นิยายแปล..........แปลแหลก แปลกนักแล Present to you by Maxmaya

"ATTITUDE" The pleasure you get from your life is equal to the "ATTITUDE" you put into it
Group Blog
 
All blogs
 
สามีดีแตก บทที่ 91 - 95




Ninety one

ผมได้ถูกเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงปาร์ตี้ดินเนอร์ที่ร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง พวกผู้ชายยืนอยู่ข้างนอกในระหว่างที่รอให้พวกผู้หญิงทะยอยเข้าข้างในก่อน มีเสียงบ่นพึมพำเกี่ยวกับร่มและเสื้อโค้ดที่เปียกฝน และในระหว่างการแนะนำตัวกันนั้นเสียงตื่นเต้นจากการระลึกถึงกันดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ผู้ชายคนหนึ่งในนั้นได้พาผู้หญิงที่เขาพบในสัปดาห์ก่อนมาเป็นคู่ควงเป็นครั้งแรก ขณะที่เธอนั่งอยู่นั้นสายตาของเรามาเจอกันเข้าพอดี
- ดูเหมือนว่าผมจะเคยรู้จักคุณที่ไหนมาก่อนรึเปล่าครับ ผมถามเธอ
- ถูกต้องค่ะ เธอตอบอย่างเป็นผู้ได้เปรียบในสถานการณ์นี้
ซิโอบาน แลรี่ เราเคยไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่พักหนึ่ง แล้วผมก็เลิกคบกับเธอหลังจากที่ผมได้พบกับซูซาน
หลายปีที่ผ่านมาเรามีเรื่องที่จะพูดถึงมากมายเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด จนแฟนของเธอออกอาการเหนื่อยหน่ายและหาทางขอตัวออกไปก่อน หลังงานเลี้ยง ซิโอบานกับผมไปต่อกันที่ร้านกาแฟข้าง ๆ และผมก็ถามเธอว่าทำไมเธอถึงยังไม่แต่งงานเสียที
เธอยิ้มแฝงไปด้วยความอายและเจ็บปวด
- เอาน่า ไหนลองบอกมาซิว่ามันซับซ้อนยังไงกัน
เธอถอนหายใจลึก ๆ
- ฉันเคยไป ๆ มา ๆ อยู่ถึงสิบเจ็ดปีกับผู้ชายที่แต่งงานแล้วคนนึง เธอบอก
ผมจ้องหน้าหล่อน สิบเจ็ดปีเชียวหรือ คุณทำได้ยังไงกันตั้งสิบเจ็ดปี แต่ผมก็ลองมานึกถึงระหว่างผมกันแอนนาดู เวลามันก็ผ่านไปเร็วจริง ๆ
ผมคงจะทำอย่างนี้เหมือนกับคุณไม่ได้
- แล้วเกิดอะไรขึ้นหรือครับ
- ฉันรักเค้าค่ะ เธอพูดอย่างง่ายดายชัดเจน และผมก็เข้าใจ เข้าใจอย่างถ่องแท้ในคำสามคำที่เธอพูดออกมา
- ฉันคิดว่าเค้าจะเลิกกัน โทนี่เค้าก็ทำทีท่าเหมือนกับว่าจะเลิก จะเลิก และฉันก็รักเค้ามากจริง ๆ
ข้างนอกแสงไฟสีน้ำเงินสลับแดงจากร้านกาแฟสะท้อนเล่นอยู่กับพื้นถนนที่เปียกฝน ความหนาวผ่านเข้ามาข้างในร้านทุกครั้งที่มีคนผลักประตูเข้าออก เสียงซู่ จากล้อรถที่รีดน้ำจากล้อบนถนนเปียกดังเข้ามาถึงในร้านในระหว่างที่ประตูเปิด หลังจากนั้นก็จะกลับมาเป็นเสียงพูดคุย ความอบอุ่นจากเครื่องทำความร้อนในร้าน
- คุณคงรู้ว่ามันเป็นอย่างไร เธอพูด เราเลิกกัน แล้วกลับมาคบกันอีก หลังจากนั้นฉันขอแยกออกมาเพื่อหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ เขาก็เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วฉันแทบจะทนไม่ได้ที่จะต้องห่างจากเขา ฉันคงจะต้องกลับไปหาเขาอีกแน่
