นิยายแปล..........แปลแหลก แปลกนักแล Present to you by Maxmaya

"ATTITUDE" The pleasure you get from your life is equal to the "ATTITUDE" you put into it
Group Blog
 
All blogs
 
สามีดีแตก บทที่ 61 - 65





Sixty one

และนี่ก็คือถนนสายที่นำผมมาที่เตียงหนึ่งในโรงพยาบาล ที่มีมอนิเตอร์ต่าง ๆ มีเครื่องช่วยหายใจ มันเป็นห้องที่ความเป็นและความตายอาศัยอยู่ด้วยกัน
ผมจินตนาการไปว่าแอนนาอาจจะชอบสภาะที่เธอเป็นอยู่ในขณะนี้ มันเป็นความห่างเหินที่เหมาะเจาะ เธออยู่ที่นี่แต่เหมือนเธอไม่ได้อยู่ เธอมีโลกส่วนตัวของเธอ มีความฝันที่ได้รับจากมอร์ฟีน ไม่มีใครทำร้ายเธอได้เพราะเธอได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่จะต้องดูแลอย่างไกล้ชิด เพราะงั้นเธอจึงปลอดภัย
เธออยู่ในขั้นโคม่า มันเป็นขั้นที่เธอไม่รู้สึกผิด ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่ต้องรับผิดชอบต่อใคร ๆ ทั้งสิ้น หากว่าเธอตายลงไป ทุกคนที่อยู่ก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง อะไรที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาต่อไปจะไม่เกี่ยวกับเธอ เธอไม่ต้องอยู่ไปเพื่ออะไรอีก
แต่ขณะนี้จุดสนใจไม่ได้อยู่ที่แอนนา หรือความเศร้าของพวกเขาที่มีต่อแอนนา แต่ทุกคนกำลังพุ่งจุดสนใจมาทางผม ทุกคนกำลังรอให้ผมพูดอะไรสักอย่าง


