นิยายแปล..........แปลแหลก แปลกนักแล Present to you by Maxmaya

"ATTITUDE" The pleasure you get from your life is equal to the "ATTITUDE" you put into it
Group Blog
 
All blogs
 
สามีดีแตก บทที่ 86 - 90




Eighty six

- หล่อนไม่มีทางที่จะทิ้งเค้าไปได้หรอก, เจน พูดออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม, หล่อนได้พยายามบอกกับคุณทางอ้อมแล้วแต่คุณก็ไม่ฟังเอง หล่อนบอกใบ้ให้คุณเสียกระจ่างแจ้งออกปานนั้น
นี่เป็นอีกช่วงหนึ่งที่ขมขื่นสำหรับผม คือการที่คนอื่นรู้สึกอิ่มใจจากสภาวะที่ผมกำลังลำบากใจ ราวกับว่ามันเป็นการยืนยันความแย่ที่สุดที่เขาได้คาดการณ์ไว้ในเรื่องของความรักและธรรมชาติของมนุษย์ ที่ว่าการประนีประนอมกันย่อมดีกว่าที่จะเสี่ยงกับสิ่งที่สามารถทำให้หัวใจคุณหยุดเต้นได้
- ตอนนี้เค้ารักหล่อนมากกว่าที่เจ้าหล่อนรักเค้า สถานภาพมันตรงกันข้ามกับก่อนนั้น เค้ากลายเป็นคนรักขณะที่หล่อนเป็นคนที่ถูกรัก หล่อนกลายมาเป็นผู้คุมเกม แล้วเรื่องอะไรล่ะที่จะเลิกเล่นเสีย ในเมื่อหล่อนถือไพ่เหนือกว่าอยู่ในมือ

เจนพูดถูกที่ว่าแอนนาได้พยายามที่จะเตือนให้ผมรู้แล้วหลายครั้ง ผมเองเป็นคนที่ไม่ยอมปล่อยวาง ผมมันโง่เอง
ผมพยายามลองวางตัวเองอยู่ในฐานะแอนนา ที่เธอรอคอยพอลให้รักเธอมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้เขาก็มาอยู่แทบเท้าเธอแล้ว พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอกลับมา ผมอยากรู้นักว่าถ้าเป็นผมแล้วผมจะทำอย่างไร หากว่าผมต้องสูญเสียสิ่งที่ผมได้พยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะได้มา ได้ลิ้มลองรู้รสถึงพลังของมันแล้ว แต่พลังของมันกลับกลายเป็นกับดักที่ทำให้คุณต้องพยายามอย่างหนักอีกเช่นกันเพื่อที่จะรักษามันเอาไว้ มันเป็นเรื่องราวความรักของผมเอง มันกระทบกระทั่งกับความพยศในความไม่สมปรารถนาอันเล็กน้อยอยู่เสมอ ๆ

- คุณไม่จัดอยู่ในจำพวกสมบูรณ์แบบหรอกนะ คุณเคยแต่งงานมาแล้ว มีประสพการณ์สอนและก็ยังมีลูกชายอีกคนนึงด้วย อย่างนี้แล้วคนในครอบครัวของเธอจะว่าอย่างไร เธอก็จะต้องให้มันเป็นไปได้กับเค้าเสียดีกว่า เธอเล่นไปตามเกมของพวกเค้า ซึ่งพวกเค้าก็ไม่ยอมรับคุณด้วย เค้าเป็นคนโสด คนในครอบครัวหล่อนต้องเห็นงามด้วย ส่วนคุณล่ะ จะเอาอะไรไปสู้กับเค้าได้
เจนตบมอคค่าใส่ครีมลงท้องไปอีกหนึ่งถ้วย น้ำหนักของเธอเพิ่มขึ้นสองสามปอนด์หลังจากที่เธอได้คอยให้คำปรึกษาผมอย่างนี้
- ขอโทษนะ เจนพูดหลังจากที่เห็นสีหน้าที่บ่งบอกความเจ็บปวดออกมาให้เห็น ฉันแค่เป็นคนที่พูดความจริงเก่า ๆ เท่านั้นเอง
บางทีความจริง ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ มันก็ได้ทำให้วันของเธอสดใสขึ้นมาได้ ผมรู้ว่าเธอคิดอย่างไร ไม่มีใครหรอกที่จะมีความสุขจริง ๆ ได้ มันต้องมีเรื่องยุ่ง ๆ ขึ้นมาบางละ หากว่าใครสักคนที่สามารถค้นหาความสุขที่แท้จริงได้กับชีวิตคู่ที่สุขสมแล้ว เจนเองอาจจะต้องกลับไปทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเธอและเทอรี่แล้วละ
ส่วนผม คนรักที่มองความรักจากอีกด้านหนึ่ง เหมือนผู้ลงโทษที่ต้องลงโทษให้แก่ตัวเอง ผมลองคิดว่าหากว่าซูซานอยู่ในสถานะแบบผม ที่เธอรักผมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา รอคอยเพื่อให้ผมรักกลับเหมือนกับที่เธอรักผมบ้าง
...กงกรรมกงเกวียน...
ซูซานคงจะแอบพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็เป็นได้ ผมคิดไปเอง แต่มันไม่แฟร์สักเท่าไร ในฐานะที่ผมรู้จักเธอดีพอสมควร ผมคิดว่าสถานการณ์อย่างในวันนี้ ไม่ว่าเธอจะอยู่ในสวรรค์ชั้นไหนก็ตาม เธอคงหวังว่าให้ผมได้ค้นพบกับทางออกที่ดี แอนนาก็เหมือนกัน เพื่อให้เราทุกคนได้พบทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้ได้


