นิยายแปล..........แปลแหลก แปลกนักแล Present to you by Maxmaya

"ATTITUDE" The pleasure you get from your life is equal to the "ATTITUDE" you put into it
Group Blog
 
All blogs
 
สามีดีแตก บทที่ 41 - 45




Forty one

การมีความสัมพันธ์นอกชีวิตคู่ก็เหมือนกับการเอาผ้าปิดแผลไว้นั่นเอง มันไม่ใช่เรื่องเซ็กซ์เพียงอย่างเดียวที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าคุณจะยอมรับมันหรือไม่ก็ตาม ชีวิตคู่มันเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ
คุณอาจจะบอกกับตัวเองว่าสิ่งที่คุณได้จากการมีชู้รักเป็นสิ่งทดแทนในสิ่งที่คุณไม่สามารถมีได้จากที่บ้านของคุณและมันก็จะทำให้อะไร ต่อมิอะไรดีขึ้นได้ ก็อาจเป็นไปได้สักระยะหนึ่ง แต่พอนานไปความสำนึกมันก็จะเริ่มบั่นทอนคุณไปทุกที เหมือนน้ำกรดกัดกร่อนอะไรอย่างนั้น คุณอาจจะมีชู้รักครั้งแล้วครั้งเล่าและมันก็จะทำให้คุณกลายเป็นคนขี้โกหกไป หรือไม่คุณอาจจะสำนึกได้แล้วจบมันลงไปเสีย เมื่อคุณจบมันลงไปได้คุณก็จะรู้ว่าชีวิตที่อยู่อย่างไม่มีความผิดติดหลังนั้นมันสบายใจกว่าเยอะ แต่แล้วความไม่รู้จักพอมันก็จะก่อตัวขึ้นมาได้อีก และคุณก็ได้รู้ว่าการจบความสัมพันธ์ไปนั้นมันไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่แท้จริง ไม่ช้าไม่นานคุณก็จะเริ่มโหยหาในสิ่งที่คุณต้องการอีก การเริ่มคบชู้นั้นเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่แสดงให้คุณรู้ว่าชีวิตคู่ของคุณมันได้ล้มเหลวลงไปแล้ว
เหมือนที่เจนพูดไว้ว่า มันเหมือนกับคุณได้ขนมฟรีมาชิ้นนึงแล้วคุณก็กินมันเสียด้วยซิเพียงแต่มันไม่ใช่ก้อนเค้กหรอก มันเป็นแต่เพียงเศษเค้กเท่านั้นเอง
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับซูมันคงไม่มีทางดีขึ้นได้แน่ คงจะมีแต่ปิดฉากสุดท้ายเท่านั้นเอง ส่วนแอนนากับพอลจะเป็นอย่างไรนั้นเค้าอยู่กันได้อย่างไรผมก็ไม่รู้ จากวินาทีแรกที่ผมอยากจะทิ้งแอนนาไปอยู่กับเธอ เธอก็ปิดกั้นโอกาสนั้นเสีย ทันใดผมก็เลยเหมือนคนโดนลอยแพ
ผมทะเลาะกับซูอยู่หลายปี คิดว่าสักวันหนึ่งผมจะต้องหาทางออกให้ได้ ผมจะแก้ปัญหานี้ และผมก็จะรู้ได้เมื่อถึงคราวที่ผมจะต้องไป
หลายปีที่ผ่านมา เราทะเลาะกันเรื่องที่ว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างไร แต่เราไม่เคยถามกันเลยว่าทำไมเราถึงยังอยู่ด้วยกัน ถ้าหากว่าเราได้เคยถามกันอย่างนั้นแล้ว คำถามต่าง ๆ ในวันนี้ที่ยังไม่มีคำตอบอาจจจะได้คำตอบที่ชัดแจนขึ้นมาก็ได้ แม้แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้คำตอบที่ว่าทำไมรักเราถึงได้ลดลงทุกวันมานานแล้ว แต่ผมก็จะหาคำตอบให้ได้ และผมก็จะหามันมาด้วยความเจ็บปวดอย่างคาดไม่ถึง