Sixty two

สำหรับคนอื่น ๆ ความเศร้าโศกจากการตายของซูซานจางหายไปเมื่องานศพเสร็จสิ้น แต่สำหรับผมกับเดวิดแล้ว มันกลับอยู่อย่างนั้นไปเรื่อย ๆ
ผมคิดอะไรไม่ออก ไม่มีแก่ใจที่จะทำงาน นอนก็ไม่เป็นสุข จะไปไหนหรือทำอะไรเพื่อให้หลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกข์นี้ไปได้ ผมเหนื่อย โดดเดี่ยว และสิ้นหวัง ความเจ็บปวดมันทำให้ผมอ่อนแอและสิ้นสภาพ
นิ้วของผมจิ้มวนไปที่เบอร์โทรของแอนนาบนมือถือ ผมอยากจะโทรหาเธอ แต่ผมทำไม่ได้
ผมไม่เคยสูญเสียคนที่เป็นที่รักมาก่อน ผมเคยคิดว่าความทุกข์มันคงจะโถมลงมาเหมือนก้อนหินตกใส่ในทันทีทันใดมันเป็นหายนะที่หากว่าคุณหาทางออกให้ตัวเองได้คุณก็จะรอด
แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดเลย ความทุกข์โศกมันเป็นเหมือนสงครามกองโจร ที่ต้องสูญเสียทุกวันและบางครั้งก็ต้องถูกโจมตีย่อยยับ และมันจะเป็นอยู่อย่างนั้นวันแล้ววันเล่า เหมือนที่ผมกำลังเจออยู่ในตอนนี้ ผมยังสงสัยอยู่เลยว่ามันจะมีวันจบลงหรือเปล่า
ผมเจอรูปถ่ายเก่า ๆ ในขณะที่กำลังมองหาถุงเท้าอยู่ในลิ้นชัก ทันใดผมก็ทรุดลงนั่งขดตัวอยู่บนพื้นเหมือนเพิ่งถูกลอบยิง พระเจ้า! ผมกำลังถูกสะกดรอยตามโดยความทุกข์ระทมที่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องซูซาน แต่เป็นเรื่องความใฝ่ฝันที่สูญสลายและอดีตที่ผ่านพ้นไปด้วย
ผมมีปากเสียงกับเดวิดด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้กระทั่งเรื่องเลือกช่องทีวีดู มีครั้งหนึ่งเขาขว้างรีโมทมาทางผมอย่างแรง มันปะทะกับฝาผนังจนแตกออกเป็นชิ้น ๆ เราทะเลาะกันในรถเพราะเขาเอาแต่เลื่อนหาคลื่นวิทยุอยู่ตลอดเวลามันน่ารำคาญจนผมทนไม่ไหวเกิดโมโหขึ้นมา ผมจอดรถข้างทางแล้วเขาก็ออกจากรถไปตะโกนเรียกผมว่าไอ้คนเฮงซวย ลูกผมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไปแล้ว
ความเจ็บปวดมันเกินกว่าจะรับจริง ๆ ผมอยากให้มันพ้น ๆไปเสียที ผมได้สัญญาว่าจะหาความสงบสุขกับแอนนา ซึ่งเธอได้พยายามให้ผมได้พ้นจากห้วงทุกข์นี้
ผมรับมือกับการจากไปของซูซานในหลาย ๆ ทาง ไม่ว่าจะบอกกับตัวเองว่าผมไม่ได้รักเธอ ก้าวร้าวใส่เธอที่ทิ้งให้เดวิดกับผมเผชิญชะตากรรมกันตามลำพัง ผมเกลียดที่เธอทำให้ชีวิตแอนนาต้องกระทบไปด้วย
ความทุกข์ระทมของผมมันฝังลึกเกินคาด ทั้งที่ก่อนหน้านั้นผมเคยคิดที่จะทิ้งชีวิตคู่แล้วจากเธอไปเสีย ผมคิดเสมอว่าความทุกข์กับการสูญเสียใครสักคนเป็นสิ่งเดียวกัน
ตั้งแต่ผมย้ายออกมาจากซูซาน ผมยังไม่ได้เริ่มงานเขียนอะไรเลย ใช้แต่เงินที่สะสมไว้ ผมนั่งอยู่กับที่ได้ไม่กี่นาทีก็ต้องลุกขึ้นเดิน เรื่องนอนหลับนั้นเป็นไปได้ยากมาก ถ้าตื่นจากหลับผมก็จะรู้สึกเหมือนจะอ๊วกทุกที ผมก้มหน้าเดินคอตกเพราะความทุกข์วันละหลายไมล์ทีเดียว บางครั้งก็รู้สึกหอบหายใจติดขัดขึ้นมาเฉย ๆ แต่จากผลตรวจเช็คสุขภาพบอกว่าผมแข็งแรงสมบูรณ์ดีทุกอย่าง
ทุกคนในครอบครัวผม รวมทั้งเพื่อน ๆ ต่างพากันเป็นห่วง แต่ผมก็ไม่เคยไปปรับทุกข์กับใคร ผมเดินกลับเข้าบ้านเหมือนหมาที่ได้รับบาดเจ็บเดินลากขากลับมาเลียบาดแผลในมุมมืดใต้กองไม้
เดวิดได้กลับไปอยู่โรงเรียนประจำที่ร็อคตันแล้ว โรงเรียนอยู่ห่างจากบ้านประมาณ สี่สิบไมล์ เค้าไม่อยากแม้กระทั่งมองหน้าผมด้วยซ้ำไป ประโยคหนึ่งที่เขาพูดก่อนจะขึ้นรถจากไปว่า : พ่อเป็นฆาตกรฆ่าแม่
ผมยอมรับที่เค้ากล่าวหาแต่ว่าไม่ใช่ในความหมายที่เค้าคิด เดวิดคิดว่าช่วงเวลาแปดเดือนที่ผ่านมานั้นเป็นช่วงเวลาที่เรื่องนี้เกิด แต่ผมคิดว่ามันเกิดมาตั้งแต่สิบปีที่แล้วโน่น
คืนนั้นเป็นคืนแรกที่ผมเข้าไปนั่งบนเตียงในห้องนอนของเขา ผมจ้องไปที่ผมหางม้าของเดวิด เบ็คเฮมในรูปที่ติดอยู่ในห้อง ผมดื่มวิสกี้บัวบันรสละมุนไปด้วยพร้อมทั้งคิดว่าผมมาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน


