Beauty ♥ South Korea with L'oreal White Perfect part.1

สวัสดีค่ะสาวๆทุกคน

ช่วงนี้มาอัพเดทกะถี่นิดนึง

เพราะมีกิจกรรมที่ได้ไปหลายที่มากๆ

และก็ไม่อยากจะคั่งค้างบลอคซํกเท่าไหร่

พักนี้นิเลยดูขยันเป็นพิเศษ ฮ่าๆๆๆ





สำหรับวันนี้จะเล่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ได้ไปเที่ยวประเทศเกาหลีกับทาง L'oreal Paris

ในช่วงวันที่ 27 Nov - 1 Dec, 2010 ค่าาา!!



















นัดกับทางทีมงาน L'oreal ที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา สามทุ่มครึ่ง ณ ช่อง M สายการบิน Air Korean ค่ะ

มีป้าย L'oreal ติดชัดเจนให้สำหรับลูกค้าที่โชคดี และเหล่าบลอคเกอร์

























ออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน KE654 ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง

เครื่องบินโอเคเลยทีเดียว ใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 5 ชั่วโมงค่ะ

























ตอนแรกๆ ก็นั่งดูหนังเพลินเลย ไม่ยอมหลับยอมนอน แต่สุดท้ายก็ต้องนอน

เพราะเมื่อไปถึงก็จะเป็นช่วงเวลาเช้าพอดีของที่เกาหลี ถ้าไม่นอนจะเที่ยวไม่ไหว

เลยต้องบังคับตัวเองให้หลับค่ะ = =

























มื้อแรกเมื่อถึงเกาหลีจ้า เรียกว่า ทัคกาลบี หรือ ไก่ผัดซอสเกาหลีนั่นเอง

กระทะใหญ่มากๆ นั่งโต๊ะละแค่ 3-4 คนเอง สรุปว่า กินกันไม่หมดเลยซักโต๊ะ ฮ่าๆๆ

แอบเสียดายนะเนี่ยะ แต่เยอะจัด กินม่ายหวายยย มื้อแรกซะด้วย = ="































หลังจากนั้นก็เริ่มเที่ยวกันเล้ยยยย!!

สำหรับที่แรกที่เราไปเยือนนั้นก็คือ เกาะนามิ เย่ๆ

ต้องขึ้นเรือข้ามฟากค่ะ เป็นเรือที่ออกแบบมาได้น่ารักมากๆ อย่างกะเรือดำน้ำแหน่ะ อิอิ

























สามสาวดี๊ด๊า สำหรับวันนี้อุณหภูมิประมาณ -7 ถึง -5 โดยประมาณ

มาวันแรกก็เจอหนาวจัดกันเลยทีเดียว ถ่ายรูปกันก็มือแข็งกันไป

แต่เราก็ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อสภาพอากาศนะคะ ^^























อยู่บนเรือก็แชะๆภาพกันสนุกสนาน ทั้งๆที่อากาศเย็นจัด ถอดถุงมือแล้วมือชา

แต่เหล่าสาวๆก็ไม่หวั่นค่ะ นานๆจะมีโอกาสได้มาเที่ยวถึงเกาหลีทั้งที ต้องมีภาพมาเก็บไว้

เป็นความทรงจำเยอะๆหน่อย เนอะๆๆ ภาพนี้น้องจิ๊ปถ่ายให้ค่า ^^





























ถึงเกาะนามิกันแล้วววว บรรยากาศเกาหลี๊ เกาหลี Winter Love Song จริงๆ

อากาศหนาวใช้ได้ เดินไปขาจะแข็งไป ดีหน่อยที่เค้ามีกองไฟให้ตลอดทาง พอไม่ไหวก็เดินเอามือไปผิงไฟ

พอให้คลายหนาวไปได้เยอะเลย ^^"

























เดินไปแปปๆเห็นคนมุงซื้ออะไรกัน

เลยเดินแวะเข้าไปดู เป็นแพนเค้กค่ะ อันละ 1000 Won ประมาณ 30 บาทไทย

หน้าตาคล้ายๆแป้งห่อใส้แล้วเอามาทอด

ใส่จะเป็นถั่วแดงหวานๆ อร่อยดีเหมือนกันแต่หวานมากพอสมควร

กินละอุ่นขึ้น เหมาะกับสภาพอากาศดีจริงๆ อิอิ

























มาถึงเกาะนามิแล้ว ก็ต้องถ่ายคู่เจ้านี่เลยยยย

รูปปั้นของเบ ยอง จุน และ ชอย จี วอน จาก Winter Love Song ค่าาาา

(รูปปั้นเย็นมากกกกก มือชากันเลยทีเดียว)

