ความเงียบเข้ามาคั่นไว้ครู่ใหญ่ ก่อนที่เธอจะพูดต่อ
- ฉันไม่รู้ว่าเวลามันผ่านล่วงเลยไปตอนไหนกัน
ผมคิดว่านั่นแหละเป็นสิ่งที่เวลามันทำละ มันจะหายไปเสียเฉย ๆ ในขณะที่เรากำลังครุ่นคิดติดสินใจว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี
- เมื่อคริสมาสต์ที่ผ่านมาเค้าซื้อชุดสนามให้กับฉัน แล้วคุณรู้มั๊ยว่าเค้าซื้ออะไรให้เธอ
ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ
- รถเบนซ์ค่ะ
ผมเงยหน้าขึ้นมองเพดานแทน
- แล้วมันเป็นชุดสนามที่แพงหรือเปล่า ผมถามเธอ มันเป็นคำถามโง่ ๆ ที่ผมถามขึ้นเพื่อผ่อนความตึงเครียด ผมไม่น่าถามไปอย่างนั้นเลย ตอนนี้น้ำตาเธอเริ่มเอ่อออกมา
- แล้วมันจบลงอย่างไรหรือ
- ภรรยาของเค้าไปมีสามีใหม่ทันทีที่ลูก ๆ ของเค้าพ้นอก ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอพร่ำบอกกับเค้าเสมอมาว่าเธอต้องการเค้า เค้าจะทิ้งเธอไปได้อย่างไรกัน แต่ทันทีที่เธอมีคนใหม่เธอกลับเก็บกระเป๋าออกไปไม่ทันข้ามคืน เธอคงจะแก้แค้นเสียมากกว่า ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะ หรือบางทีเธออาจจะแค่เป็นคนเห็นแก่ตัวเท่านั่นเอง ใครจะไปรู้ล่ะ
เธอเอื้อมหยิบกระเป๋าและทิชชู
- ผมเสียใจด้วยจริง ๆ นะ
กาแฟผมเริ่มชืดหมดแล้ว ผมยังใช้ช้อนคนมันไปเรื่อย ๆ
- ถ้างั้นคุณก็กลับมาอยู่ด้วยกันหรือ
- ฉันก็กลับไปอยู่กับเขาอย่างไม่น่าเลย และมันก็เป็นปัญหามากมาย ลูก ๆของเค้าเกลียดชั้น ทุกครั้งที่เค้ากลับเข้าบ้าน เค้าจะพูดกับฉันว่า “ซิโอบาน คุณจะว่าอะไรมั๊ยถ้าจะขอให้คุณออกไปข้างนอกสักครู่ เพราะอเล็กซ์กำลังจะกลับมา และเค้าก็ไม่ชอบที่มีคุณอยู่ที่นี่” เค้าไม่เคยต่อสู้เพื่อฉันเลย
ความเงียบเข้ามาอีกครั้งคราวนี้เงียบงันกว่าเดิมอีกเท่าตัว ผมรู้สึกเหมือนมีใครเตะผมอย่างจังเข้าที่ท้องน้อย
- แล้วนี่คุณยังเจอกับเค้าอยู่อีกหรือเปล่าครับ ผมถามเธอ
- ฉันพยายามที่จะไม่พบเค้าค่ะ เธอโน้มเข้ามาไกล้ผมแล้วกระซิบ ฉันคิดว่าถ้าฉันสามารถอยู่ได้นานกว่าเธอทุกอย่างมันอาจจะลงเอยได้ด้วยดี
เธอสั่งน้ำมูกลงในกระดาษทิชชู ตอนนี้เธอรู้สึกละอายขึ้นมา
- คุณรู้มั๊ยว่าอีกอย่างนึงที่ฉันคิดขึ้นมาได้ ก็คือ ไม่ควรจะคบหาผู้ชายที่มีเมียแล้วเลยจริง ๆ
การถูกทำร้ายจิตใจไม่ว่าใครก็ต้องเจ็บปวด
หลังจากดื่มกาแฟหมดแล้ว ผมเรียกแท๊กซี่ให้เธอ แล้วเราจับมือลากันท่ามกลางสายฝน
ครั้งหนึ่งผมเคยสงสัยว่าเธอจะเป็นอย่างไรกับเรื่องบนเตียง แต่ตอนนี้ผมได้แต่มองเธอขึ้นรถหายไป
สิบเจ็ดปีเชียวหรือ
พระเจ้า!