Sixty three

หกเดือนผ่านไป ว่ากันว่าเวลาช่วยรักษาแผลใจให้ได้ แต่ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กัน แล้วคนที่พูดนั้นรู้ได้อย่างไร
ผมกับแอนนาได้จัดเจอกันอีกครั้งที่ปารีส เธอบอกกับพอลว่าเธอจะไปจัดการเกี่ยวกับด้านการเงินในโครงการร่วมกับบริษัทโทรทัศน์ฝรั่งเศส พอลไม่เคยซักถามรายละเอียดจากเธอเลย ซึ่งมันทำความลำบากใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก เพราะเธอจะเป็นฝ่ายที่ต้องโกหกอยู่เสมอ
ไม่นานความสำนึกมันเริ่มก่อตัวขึ้น เวลาคุยโทรศัพท์น้ำเสียงของเธอร้าวรานและไม่มีชีวิตชีวา เธอส่งอีเมล์ให้ผม :
ฉันไม่มีข่าวอะไรจะแจ้งคุณค่ะ ฉันรู้ว่าอาจจะทำให้คุณไม่พอใจ แต่ตอนนี้ฉันกำลังพยายามที่จะต่อสู้อยู่กับมัน...ฉันรู้ว่าฉันยังไปไม่ถึงไหน แต่ฉันไม่อยากอยู่ในสภาพอย่างนี้อีกต่อไป มันสับสนไปหมดซึ่งคุณก็รู้ดี ฉันรู้ว่าฉันเป็นต้นเหตุทำให้ชีวิตคุณต้องเป็นอย่างนี้ แต่ฉันเองที่ตกในสภาพนี้ก็เพราะคุณเช่นกัน
ฉันได้แต่หวังว่าเรายังคุยกัน หัวเราะด้วยกันได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ฉันก็รู้ว่าที่คุณต้องการจริง ๆ มันไม่ใช่แค่นั้น ฉันนึกถึงช่วงวันหยุดที่เราเคยมีด้วยกันแล้วฉันก็อยากกลับไปเป็นอย่างนั้นอีก สักครั้งก็ยังดี หรือแม้แต่การเฝ้ารอว่าคุณกำลังจะมาหาฉันที่ลอนดอนก็ทำให้ฉันมีความสุขได้แล้วล่ะค่ะ บางทีความจริงในชีวิตมันก็ยากที่จะยอมรับเหมือนกันนะค๊ะ แต่ก็มีความจริงข้อนึงสำหรับชีวิตที่ทุกคนต้องยอมรับ นั่นก็คือความตาย เพียงแต่ว่ามันจะมาเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
ฉันรู้สึกเหมือนซูซานเฝ้าคอยหลอกหลอนฉันค่ะมาร์ค เวลาฉันเห็นพอล ฉันเห็นการนอกใจ ความไม่ซื่อสัตย์ และการโกหก เวลาฉันเห็นคุณ ฉันเห็นทั้งความสุขและความเจ็บปวดที่ฉันเป็นคนทำ
เอาล่ะค่ะ ตอนนี้คุณอาจอยากจะตะโกนใส่ฉันว่าแล้วทำไมฉันไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงมันล่ะ คำตอบคือฉันไม่รู้ค่ะ ฉันรู้แต่ว่าฉันไม่อยากทำร้ายคุณไปมากกว่านี้อีก
รักคุณค่ะ
แอนนา
ผมฉลองคริสต์มาสคนเดียวในบ้านผีสิงหลังนี้ ส่วนเดวิดใช้ช่วงเวลาวันหยุดนี้ที่บ้านเพื่อนของเขาที่เพรสตัน
แอนนาฉลองคริสต์มาสกับพอลและครอบครัวของเธอ ผมเกลียดการถูกผลักใสออกจากสังคมของชีวิตที่ควรจะเป็น ความเดียวดายในวันนี้มันรุนแรงกว่าวันอื่น ๆ ในตลอดชีวิตที่ผ่านมาทีเดียว
ข้อความจากแอนนา :
อีกแค่สัปดาห์เดียว ฉันจะพาคุณไปสู่วิมานชั้นสูงสุด คุณจะสุขสมใจ และเราจะเป็นหนึ่งเดียวค่ะ
วันก่อนขึ้นปีใหม่ ผมโทรหาเธอ ผมต้องใช้นิ้วหนึ่งอุดหูไว้ เพราะเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเหล่าสาว ๆ ดังเข้ามาตามสายจากในบาร์ ที่แอนนาอยู่ ผมรู้ว่าปีใหม่ปีนี้คงจะเป็นปีที่แย่ที่สุดแน่ ๆ ใจผมเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ผมรู้สึกซังกะตาย
- ก็ไหนคุณบอกว่าคุณจะไปปารีสกับผม แล้วทำไมตอนนี้คุณบอกว่าคุณไม่อยากเจอผมอีกต่อไปล่ะ ผมตะโกนไปตามสาย
- ผมถามคุณว่าคุณตกลงตามนี้หรือเปล่า แล้วคุณก็บอกว่าเราน่าจะทำตามนั้นได้
- ผมตกลงตามนี้นะ ผมตะโกนบอกไป พยายามที่จะไม่คิดว่ามันจะลงเอยอย่างไร
- ถ้างั้นผมจะเจอคุณพรุ่งนะ
- คุณแน่ใจหรือค๊ะว่าเราจะทำตามนั้นแน่ เธอถามมาอีกครั้ง
ผมสามารถรู้ได้ว่าผมคงจะเสียเธอไปในไม่ช้า และก็คงไม่มีทางที่ผมจะทำอะไรได้