วันนี้คนเกาหลีมาเที่ยวพอประมาณค่ะ ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป

แชะภาพคู่กับบรรยากาศในหนังซะหน่อย อิอิ























หลังจากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ ซางซู เฮิร์บแลนด์

หรือศูนย์สมุนไพรของเกาหลีค่ะ

สมุนไพรเยอะมากๆเลย มีน้ำที่ผสมกลิ่นต่างๆของสมุนไพรด้วยละ

อย่างพวก โรสแมรี่ หรือพวกกลิ่นลาเวนเดอร์

ลองชิมแล้วก็หอมแปลกๆดีค่ะ

ในภาพนั่นคือ Mr. Lee Sangsoo ผู้ก่อตั้งศูนย์สมุนไพรแห่งนี้ค่ะ























และสำหรับมื้อเย็นของวันนี้ก็คือเจ้านี่ค่ะ บิบิมบับ หรือข้าวยำเกาหลี

แต่ข้าวยำจานนี้จะพิเศษมากๆเป็นเพราะข้าวยำดอกได้ค่ะ

มาถึงสวนสมุนไพรแล้ว ต้องทางเลยน้า เป็นข้าวยำเพื่อสุขภาพจริงๆค่ะ

ทางเจ้าของศูนย์สมุนไพรนี้บอกว่า เหล่านางงามเกาหลีมักจะมาเก็บตัวกันที่นี่

และทานเจ้าข้าวยำเกาหลีกันค่ะ เพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดี ผิวพรรณผ่องใส ^^

























หลังจากนั้นเราก็มาถึงที่พักซะที เย่!!!

โรงแรม ฮันซอง โฮเตล ค่ะ เป็นโรงแรมที่อยู่ในกลางย่านช๊อปปิ้งของเมือง เจินจู

สภาพห้องดีมากๆ แต่ในภาพเละมากเพราะมาถึงก็เหวี่ยงๆ ฮ่าๆๆๆ

แบบว่าอยากจะไปเดินดูร้านช๊อปทั้งหลายเต็มที อิอิ

ตลอดทริปนี้นิได้นอนกับน้องจิ๊ป jippika นะคะ ^^























หลังจากไปเซอร์เวย์ดูร้านช๊อปปิ้งต่างๆแล้ว ก็แวะที่ร้านสะดวกซื้อค่ะ

ได้เจ้า นมกล้วย ของเด่นของดังของประเทศเกาหลีมาชิม

ที่ประเทศเกาหลีเค้ามีนมกล้วยเพราะ ภูมิประเทศเค้าในสมัยก่อนนั้น ปลูกกล้วยยากมากๆ

กล้วยแต่ละลูกเลยจะแพงสุดๆ ตกลูกละหลายร้อยบาททีเดียว

เค้าเลยอแด็ปโดยการเอานมมาแล้วใส่กลิ่นกล้วยเข้าไปแทน

สรุปเลยกลายเป็นของดังของที่นี่เลย ใครไปเกาหลีต้องไปชมนมกล้วยนะคะ อร่อยมากๆ ^^













จบใน 2 วันแรกด้วยความหมดสภาพ หมดสภาพจากการเดินทาง

และหมดสภาพจากการเจออากาศหนาวจัด

ไว้ครั้งหน้าจะมาเล่าต่อว่าวันถัดๆไปเป็นยังไงบ้างนะคะ บ๊ายบายยย ^^










Beauty ♥ South Korea with L'oreal White Perfect part.2

Beauty ♥ South Korea with L'oreal White Perfect part.3

Beauty ♥ South Korea with L'oreal White Perfect part.4




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2553    
Last Update : 15 ธันวาคม 2553 10:09:30 น.
Counter : 2971 Pageviews.  