Forty two

ผมยังคงเดินทางไปลอนดอนอยู่เรื่อยด้วยข้ออ้างทางการงาน ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจนฝ่ายบัญชีเริ่มสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เรานอนดูทีวีถ่ายทอดเทปบันทึกฟุตบอลแชมป์เปียนลีกระหว่างแมนยูกับเรียลแมดริด อยู่บนเตียงที่โรงแรมในเคนซิงตัน ผมเป็นแฟนของแมนยู และผมบอกกับแอนนาว่าเธอน่าจะเป็นแฟนของเรียลแมดริดเพราะเธอมองดูละม้ายไปทางชาวสเปนมากกว่าผม แล้วเราก็เริ่มตั้งกฏการแข่งขันขึ้นมาเองว่า
ถ้าลูกออกข้างฝ่ายแพ้จะต้องทำออรัลเซ็กซ์ให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งนาที
กระแทกจากด้านหลัง ทีมที่บาดเจ็บจะนอนราบคว่ำหน้าแล้วทีมที่กระทำต้องนวดให้โดยใช้ร่างกายแทนมือ
ทีมที่ได้ฟรีคิก จะได้รับการฟอนเฟ้นที่บริเวณไหนก็ได้ที่คุณต้องการเป็นเวลาหนึ่งนาที
ใบแดง จะได้รับจูบอย่างดูดดื่มหนึ่งครั้ง แล้วฝ่ายที่ได้ใบแดงต้องนั่งดูอีกฝ่ายถึงจุดโดยห้ามแตะต้องเด็ดขาด
ใบเหลือง ฝ่ายที่ได้ไปจะต้องถูกมัดกับเตียงแล้วให้อีกฝ่ายเล่าเรื่องเซ็กซ์ที่ตนเคยทำกับคนอื่นโดยที่โลมเล้าฝ่ายที่ถูกมัดไปด้วย
ได้ประตู คือ เราจะมีเซ็กซ์โดยสอดใส่ในระหว่างที่ทีมชนะกำลังฉลองกันจนกว่าเกมจะเริ่มใหม่
ทีมที่ชนะจะได้รับการถึงจุดสุดยอดเป็นรางวัล
ผล แมนยูชนะสี่ต่อสาม
สุดยอดจริง ๆ
สุดท้ายผมยังไม่ได้เห็นกรรมการกำกับเส้นโบกธงออฟไซด์โดยที่ผมยังไม่ได้ถูกโลมเล้าเลยสักครั้งเดียว



