิคะ ไม่ได้ตั้งใจ... เอาล่ะมาเริ่มกันที่ No Makeup ตามประเพณีนิยมค่ะ
เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ยังไม่ใส่คอนแทคเลน์ด้วยเลย
ถ้าเพียวๆแบบมีเฉพาะสกินแคร์ ไร้เมคอัพใดๆจ้ะ








เริ่มต้นที่คิ้วกันก่อนเลย สำหรับเบลล่านั้น คิ้วนางเข้มชัดเจน
นิใช้ดินสอเขียนคิ้วของ Mille Beaute Celeb 3D Eye Brow Waterproof สีน้ำตาลเข้มค่ะ
ไม่ได้เบลนด์หัวคิ้วให้นัวมาก เพราะต้นฉบับเองก็ไม่ได้เบลนด์เช่นกันค่ะ

สำหรับคิ้วสีเข้มๆแบบนี้ สาวคิ้วหนาให้ระวังกันนิดนึงนะคะ
เพราะอาจจะเป็นสาหร่ายแปะคิ้วได้ ไม่งั้นใช้สีที่อ่อนลงจะเซฟกว่าจ้ะ








ลุ๊คในวันนี้เราไม่ได้ต้องการความสดใสค่ะ
แวมไพร์เป็นปีศาจยามราตรีที่บริโภคเลือดมนุษย์เป็นอาหาร
เราคงไม่หวังจะเห็นความสดใสในตัวพวกเค้าอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นสำหรับแก้มนิไม่ได้ปัดนะคะ จะใช้วิธีการเฉดดิ้งให้ดูหน้าตอบๆซะมากกว่า








มาในส่วนของดวงตากันบ้าง
ครั้งนี้นิใช้พาเลท Bare จาก Sigma Beauty จ้ะ ได้มานานแสนนานเพิ่งได้แกะมาลอง
สำหรับสีในครั้งนี้จะเน้นใช้เนื้อแมทท์เป็นหลักค่ะ
ดวงตาของแวมไพร์จะดูซีดๆทึบๆ เพราะฉะนั้นจึ้งไม่เหมาะกับเนื้อชิมเมอร์จ้ะ


1. ดวงตาที่ยังไม่ได้แต่งค่ะ
2. ลงสีน้ำตาลกลาง(ACT)ให้ทั่วเปลือกตา เน้นบริเวณเบ้าตาค่ะ เว้นโหนกคิ้วไว้
3. ใช้สีน้ำตาลเข้ม(HITCH)ขึ้นมาอีกเฉดถึงสองเฉดลงบริเวณขอบตามาจนถึงรอยพับเปลือกตา
เบลนด์ให้ดูกลมกลืนสมู้ทเข้าหาสีแรก
4. ใช้สีน้ำตาลเข้ม(HITCH)ผสมสีดำ(CONTROL)เล็กน้อยแตะบริเวณปลายหางตา
แล้วเบลนด์ให้กลืนกับสองสีแรก สร้างให้เบ้าตาดูลึกขึ้น
5. เขียนอายไลน์เนอร์ให้ชิดแนวขนตาที่สุด เส้นไม่จำเป็นต้องหนามาก
6. แตะสีทอง(COMMAND)บริเวณหัวตาเล็กน้อยให้ดูมีประกายเล็กๆชวนมอง
7. ดัดขนตา แล้วปัดมาสคาร่า หรือจะติดขนตาปลอมที่ดูเป็นธรรมชาติ
8. ลงสีน้ำตาลกลาง(HITCH)บริเวณขอบตาล่างให้ดูฟุ้งกว่าปกติ
จะช่วยให้ดวงตาดูดุและมีรอยคล้ำใต้ตาเล็กๆแบบแวมไพร์
9. ปัดมาคาร่าบริเวณขนตาล่างให้ฟูกลืนกับขนตาบน


เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับการแต่งตาจ้ะ






สำหรับริมฝีปากในวันนี้นิใช้พาเลทนี้ค่ะ MUSTAEV More Than Makeup
เป็นพาเลทลิปที่เห็นแล้วกรี้ดเลย เพราะมีโทนสีที่ตามหาอยู่ สีน้ำตาลๆแบบนี้นี่แหละ
นิตามล่าหาสีลิปสติกที่คล้ายสีปากของเบลล่ามานาน จนมาเจอพาเลทนี้ค่ะ
นิได้มาจากเว็บนี้ค่ะ wishtrend.co.th
เป็นเว็บที่มีเครื่องสำอางของเกาหลีหลายตัวที่น่าสนใจค่ะ









เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยจ้าสำหรับลุ๊ค Bella Swan เปรียบเทียบให้ดูกับต้นฉบับ
หน้าไม่ให้แต่ใจรักอ่ะนะ 5555555
เอาเป็นว่าเอาต้นแบบมาปรับประยุกต์ใช้ให้เข้ากับตัวเองค่ะ





















CAMERA : CANON G1X
CIRCLE LENSES : PONY GOLD
EYELASHES : NESSYCHOICE MM02





หวังว่าสาวๆคงจะชอบลุ๊คนี้กันนะคะ
เป็นลุ๊คที่จริงๆก็ไม่ได้แต่งยากมากนะ แถมของที่ใช้นิเชื่อว่าสาวๆน่าจะมีกันอยู่แล้ว
เพราะมันเป็นโทนสีน้ำตาลธรรมดาเลย ยังไงลองเอาไปปรับใช้กับตัวเองกันดูได้

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

DESIGN BY MINIPANDAZ








 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 9 สิงหาคม 2559 1:55:31 น.
Counter : 6321 Pageviews.  

Beauty Review Phillips Moisture Protect Straightener & Dryer ไดร์และที่หนีบผมที่ทำให้ผมอยู่ทรง มีน้ำหนัก ผมตรงสวยไม่ชี้ฟู



  สวัสดีจ้าสาวๆทุกคน
วันนี้นิหยิบผลิตภัณฑ์สำหรับการทำผทรงผมมารีวิวให้ชมกันค่ะ
เป็นผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Phillips นี่เอง
หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วเนาะ
ตอนนี้ทาง Phillips ออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับเส้นผม
เพื่อปกป้องให้เส้นผมของเรายังคงชุ่มชื่นพริ้วสลวยค่ะ





มาเริ่มที่ตัวแรกกันก่อน Phillips Moisture Protect Hair Dryer HP8280

ไดร์เป่าผมที่มีเทคโนโลยี Moisture Protect Sensor
โดยจับความชื้นบนเส้นผม ขณะที่ผมมีความชื้นไดร์เป่าผมจะใช้อุณหภูมิสูง
เมื่อผมเริ่มแห้ง อุณหภูมิจะลดลงโดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติค่ะ
มี Iconic Hair ที่จะช่วยถนอมเส้นผมให้เงางามไม่ชี้ฟู
มี ThermoProtect ที่จะช่วยควบคุมอุณหภูมิให้ไม่เกิน 57 องศา
ซึ่งจะทำให้ผมไม่แห้งเสีย แต่ยังคงสามารถจัดแต่งทรงผมได้ค่ะ








สามารถปรับระดับความร้อน และความแรงได้ถึง 6 ระดับเลยค่ะ
ตัวนี้ในกล่องจะมีหัวไดร์มาให้ 2 แบบ คือแบบปากเป็ดสำหรับไดร์ธรรมดา
และเป็นฝักบัวสำหรับผมที่ดัดลอนมา กำลังไฟ 2300 วัตต์
ดีไซน์ทำออกมาหรูหราดูดี วัสดุที่ใช้แข็งแรงค่ะ

ราคา 3990.-







กำลังลงแรงดีใช้ได้เลย ไดร์แล้วผมไม่ร้อนจัดเหมือนไดร์ตัวอื่นๆที่เคยใช้มา
อย่างที่บอกค่ะว่ามีเทคโนโลยี Moisture Protect Sensor
เลยทำให้มีการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิอัตโนมัติ ส่งผลให้เส้นผมเราจะไม่โดนความร้อนจัดๆ
ไม่ทำให้ผมเสียดีค่ะ แรงลมดีมาก ใช้เวลาไม่นานผมก็แห้งแล้ว