Beauty ♥ Juice Beauty & Lola Workshop by COSMEGA part.2

สวัสดีจ้าาาา

หลังจากที่คราวที่แล้วนิอัพบลอคในส่วนของ

Juice Beauty Workshop ณ หัวหินไปแล้ว ยังไม่จบจ้า

ยังมีในส่วนของ Lola ด้วย มาต่อกันเลยดีกว่า















หลังจากเสร็จจาก Juice Beauty Workshop แล้ว

ก็แยกย้ายกันกลับห้องเพื่อเตรียมตัวสำหรับ Workshop ต่อไปของ Lola ค่ะ

ธีมของ Lola คือสีแดง-ดำ และเราจะมีปาร์ตี้ริมหาดกัน

แว่วว่ามีการประกวดชุดแต่งกายด้วย เพราะฉะนั้นหนุ่มสาวเลยแต่งตัวกันสุดริดเพื่องานนี้

แต่งตัวกันก่อน แต่หน้ายังโล้น เพราะเอาไว้ไปแต่งใน Lola Workshop ค่ะ ^^































ดูโต๊ะที่เค้าเตรียมการมาให้ซะ่ก่อน

เยอะแยะมากมาย น่าเล่นทั้งน้านนนเลย อิอิ

โต๊ะนึงจะนั่งกันประมาณ 3 คนค่ะ อุปกรณ์ครบครันสุดๆ

จัดออกมาเป็นแดง-ดำ เข้ากับธีมซึ่งเป็นสีัญลักษณ์ของ Lola เค้าละ





























โต๊ะตรงกลางก็มี Collection ใหม่ของ Lola วางประดับประดาด้วยผ้าและเม็ดลูกปัดสีทอง

สวยงาม หรูหรา อลังค์การรรรรร คือเดินเข้าไปในห้อง Workshop แล้วแบบว่า

แอบแสบตา เพราะสีแดงร้อนแรงที่ตัดกับดำก็แสบตาแล้ว เจอสีทองเข้าไปอีก โอ้วววว ช๊อคมากค่ะ ฮ่าๆๆๆ





























หลังจากหนุ่มสาวมากันครบแล้ว ก็เริ่ม Workshop กันเลย

คืนนี้สวยทุกคนจริงๆค่ะ แม้แต่ BA และทีมงานทุกคนก็แต่งตัวประชันกันสุดชีวิต

คือแบบว่า มองไปทางไหนก็เริดส์อ่ะ >"<

ระหว่าง Workshop นิเกิดอาการเกร็งเล็กน้อย

เพราะนินั่งอยู่โต๊ะเดียวกับพี่โอ๋ oHLa และ ทราย Mhunoiii

ซึ่งเอาจริงๆทั้งห้องนั้นคงมีแค่นิคนเดียวที่อ่อนด๋อยที่สุด ฮ่าๆๆๆ

แต่งหน้ากันเร็วมากๆ แปปๆหันไป ทรายเขียนคิ้วแล้ว พี่โอ๋กรีดอายไลน์เนอร์แล้ว

นิยังคำเบ้าตาอยู่นั่นละ แถมมีทีมงานท่านนึงมานั่งเก้าอี้ตัวข้างๆนิ นั่งมองงง จ้องงงตลอด

อารมณ์ว่าคงอยากดูวิธีการแต่งของเรา แต่พี่ทำหนูเขิล แ่ต่งไม่ออกกกกก >///<

สรุปเสร็จช้ากว่าชาวบ้านตามระเบียบค่ะ

ปล. ไม่มีภาพตอนกำลังแต่งหน้าเลย มัวแต่เกร็งจนลืม = ="



























มาดูเวอร์ชั่นแต่งหน้าเสร็จแล้วกัน

แอบรู้สึกหน้าแปลกๆ สงสัยเพราะขนตา เพราะไม่เคยติดขนตาชนิดหนาขนาดนี้

และไม่ได้เขียนขอบตาล่างเข้มๆมาเสียนาน หน้าเลยดุกว่าเดิม ฮ่าๆๆๆ

แต่ก็แอบชอบนะ รองพท้นเค้าเนียนมากๆ เด้งๆๆๆๆ

และชอบลิปสติกด้วยค่ะ ลิปสติกตอนดูที่แท่งดูท่าทางจะแห้งสุดๆ

แต่พอทาละลื่นปรื๊ดๆเลยนะ แถมสีสวยอีกด้วย เริดส์ๆ ต้องไปสอย แฮ่ๆๆ

























ไปยืนถ่ายกับแผ่นป้ายซะหน่อย อิอิ เค้าจัดฉากของ Workshop ได้เก๋ดีจริงๆค่ะ

คือจะมีพร๊อกเป็นพวกลิปสติก แปรงปักแก้ม ตลับแป้ง อะไรพวกนี้ไว้ให้ถือถ่ายรูปด้วยล่ะ

น่ารักมากๆ มีหลายแบบหลายลาย เหล่าบลอคเกอร์ก็เล่นกันสนุกสนาน ฮ่าๆ



























นั่งดูรูปแล้วก็งงตัวเองว่า ทำไมถ่ายคู่กับทุกคนแค่นี้เอง????