Ninety two

ผมไม่คิดว่าผมจะเจอกับซิโอบานอีก แต่แน่นอน ผมเจอเธออีกจนได้ ผมโทรหาเธอเพียงเพื่อคุยกับเธอ แล้วเธอก็ได้เอ่ยถึงโรงหนังอาร์ตฝรั่งเศษที่เธออยากดูขึ้นมา เธอบอกว่าเพื่อน ๆ ของเธอไม่มีใครชอบหนังที่มีสับไทเทิล และเธอก็ไม่ชอบไปดูหนังคนเดียวด้วย ผมก็เลยบอกว่าผมสนใจที่ไปกับเธอ เราก็เลยไปด้วยกัน หลายคืนต่อมาเราได้ออกไปทานอาหารค่ำด้วยกันอีก ผมขับรถไปส่งเธอที่บ้าน และเธอก็เชิญผมให้อยู่ดื่มกาแฟกันก่อน ก่อนกลับผมยืนลังเลอยู่ที่ประตูแล้วเธอก็เข้ามาประคองใบหน้าผมไว้ในมือก่อนที่จะบรรจงจูบ
ผมไม่ได้คิดอะไรอย่างนี้จะเกิดขึ้น ผมกำลังคิดจะผละออกแต่คืนนี้แอนนาก็นอนกับผู้ชายคนอื่น บางทีผมอาจจะคิดอย่างนั้นเพื่อเป็นข้ออ้าง หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะความเหงาก็ได้ และก็ไม่ใช่ว่าเพราะผมไม่มีใจต่อเธอเอาเสียเลย
เธอไม่ใช่แอนนา แต่คืนนี้ผมจะคิดเสียว่าเธอคือแอนนาก็แล้วกัน