Sixty four

ที่ผับแจ๊สชื่อ Trois Mailletz ซึ่งตั้งอยู่ที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเชนไกล้ ๆ กับ Notre Dame ภายในจะเป็นผนังอิฐเปลือย บรรยากาศอบอวลไปด้วยความเสน่หา ผมกับแอนนายืนเคียงข้างกันอยู่ที่บรรไดทางขึ้น ดื่มเบียร์จากขวด
ผมอยู่ที่ปารีสกับผู้หญิงที่สวยที่สุดและผมก็อยู่ในภวังค์รัก มันเป็นความรักที่งดงามที่สุด ทุกอย่างลงตัวไปเสียหมดสำหรับคืนนี้ จะเอาชีวิตความเป็นอยู่ในฮอลลีวูดทั้งชีวิตมาแลกผมก็คงไม่ยอมแลก
เราขับรถฝ่าหิมะมุ่งหน้าสู่Reims ทั้งเมื่องปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนสุดตา มันเหมือนเป็นโลกแห่งความสัมพันธ์ระหว่างสองเรา มันเร่าร้อนเกินจริง
เราหยุดแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังจ่ายค่าน้ำมัน ผมหันไปเห็นเธอกำลังกวาดเกล็ดหิมะออกจากกระจังหน้ารถ มันทำให้หัวใจผมวูบวาบแล้วผมก็ตกหลุมรักเธอหนักเข้าไปอีก พอผมเดินกลับไปที่รถเธอได้กลาดเกล็ดหิมะด้านคนขับเสร็จพอดี ตัวเธอสั่นเทาด้วยความหนาว เธอไม่ชอบความหนาวเอาเสียมาก ๆ
ผู้หญิงคนนี้ช่างวิเศษโสภาเสียเหลือเกิน ผมชอบเวลาเธอใส่เสื้อผ้ายับ ๆ ที่เธอไม่ได้รีด บางครั้งผมก็รีดให้เธอ หรือเสื้อแจ๊คเก็ตที่ชายลุ่ยซึ่งเธอไม่สนใจที่จะซ่อม ผมชอบความหรูหราสง่างามตามแบบของเธอ ผมชอบเข็มกลัดที่เธอกลัดซ่อนไว้ในกระโปรงเพื่อให้กระโปรงพอดีตัวเธอ ผมชอบเวลาเธออุทาน “ยอดเยี่ยม” ทุกครั้งที่ผมออกความเห็นทะลึ่ง ๆ ออกมา ผมชอบเธอไปเสียทุกอย่าง
บางทีผมก็อยากจะห่าง ๆ เธอไว้ บางครั้งผมก็อยากจะกอดเธอให้แหลกคามือไปเลย รักละมุนกับรักรุนแรงมันผสมผสานกันนัวเนีย ผมเป่าลมหายใจอุ่นใส่มือเธอเพื่อคลายหนาวให้เธอ
ในใจของผมปั่นป่วน มันจะเปิดรับเธอลึกเข้าไปทุกที
ความปรารถนา ความขาดหาย การตายจาก ...