Forty three

ผมยังอยู่ในโรงแรมที่เคนซิงตัน ส่วนเธออยู่ที่งานกินเลี้ยงเล็ก ๆ กับเพื่อนๆ ที่ทาวน์เฮ้าที่ฟูลแฮม ผมเพลียจากการร่วมรักกับเธอและคิดว่าเธอเองก็คงเช่นกัน ในขณะที่เธอกับพวกเพื่อนดูทีวีรายการฟุตบอลอังกฤษกันอยู่ ผมเชื่อว่าเธอจะต้องสะท้านเสียวไปกับเกมนั้นโดยมีผมอยู่ในจินตนาการด้วย และ เพื่อน ๆ ของเธอก็คงจะไม่ระคายแม้แต่น้อย ผมละอิจฉาเธอจริง ๆ ที่ผมถูกปิดกั้นจากชีวิตปกติธรรมดาของเธอ
ทุกคนต่างก็มีชีวิตลับส่วนตัวกันทั้งนั้น ชีวิตส่วนตัวที่ไม่มีใครเข้าถึงได้ เหมือนมีม่านบังตา เราโลดแล่นออกไปสู่ความเดียวดายส่วนตัวโดยที่มีคนพิเศษจริง ๆ เท่านั้นที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม แอนนาเปิดทีวีให้หนังเรื่องหนึ่ง เล่นไปเรื่อย ๆ ระหว่างที่เราอยู่บนเตียง เพื่อให้เธอรู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้อง บางครั้งแอนนาก็คิดถึงเรื่องเก่า ๆ สมัยที่เธอยังเป็นเด็ก เรื่องที่ไม่ชวนให้คิดถึง เรื่องที่เจ็บปวด จนกระทั่งมีอะไรมากระชากความคิดเธอออกจากความนึกคิดเหล่านั้น เธอจึงกลับมาสู่โลกแห่งปัจจุบันอีกครั้ง
เธอยังมีจินตนาการที่เลือนลางเกี่ยวกับครอบครัวของเธอในอนาคตที่มีลูก ๆ และความสงบสุขกับพอล ซึ่งที่เจนเคยพูดไว้ก็คงไม่ผิด
ผมไม่สามารถให้เหตุผลที่ดีให้กับเรื่องนี้ได้เลย
ผมเป็นคนรักในฝันของเธอ ความใฝ่ฝันของผู้ชายส่วนใหญ่ เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่สำหรับผม แต่ถ้ามันเป็นเพียงเพราะเรื่องเซ็กซ์ เธอก็ไม่น่าจะหลงรักผมได้ หรือพูดในสิ่งที่เธอเคยพูดออกมา ถ้าอย่างนั้นแล้วสิ่งที่เธอต้องการจริง ๆ คืออะไรกัน มากกว่าความใคร่ ยิ่งกว่าแรงปราถนา เหนือกว่าความสัมพันธ์ที่พิกลเช่นนี้
ยิ่งกว่าคนรักและเพื่อนที่แสนดี
ยิ่งกว่าชายคนพิเศษที่สุดในโลก
วันต่อมาเรานัดเจอกันที่ผับแถว ๆ แสตรนด์เรานั่งกันอยู่ในสวนเบียร์ต่างฝ่ายต่างเครียด
- ทำไมคุณถึงยังอยู่กับเค้าล่ะแอนนา
- เค้าเป็นคนเดียวที่ชั้นมีมาตลอดนะค๊ะมาร์ค
- งั้นหรือ
- เค้าเป็นคนดีจริง ๆ เวลาที่ชั้นโมโหโทสาขึ้นมาเค้าก็ไม่เคยตอบโต้ เค้าใจเย็นตลอดมา
ผมอยากจะบอกกับเธออีกว่า มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ใช่มั๊ย แต่ไม่ว่าที่เธอพูดไปเพียงเพราะไม่อยากให้ผมต้องเจ็บปวด หรือ เธอแค่โกหกให้พ้น ๆ ไป หรือ เธออาจจะเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ ก็ได้