แบบว่าไปกันเยอะมาก แต่ก็ไม่ได้เยอะขนาดจะเก็บให้ครบทุกคนไม่ไหวนะ = ="

เสียใจ ฮือๆๆๆๆๆๆ



























กับทรายขอรูปหย่ายยย นิสนึง ชอบนางวันนี้มาก แต่งออกมาเป็นเซเลปตัวจริงสุดๆ













































รูปหมู่ๆๆ ดูเอาละกันว่า ไม่มีใครยอมใครจริงๆ

สวยหล่อกันทุกคน ฮิ้วววว~*

แถวบน (ซ้ายไปขวา) : พี่ปูเป้ คุณกุ้ง พี่ฟลุ๊ค คุณหมออ้น พี่วา และพี่แจน

แุถวล่าง(ซ้ายไปขวา) : พี่โอ๋ พี่เก๋ น้องติตี้ ทราย(ฟิโอ) นิ ทราย(หมูน้อย) พี่มด พี่นุ่น และ พี่ตูนน์

























เสร็จสิ้น Lola Workshop แล้วทางทีมงานก็จัดเตรียมอาหารเบาๆ(เหรอ?)ให้บรรดาบลอคเกอร์ด้วยค่ะ

เป็นปาร์ตี้ซีฟู๊ดริมหาด จัดซะหรูหราทีเดียวเชียว อาหารอร่อยมาก

มีทั้งแบบเป็นแนวกับข้าว และพวกซี้ฟู๊ดปิ้งๆ ปู กุ้ง ปลา และน้องหมึก

นิซัดปูไปเยอะเหมือนกัน เนื่องจากกำลังเสี้ยนอยากหม่ำ ฮ่าๆๆๆ

มีกิจกรรมเล็กๆ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าจะมีการประกวดชุดกันด้วย

(แต่เกรงว่าจะเป็นประกวดความงามแบบนางสาวไทยมากกว่า)

โดยจะคัดเลือก 5สาว(หรือหนุ่มด้วย) ออกมา โดยมาจากการโหวตของเหล่าบรรดาบลอคเกอร์เองนี่ละค่ะ

และนี่คือโฉมหน้าของ 5 สาวที่ได้ัรับการโหวตมากที่สุดค่ะ

พี่แจน พี่มด พี่ตูนน์ ทราย(หมูน้อย) ทราย(ฟิโอ)

ซึ่ง...ทั้ง 5 สาวต้องแสดงความสามารถในการ "เต้น" ให้ชมกัน เพื่อรับการโหวตอีกครั้ง เย่

ปล. แอบอัดคลิปไว้ อยากจะเอาลง แต่กลัวโดน 5 สาวเกลียด ขออุบส์ไว้ดูเองละกันนะคะ ^^"



























และหลังจากคัดเลือกกันอย่างหนักหน่วง

กรรมการทุกคนหนักใจมากๆ เพราะทุกคนสวยกันมากๆ และความสามารถก็ล้นเหลือ

แต่ในที่สุดก็ตัดสินกันเป็นเอกฉันท์ว่า

The Best Beauty Blogger คือ พี่มด Cinnamongal ค่าาา!!

ส่วน Beauty Blogger No.2 คือ ทราย Mhunoiii

และ Beauty Blogger No.3 คืือ พี่แจน Janilicious

ส่วนทราย Feonalita และ พี่ตูนน์ Tunie83 ได้รางวัลปลอบใจไป ยินดีด้วยค๊าฟฟฟฟ!!!

