PAPA YOU'RE CRAZY
Group Blog
 
All blogs
 
โอปะปาติกะ อีกซะหน่อย

เพิ่งไปดูหนังเรื่อง โอปปาติก มาเมื่อกี้เอง เลยเข้ามาขอแก้ไขอะไรบางอย่างซะหน่อย คือผมเพิ่งคอมเมนท์บล็อกที่บอกว่าหนังห่วยและดูไม่รู้เรื่องไปว่า น่าจะลองเปิดใจให้กว้างอีกสักนิด แต่พอไปดูแล้วก้จึงบรรลุธรรมว่า เออ หนังมันห่วยจริงอย่างว่านี่หว่า แต่ไม่ใช่ว่าดูไม่รู้เรื่องนะ รู้เรื่อง แต่มันเป็นอาการแบบหนังไทยและหนังฝรั่งที่ไม่ค่อยดีมักจะเป็น คือ อยากจะใส่อะไรทำอะไรกับตัวละครก็ใส่ไปโดยไม่ต้องสนใจเหตุผลตรรกะใดใดทั้งนั้น
ผมเห็นด้วยกับบล็อกของคุณคิงเพนกวิน แล้วก็รู้สึกอยากดูหนังขึ้นมา ผมกลับมาอ่านอีกทีก็เห็นด้วยกับเรื่องที่ติ แต่เรื่องปรัชญานั้น ผมรู้สึกว่ามันถูกยัดใส่ปากตัวละครเกินไป และไม่เนียน แน่นอนเรื่องที่มาที่ไปของตัวละครซึ่งสำคัญมากก็ถูกหลงลืม
เรื่องนี้ซึ่งพยายามอธิบายว่าเป็นสัมปรายภพ คือ หนังต้องสร้างโลกใหม่ขึ้นมาอีกใบ แล้วกฎที่จะใช้กับโลกใหม่นี้มันก็ต้องทำให้เราเชื่อได้ด้วย ตกลงว่ามันไม่ใช่พิภพโลกมนุษย์ปัจจุบันใช่ไหม แล้วลูกน้องของธุวชิตนั่นเป็นคนหรือเปล่า แล้วถ้าไม่ใข่โลกมนุษย์ แล้วจะเอาคนเป็นกองทัพนั่นมาจากไหนกัน แล้วคนที่ไปศลฆ่านั้นคือมนุษย์เหรอ แล้วตกลงภพภูมินี้มนุษย์ เทพ หรือมารเขาใช้ชีวิตอยู่กันแบบไหน ต้องกินหรือเปล่า มีความรักได้ด้วยหรือ เออ แล้วฉากเลิฟซีนของรามีลกับผู้หญิง นั่นเขาเป็นมนุษย์หรือเปล่า แล้วฉากแข่งรถอีกล่ะ
ตอนต้นเรื่องนั้นชวนงงอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้จักตัวละครเตชิตมาก่อน แล้วจู่ๆมันก็ยิงตัวตายเพราะความอยากรู้ซะอย่างนั้น ปูมาก่อนซะหน่อย หรืออีกทีก็เริ่มที่มันตายไปแล้วเลยก็ได้ คนจะฆ่าตัวตายเพราะความอยากรู้นี่ไม่ง่ายนะ
โอปปาติกนี่ตายได้อย่างไร คือเหมือนมันเป็นผีอยู่แล้วใช่ไหม การจะทำให้ผีตายนี่น่าจะต้องมีอะไรที่พิเศษกว่าฆ่าคนปกติ (ในหนังเหมือนแค่เป็นอสุรกายที่ตายยากหน่อย) แล้วปืนนี่ ในสัมปรายภพนี่ต้องใช้ด้วยหรือ ถ้าใช้แล้วเอามาจากไหน เสกขึ้นมาหรือเปล่า ไหนจะลูกปืนอีกล่ะ (ตรรกะพวกนี้จำเป็นมาก เช่น ในแฮรี่ พอตเตอร์ เขาก็ต้องสมมติโลกพ่อมดขึ้นมา แต่เขาก็มีกฎ และไม่ละเมิดกฎไปมา อย่าว่าแต่หนังไทยเลยครับ หนังฝรั่งแย่ๆหลายเรื่องก็เป็น เช่น ทรานฟอเมอร์ เป็นต้น ถ้าจะละเมิดกฎต้องทำอย่างแมทริกซ์ แต่นั่นก็ตามกฎนะ)
ที่คุณคิงเพ็นกวินบอกว่าความสามารถนั้นเหมือนแสตนด์ ตรงนี้เห็นด้วย แต่แสตนด์ในโจโจ้เขามีความสามารถชัดเจน และไม่ละเมิดกฎ นักเขียนเขาใช้ความสามารถของแสตนด์ในการเขียนบทให้สนุก แต่ความสามารถของโอปปาติกนั้นไม่ชัดเจน ไม่คงที่ เช่น ดูจากความสามารถของอรุสส์ตอนกลางคืนแล้ว ธุวชิตไม่น่าจะเป็นคู่มือด้วยได้เลย (เร็วกว่าตาคนจะมองทัน) แล้วรามิลน่ะ อสูรของมันมีฤทธิ์ขนาดไหนก็ไม่แน่นอน บทจะวูบวาบหายตัวก็หายได้ บทจะถูกจับก็นิ่งๆไปอย่างนั้น ยกตัวอย่างแสตนด์ในโจโจ้อีกที ก็มีแบบถ้าอยู่ห่างร่างต้น พลังจะลดลง ไปได้ไม่ไกล อะไรแบบนั้น
อีกอย่าง ทำไมต้องมุ่งจะจับแต่โอปปาติกสี่ตนนี้ด้วยความยากเย็นแสนเข็ญ ทั้งๆที่ศดกกินหัวใจของโอปปาติกตนใดก็ได้ไม่ใช่หรือ บางทีเห็นจะจับได้แล้วแต่ไม่ยอมยิง ใช่ จะเอาไปให้ศดกใช่ไหม แต่หลายครั้งก็ยิงกันอุตลุด เอ๊ ยังไง ถ้าจะต้องจับเป็นก็น่าจะทำให้เห็นอย่างนั้นไปเลย