Phillips Moisture Protect Straightener

ตัวนี้เป็นอีกตัวในกลุ่มของ Moisture Protect ที่นิประทับใจ
อย่างแรกคือตัว Moisture Protect ตัวเครื่องจะมีการวินิจฉัยเส้นผม 30 ครั้ง/วินาที
ทำการวัดอุณหภูมิแต่ละช่วงและจะทำการลดอุณหภูมิอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะสมกับเส้นผมแต่ละส่วน
ซึ่งจะมีความชุ่มชื่นแตกต่างกัน จะช่วยคงความชุ่มชื่นแก่เส้นผม ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย








แผ่นเซรามิคถูกออกแบบมาพิเศษ คือมีความหนาแค่ 1mm.
เพื่อช่วยให้ระบบเซ็นเซอร์ทำงานเต็มที่ค่ะ คือทำให้เซ็นเซอร์สั่งงานฮีทเตอร์
หรือตัวทำความร้อนให้ปรับลดและเพิ่มอุณหภูมิได้อย่างรวดเร็ว
เพราะฮีทเตอร์คุณภาพสูงที่มากับเครื่องสามารถปรับลดอุณหภูมิได้ทันที 15 องศา
สามารถตั้งค่าได้ 3 ระดับคือ 150/175/200 องศา

มีในส่วนของ Iconic Care เช่นกันกับเครื่องเป่าผมเลย ช่วยถนอมเส้นผมให้เงางามไม่ชี้ฟู
และเครื่องจะปิดการใช้งานอัตโนมัติหลังจากไม่ได้ใช้งานนาน 60 นาที
ถือเป็นเซฟตี้ที่ดีอีกชั้นนึงค่ะ เคยมีนะที่นิรีบๆ หนีบผมแล้วรีบออกจากบ้าน
บางครั้งก็มีความกังวลบ่อยๆเหมือนกันว่าปิดเครื่องไปรึยังนะ นิว่าระบบนี้จำเป็นมากจริงๆค่ะ
เพราะความร้อนสามารถทำให้ไฟไหม้ได้เหมือนกันเนาะ ถือว่าเซฟดีค่ะ

สิ่งที่ดีอีกอย่างคือ เครื่องร้อนไวมากค่ะ แค่ 15 วินาทีไม่เกินนี้
แถมยังเป็น Universal Item อีกด้วย คือสามารถใช้งานกับระบบไฟได้ทั่วโลก








นิเป็นคนต้องรีดผมบ่อยเหมือนกันนะ ไม่รีดก็ม้วน
เพราะผมนิไม่ได้ตรงค่ะ เป็นคนผมหยักศกและชี้ฟู
ปกติแล้วถ้านิไม่รีดผมก็จะม้วนผมไปเลย
แต่วันที่ถ่ายรีวิวนี้ นิอยากทดสอบว่าเครื่องจะทำการรีดผมได้ดีแค่ไหน
นิม้วนผมด้วนโรลไฟฟ้าทิ้งไว้ 1 วันค่ะ แล้วมาลองใช้ Phillips ตัวนี้ดูว่าจะรีดผมนิได้มั้ย
เพราะโดยปกติ ผมที่มีเชื้อหยิกๆแบบนิ ถ้าม้วนเป็นเกลียวแล้ว
จะรีดให้ตรงยากมาก มาทดสอบกัน







เทียบกันชัดๆ ข้างที่รีดแล้วและยังไม่ได้รีด บอกเลยว่าเริ่ด!!!
ตัวนี้ราคา 3990.- ค่ะ