Eighty seven

เดวิดกลับมาอยู่บ้านในวันหยุดช่วงคริสมาสต์ เราจ้องหน้ากันเหมือนคนแปลกหน้า เขาดูแปลกไปในชุดเสื้อโค้ดสีแดงแข้มกับกางเกงกำมะหยี่สีเทา เหมือนชายหนุ่มแต่งชุดเด็กนักเรียน ใบหน้าของเขาในอีกไม่ช้าเขาก็คงจะได้โกนหนวดเคราเป็นครั้งแรกแล้ว
สายตาของเขาดูคลุมเคลือครุ่นคิดเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
เหมือนกับพ่อแม่คนอื่น ๆ ผมรู้สึกเป็นกังวล เสียใจ และหนักใจกับผลของการทำหน้าที่เป็นพ่อของผม ผมเห็นได้ถึงความร้าวราญจากดวงตาของเขา เขาไม่ชอบผมเอาเสียเลยจริง ๆ
ผมเคยคิดเสมอว่าผมจะเป็นพ่อที่สมบูรณ์ได้ เป็นแบบอย่างที่ดี แต่มันกลับไม่เป็นไปตามที่คิด เขาคิดว่าผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้แม่ของเขาต้องเสียชีวิต เวลาที่เราอยู่กันตามลำพังเขาแทบที่จะไม่สามารถเอ่ยปากพูดอะไรกับผมได้เลย
เดวิดเคยเป็นเหตุผลที่ผมดำเนินชีวิตในอดีต ตอนที่ยังไม่มีเขา เขาเป็นเหมือนส่วนสำคัญที่ขาดหายไปในความสมบูรณ์แบบ ต่อมาเขากลายเป็นเหตุผลที่ไม่ให้รบกวนชีวิตที่สมบูรณ์ที่ผมได้สร้างเพื่อเขา
เขากำลังที่จะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราทั้งคู่สมบูรณ์และสำเร็จในแง่มุมของความเป็นครอบครัวในโลกเขาเราเอง ต่อมาอีก ความสุขของเขากลายเป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องทนอยู่ด้วยกันด้วยความทุกข์ตรม
ผมบอกกับตัวเองว่าผมอยากให้เขามีความสุขที่สุด แต่เท่าที่เห็นปรากฏว่าเขาต้องการที่จะเห็นว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไรก่อนที่เขาจะเข้าถึงได้ สำหรับเดวิด ตอนนี้ผมกลัวเหลือเกินที่จะคิดไปว่าเขากำลังเลียนแบบพฤติกรรมการเสแสร้ง การหลอกลวง และความล้มเหลวของผม
- เดวิต พ่อมีอะไรจะพูดด้วยหน่อยนะ
เขาดูไม่ได้สนใจใยดีอะไรกับสิ่งที่ผมกำลังจะพูด
- มันสำคัญมากนะ
ผมเอื้อมมือไปจับที่ไหล่ของเขาแต่เขากลับสลัดหนี ผมไม่โทษที่เขาทำอย่างนั้นหรอก เป็นเวลาสิบสี่ปีที่ผมทำให้เขาหลงเชื่อว่าผมนั้นเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ มาตอนนี้เขาก็เลยไม่เข้าใจว่าแล้วทำไมผมถึงได้ทำลายครอบครัวที่สมบูรณ์แบบนั้นเสียได้
- ผมไปอยู่กับเจเดนในช่วงวันหยุดบ้างได้มั๊ยครับ เขาถามผมทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งจะเข้ามาในบ้านแท้ ๆ แต่กลับหาทางเพื่อที่จะออกไปซะแล้ว
- เราจะคุยกันถึงเรื่องนั้นทีหลังนะ
- สิ่งที่เราทำก็เห็นมีการคุยกัน ผมไม่อยากจะคุยอะไรอีกแล้วละ
- งั้นลูกเอาข้าวของขึ้นไปเก็บไว้ในห้องนอนก่อนก็แล้วกัน ผมพูด ผมเดินนำไป เสียงฝีเท้าบนผืนพรมตามระเบียงทางเดินเป็นเสียงฝีเท้าผมเพียงลำพัง
แต่ในที่สุดเดวิดก็ก้าวเดินตามผมมาด้วย