ผมอยากได้ยินเธอบอกถึงความต้องการที่แท้จริงของเธอ แต่กลับได้เพียงแค่ความประทับใจในเปียโนวางอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในอพาทเม้นท์ของเธอ ซึ่งมันทั้งหนัก ทั้งราคาแพงและภาษีสูงหากว่าจะต้องขนย้าย มันก็เลยยังวางอยู่อย่างนั้นเป็นที่เก็บฝุ่นไปเรื่อย ๆ เปียโนสมบัติแสนรักของเธอที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่าจะเล่นมัน แต่จนบัดนี้มันเสียงของมันก็คงจะแปล่งไปหมดแล้ว
นี่มันคงเป็นความทรนงของนักรัก ที่ไม่ยอมให้รักมันเป็นไปตามทางของมันเอง
- ชั้นไม่ใช่ตัวคนเดียวนะค๊ะมาร์ค เราต่างก็เป็นเหมือนที่พึ่งพิงแก่กันไม่ใช่หรือ
- ถ้างั้นคุณจะมีชีวิตคู่ไปทำไมกัน หากคุณยังต้องการที่พึ่งพิงอีก
ผมงงงันจนไม่รู้จะพูดยังไงดี ถ้าผมเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด แล้ว พอลจะเป็นอะไรสำหรับเธอได้
- คุณจะอยู่กับเค้าได้หรือ
เธอมองผมผ่านขอบแก้วไวน์ สีหน้าของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปจากความกลัดกลุ้มเป็นความระแวงว่าผมจะเป็นผู้ชายอีกคนที่จะทำให้เธอติดกับอีกหรือเปล่า
- ชั้นเป็นคนเดียวจริง ๆ ที่รู้จักพอลดีที่สุดค่ะ
- แต่ถ้าคุณไม่ได้รักเค้า แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ
- ชั้นคิดว่าเราจะไม่ทำอย่างนี้กันไงล่ะค๊ะ
ทันใดผมก็รู้สึกเหมือนโดยปิดประตูใส่หน้า หัวใจของแอนนาเหมือนหอยเชล์ลที่คอยปกป้องเธอทุกครั้งที่มันรู้สึกว่ามีอะไรเข้าไกล้มันก็จะปิดฝาในทันที และมันก็จะตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
- ผมไม่เข้าใจคุณเลยจริง ๆ แอนนา
- ชั้นรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อยนะค๊ะ คุณทั้งสองก็เหมือนกัน ต่างก็พยายามที่จะให้ชั้นหาคำตอบให้ได้จนชั้นแทบที่จะอึดอัดใจตายอยู่แล้ว
- ผมก็แค่อยากที่จะรู้ว่าคุณต้องการยังไงกันแน่
- แต่ชั้นไม่เคยขอให้คุณทำอะไรอย่างนี้เลยนะค๊ะ เธอเหน็บผมเข้าให้ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้ผมจังงังอยู่ท่ามกลางความสว่างจ้ายามบ่ายในหน้าร้อนของอังกฤษ ก็แล้วทำไมผมจะไม่อิจฉาล่ะ ถึงแม้ว่าเราได้สัญญากันไว้แล้ว แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในชิวิตจริง ๆ ของเธอ
คืนนั้นเราพบกันที่เชลซี ในงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำของสมาคมนักเขียนบท ในงานผมส่งสายตาเจ้าชู้กับสาวเสน่ห์แรงนัยตาเฮเซลนัท นักเขียนบทความคนหนึ่ง เพราะผมอยากให้แอนนาเห็นแล้วแสดงความรู้สึกจริง ๆ ของเธอที่มีต่อผมออกมา ซึ่งเธอกำลังจ้องมาทางผมจากอีกด้านหนึ่งของโต๊ะ
พองานเลี้ยงเลิกราแล้ว ผมยืนรอเธออยู่ห่างจากร้านประมาณร้อยเมตรเพราะไม่อยากให้ใครเห็นว่าเราออกจากงานไปด้วยกัน เธอเดินมาทางผมที่มุมหนึ่งของถนนในขณะที่ผมกำลังโบกเรียกรถแท๊กซี่