และแล้วก็จบค่ำคืนอันแสนสนุกลงเพียงเท่านี้

ส่วนใครอยากจะดื่ม อยากจะหม่ำต่อก็ตามอัธยาศัย ^^

























ในส่วนของ Lola ก็มีของขวัญที่เล็กๆน้อยๆให้แก่ทุกคนด่วยค่ะ

























 



ของในถุงมีท้งหมด 3 ชิ้นค่า ประกอบไปด้วย

Lola Eyes เป็นอายชาโดว์ 2 สีค่ะ

Lola Skin silk Wet/Dry Powder Foundation แป้งผสมรองพื้น

และ Lola Sheer Lip Gloss เป็นกลอสวิ้งๆค่ะ



























คิดว่าทริปนี้จบแล้ว? ยังค่ะ ยัง!!!

ยังมีแวะเที่ยวอีกเล็กน้อยก่อนกลับบ้านกัน

ก่อนกลับมีแวะที่ Outlet เพื่อให้เดินช๊อปปิ้งกันก่อนด้วย

ตัวนิไม่ได้ของอะไรเลย ไม่คลิกซักกะอย่าง แ่ต่คุณกุ้ง(ที่ตอนนี้เป็นศรีพันยาสุดสวยของนิ) ได้มาเพียบเลย ฮ่าๆๆ

หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่นเพลินๆกันที่ "เพลินวาน" ด้วยค่ะ

หลายๆคนน่าจะรู้จัก และหลายๆคนคงจะเคยไปกันมาแล้ว

เป็นตลาดที่จำลองจากตลาดในสมัยอดีต ได้อารมณ์แบบโบราณๆ สวยดีค่ะ ^^



















สุดท้ายนี้ ขอบคุณคุณตั๊กและทีมงาน Cosmega ทุกท่าน

ที่ให้โอกาสนิได้ไปร่วมกิจกรรมดีๆของ Juice Beauty และ Lola มากๆนะคะ

แล้วไว้เราไปเที่ยวด้วยกันใหม่เนอะ ^^

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่าาาา~*










Beauty ♥ Juice Beauty & Lola  Workshop by COSMEGA part.1

 




 

Create Date : 07 ธันวาคม 2553    
Last Update : 7 ธันวาคม 2553 1:45:38 น.
Counter : 2771 Pageviews.  

Beauty ♥ Juice Beauty & Lola Workshop by COSMEGA part.1

สวัสดีค่า หายหน้าหายตาไปซะนาน

บลอคก็ไม่ค่อยได้อัพเดทเท่าไหร่

ช่วงนี้ยุ่งๆหลายเรื่องเลย โดยเฉพาะเรื่องเรียน

วันนี้พอดีมีเวลา เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์ดีๆที่ทาง

Cosmega มีให้นิค่ะ มาดูกันเลย ^^











พอดีนิได้รับการเชิญชวนจากคุณตั๊ก หนึ่งในทีมงานของ Cosmega

ให้ไปร่วมทริปสนุกๆของแบรนด์ Juice Beauty และ Lola ที่อยู่ในเครือของ Cosmega ค่ะ

ถ้าใครติดตามสเตตัสนิใน Facebook น่าจะเห็นนิมีดราม่ากับคุณพ่อนิดหน่อยอยู่ช่วงนึง

คือขอคุณพ่อไปเที่ยว แต่คุณพ่อแอบบ่นว่า พักนี้เที่ยวบ่อย แฮ่ๆ

แต่ทริปนี้ไม่อยากพลาดเลยจริงๆค่ะ อุตส่าห์มีโอกาสซักที สรุปว่าก็เลยขอไปจนได้



















สำหรับทริปนี้ไปกันวันที่ 23-23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานี้ ที่หัวหินค่ะ

นัดกับทางทีมงานและบลอคเกอร์ท่านอื่นๆที่ Star Buck สาขาสยามในตอนเช้า

หลังจากฝ่าฝูงชนที่เค้าทำงานกันบนรถไฟฟ้า BTS ก็แบกกระเป๋าแล้วมุ่งไปทางสตาร์บั๊คทันที

ไปถึงก็เจอกับทีมงานของ Cosmega และเหล่าบลอคเกอร์ที่มากันเกือบครบแล้ว



























หลังจากทักทายหนุ่มสาวบลอคเกอร์คนดังแล้ว

ทางทีมงานก็เดินเข้ามาทักทายและถามว่าอยากดื่มอะไรดี

เลยสั่งเจ้าชาเขียวปั่นพร้อมวิปปิ้งครีมเพิ่มไขมันกันหน่อย ^^"

































หลังจากมากันครบแล้วก็ออกเดินทาง เย่!!!