Eighty eight

ประกายฟองของแชมเปญในแก้วสูง, ผู้หญิงงามสง่า, ชายผู้มาดมั่น ในงานปฐมฤกดิ์หนังเรื่องใหม่ ผมได้เห็นฮิวท์ แกรนท์ แว้ป แว้ป ท่ามกลางฝูงชนมากมาย รวมทั้งไซมอน คาลโลว์ ด้วย พร้อมทั้งผู้ทำงานในวงการหนังของอังกฤษอีกหลายคน แอนนาอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้องโถงได้มองสบตามาทางผม ดูเธอตระหนักถึงขอบเขตระหว่างเรา มองเห็นได้ชัดว่าเธอคอยระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่อยากวอกแวกให้เกิดประจุไฟระหว่างเราขึ้นมาได้ ตอนนี้พอลอยู่ที่ลีดส์เพื่อประชุมงานขาย แต่เธอก็ยังไม่เป็นอิสระอยู่ดีเพราะเธออาจถูกมองโดยคนทั่วไปที่อยู่ในงานวันนี้
เราได้มีโอกาสสัมผัสมือกันครั้งหนึ่ง แต่ผมก็ทำตัวอย่างดีไม่ให้ใครสังเกตุได้ จนกระทั่งเราอยู่ในแท๊กซี่เพื่อที่จะกลับด้วยกันผมเห็นได้ว่าเธอรู้สึกผ่อนคลายลงไปบ้าง อันตรายของความสัมพันธ์นี้มันดูทั้งมืดมนแสนหวานและยุ่งเหยิง
- ผมรักคุณนะ ผมกระซิบบอกเธอในคืนนั้นที่เรานอนร่วมหมอนเดียวกัน
ทุกครั้งที่ผมบอกเธออย่างนั้นแล้วไม่ได้รับคำตอบใด ๆ มันเหมือนบางสิ่งข้างในได้ตายไปแล้ว แม้แต่คนรักที่แสนทรหดอดทนก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายขึ้นมาได้เมื่อดอกกุหลาบแห่งความรักของเขาถูกปล่อยให้เหี่ยวเฉาตายไป ผมอยากจะเป็นคนดีสำหรับเธอ แต่สิ่งที่ผมได้ทำคือปลุกเร้าความอับอายและความไม่แน่นอน
เหมือนมีบางสิ่งสลัดออกไปจากร่างของผม
ผมจำผู้หญิงคนนึงได้ คนที่ครั้งหนึ่งได้ปลุกให้คนรักตื่นขึ้นมา ตอนนี้เธอเดินสาละวนไปทั่วห้อง ดูสับสนและและหลงทาง
เธอได้ปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมทั้งก่อกวนให้อารมย์และความปราถนาเกิดขึ้นทั้งที่ฉันคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้เฉพาะในนิทานเท่านั้นเอง
คนไหนที่เป็นเธอกันแน่ แอนนาคนไหนที่เธอต้องการที่จะเป็น และคนไหนกันแน่ที่เป็นเงา เธอจะเดินตามอารมย์และความปราถนาหรือว่าเธอจะทิ้งมันไว้ข้างหลังเสีย ความทรงจำต่าง ๆ ถูกเก็บไว้ภายในใจเธอ ราวกับว่าเป็นช่วงเวลาวันหยุดพักผ่อนของเธองั้นหรือ ถ้าเธอแก้ปัญหานี้เสียได้เธอก็จะมีความสุข ผมคิดว่าจะมีแค่หนึ่งแอนนาเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้
ผมหลงรักผู้หญิงคนที่เธออาจจะกลายมาเป็นได้ในวันหนึ่ง ถ้าเธออยากที่จะเป็น สำหรับแอนนาคนอื่น ๆ ผมแค่เหลือบมองเท่านั้นเอง เพราะเธอเป็นของพอล ในอีกทางหนึ่งเธออาจจะเห็นผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่วันหนึ่งผมอาจจะเป็นก็ได้ แต่มันจะไม่เป็นอย่างนั้นจนกว่าเราจะก้าวขั้นต่อไปก่อน ในตอนนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับเราที่จะอยู่ด้วยกันได้เลย
- ฉันก็รักคุณเหมือนกันค่ะ เธอกระซิบบอกในที่สุด และตามด้วยเหล็กในว่า เพียงแต่ไม่ใช่ในทางธรรมเนียมปฏิบัติเท่านั้นเอง
- แล้วไอ้ธรรมเนียมปฏิบัติที่คุณว่ามันแปลว่าอะไรกันน่ะ
- ฉันทำดีที่สุดแล้วนะค๊ะ
- ผมไม่รู้เลยว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่เนี่ย
- คุณมีชีวิตคู่อย่างถูกต้องตามแบบแผนแล้วคุณมีความสุขดีหรือเปล่าล่ะค๊ะ