จริงๆทุกวันนี้นิแทบไม่ได้ทำผมตรงไปไหนเลยเหมือนกันนะ
เพราะรู้สึกว่าผมตัวเองไม่ค่อยโอเค ไม่เข้ากับหน้าเท่าไหร่
สงสัยต้องเปลี่ยนความคิดกันบ้างแล้ว
ผมตรงก็ได้ลุ้คอีกความรู้สึกนึงไปเลยเหมือนกันเนาะ
นิว่ามันดูสบายๆดีค่ะ ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นก็ชิลๆดี
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าหยิบเดรสเก๋ๆมาใส่ก็ดูเป็นสาวมั่นไปอีกแบบ
ลองทำผมตรงกันดูบ้าง เปลี่ยนลุ้คเนาะ







สำหรับใครที่สนใจลองเข้าไปในเว็บ

www.phillips.com/beauty


สำหรับสภาพเส้นผมของนิที่ค่อนข้างแห้ง ตัวนี้นิว่าตอบโจทย์เลยค่ะ
เพราะนิเป็นคนผมหนา สระผมทีก็ต้องไดร์ ไม่งั้นก็ใช้เวลานานมากๆกว่าผมจะแห้ง
และบวกกับเป็นคนผมไม่ตรงมาก เครื่องหนีบผมก็เลยจำเป็นมากในชีวิต
เรียกได้ว่า 2 ไอเท็มนี้คือนิใช้ประจำ เมื้อต้องใช้ประจำต่อเนื่อง
ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผมก็แห้งเสียเพราะความร้อนพอสมควร
มีเทคโนโลยีนี้แล้วถือว่าเซฟสภาพเส้นผมนิได้เยอะเลยทีเดียว
ใครสนใจก็ลองศึกษารายละเอียดดูก่อนละกันเนาะ


ขอบคุณ Phillips Thailand ที่ให้สินค้ามาทดลองค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม

MINIPANDAZ







 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 9 สิงหาคม 2559 1:45:01 น.
Counter : 6332 Pageviews.  

Beauty  How To 'LEE SUNG KYUNG' Inspired Makeup By MILLE BEAUTE

  สวัสดีสาวๆทุกคนจ้า
วันนี้นิมาทำฮาวทูให้ชมกันอีกแล้วล่ะ
แต่ครั้งนี้มีโจทย์มาจากทางแบรนด์ Mille Merveille Beaute
แบรนด์น้องใหม่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นานจากประเทศเกาหลี
โดยที่ให้สปอนเซอร์เครื่องสำอางนิมา 1 เซ็ท แล้วครีเอทลุ้คกันค่ะ

จริงๆตอนแรกก็ว่าจะทำเป็น Everyday Look ให้ชมกันนะ
แต่นิว่าถ้ามีต้นแบบให้แต่งตามนิดนึงน่าจะสนุกกว่า
เลยเลือกสาวคนนี้มาจ้ะ





แม่นางมีชื่อว่า LEE SUNG KYUNG เป็นนางแบบของเกาหลี
เห็นหน้าใสๆดีคิดว่าเหมาะกับผลิตภัณฑ์ เลยนำมาเป็นแบบในครั้งนี้จ้ะ






สำหรับแบรนด์ Mille Merveille Beaute
เป็นเครื่องสำอางแบรนด์ชั้นนำจากประเทศเกาหลีที่ได้รับแรงบรรดาลใจ
จากการรังสรรค์ความงดงาม แนวคิดหลักคือความงดงามของหญิงสาวเป็นสิ่งละเอียดอ่อน
บอบบาง ควรค่าแก่การทะนุถนอมให้นานตราบนาน เปรียบเสมือน "กุหลาบ"

นั่นจึงเป็นที่มาของทั้งแพ็คเกจจิ้ง กลิ่น และส่วนผสมที่จะมีกุหลาบเป็นตัวสำคัญค่ะ
ดูละมุนละไม และอ่อนหวานน่าทะนุถนอม









ไม่พูดอะไรมากแล้ว มาเริ่มแต่งหน้ากันเลยดีกว่า
ขั้นแรกก็มาดูใบหน้าก่อนแต่งกันก่อนนะคะ
สำหรับลุ้คนี้นะจะไม่เน้นความเปลี่ยนแปลงอะไรมาก
แต่จะเน้นไปที่ผิวที่ดูสุขภาพดี แต่งบางๆตามแบบต้นฉบับค่ะ
เน้นการเผยผิวมากกว่า และการแต่งบางๆทำให้ดูเป็นสาวแรกรุ่น สวยหวานสดใส