เดินทางออกจาก กทม. มาได้ซํกพักก็แวะทานอาหารกันที่ร้าน "อยู่เย็น"

ENJOY EATING กันที่สุด ฮิ้วๆ





























เมนูอาหารก็มีหลายอย่าง (นี่แค่บางส่วนที่ถ่ายรูปมาค่ะ)

อยากบอกว่าแอบชอบปลาทอด นั่งคิดอยู่ว่า จะยกปลามาแทะดีมั้ย

แต่แอบเกรงใจ เลยไม่เอาดีกว่า แฮ่ๆ ^^"

































หลังจากหม่ำข้าวเสร็จแล้ว ก็เดินทางกันต่อ

อีกไม่นานก็ถึงที่หมาย ที่หมายของเราคือ Rest Detail Hotel หัวหินค่า!!!

แอบเห็นบรรยากาศในเว็บแล้ว มาเห็นของจริง ประทับใจค่ะ สวยเหมือนในเว็บเลยยย

//www.restdetailhotel.com/































ได้พักห้อง 510 มีตู้ใส่จดหมายหน้าบ้านด้วย น่ารักมากๆเลย

สำหรับทริปนี้ นินอนกับคุณกุ้ง ศรีพันยาสุดสวย ^^

























สำหรับห้องเป็นแบบ Pool Village คือริมสระน้ำนั่นเอง

ประทับใจในความหรูหรา และดีไซน์ที่สวยสุดๆของที่นี่จริงๆค่ะ

จะเป็นบ้านทั้งหลังมี 1 ห้องนอน และ 1 ห้องน้ำ

มีชุดโต๊ะนั่งทำงาน ตู้เสื้อผ้าติดผนังสองตู้ใหญ่ โซฟาติดผนังกระจก

เตียงจะเป็นเตียงแบบ Single มี 2 เตียงค่ะ

สำหรับห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำ มีห้องอาบแบบฝักบัว และห้องที่เป็นโถชักโครกแยกกันหมดเลย

























เดินออกมาที่ระเบียง จะมีโต๊ะเล็กๆไว้นั่งชมบรรยากาศ

เดินออกมาอีกหน่อย จะมีบันไดลาดลงมาที่สระน้ำ

มีเตียงให้นอนอาบแดดสองเตียงริมสระ เริดส์มว๊ากกกกกกก!!!

แอบกระซิบว่า ราคาห้องทำนิช๊อคไปเลย

หมืื่นกว่าๆ!! เกิดมาไม่เคยพักที่พักแพงขนาดนี้เลยนะนี่ >"<

(แบบว่าปกติจะแชร์นอนกันหลายๆคนมากกว่าง่า อันนี้นอนห้องละ 2 คนเอง)

























หลังจากนั่งเล่นกินบรรยากาศสวยๆของโรงแรมแล้ว

ก็ถึงเวลานัดที่ให้เหล่าบลอคเกอร์ไปร่วมเวิร์คชอปของทาง Juice Beauty ค่ะ































ธีมของ Juice Beauty คือ เขียว-ขาว

หนุ่มๆสาวๆหลายคนก็แต่งตัวตรงธีมมาตั้งแต่บ้านแล้ว

เดินเข้าไปในห้องเวิร์คชอปก็เจอกับบลอคเกอร์หลายๆคนมาถึงแล้ว

และก็ตามสเต็ปคือ...ถ่ายรูปๆๆๆๆ เย่!!!































หลังจากเหล่าบลอคเกอร์มาถึงห้องเวิร์คชอปกันครบแล้ว

ก็ถึงเวลาเริ่มการแนะนำในส่วนของผลิตภัณฑ์ และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ทีละตัวเลยจ้า

ดูเหล่า BA และทีมงานของ Cosmega จิ สวยๆทุกคนเลย >///<



























Juice Beauty เป็นในส่วนของ Skin Care ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติค่ะ