ผมลุกออกจากเตียงไปยังห้องนั่งเล่น พอผมออกห่างจากเธอผมก็คิดถึงเธอซะเหลือเกิน แต่ตอนนี้ผมทิ้งให้เธออยู่คนเดียวในห้องนอน พลิกตัวไปมาในขณะที่ผมออกมาเดินไปมาท่ามกลางความหนาว
อะไรมันผิดไปหรือ นี่ไม่ใช่หรือที่ผมต้องการ ชีวิตที่นอกธรรมเนียม ความรักที่มักเกิดขึ้นในทางที่มันไม่ควรจะเกิด
ผมได้ยินเสียงแล้วหันไปมอง แอนนากำลังยืนอยู่ที่ประตูห้องนอน เธอสวมเสื้อเชิ้ตของผมอยู่
- คุณเห็นมั๊ยล่ะ เธอพูด พอฉันบอกคุณในสิ่งที่ฉันคิดคุณก็ออกอาการโกรธขึ้นมา ฉันควรจะออกไปจากคุณเสียดีกว่า ฉันอยู่ก็มีแต่จะทำให้คุณไม่มีความสุข
- โธ่แอนนา ได้โปรดเถอะ หยุดคิดว่าคุณจะทำให้ผม หรือคนอื่นมีความสุขหรือไม่เสียทีเถอะ ผมแค่อยากรู้ว่าคุณต้องการอะไร อะไรที่จะทำให้คุณมีความสุข เท่านั้นเองที่ผมอยากจะรู้
- แต่มันก็จริงนี่ค๊ะ คุณสมควรที่จะได้รักใครที่เค้าสามารถรักคุณได้เต็มร้อย
พระเจ้า! ดูเหมือนเธอจะไม่มีความรู้สึกในเรื่องนี้เลยสักนิด แต่ผมก็รู้ได้ว่านั่นมันไม่จริง มันเหมือนกันเราพยายามจับควันนั่นแหละจับยังไงก็ไม่ติด ผมอยากให้เธอเป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง รู้สึกถึงความอิจฉาริษยาบ้าง มีความรู้สึกรู้สา มีแรงปราถนาเพื่อตัวเธอเองบ้าง ทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง
ในขณะที่ผมจินตนาการถึงเธอ เธอมองผ่านด่านดำแพงกั้นที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อขวางตัวเอง ผมเห็นความงามที่น่าฉงน แต่ผมก็เอื้อมไม่ถึงเธอ
- คุณจำเป็นต้องมีทุกสิ่งเพื่อที่จะได้ไกล้ชิดหรือค๊ะ
- ทุกสิ่งที่คุณว่ามันแปลว่าอะไรกัน คุณหมายความว่าการอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่มีผู้ชายคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยงั้นหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นคำตอบก็คือใช่ แล้วคุณล่ะ คุณต้องการให้มันเป็นอย่างนี้จริง ๆ นะหรือ
เธอไม่ยอมตอบ
- แอนนา คุณมีความสุขที่ใช้ชีวิตอยู่แบบนี้หรือ
- ฉันรู้ค่ะว่ามันไม่ใช่ประเพณีนิยม แต่คุณมีชีวิตคู่ที่ถูกต้องตามธรรมเนียม แต่มันก็ไม่ได้ผลไม่ใช่หรือค๊ะ
- แล้วที่เป็นอยู่อย่างนี้มันได้ผลรึไงล่ะ จินตนาการถึงกันบนเตียง คุยกันทางโทรศัพท์เป็นชั่วโมงทุกวันในขณะที่คุณอยู่กับชายอื่น
- มันไม่เกี่ยวกับคุณหรอกค่ะ มันเป็นชั้นเอง
นี่ก็ไม่เป็นความจริงอีก ปีศาจในตัวผมได้นำผมมาที่นี่ด้วย ผมก็เป็นส่วนหนึ่ง ความโกรธ ความชัง ความละอาย
- คุณต้องการอย่างไร แอนนา
- ชั้นไม่รู้ค่ะ ชั้นยังมองไม่เห็นด้วยซ้ำไปว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
- และความหมายที่คุณพูดคือ
ดวงตาเธอเริ่มดูขุ่นมัว
- บางครั้งชั้นก็คิดว่าชั้นคงจะอยู่อย่างนี้ได้อีกไม่นานนักหรอก
พูดแล้วเธอก็เดินกลับเข้าห้องไป ปล่อยให้ผมยืนอยู่ในความมืดตามลำพัง เธอทำให้ผมรู้สึกกลัวขึ้นมาเมื่อเธอพูดอย่างนั้น ชั้นยังมองไม่เห็นด้วยซ้ำไปว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร มันเหมือนกับว่าเธอรู้ว่าอาจจะมีอะไรบางอย่างโผล่ออกมาในอนาคตอันไกล้ก่อนที่เธอจะตัดสินใจทำอะไร
บางทีอาจจะเป็นรถบรรทุกขนย้ายก็ได้