Sixty five

ขณะเดินอยู่ในความสลัวที่ร้าน Moet ใน Reims แอนนาครุ่นคิดอยู่ว่าเธอจะรับมือกับความทรมานนี้ได้แค่ไหน
ผมเดาความคิดเธอไม่ออกว่ามันไปในทางความใคร่หรือว่าความต่อต้านที่เธออยากจะหลุดพ้น ฉันจะรับมือมันได้ไปถึงไหน ฉันจะทนได้นานแค่ไหน กับพอล มาร์ค แม่ และน้องสาวของฉัน สำหรับผมแล้วดูเหมือนเธอจะเป็นห่วงความเจ็บปวดของคนอื่นมากกว่าของตัวเอง หรือว่าเธอใช้ความเจ็บปวดของเธอเพื่อกันเธอให้ห่างไกลจากโลกที่เป็นจริง
เธอคิดว่าการที่ทำให้ตัวเธอเหมือนไม่มีตัวตนนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ผมว่ามันเป็นเหมือนไวรัสที่กำลังคุกคามชีวิตของเธอมากกว่า ผมลองคิดถึงผู้หญิงทั้งหมดที่ผมได้รู้จักทั้งหมดในชีวิตผม พวกเธอยกเอาความสุขของคนอื่นไว้ก่อนความสุขของตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นซูซาน แมรี่ หรือ แอนนา ไม่มีใครคิดที่จะทิ้งมรดกแห่งความสุขไว้ข้างหลังกันเลย
เหมือนประชด หรือว่ามันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้จริง ๆ
- คุณว่าฉันจะทนต่อไปได้ใหมค๊ะ เธอถาม ขณะที่สายตามองไปอย่างเลื่อนลอยภายในห้องเก็บเหล้า ที่หนาว และชื้น
มันก็มีวิธีที่จะรับมือกับความเจ็บปวดที่รุนแรงแบบนี้ เพื่อนคนนึงบอกกับผม นั่นก็คือเราจะต้องแยกระหว่างร่างกายกับจิตใจออกจากกัน สักระยะหนึ่งความเจ็บปวดจะเบาบางลงจนสงบในที่สุด ผู้ชำนาญในด้านนี้บอกไว้ว่าเราจะต้องคอยระวังไว้ อย่าให้ตกเป็นเหยื่อของความเจ็บปวดแบบนั้นอีก ไม่เช่นนั้นแล้วมันจะกลับมาอีกครั้ง
สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่าเหมือนกับเธอมีความเจ็บปวดเก็บสะสมไว้มากมายมานานแล้ว ความทุกข์ทรมานเธอมีอยู่มันยากที่จะสลัดทิ้งไปได้ง่าย ๆ แม้ว่าเธอจะบอกกับตัวเองว่ามีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตเธอมากมายเช่นกัน ความทุกข์ตรมที่มีทำอะไรเธอไม่ได้หรอก
แน่นอนละ ชีวิตเธอไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ชีวิตของเธอ เพราะเธอทั้งฉลาด ปราดเปลื่อง และไปถึงไหนต่อไหนมาหมดแล้ว แต่มันอยู่ที่ความเจ็บปวดภายในที่เธอเก็บไว้ต่างหากที่ทำลายเธออยู่ทุกวันนี้
- คุณคิดว่าฉันจะยืนหยัดต่อสู้กับความทรมารนี้ได้อย่างไรค๊ะ
แล้วผมจะตอบคำถามแบบนี้ยังไงดีล่ะ ผมรู้ว่าเธอไม่ได้หักหลังใคร ชีวิตก็เหมือนคนป่วยกับหมอที่คอยซักถามอาการของคุณ หากว่าคุณได้บอกหมอไปอย่างหมดเปลือกแม้แต่สิ่งที่คุณไม่อยากพูด ในที่สุดหมอก็สามารถรักษาคุณได้ แต่ถ้าคุณยิ่งเก็บความลับของอาการของคุณไว้นานเท่าไหร่มันก็เป็นผลเสียต่อคุณเท่านั้นเอง





Create Date : 31 สิงหาคม 2553
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 11:40:59 น. 3 comments
Counter : 216 Pageviews.

 


โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:6:53:49 น.  

 
สุดยอด!
เขียนเก่งจังเลยค่ะ


โดย: วฬายุ วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:8:56:09 น.  

 
อ้าวววว
แปลเหรอค่ะ
แต่ ก็แปลเก่งอีกนั่นแหละ

รออ่านต่อๆ


โดย: วฬายุ วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:8:57:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maxmaya
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แม๊กซ์ ครับ อยากเขียนนิยายแต่ไม่เก่ง ก็เลยอาศัยการแปลจากที่คนอื่นเขียนไว้แล้วไปก่อน รวมทั้งงานเขียนอื่น ๆ แล้วแต่อยากจะเขียน ลองติดตามกันดูนะครับ

เปลือย...ใจ ใส่บันทึก เป็นเรื่องราวของ

ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีแล้ว แต่โชคชะตาพาเธอ

ให้ไปพบกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งชักนำชีวิต

ของเธอ ให้ต้องเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย

ที่พูดไม่ได้ห้ามใจไม่อยู่ เลยต้องเปลือยใจใส่

ไว้ในบันทึก.....อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับใคร

หลายคน แตกต่างกันไปในรายละเอียด และ

จุดจบ.......

สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจผลิตภันณ์จาก Dream Cosmetique จาก Link เวชสำอาง ข้างล่างนี้ ท่านจะได้รับส่วนลด 10% ทันที เพียงท่านแจ้งการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ว่าได้ข้อมูลจาก Maxmaya http://www.dreamcosmetique.com/

New Comments
Friends' blogs
[Add Maxmaya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.