ขั้นแรกเริ่มที่ Mille Beaute Whitening Rose Baby Green Base SPF30 PA++

ตัวนี้จะเป็นเบสเขียวเพื่อปรับสีผิวที่เป็นรอยแดงจากสิวของนิให้ดูจางลงค่ะ
เนื้อจะเป็นแบบครีมไม่เหนียวข้น ทาลงบนผิวแล้วไม่รู้สึกเหนอะหนะ
ระดับการปกปิดไม่เยอะมาก เน้นไปที่การปรับสีผิวที่แดงๆดูซอฟท์ลงได้ดี

ขนาด 30g. ราคา 495.-







ถัดมาลงในส่วนของ Mille Beaute Whitening Rose BB Cream SPF30 PA++

ในส่วนของ BB Cream จะมี 2 สี คือหลอดสีขาวและหลอดสีชมพู
ตัวหลอดขาวจะเป็น Silky Ivory หลอดสีชมพูจะเป็น Glowing Natural
นิเลือกหลอดขาว เพื่อให้ผิวดูละมุนละไม สว่างสดใสค่ะ
เนื้อแบบครีมไม่เหนอะหนะและไม่แห้ง กำลังดีเลย เกลี่ยง่ายค่ะ
ระดับการปกปิดถือว่าทำได้ปานกลางไปจนถึงดี ปกปิดโอเคแต่ยังให้ผิวที่ดูเป็นธรรมชาติค่ะ

ขนาด 30g. ราคา 495.-







ไอเท็มนี้ดีมากๆค่ะ มันคือ Mille Beaute Whitening Rose Powder Pact SPF48 PA++

ตัวนี้นิเคยลงรูปและพูดถึงไปในไอจีแล้ว เป็นแป้งผสมรองพื้น
ที่ให้ระดับการปกปิดที่ดีมากๆค่ะ นิเรียกว่าเป็นแป้งที่ให้ผลลัพธ์แบบ Full HD ฮ่าๆ
เพราะเวลาเกลี่ยลงบนผิวแล้วทำให้ผิวดูนวลเนียนแบบชนิดที่ว่าแทบไม่เห็นรูขุมขนเลย
(แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่สภาพผิวแต่ละคนด้วยนะคะ)
เป็นแป้งอีกตัวที่ใช้แล้วประทับใจค่ะ ทนเหงื่อได้ดี คุมมันโอเค แต่ติดนิดนึง
ตรงสีของแป้งที่จะออกไปทางเข้มกว่าผิวนิไปหน่อย
มี 2 เบอร์ ซึ่งเบอร์ขาวสุดก็ยังดูเข้มกว่าผิวนิเล็กน้อยค่ะ
แต่ก็ยังพอใช้ได้ ไม่ทำให้ดูหมองอะไร

ราคา 595.-







มาในส่วนของคิ้วกันบ้าง
Mille Beaute Dual 3D Eyebrow Waterproof

สำหรับตัวนี้เพิ่งออกมาใหม่ล่าสุดเลยค่ะ เป็นดินสอเขียนคิ้วแบบมี 2 สีในแท่งเดียว
ซึ่งจะทำให้ดูมีมิติมากขึ้น เนื้อของดินสอเขียนคิ้วแบรนด์นี้นิชอบค่ะ
มีเฉดหลายรุ่นให้เลือกใช้กันตามความชอบ

นิเขียนคิ้วตามโครงคิ้วเดิมของตัวเองเลย
แต่จะเน้นความฟุ้งเป็นธรรมชาติ ไม่เน้นเส้นขอบคมชัดค่ะ
คิ้วที่ฟูๆฟุ้งๆจะทำให้หน้าเราดูเด็กลงได้

Price  255.-






ทีนี้มาแต่งตากันดีกว่า
นิประยุกต์เอาดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลอ่อนมาทาตาด้วยค่ะ
เราใช้แค่ 3 อย่างเท่านั้นค่ะ