Eighty nine

วันนี้เกรกโทรมาผม ซึ่งผมได้พยายามหลีกเลี่ยงเขาอยู่ในหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ผมเห็นว่าเขาดูช่างอิ่มอกอิ่มใจ เชื่อมั่นไปเสียทุกอย่าง
- เฮ้ หวัดดีมาร์ค
- เอ้าเกรก ว่าไง
- ก็อยากได้คำแนะนำอะไรหน่อยนะ พรุ่งนี้พอจะว่างดื่มกาแฟกันได้มั๊ย
- อ๋อได้ซิ ฟังเสียงคุณดูเนือย ๆ ไปนะ มีอะไรหรือเปล่าล่ะ
- คุณจำ ไดแอนได้มั๊ย
ผมจำได้ว่าเค้าต้องใช้เวลาหลายปีทีเดียวเพื่อที่จะลืมเรื่องที่ไดแอนทิ้งเขาไป เนิ่นนาน ก่อนที่เขาจะมาพบกับทริช
- ผมบังเอิญเจอเธออีกครั้งที่ในเมือง ตอนนี้เธออยู่ทางตอนใต้ เป็นผู้อำนวยการพยายาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเดอวอน เธอมาประชุมที่แมนเชสเตอร์ ผมเจอเธอที่ฟินเนแกนกับเพื่อนสาวอีกสองสามคน
- แล้วเธอเป็นอย่างไรบ้างล่ะ
- ผมเห็นเธอแล้วผมแทบจะหายใจไม่คล่องเอาเสียเลย ทั้ง ๆ ที่มันยี่สิบปีมาแล้วนะมาร์ค
- โอย แย่ล่ะซิท่า
- ตอนนี้เธอแต่งงานไปแล้ว ผมก็เข้าใจ ผมเจอเธอเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง เมื่อวานนี้เธอโทรหาผมบอกว่าเธอไม่สามารถหยุดคิดถึงผมได้ เธออยากจะเจอผมก่อนที่จะกลับไปเอ๊กซ์เตอร์ เรื่องของเรื่องก็คือผมเองก็หยุดคิดถึงเธอไม่ได้ด้วย
ผมแวะไปที่บังกะโลน่าอยู่ของเขาซึ่งตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน มีกล่องของขวัญวางอยู่ใต้ต้นไม้ที่ประดับด้วยไฟกระพริบที่หน้าห้องด้านหน้า เราขับรถออกไปที่สวนสาธาระณะใกล้ ๆ เกรกนั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้สักอึดใจเดียว แล้วเขาก็เอาก้อนหินปาเป็ดที่อยู่ในสวนอย่างไร้เหตุผล
- คุณเคยรู้สึกอย่างนี้กับ ทริชบ้างหรือเปล่าล่ะ
เขาส่ายหน้า
- คือ คุณรู้มั๊ย ผมรู้สึกสบายดีมาโดยตลอดที่รู้จักกันมา
- แล้วคุณไม่เคยรู้สึกอย่างนี้เลยหรือ
- ไม่หรอก ไม่เคยเลย
เขาดูเหมือนคนที่เพิ่งวิ่งหนีออกมาจากขบวนรถไฟชนกัน ผมชอบเห็นเขาเป็นอย่างนี้ ไม่มั่นใจในอะไร ต่อมิอะไรอีกต่อไป เขาก็เป็นแค่คนคนหนึ่ง ที่เหมือนกับคนอื่น ๆ ทั่วไปนั่นเอง
- แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปล่ะ
- ไม่รู้ ผมไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงจริง ๆ
พระเจ้า! ชีวิตได้ให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่งแล้ว เขายังลังเลที่จะตัดสินใจอยู่อีก
มันดูเหมือนผมเองได้ต่อสู้กับเรื่องอย่างนี้มาตลอดชีวิต ทั้งกับซูซาน และแอนนา ตอนนี้เกรกอีก ผมอยากจะตะโกนใส่พวกเค้าจริง ๆ ให้พวกเค้าหันไปฟังความต้องการของหัวใจของตัวเองดูบ้าง อย่ามัวแต่ประนีประนอมกับชีวิตอยู่เลย เลี่ยงเป็นเสี่ยงกัน
แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องของผม และอีกอย่าง ผมเองก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน มัวแต่ลังเลจนกระทั่งซูซานเปลี่ยนไป