โดยเฉพาะพวกผลไม้ต่างๆ ดูสิ มีให้ลองเยอะแยะเลย

แอบใช้ไม่ถูกเลยนะนี่ แฮ่ๆ



























หลังจากร่วมเวิร์คชอปแล้ว ก็ได้ัรับของขัวญเล็กๆน้อยๆจากทาง Juice Beauty ด้วยค่ะ



































เปิดถุงมาก็เจอกับ Green Apple Antioxidant Serumแ

และ Cleansing Milk ค่ะ

มีแถมกระเป๋าใบนึงด้วย น่ารักมากๆเลย

























บนเตียงในห้องนอน มีแอปเปิ้ลเขียวที่มัดป้ายแบรนด์ Juice Beauty

มีข้อความเขียนว่า "Juice Beauty for healthy and radiant skin" วางไว้ด้วยค่ะ

น่ารักมากๆ ขอบคุณทางทีมงาน Cosmega นะคะ สำหรับเวิร์คชอปดีๆ













เดี๋ยวครั้งหน้าจะมาต่อกันที่เวิร์คชอปของ Lola ด้วย ติดตามชมนะคะ ^^









Beauty ♥ Juice Beauty & Lola Workshop by COSMEGA part.2




 

Create Date : 03 ธันวาคม 2553    
Last Update : 7 ธันวาคม 2553 1:48:40 น.
Counter : 3470 Pageviews.  

Beauty ♥ My Skincare & Hair Treatment

สวัสดีค่าสาวๆ

สำหรับวันนี้มาในโหมดของ VDO อีกแล้ว

มันค่อนข้างสะดวกเวลาทำ ไม่ต้องหาโลเคชั่นอะไรให้วุ่นวาย

พักนี้เลยเห็นสไตล์การทำรีวิวในรูปแบบของ VDO ของนิซะเยอะ



สำหรับวันนี้ จะมาทำอะไร...

คือนิได้รับรีเควสจากสาวๆหลายคนให้นิทำรีวิวขั้นตอนการบำรุงผิวของนิในแต่ละวันให้ชมหน่อย

ก็อยากจะทำมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ทำซักทีนะคะ

พอดีว่าว่างๆ ไม่ได้ออกไปไหน พักนี้ก็ไม่ค่อยได้แต่งหน้า

แถมเพิ่งจะอาบน้ำครั้งแรกในรอบอาทิตย์นี้(ไม่ใช่ละ)

สรุปว่า พอดีว่างๆไม่มีใครอยู่บ้านเลยได้โอกาสทำซํกที มาชมกันเลยจ้า ^^















ขั้นตอนในการดูแลผิวของนิไม่เยอะมาก

แต่ไม่เคยละเลยที่จะทำมันทุกวันค่ะ

และนิไม่ใช่คนที่ใช้สกินแคร์ หรือ เมคอัพเป็นเซทๆ

มันเลยปนกันมั่วๆ ไม่อยู่ในไลน์เดียวกันเลยซํกชิ้น ฮ่าๆๆๆ

นิพยายามเลือกสิ่งที่เหมาะกับสภาพผิว และเหมาะกับความต้องการของตัวเองมากกว่าค่ะ

อย่างสมมติว่า นิเป็นคนผิวขาวมากและไม่มีสิว

แต่ไปอ่านรีวิวของสาวคนนึงที่เค้ามีปัญหาผิวหมองคล้ำ และเป็นสิวเยอะ

ถ้าซื้อสกินแคร์เซทเดียวกับสาวคนนั้น ทั้งๆที่เราไม่ได้มีปัญหาผิวแบบเค้า

ใช้ไปก็ไม่เห็นผลอะไรแน่นอนค่ะ

เพราะฉะนั้น

เลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง ดีที่สุดค่ะ





















ยังไงก็ขอบคุณมากๆที่ิติดตามนะคะ บ๊ายบายค่า ^^




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2553 17:07:38 น.
Counter : 4491 Pageviews.  

Beauty ♥ Review Hada Labo Super Hyaluronic Acid Moisturizing Lotion

สวัสดีค่าสาวๆ 

วันนี้มีรีวิวไอเท็ม HOT ในขณะนี้มาให้ชมกันอีกแล้ว

พอดีว่านิได้ยินชื่อเสียงเจ้าไอเท็มตัวนี้มาซักพักนึงละ

ตอนแรกก็เฉยๆ หลังๆเริ่มอยากรู้อยากเห็น

เห็นสาวๆและบลอคเกอร์หลายคนใช้แล้วบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า

ปลื้มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

มันอดรนทนไม่ไหวจริงๆค่ะ เลยไปตามหามา

มันก็คือ...



