Ninety three

- แล้วนี่คุณจะทำยังไงต่อไปล่ะ เจนถามผม
ปริศนาก็คือ ผมไม่มีความสุข และแอนนาก็คิดว่าผมไม่สามารถอยู่โดยไม่มีเธอได้ ผมกลายเป็นภาระอีกอย่างหนึ่งให้กับเธอ ทั้งเธอยังกังวลว่าเธอจะทำให้ผมเจ็บปวดอีก เธอก็เลยพยายามผลักไสผมออกไปเสีย
ถ้าหากว่าผมเดินหน้าเธอจะถอยหลังไปสู่ชีวิตเก่า ๆ ของเธอเพื่อหย่อนสถานการณ์ เดี๋ยวนี้เธอจะอยู่ติดบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ เป็นความพึงพอใจในความละอายและสำนึก เธอจะประโลมใจตัวเองด้วยการทำในสิ่งที่เธอคิดว่าจะทำให้ทุกคนมีความสุข กระนั้นผมก็ยังคงคิดว่าแอนนาจะยังอยู่กับปัญหาเดิม เธอจะไม่มีความสุข
แล้วผมล่ะ ผมอยู่กับเธอก็ไม่ได้ แต่หากว่าผมจะตัดใจเสีย ผมรู้ว่าส่วนหนึ่งของเธอนั้นยังต้องการให้ผมอยู่ เธอจะไม่ทำลายความหวังทั้งหมดและเธอก็จะไม่ให้ความหวังอะไรเลยด้วย นี่ไม่ใช่ชีวิตที่เธอต้องการ เพราะฉะนั้นผมรู้ว่าในไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน บางที....
- คุณกำลังคบหาใครอยู่รึเปล่าค๊ะ เจนถามผม
ผมยักไหล่
- คุณต้องทำอะไรสักอย่างแล้วนะค๊ะ เธอพูดต่อ เพราะหล่อนไม่มีทางที่จะทิ้งสามีของเธอแน่ เธอติดหนึบกับเค้าซะแล้วล่ะค่ะ ฉันเชื่อว่าหล่อนคงมีความรู้สึกว่าตัวเองมีพลังอำนาจเป็นต่อที่เป็นที่ต้องการ เป็นคนสำคัญของเขา ผู้ชายที่เธอเคยเทอดทูนไม่สามารถทิ้งเธอได้ ถ้าหากว่าเธอปล่อยมันไปเสีย เธอก็จะสูญเสียการควบคุมไปอีกครั้ง
- ไม่จริงหรอก คุณจะไปป้ายสีคนอื่นด้วยวิถีของคุณเองไม่ได้นะ
- นี่คุณ ตลอดชีวิตของหล่อนนะ มีแต่คอยที่จะทำให้คนอื่นมีความสุข เพราะงั้นหล่อนก็จะมีความรู้สึกผิดถ้าหากว่าหล่อนต้องทิ้งทุกอย่างไปในตอนนี้ หล่อนเป็นคนของประชาชนค่ะมาร์ค หล่อนจะไม่มีทางทำอะไรเพื่อตัวเองหรอกค่ะ เพราะหล่อนไม่ชอบที่ให้ใคร ๆ มาเกลียดหล่อน
ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าตอนนี้เจนกำลังพูดถึงแอนนาหรือตัวเธอเองกันแน่ และผมก็ไม่ชอบที่เจนเปรียบแอนนาว่าเป็นคนของประชาชน ถึงแม้ว่าแอนนาเองก็เคยบอกว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
- ยังไงเสีย ผู้ชายก็ไม่เคยละมือ หากว่าตัวเขาเองยังไม่มีคนใหม่มาแทนที่ ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้นล่ะค่ะมาร์ค และถ้าหากว่าหล่อนต้องการจะจบเรื่องนี้ หล่อนก็จะเป็นคนออกมาเอง หรือไม่หล่อนก็จะต้องผลักไสเขาออกไป แต่ชั้นก็ไม่คิดว่าหล่อนกล้าพอที่จะทำอย่างนั้นได้หรอกค่ะ
เจนพูดถูกที่ว่าผู้ชายจะยังไม่ถอยง่าย ๆ หากว่าเขาไม่มีคนใหม่เข้ามาแทนที่
- แต่ถ้าหากว่าคุณยังหลงรักเธออยู่อย่างนี้แล้วคุณจะเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาได้อย่างไรกัน
- แล้วคุณจะลืมความรักสุดยอดในชีวิตคุณได้ไง ในเมื่อเธอบอกว่าเธอยังรักคุณอยู่นะ
- คุณต้องดูแลตัวของคุณเองก่อนนะค๊ะมาร์ค
- คุณหมายความถึงการประณีประนอมน่ะหรือ
- ใคร ๆ ก็ทำกันทั้งนั้นล่ะค่ะ เธอพูด ผมรู้ว่าเธอกำลังพูดถึงตัวเองกับเทอรี่ และผมก็รู้ว่าเธอหมายความว่าอย่างไร เธอจะไม่ยอมปล่อยให้เทอรี่หลุดไปง่าย ๆ เพราะอาจจะไม่มีใครที่ดีกว่ารอเธออยู่ข้างหน้า หรืออาจจะไม่มีใครเลยสักคนก็เป็นได้
ถ้างั้นผมจะทำอย่างไรดี จะประณีประนอมกับชีวิตเหมือนอย่างที่แอนนาแนะนำให้หาความสัมพันธ์ใหม่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นความสัมพันธ์ที่ตราตรึงเกินบรรยายอย่างที่มีอยู่นะหรือ แอนนาได้สร้างสถิติไว้สูงเกินกว่าที่ใครจะล้มได้ง่าย ๆ เกินไป
ตอนที่ผมเจอเธอ ผมเองไม่ได้ตั้งใจที่จะมองหาใครมาแทนที่ใครเลยในตอนนั้น มันเป็นเหมือนหลุมพลางที่ผมบังเอิญตกลงไปในระหว่างทางที่ผมกำลังก่อสร้างครอบครัวสมบูรณ์แบบของผม แต่ถ้าหากว่าความรักครั้งที่สองมันเกิดขึ้นได้อีกล่ะ และถ้าผมต้องประณีประนอมกับความรักจริง ๆ อย่างที่เจนสนับสนุนให้ผมกระทำในตอนนี้ ผมก็คงจะกลับไปตกอยู่ในวงจรเดิมเหมือนเมื่อตอนที่ผมเจอกับแอนนาอีกครั้งหนึ่งนะซิ
หรือจะพูดอีกทีก็คือผมมันก็เป็นคนสิ้นหวังสิ้นดีคนนึงเท่านั้นเอง