ผมได้ให้คำปรึกษาเขาไป และได้แต่หวังว่าใครได้เคยให้คำปรึกษากับผมแบบนี้บ้างในตอนที่ผมต้องการ มันเป็นเรื่องของความต้องการของตัวเขาเอง
- ก่อนอื่น คุณต้องตัดสินใจเรื่องระหว่างคุณกับทริชก่อน ลืมเรื่องของไดแอนไปก่อนเลย และสี่งที่คุณมีอยู่มันพอแล้วหรือยัง
- ผมไม่รู้ซิมาร์ค
ผมยักไหล่แทนคำตอบ ถ้าผมได้เรียนรู้อะไรต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสองปีที่ผ่านมานี้ ผมก็คงไม่มีคำตอบให้ทั้งหมดหรอก
- มันจะทำให้ทริชเจ็บปวดได้นะซิ เกรกพูด
- ถ้างั้นหน้าที่ของคุณก็คือคอยปกป้องไม่ให้คนอื่นเจ็บปวดงั้นหรือ
- ผมแคร์เธอมากนะมาร์ค
- ผมเองก็แคร์ซูซานมากเหมือนกัน แต่พอคิดถึงการที่ต้องคอยปกป้องเธอมันทำให้ผมกลายเป็นคนที่โกหกที่สุดในโลกไปเลย ผมต้องคอยโกหกเธอตลอดเวลาทั้ง ๆ ที่ผมกำลังรอคอยคนอื่นอยู่ ผมทำให้เธอตกอยู่ในความมืด และตัวเองกลายเป็นไอ้งั่งไป
เกรกคว้าบุหรี่ออกมาสูบ ใบหน้าครุ่นคิดหนัก มือไม้เริ่มสั่น
- แล้วก็ยังมี เจย์ อีกล่ะ เขาเอ่ยถึงลูกชายซึ่งตอนนี้อายุสิบเก้าปีแล้ว
- เกรก ผมบอกให้คุณตัดสินใจอย่างไรไม่ได้หรอกนะ
- ก็ลองดูคุณกับเดวิดซิ เขายังไม่ได้ให้อภัยคุณเลย
- แต่เค้าก็อาจจะให้อภัยผมได้ในวันนึง หรืออาจจะไม่เลยก็ได้ แต่ชีวิตมันก็เป็นของผม ไม่ใช่ของเค้า ผมเป็นพ่อของเค้าก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะเป็นคนบอกให้ผมใช้ชีวิตอย่างไร
ละอองฝนเม็ดเล็ก ๆ เริ่มโปรยลงมา เรายังนั่งกันอยู่ที่นั่น
- ผมไม่รู้ซิ เขาพูดออกมาอีกครั้งนึงแล้ว
บุหรี่ในมือของเค้าได้ไหม้เป็นเถ้าไปแล้วในขณะที่เขายังเหม่อมองไปยังท้องฟ้ากว้างอย่างล่องลอย
- คุณรู้สึกเสียใจบ้างมั๊ย มาร์ค
- เกรก คุณเกือบจะสี่สิบห้าแล้วนะ คุณไม่มีเวลามากพอที่จะมาฟังเรื่องความล้มเหลวไร้สาระของผมหรอก
- เฮ่อ มาร์ค ผมไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิตเลยจริง ๆ แค่เห็นเธอเดินเข้ามาก็ทำเอาผมหายใจหายคอไม่คล่องเอาทันที
ผมลุกขึ้นยืนทันที นี่มันเกินไปแล้ว เพราะนี่เป็นความรู้สึกที่ผมมีต่อแอนนา ผมคิดว่าผมเป็นคนอ่อนไหวเกินไป ตอนนี้ผมได้ฟังเรื่องราวทำนองเดียวกันจากคนจริงจังที่ผมรู้จักดีที่สุด
- เรื่องนี้มันไม่น่าจะมาเกิดขึ้นกับผมในตอนนี้เลยจริง ๆ ผมได้ตั้งรากฐานชีวิตไว้แล้วอย่างดี มันกำลังจะถูกทำลายลงไปหมด
- คุณเตรียมพร้อมชีวิตไว้แค่ไหนที่จะรับมือกับความเสี่ยงของชีวิตที่คุณไม่กล้าเสี่ยง
- คุณคิดว่าอย่างนั้นหรือ คุณคิดว่าเรื่องของเรื่องเป็นเพราะผมไม่กล้าเสี่ยงงั้นหรือ
- ใช่
ผมตอบไปทื่อ ๆ แบบนั้นเอง เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ผมพูดได้ถึงเรื่องนี้ ผมยึดติดอยู่กับซูซานนานเท่าที่ผมทำได้ โดยที่ผมไม่ได้กลัว