- คุณจะมาที่โรงแรมกับผมหรือเปล่าครับ
- ชั้นไปไม่ได้หรอกค่ะ
- คุณไม่ต้องบอกเค้าก็ได้ว่ามันจบลงไปแล้ว คุณแค่ไม่ต้องกลับบ้านสักคืนนึง มันไม่ยากหรอก ถ้าคุณจะทำจริง ๆ นะ
- ชั้นทำอย่างนั้นกับพอลไม่ได้หรอกค่ะ
- แต่คุณก็ทำกับผมได้
- ค่ะ และบางทีชั้นควรที่จะหยุดทำได้แล้ว เธอตอบ และนี่ก็เป็นอีกแอนนาที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน
เธอขึ้นรถของเธอแล้วขับออกไป อย่างเยือกเย็นและแข็งกร้าว ปล่อยให้ผมเคว้งคว้างอยู่คนเดียวอย่างนั้น
ในคืนนั้นผมนอนไม่หลับแม้แต่น้อย ตอนรุ่งเช้าผมก็เลยออกไปเดินเด่นแถวถนนเบย์วอเตอร์ ผิวถนนสะอาดเพราะฝนที่ตกลงมาเมื่อไกล้รุ่ง อากาศเริ่มอุ่นจากแสงทองที่เริ่มทอส่องฟ้ายามเช้า มีคนจรร่อนเร่นอนขดตัวอยู่ที่ประตูหน้าร้านแห่งหนึ่ง ผมซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งมานั่งจ้องมองโดยที่ไม่ได้อ่านสักตัว เพิ่งเจ็ดโมงเช้าผมก็เริ่มซังกะตายกับชีวิตเสียแล้ว
ผมอยากจะคลานเข้าไปขอนอนกับคนจรใต้ผ้าห่มที่หน้าร้านนี้เสียให้รู้แล้วรู้รอดไป
ผมเดินกลับเข้าโรงแรม ไม่ได้โกนหนวดเครา ทั้งยังรู้สึกเคว้งคว้าอีกด้วย
- คุณไปไหนมาค๊ะ
ผมเงยหน้าขึ้นแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง แอนนานั่นเอง เธอดูเศร้าสร้อย ขอบตาแดงก่ำมีน้ำตาเอ่อปริ่ม ๆ
- ฉันเที่ยวตามหาคุณไปทั่ว
เธอรักผมมากมายขนาดนี้ได้อย่างไรกันในเมื่อเธอยังเลือกที่จะอยู่กับพอล
- ผมขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อคืนนี้ ผมพึมพัมออกไป
- ทำไมคุณถึงได้อยากให้ชั้นหึงหวงคุณด้วยนะ ชั้นก็หึงเป็นเหมือนกันนะค๊ะ
- มันก็เป็นธรรมดาไม่ใช่หรือ
- เหมือนกับที่ไมเคิลทำกับชั้นนั่นล่ะค่ะ เธอบอก เอ่ยชื่อคนรักนักแสดงของเธอที่ทำร้ายจิตใจเธอ เค้าทำให้ชั้นบ้าคลั่ง จนชั้นได้สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่หึงหวงใครอีก ชั้นอิจฉาในสิ่งที่คุณทำได้อย่างไรกันในเมื่อตัวชั้นเองก็ยังอยู่กับพอล
- แล้วคุณคิดว่าผมไม่อิจฉาคุณหรือ ที่คุณยังอยู่กับพอลน่ะ มันกัดกร่อนผมลงไปทุกวันรู้มั๊ย
- ชั้นก็ได้บอกกับคุณแล้วไงค๊ะว่าอย่ามารักชั้นให้มันเกินไป คุณควรจะหาผู้หญิงคนที่สามารถรักคุณได้อย่างเต็มร้อยนะค๊ะ
สิ่งที่เธอพูดนะมันไม่ใช่หรอก เพราะผมไม่ได้ต้องการใครก็ได้ให้มารักผม ผมต้องการคนที่ผมรักตอบได้เพื่อผมจะได้ไม่ทำผิดซ้ำสองอีก ระหว่างคนรักกับเพื่อนสนิทนะ ถ้าซูซานเป็นอย่างนั้นไม่ได้ และถ้าผมไม่สามารถรักเธอแบบนั้นได้ ผมว่ามันก็ถึงเวลาที่จะต้องปล่อยเธอไป เลิกเป็นตัวถ่วงสำหรับเธอ แล้วปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไปของมันเอง



Forty four

ตอนนี้ผมได้รู้แล้วว่าแอนนาไม่ได้ต้องการผมจริง ๆ ผมไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เรื่องมันไม่ได้มีแค่แอนนาเพียงอย่างเดียว ผมรู้ว่าถึงอย่างไรในใจผมก็คงจะไม่ยอมให้ตัวเองได้ครองแอนนาเหมือนกับที่เจนเคยพูดเกี่ยวกับตัวผมเอาไว้ ถ้าผมต้องทิ้งซูซานไปจริง ๆ ผมก็คงต้องลงโทษตัวเองโดยทิ้งแอนนาไปด้วยเช่นกัน นั่นคือแนวคิดของความสำนึกผิดที่ผมคิดออกมาได้
ผมไม่สามารถแยกแยะระหว่างความรัก กับความสำนึกผิดได้เลย เจนเคยพูดไว้ครั้งหนึ่งว่าผมสามารถเป็นคาธอริกที่ดีมากคนนึงทีเดียว



Forty five

หลังจากกลับมาถึงแมนเชสเตอร์ ผมก็ได้โทรหาซูซาน บอกกับเธอว่าผมต้องการจะเจอเธอ
เรานั่งกันอยู่ในห้องทำงานของผมและปิดประตูสนิท โปสเตอร์หนังมากมายปะติดอยู่ที่ฝาด้านหนึ่งของห้อง บทหนังที่ผมเคยเขียนไว้เมื่อสมัยที่ชีวิตผมยังมีความสุขและความสำเร็จดีอยู่ ผมรู้สึกเหมือนมันผ่านนานเหลือเกิน
เมื่อมองดูหน้าเธอมันทำให้ผมรู้สึกละอายจนสุดจะทนเหมือนพระเจ้ากำลังชี้หน้าตราบาปผมอยู่อะไรอย่างนั้น
มันเหมือนผมกำลังยืนมองตัวเองอยู่ ตัวผมเองที่พิการและพยายามที่จะเดินให้ได้ ผมเพ่งมองไปที่โปสเตอร์ใบหนึ่ง เป็นรูปขยายของผู้หญิงคนหนึ่งที่แสดงสีหน้าความโกรธออกมา เป็นภาพในโทนสีน้ำตาลแบบเก่า ๆ ของหนังเรื่อง Loss ที่ครั้งหนึ่งผมเป็นคนสร้างงานจินตนาการนั้น
- ระหว่างเรามันจบลงแล้วนะซู
- แต่เราก็จะลองมันอีกครั้งไม่ได้หรือค๊ะ
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะยังต้องการผมอยู่อีกหลังจากที่ผมได้ไปมีความสัมพันธ์กันแอนนาแล้ว ทุกสิ่งที่ผมได้กระทำลงไปมันน่าจะทำให้เธอตัดใจจากผมไปได้แล้ว ผมเคยคิดไปถึงขีดจำกัดของความต้องการที่เธอมีต่อผมแต่ผมก็ไม่เห็นมัน
เพื่อน ๆ ต่างก็บอกให้เธอลืมคนเลวอย่างผมเสีย เธอจะไปได้อย่างสบายโดยไม่ต้องมีผม
- ผมทำไม่ได้หรอกซู
- แต่ชั้นคงไม่สามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีคุณนะค๊ะมาร์ค
- แต่ผมทนที่จะทำอย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้วจริง ๆ นะซู
ซูซานยืนขึ้นเอามือแตะแขนผมเบา ๆ น้ำตาเธอเริ่มเอ่อล้น แล้วก็ไหลออกมาต่อหน้าผม
สถานการณ์มันทำให้ผมลำบากใจจริง ๆ
- เราจะทิ้งมันไปเสียเฉย ๆ ไม่ได้นะค๊ะมาร์ค มันเกินกว่าที่เราจะทิ้งมันไปเสียง่าย ๆ
ซูพูดถูก เรามีอะไรต่าง ๆ มากมายร่วมกัน แต่ถ้าผมยอมกลับไปในตอนนี้ก็คงได้แค่ช่วยเธอเอาไว้ ซึ่งเธอไม่ได้ต้องการการช่วยเหลือแบบนี้ เธอต้องการความรัก การเทอดทูน และการเห็นคุณค่าของเธอ
ผมไม่ต้องการที่จะเป็นคนรับผิดชอบความสุขในชีวิตเธอ หรือชีวิตใคร ๆ ทั้งนั้น มันควรจะมีทางออกอื่นที่จะทำให้ชีวิตคู่ดำเนินต่อไปได้
นี่คงเป็นเหมือนหนึ่งในพวกขี้ยาที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่คิดที่จะเลิก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันมีแต่จะทำร้ายเรา
เพื่อนชายที่ทำงานคนหนึ่งของเธอโทรมาสอบถามด้วยความเป็นห่วง เธอเป็นคนเจ้าระเบียบโดยกำเนิดคนที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นคนจู้จี้ขี้บ่นไปเสียแล้ว ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แต่เท่าที่ผมคิดได้ก็คือผมไม่สามารถกลับไปเป็นอย่างเดิมได้อีก ผมรู้สึกท้องใส้มันปั่นป่วนไปหมด จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ผมลองคิดดูว่าชีวิตผมจะเป็นอย่างไรหากว่าผมกลับไปเหมือนเดิม โดยที่แอนนาก็เห็นด้วย ผมรู้ได้ว่าผมคงจะไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะพยุงมันมาให้ถึงจุดนี้ได้แน่
- เราได้ฝ่าฟันกันมาด้วยกันตั้งนานแล้วนะค๊ะมาร์ค ชั้นสัญญาว่าจะปรับตัวเอง และคุณก็เช่นกัน เราจะปรับตัวเข้าหากันไงล่ะค๊ะ
- ผมไม่ต้องการให้คุณเปลี่ยนเพื่อผม และผมเองก็ไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคุณด้วย
ก่อนหน้านี้ผมเคยใจอ่อนพอเห็นเธอเศร้าสร้อยขึ้นมา แต่ตอนนี้ผมจะไม่เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว ผมเชื่อว่ายังมีทางอื่นอีกที่ทั้งชีวิตของผมและเธอต่างก็สามารถมีความสุขได้เหมือนกัน ผมล้าเกินกว่าจะอยู่อย่างนี้ต่อไปอีก
ถึงแม้ว่าผมไม่สามารถอยู่กับแอนนาได้ ผมก็อยากให้แอนนาบอกกับผมว่าผู้ชายแบบไหนที่เธอต้องการเผื่อว่าวันหนึ่งผมอาจจะได้เป็นคนนั้น ผมได้อยู่กับความจอมปลอมนี้มานานพอสมควรแล้ว ถ้าครั้งนี้ผมทำให้มันถูกต้องไม่ได้ ผมก็ขออยู่คนเดียวดีกว่า เมื่อคิดดูแล้วมันก็ทำให้ผมกลัวอยู่หรอก แต่ถ้าขืนอยู่อย่างนี้ต่อไปมันก็มีแต่จะทำร้ายกันและกันเท่านั้นเอง
- ชั้นไม่สามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีคุณนะค๊ะมาร์ค ชั้นไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อย่างไร
เหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ มันเหมือนเป็นคำขู่ที่มีเลศนัยแฝงอยู่ ผมรู้สึกหวาดหวั่นต่อผลลัพท์ที่ผมจะสนองตอบกลับไป เหมือนผมเป็นคำตอบสุดท้ายของเธอ
- ผมไม่สามารถกลับไปเป็นอย่างเดิมได้อีกจริงๆ นะซู
ผมตัดสินก้าวออกจากห่วงโซ่ที่คล้องชีวิตผมไว้เดินสู่ความมืดมิดแทน