Ninety four

ท้องฟ้าหม่น กลิ่นอากาศของฤดูใบไม้ผลิกับอัฐิ ลมโชยเอาอากาศที่หนาวปนเปมากับกลิ่นเผาขยะ ผู้ชายคนหนึ่งเดินออกกำลังอย่างกระฉับกระเฉง เขาใส่เสื้อกันหนาวคอเต่าพร้อมกับผ้าพันคอสดใสอีกผืนหนึ่ง เขายิ้มและทักทายกับผมว่าวันนี้สดใสดีนะ ผมอยากจะบอกเขาให้ไปให้พ้น ๆ ซะเถอะ
ผมเคยเดินกับแอนนาในจังหวะก้าวย่างเดียวกันทั่วสวนสาธาระณะแห่งนี้ วันนี้มีพวกเด็ก ๆ ใส่ชุดดูอบอุ่นหัวเราะเล่นกันอย่างสนุกสนานในสนาม มีคู่รักนั่งแนบชิดติดกันบนม้านั่งในสวน มันเป็นวันที่สวยงามในวันที่แย่ที่สุดในชีวิตของผม
เบอร์ของเธอยังอยู่ในปุ่มกดอัตโนมัตในเครื่องของผม ผมจะต้องไม่ลืมที่จะลบมันทิ้งไปซะ
ผมโทรหาเธอ
- ผมคงจะทำอย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้วนะ แอนนา มันคงจะต้องจบลงได้แล้ว
เงียบงันที่ปลายสาย เธอไม่รับหรือปฏิเสธ
- คุณทำถูกแล้วล่ะค่ะ ในที่สุดเธอก็พูดออกมา มันไม่ใช่เพราะคุณหรอกค่ะ มันเป็นเพราะชั้นเอง คุณสมควรที่จะได้รับมันที่สุด คุณสมควรที่จะได้ใครที่จะทำให้คุณมีความสุขที่ฉันไม่สามารถให้ได้
ผมรู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องพูดแบบนี้ ไม่มีการปลอบโยนใด ๆ ผมไม่คาดหวังที่จะมีความรู้สึกแบบนี้อีกต่อไป แต่ก็จะทำยังไงได้
- ผมคิดว่าผมคงจะไม่สามารถลืมมันได้เลยจริง ๆ
ผู้ชายคนหนึ่งปากิ่งไม้เล่นกับหมาของเขา ผมรู้สึกเกลียดเขาขึ้นมาทันที ผมเกลียดความสุขแบบนี้ในทุก ๆ ที่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเกลียดแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา
- ฉันเสียใจสำหรับทุกสิ่งค่ะ เธอพูด
- ครั้งหนึ่งคุณเคยบอกว่าคุณรักผม
- บางทีฉันอาจจะไม่ได้รักอย่างเพียงพอก็ได้ค่ะ
ผมว่าเธอกำลังโกรธที่ผมเป็นคนจบมันเอง ผมรู้ได้ในน้ำเสียงของเธอ ตอนแรกบ่งบอกถึงความขัดแย้งในประโยคที่ว่า ฉันเสียใจสำหรับทุกสิ่ง ซึ่งความจริงมันบอกถึงความโกรธของเธอ เพราะว่าบางทีเธอยังอยากจะให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไปอีก
- ผมคงต้องหยุดเพียงแค่นี้นะแอนนา ผมพูด และวางสายไป ลบเบอร์ของเธอทิ้งเสียรวมทั้งข้อความต่าง ๆ ที่เก็บไว้ด้วย ผมเดินกลับไปที่รถแล้วขับกลับบ้านทันที
ดีกว่าชู้สัมพันธ์ที่ยืดยื้อกว่าสิบเจ็ดปีแล้วต้องจบลง และบางทีชุดสนามอาจจะเหมาะกว่าเมอเซเดสก็ได้
ผมรู้สึกเหมือนจะกระอักเอาหัวใจออกมาเสียให้ได้