Mille Beaute Celeb 3D Eyebrow Waterproof ราคา 225.-
Mille Beaute Max Black Gel Liner Waterproof
Mille Beaute Superstar Glittering Gel Liner Waterproof

มาดูขั้นตอนกัน


1. ตาเปลือยๆที่ยังไม่ได้แต่งค่ะ
2. ใช้ Mille Beaute Max Black Gel Liner Waterproof ลงบริเวณขอบตา
มาจนถึงรอบพับเปลือกตา ให้ดูคล้ายกรีดอายไลน์เนอร์เส้นใหญ่ๆค่ะ
3. เกลี่ยให้ดูฟุ้งขึ้นไปที่เบ้าตา
4. นำ Mille Beaute Superstar Glittering Gel Liner Waterproof
มาลงที่บริเวณหัวตาเล็กน้อย
5. เกลี่ยให้ดูฟุ้งเป็นธรรมชาติ จะทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้นค่ะ
6. ลง Mille Beaute Max Black Gel Liner Waterproof ที่บริเวณชิดโคนขนตา
7. เกลี่ยให้ฟุ้งกลมกลืนกับสีน้ำตาลที่ลงไว้ตอนต้น
8. นำ Mille Beaute Max Black Gel Liner Waterproof มาลงบริเวณขอบตาล่าง
9. ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าได้เลยค่ะ สำหรับใครที่อาจจะอยากใช้ขนตาปลอม
สามารถใช้ได้ค่ะ แต่เน้นให้เป็นเส้นขนบางๆจะดูเป็นธรรมชาติค่ะ

เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยสำหรับดวงตาค่ะ








สำหรับพวงแก้มนิใช้โทนสีออกพีชๆลงไปบางๆค่ะ
ไม่เน้นปัดให้เช่นชัดเจน เพราะเราต้องการแค่ให้ดูมีเลือดฝาดนิดๆก็พอ
อาจจะลงชิมเมอร์ดึงให้ใบหน้าดูฉ่ำวาวขึ้นนิดหน่อยก็ได้ค่ะ








สำหรับริมฝีปากนั้นนิเลือกใช้โทนสีออกแดงๆสื่อถึงกุหลาบค่ะ
ใช้นิ้วแตะที่ลิปสติกแล้วมาแตะที่ปากจางๆ
ไม่เน้นความคมชัด หรือแวววาว จะลงให้ดูสีมีสันบนใบหน้าเพิ่มขึ้นเฉยๆค่ะ

เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับลุ้คของ Lee Sung Kyung
โดยเครื่องสำอาง MILLE BEAUTE



















เทียบให้ดูกันชัดๆ คล้ายบ้างมั้ย? ฮ่าๆๆๆ
เอาเป็นว่าลุ้คนี้เน้นที่ความเป็นธรรมชาติเลยค่ะ
เผยผิว เป็นธรรมชาติ ดูอ่อนละมุนเหมือนดอกกุหลาบแรกแย้ม(ว่าไปนั่น)

CAMERA : CANON G1X
CIRCLE LENSES : MIMIBYTONI #LOLI BROWN




ถ้าหากใครสนใจแบรนด์ Mille Beaute สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน
//millebeaute.com
https://www.facebook.com/MilleBeaute




ขอบคุณเครื่องสำอาง Mille Beaute ด้วยค่ะที่ให้นิได้ครีเอทลุ้คมาให้เพื่อนๆได้ชมกัน
หวังว่าฮาวทูนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสาวๆนะคะ
ขอบคุณมากที่ติดตามค่ะ

DESIGN BY MINIPANDAZ







 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2557 14:10:46 น.
Counter : 4705 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  

miNipanda-z
Location :
นครราชสีมา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 236 คน [?]





Twitter




email


Twitter


Instagram






Main Page


Kute Club




Group Blog
  • Blog Arts
  • Blog Arts
  • Blog Update
  • Blog Chill
  • Blog Diary
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add miNipanda-z's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.