Create Date : 16 สิงหาคม 2553
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 14:23:04 น. 2 comments
Counter : 254 Pageviews.

 
ชอบอ่านค่ะ แต่วิจารณ์ไม่เป็น งานเขียน งานแปล ทุกชิ้น เจ้าของงานมีความตั้งใจทำ ถึงได้งานแต่ละชิ้นออกมาให้คนอ่าน ขอบคุณมากนะคะ มีมีผลงานมาให้อ่าน สู้ ๆ ต่อไปนะคะ เชื่อว่าสักวันคุณต้องเป็นมือโปร แน่ ๆ จะติดตามผลงานไปเรื่อย ๆ ค่ะ


โดย: pp IP: 118.175.107.47 วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:9:20:16 น.  

 
ขอบคุณครับ การได้รับการตอบรับจากผู้ที่ติดตามบ้างก็ถือเป็นกำลังที่ดีอีกทางนึง ขอให้ติดตามไปเรื่อย ๆ นะครับ ถ้ามีอะไรจะแนะนำก็ยินดีครับ


โดย: Maxmaya วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:19:39:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maxmaya
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แม๊กซ์ ครับ อยากเขียนนิยายแต่ไม่เก่ง ก็เลยอาศัยการแปลจากที่คนอื่นเขียนไว้แล้วไปก่อน รวมทั้งงานเขียนอื่น ๆ แล้วแต่อยากจะเขียน ลองติดตามกันดูนะครับ

เปลือย...ใจ ใส่บันทึก เป็นเรื่องราวของ

ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีแล้ว แต่โชคชะตาพาเธอ

ให้ไปพบกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งชักนำชีวิต

ของเธอ ให้ต้องเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย

ที่พูดไม่ได้ห้ามใจไม่อยู่ เลยต้องเปลือยใจใส่

ไว้ในบันทึก.....อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับใคร

หลายคน แตกต่างกันไปในรายละเอียด และ

จุดจบ.......

สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจผลิตภันณ์จาก Dream Cosmetique จาก Link เวชสำอาง ข้างล่างนี้ ท่านจะได้รับส่วนลด 10% ทันที เพียงท่านแจ้งการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ว่าได้ข้อมูลจาก Maxmaya http://www.dreamcosmetique.com/

New Comments
Friends' blogs
[Add Maxmaya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.