Ninety five

ผมไม่เคยนึกเลยว่าผมจะเป็นอย่างนี้ไปได้
ผมทำงานไม่ได้ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ พูดเรื่อยเปื่อยทำให้ผมเหม่อมองไปอย่างไร้จุดหมาย ผมผล็อยหลับไปในระหว่างดูหนังขาวดำต่างประเทศในตอนตีสาม ใบเสร็จวางอยู่มากมายผมก็ไม่ได้ไปจ่าย
ผมเดินผ่านผู้หญิงคนหนึ่งบนถนน เธอใส่น้ำหอม Lancome Tresor ผมหันไปมองจ้องเธอ ผมเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างกับเธอ เธอมองดูผมเหมือนกับว่าผมกำลังสะกดรอยตามเธออยู่
ผมสวมเสื้อเชิ้ตตัวที่มีกลิ่นกายเธอติดอยู่ มันเป็นตัวที่เธอยืมใส่นอน ทันใดผมก็รู้สึกเหมือนหายใจไม่คล่องขึ้นมา ผมต้องลุกขึ้นนั่ง เพื่อให้หลุดพ้นจากการครอบงำในความสูญเสียของผม
ผมโทรหาเธอแล้ววางสายก่อนที่เธอจะรับสาย
ผมนัดดื่มกาแฟกับเพื่อนแต่ผมก็ต้องขอตัวกลับก่อนทั้งที่กาแฟลาเล้ของผมยังอุ่นอยู่เพื่อที่จะไปอยู่ตามลำพัง
ผมรอให้เธอโทรกลับมาหาผมทั้งที่รู้ว่าเธอไม่มีทางที่จะโทรมาเพราะเธอไม่อยากที่จะทำให้ผมเจ็บปวดอีกต่อไป และถึงแม้ว่าเธออยากจะโทรมาเธอก็จะปฏิเสธความต้องการของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอชำนาญที่จะทำเสียด้วย เธอทำเพื่อผม และเค้าของเธอ
ผมเที่ยวเดินด้อม ๆ ไปทั่วบ้านเหมือนเป็นภูติที่ไม่ปกติสุขยังผูกพันอยู่กับชีวิต จะอยู่ก็ไม่ได้ จะไปก็ไม่สุข






Create Date : 16 กันยายน 2553
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 9:27:23 น. 0 comments
Counter : 207 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maxmaya
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แม๊กซ์ ครับ อยากเขียนนิยายแต่ไม่เก่ง ก็เลยอาศัยการแปลจากที่คนอื่นเขียนไว้แล้วไปก่อน รวมทั้งงานเขียนอื่น ๆ แล้วแต่อยากจะเขียน ลองติดตามกันดูนะครับ

เปลือย...ใจ ใส่บันทึก เป็นเรื่องราวของ

ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีแล้ว แต่โชคชะตาพาเธอ

ให้ไปพบกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งชักนำชีวิต

ของเธอ ให้ต้องเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย

ที่พูดไม่ได้ห้ามใจไม่อยู่ เลยต้องเปลือยใจใส่

ไว้ในบันทึก.....อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับใคร

หลายคน แตกต่างกันไปในรายละเอียด และ

จุดจบ.......

สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจผลิตภันณ์จาก Dream Cosmetique จาก Link เวชสำอาง ข้างล่างนี้ ท่านจะได้รับส่วนลด 10% ทันที เพียงท่านแจ้งการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ว่าได้ข้อมูลจาก Maxmaya http://www.dreamcosmetique.com/

New Comments
Friends' blogs
[Add Maxmaya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.