แล้วพอเฉลยตอนจบเรื่องความสามารถของศดก ก็พาลให้สงสัยว่าเขาต้องใช้เตชิตทำไม ในเมื่อเขาก็รู้ความเคลื่อนไหวของโอปปาติกทุกตนอยู่แล้ว (ยกเว้นจิรัสส์) แล้วเราก็งงๆกับความสัมพันธ์ของปราณกับโอปปาติก เช่น มันจะรักกันอย่างไร เจอกันตอนไหน อยู่ๆก็นั่งคุยกันกอดกันซะงั้น มันก็เลยทำให้น้ำหนักตรงส่วนนี้อ่อนมากจนขาดความน่าเชื่อถือ (หรือดาราเขาเล่นแล้วไม่รู้สึกว่ารักกันก็ไม่รู้)
อีกอันที่หนังพลาดมากก็คือ แรงผลักของตัวละคร ทำไมเขาถึงต้องทำอย่างนี้ ทำไปแล้วจะมีผลอะไร นี่เราเห็นชัดๆอยู่คนเดียวคือ ศดก ว่าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ แล้วไปศลจะฆ่าตามคำสั่งไปทำไม (ถ้าให้แบบโดนคำสาป ควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ตัวมันเองก็อยากหยุด เลยต้องต่อสู้ ไปแบบนั้นเลยจะดีกว่า) ทุกสิ่งมีชีวิตมีความมุ่งมาดปรารถนาด้วยกันทั้งนั้นแหละ เช่น ยุงต้องดูดเลือด หนอนต้องลอกคราบเป็นดักแด้ ทุกการต่อสู้ต้องมีแรงผลักทั้งนั้น ไม่ใช่แค่ว่าคนเขียนบทอยากให้สู้ ก็ต้องสู้ เออ แล้วอีกอย่างก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีโอปปาติกหลายตน อย่างตัวรามิลก็ไม่ได้มีน้ำหนักอะไรต่อเรื่อง ตัวอรุสก็ไม่มาก ให้ดีรวบเหลือไม่กี่ตัวแล้วเน้นๆไปเลยจะมันกว่า
สงสัยข้อเดียวกับคุณคิงเพ็นกวินอีกว่า ทำไมธุวชิตจึงจงรักภักดีกับศดกมากขนาดนั้น แล้วทำไมคนธรรมดาจึงมองเห็น และสัมผัสกับสิ่งที่อยุ่ในอีกภพภูมิได้ แล้วการที่มนุษย์จะไปอยู่ภพภูมินั้น ทำได้อย่างไร
ดูหนังหลังๆนี่ผมไม่ได้เสียดายเงินหรอกครับ เงินแค่ร้อยเดียว แล้วเราก็เลือกเองเสียความรู้สึกมากกว่า แล้วก็เสียดายเงินหลายสิบล้านที่เขาละลายไปกับความเลินเล่อ และถือดีถือตัวบางอย่าง ผมเชื่อครับ ว่าเราจะทำได้ดีกว่านี้ ถ้าให้ความสำคัญกับบท และความน่าเชื่อถือของเรื่องราว (ยกตัวอย่างเรื่อง เฮลล์บอย หนังไม่ค่อยสนุกหรอกครับ แต่ตัวละครที่เป็นลูกซาตานก็ดูน่าเชื่อ จับต้องได้ และมีเป้าหมายชัดเจน)
อ้อ ขอส่งท้ายบอกคนเขียนบทหรือผู้กำกับสักอย่างนะครับ ที่เตชิตสูญเสียความสามารถในการพูดนั้น ไม่ได้อยู่ในผัสสะทั้งห้านะครับ ผัสสะทั้งห้ามี ตา(มองเห็น) หู(ได้ยิน) จมูก(กลิ่น) ลิ้น(รับรส) กาย(สัมผัส) ที่จริงต้องมี ใจ ด้วย แต่กับโอปปาติกคงไม่มี การพูดนั้นไม่ใช่ผัสสะครับ




Create Date : 04 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 0:17:55 น. 0 comments
Counter : 623 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ลิตเติลวอเตอร์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หมายิ้มอยู่เชียงใหม่ ชอบดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดื่มและกิน เรามีสตูดิโอชื่อ หมายิ้มสตูดิโอซึง่มีสโลแกนว่า วิดีโอเพื่อสังคมใหม่ เราชอบทำงานสื่อสร้างสรรค์อย่างวิดีโอ หนัง สารคดี แล ดนตรีร่วมสมัย ชอบเห่าดังๆให้โลกฟังถึงเรื่องราวอันผิดรูปผิดรอย เพราะอยากให้คนทุกคนมีรอยยิ้มแบบเดียวกับหมา
Friends' blogs
[Add ลิตเติลวอเตอร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.