- คุณคิดว่าคุณสามารถเปลี่ยนชีวิตและความรู้สึกได้โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลยงั้นหรือ
- ผมคิดว่าไม่นะ
- ไม่มีทางหรอก ผมพูด เยาะนิด ๆ ที่เขาไม่สามารถตัดสินใจได้
เขาเงียบไปพักหนึ่ง
- คุณจะรักผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกันได้มั๊ย เขาพูดขึ้นมาในฉับพลัน และการที่ได้ยินที่เขาพูดอย่างนี้ จากที่ผมเพิ่งได้ยินแอนนาพูดมาเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง มันทำให้ผมสะดุ้งเหมือนไฟช็อตเข้าให้
- แน่นอน ผมเองก็ยังรักซูซานอยู่ แต่นั่นมันไม่ใช่จุดสำคัญหรอก
เขามองผมอย่างแปลกใจ ราวกับว่าเขาคิดว่าผมได้หยุดรักซูซานไปแล้ว
- ผมจะยังรักเธออยู่เสมอไป ถ้าหากว่าความรักคือการที่เราแคร์ใครสักคน คุณก็สามารถรักใครก็ได้หลาย ๆ คนในเวลาเดียวกัน อย่าว่าแต่สองคนเลย แต่นั่นมันเป็นเรื่องของการอยู่ในความรัก การอยู่ในความสัมพันธ์ การอยู่ด้วยกัน แล้วคุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการจากทริชแล้วหรือ และคุณได้ให้ในสิ่งที่เธอต้องการแล้วหรือยังล่ะ
เขาครุ่นคิดอีก
- ผมคิดว่าผู้ชายทุกคนย่อมมีรางวัลสำหรับชีวิต เกรกพูด และเขาหมายถึงไดแอนที่เป็นรางวัลสำหรับชีวิตของเขา ซึ่งอาจจะเป็นผู้หญิงที่เขาต้องสละความต้องการและความหนักแน่นในชีวิตเพื่อเธอ
- คุณจะไม่ให้เหตุผลในทางออกของคุณในเรื่องนี้หน่อยหรือ
- แล้วคำตอบมันคืออะไรกันล่ะ
- ไม่รู้ซิ บางทีคุณอาจจะถามคำถามกับตัวเอง กับคำถามเดียวกับที่ผมถามตัวเองหากว่าผมต้องอยู่ในสถานะเช่นคุณ
- แล้วคำถามที่ว่านั่นคืออะไรหรือ
- คือ ผมอยากจะมีชีวิตอยู่หรืออยู่อย่างมีชีวิตไง
เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง สายตาของเขาดูหวาดหวั่นและครุ่นคิด อาจจะคิดว่าเขาจะต้องสูญเสียเท่าไหร่ หรือบางทีมันอาจจะปลอดภัยกว่าและง่ายกว่าหากว่าไม่ต้องตัดสินใจทำอะไรเลย ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้น คิดแล้วผมอยากจะบีบคอเขาเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเขา มันเป็นโอกาสทองของชีวิตเขาเอง และเขากำลังจะปล่อยให้มันหลุดหายไปเสียเฉย ๆ
ทุกคนกลัวความเจ็บปวดและการเปลี่ยนแปลง แต่ยังไงสำหรับแล้วผมคิดว่ามันเป็นหนทางที่จะนำเราไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า แต่ผมจะไปรู้อะไรล่ะ เพราะนี่มันไม่ใช่ชีวิตของผม บางทีผมอาจจะคิดผิดก็ได้ และมันจะไม่ใช่ความผิดครั้งแรกด้วยซิ
ผมเดินออกจากสวนสาธารณะไป ในวันสดใสของฤดูใบไม้ผลิอย่างนี้ผมกลับอยากจะเตะหมาใครสักที ความรักมากมายที่เสียไปเปล่า ๆ คุณอาจจะคิดว่ามันพอเพียงพอแล้วที่ทำให้โลกเราหมุนไปเรื่อย ๆ ได้