Hada Labo Super Hyaluronic Acid Moisturizing Lotion

โลชั่นบำรุงผิวหน้า เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื่นล้ำลึกให้แก่ผิวหน้าของเราค่ะ















มีขายที่วัตสันนะคะ ที่อื่นๆไม่ทราบเหมือนกัน เพราะเอาจริงๆ ไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไหร่

พอดีเดินเข้าไปเล่นๆระหว่างที่รอแม่ แล้วพอตอนเดินออกจากวันสัน

ก็พบว่ามันติดกระเป๋ามาแล้วเรียบร้อย นิไม่ได้ทำนะ นิไม่ได้ทำ!! >"<











 








นี่เป็นตัวโฆษณาของ....ฟังแล้ว น่าจะแถบจีนๆ ใต้หวันๆ อะไรเทือกๆนั้น

ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าพูดว่าอะไร รู้แต่นางแบบตบหน้าตัวเองได้แรงจริงๆ ฮ่าๆๆ

สังเกตุจากตัวโฆษณา นางแบบเค้าดูสดชื่นมากๆ ก็เค้าเน้นคุณสมบัติเติมเต็มความชุ่มชื่นนี่เนอะ

ตัวนี้เป็นสินค้าตัวฮิตที่ขายดีที่สุดของแบรนด์นี้เลยค่ะ

เค้าเขียนไว้ว่า ขายได้ในทุกๆ 4 วินาที(ขนาดนั้นเลย)















มาดูเนื้อผลิตภัณฑ์กันดีกว่า













สภาพผิวก่อนใช้

หน้าหนาวแบบนี้ บ้านนิอยู่โคราช อากาศเย็นพอสมควร(ไม่แน่ใจในกทม.อากาศเป็นยังไงบ้าง)

ผิวเลยแห้งพอสมควรค่ะ ภาพนี้ไม่ได้ใช้ครีมทาผิวใดๆนะคะ





















หยดตัวโลชั่นของ Hada Labo ลงที่แขน(อันนี้ 2 หยดค่ะ)

หน้าตาเป็นหยดใสๆเหมือนน้ำเปล่าเลย มองตอนแรกก็คิดว่า

เนื้อมันคงคล้ายๆโทนเนอร์รึเปล่าน้า?























พอลองทาๆแล้วมันรู้สึกว่า ไม่ได้เป็นเนื้อแบบน้ำเหมือนโทนเนอร์ค่ะ

มันมีความหนืดเหนียวเล็กน้อย รู้สึกได้ว่ามีมอยส์เจอร์พอสมควร

จากภาพ สองหยดนี่ถือว่าเยอะไป(เทสเนื้อผลิตภัณฑ์ที่แขนนะคะ)

ตอนแรกหยดไปหยดเดียวแล้วรู้สึกว่าน้อยไป แต่คิดว่าหยดเดียวก็ทาได้ทั้งแขนเลยค่ะ

คิดว่าหน้าใช้ทาหน้าก็น่าจะซํก 1-2 หยดก็น่าจะเพียงพอแล้ว

























ทาไปซักพักก็ซึมเข้าผิวแล้วค่ะ

รู้สึกได้ว่ามีความชุ่มชื่นเคลือบอยู่ที่ผิวด้วย

นิทดสอบโดยการทาเจ้า Hada Labo นี้ที่แขนข้างซ้ายข้างเดียว

แขนข้างขวาไม่ได้ทา ตอนนี้ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว ลองเอามือลูบๆแขนดู

รู้สึกนิดๆว่าแขนข้างซ้ายจะมีความชุ่มชื่นมากกว่าค่ะ



















สรุปแล้ว ถือว่าเป็นไอเท็มที่เหมาะมากๆสำหรับหนาวนี้

นิว่ามันใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพราะว่ามันช่วยในเรื่องของความชุ่มชื่นไม่ใช่ความมันค่ะ

สำหรับสาวๆที่กำลังหาไอเท็มที่เติมเต็มน้ำให้กับผิว นี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นิแนะนำ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผลของการใช้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ









ขอบคุณที่ติดตามค่า ^^



 




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2553 19:38:44 น.
Counter : 4027 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  

miNipanda-z
Location :
นครราชสีมา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 236 คน [?]





Twitter




email


Twitter


Instagram






Main Page


Kute Club




Group Blog
  • Blog Arts
  • Blog Arts
  • Blog Update
  • Blog Chill
  • Blog Diary
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add miNipanda-z's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.