Ninety

ในวันคริสมาสต์ผมพาเดวิดไปทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง มองไปรอบ ๆ ภายในร้าน ผมเห็นครอบครัวอื่น ๆ ที่พ่อ หรือ แม่ขาดหายไป มันดูสับสนพิกล เผยให้เห็นได้ถึงความหม่นหมองของวันหยุดที่ไม่สมบูรณ์
ในร้านตกแต่งไปด้วยบรรยากาศของคริสมาสต์ เสียงเพลงดังอยู่ตลอดยิ่งทำให้อารมย์ความรู้สึกต่อต้านไม่คล้อยตามไปกับบรรยากาศเท่าไรนัก เค้าน่าจะตัดเอาหัวของคนมาประดับฝาผนังเสียเลยน่าจะดีกว่ามั๊ง
- นี่มันตลกสิ้นดี เดวิดพูด
ผมเห็นด้วยกับที่เขาพูด จะทำไงได้ ผมคงจะไม่สามารถอยู่ในบ้านสะท้อนกึกก้องนั่นเพื่อทานอาหารในวันคริสมาสต์หรอก เราก็เลยมาที่นี่กันเพื่อร่วมกับครอบครัวอื่นที่แตกแยกหรือมีปัญหาประมาณเดียวกัน เดวิดอยากจะให้ผมพูดว่ายังไงได้ล่ะ
- นี่มันเป็นความผิดของพ่อแท้ ๆ
ผมเห็นด้วยอีก มันเป็นความผิดของผมเอง หรืออย่างน้อย ผมก็เป็นคนที่ทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในครอบครัวของเรา
เดวิดดูบึ้งตึงและเงียบ ความโกรธของเขาแผ่กระจายไปทั่วในบรรยากาศเหมือนแก๊ส ผมจะพูดอะไรกับเขาได้ล่ะ เขาต้องสูญเสียแม่ของเขาไป และยังรู้สึกว่าพ่อของเขาทำให้เขาผิดหวัง เขารู้สึกถดถอย เศร้าซึมและคงอยากจะเตะใครสักคนด้วย และคนนั้นคงไม่มีใครเหมาะไปกว่าผม ถ้าผมอายุเท่ากับเค้าผมเองก็คงอยากจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน
ผมรู้ว่าผมควรจะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้สักพัก แต่ความเจ็บปวดของผมเข้าครอบงำทำให้ผมพูดออกไปว่าผมเสียใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมก็ไม่สามารถอยู่กับแม่ของเขาเพียงเพื่อตัวเขาเองได้หรอก มันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องทำ
คนส่วนใหญ่คงจะไม่เห็นด้วย ผัวเมียหลายคู่ทนอยู่ด้วยกันทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รักกันแล้วเพื่อเห็นแก่ลูก ๆ ของเขา พวกเขาคงจะคาดหวังว่าผมจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน
- แม่จะไม่มีทางทำอย่างนี้กับพ่อหรอก
- ไม่ แม่เค้าจะไม่ทำแน่
คุณเห็นมั๊ย ผมล่ะ อยากจะตะโกนใส่เขาจริง ๆ ว่าผมเห็นด้วยกับทุกสิ่งที่เขาคิดและพูดออกมา แล้วเค้าอยากจะให้ผมทำอย่างไรหรือ ผมไม่ได้เป็นแค่สามี หรือ พ่อ เท่านั้น นั่นมันเป็นบทบาทที่ผมต้องรับ แต่นอกจากนั้นผมก็ยังเป็นผมนี่ไง
มันก็ไม่ได้แปลว่าพ่อไม่รักลูก
- พ่อพูดว่าอะไรนะ
ผมเพิ่งรู้ตัวว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นผมเพิ่งพูดดังออกไปแล้ว
- พ่อบอกว่ามันไม่ได้หมายความว่าพ่อไม่รักลูก
เขาเงียบไป น้ำตาเริ่มคลอเบ้า เขากำลังจะร้องไห้ ผมไม่เคยได้เห็นเขาร้องไห้อีกตั้งแต่เขายังเล็ก ๆ อยู่ เขาปาดน้ำตาทิ้งอย่างลวก ๆ ด้วยหลังมือ
- ผมเกลียดพ่อ เขาพูด แต่ผมก็รู้ว่าที่เขาพูดนั้นจริง ๆ แล้วหมายความว่าอย่างไร หลังจากนั้นไก่งวงมื้อค่ำก็เริ่มเสริฟ ใส้ที่ยัดข้างในรสชาดอร่อยใช้ได้ ส่วนมันฝรั่งจะสุกเกินไปหน่อย และนี่ก็เป็นครั้งที่สองที่เราฉลองคริสมาสต์ด้วยกันโดยที่ไม่มีซูซาน






Create Date : 14 กันยายน 2553
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 9:33:58 น. 0 comments
Counter : 243 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maxmaya
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แม๊กซ์ ครับ อยากเขียนนิยายแต่ไม่เก่ง ก็เลยอาศัยการแปลจากที่คนอื่นเขียนไว้แล้วไปก่อน รวมทั้งงานเขียนอื่น ๆ แล้วแต่อยากจะเขียน ลองติดตามกันดูนะครับ

เปลือย...ใจ ใส่บันทึก เป็นเรื่องราวของ

ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีแล้ว แต่โชคชะตาพาเธอ

ให้ไปพบกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งชักนำชีวิต

ของเธอ ให้ต้องเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย

ที่พูดไม่ได้ห้ามใจไม่อยู่ เลยต้องเปลือยใจใส่

ไว้ในบันทึก.....อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับใคร

หลายคน แตกต่างกันไปในรายละเอียด และ

จุดจบ.......

สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจผลิตภันณ์จาก Dream Cosmetique จาก Link เวชสำอาง ข้างล่างนี้ ท่านจะได้รับส่วนลด 10% ทันที เพียงท่านแจ้งการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ว่าได้ข้อมูลจาก Maxmaya http://www.dreamcosmetique.com/

New Comments
Friends' blogs
[Add Maxmaya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.