นิยายแปล..........แปลแหลก แปลกนักแล Present to you by Maxmaya

"ATTITUDE" The pleasure you get from your life is equal to the "ATTITUDE" you put into it
Group Blog
 
All blogs
 
สามีดีแตก บทที่ 76 - 80




Seventy six

มาร์คที่รัก,
ฉันเป็นห่วงคุณมากและยิ่งรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับฉันมันยิ่งทำให้ฉัน หงุดหงิดรำคาญใจไปทั้งสัปดาห์เลยทีเดียวฉันไม่ชอบที่คุณรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับพอล แต่ฉันก็เข้าใจคุณดี ฉันมีแต่ทำร้ายจิตใจคุณเท่านั้นเอง
ฉันได้กลับเข้าไปอยู่ในโลกมืดของฉันอีกครั้งโลกที่ไม่มีใครหรืออะไรที่ฉันชอบเลย ฉันไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนมันได้อย่างไร ฉันไม่รู้จริง ๆ เหมือนอย่างที่คุณเคยบอกกับฉันนั่นแหละ ที่ว่าฉันไม่รู้จักที่จะอยู่ในความรัก ทุกอย่างมันผสมผสานปนเปกันไปหมด อารมณ์ของฉันก็ไม่อยู่กับร่องกับรอย มันเปลี่ยนไปอยู่เรื่อย
อดีตเหมือนกับเตาหลอมที่มันเผาไหม้จิตใจของฉัน ความหมองเศร้ามันแผ่ปกคลุมไปทั่ว ฉันต้องคอยวิ่งหนีมันอยู่ตลอด ฉันทำให้คุณต้องตกที่นั่งลำบาก ฉันรู้ว่าคุณได้พยายามที่จะเข้าใจ
ตอนนี้ฉันกังวลไปเสียทุกอย่าง ทั้งคุณและตัวฉันเอง ฉันไม่รู้ว่าฉันจะสัญญาอนาคตกับคุณได้ไหม ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างมันควรที่จะลงตัวได้แล้ว มันไม่แฟร์สำหรับคุณที่จะให้คุณต้องมาเกี่ยวข้องกับสถานะเช่นนี้
วันนี้ฉันรู้สึกแย่จัง ทุกอย่างดูมืดมนไปหมด
แอนนา


Seventy seven

ที่ร้านอาหารในเชลซี แอนนาบอกว่าเธอสนใจในสคริปท์ของผม ซึ่งมันเป็นข้ออ้างที่เราจะพบกันได้ และเราก็ได้ฉวยโอกาสนั้นไว้ด้วย
ฟองอากาศจากแก้วไวน์ แสงไฟสีอำพันจากเทียนบนโต๊ะอาหาร เธอโน้มเอียงมาข้างหน้า พร้อมกับสองแขนกอดอกไว้เผยให้เห็นความเด่นชัดเนินเนื้อจากเสื้อคอเต่าเปิดใหล่ที่เธอใส่ในคืนนี้ให้สวยงามยิ่งขึ้น เหมือนจงใจ เมื่อบริกรนำของหวานมาเสริฟ เธอหยิบเอาเชอรี่สีแดงสดเข้าปาก คาบคาไว้อย่างนั้นโดยที่ปล่อยให้ก้านของมันชี้ออกมาด้านนอก
เธอยิ้มยั่วพร้อมทั้งกลอกกลิ้งลูกเชอรี่ไปมาด้วยลิ้น ริมผีปากเผยอเล็กน้อย มันวาวไปด้วยลิปกลอส นัยตาเชิญชวนของเธอบาดลึกลงไปถึงท้องน้อยของผม ผมแทบลืมหายใจมองดูผลเชอรี่ที่เธอกลิ้งไปมาในปากของเธอด้วยลิ้นที่ชุ่มชื้น
ทันใดนั้นเอง เธอสำลักเม็ดเชอรี่พ่นเอาเนื้อเชอรี่ที่เธอเคี้ยวแหลกแล้วสีแดงสดออกมาเลอะผ้าปูโต๊ะสีขาวเต็มไปหมด เธอส่งเสียงเอิ้กอ้ากเหมือนแมวน้ำ รบกวนเสียงสนทนากระซิบซึ้ง ๆ ในห้องนั้นจนหมดสิ้น สายตาทุกคู่ต่างหันมาในทิศทางเดียวกัน โต๊ะเรากลายเป็นจุดสนใจไปแล้วตามด้วยเสียงหัวเราะ ผมโน้มตัวไปลูบหลังเธอเบา ๆ เพื่อคลายอาการสำลัก
พอหายใจคล่องคอแล้ว เธอคว้าน้ำที่บริกรนำมาให้ด้วยความเป็นห่วงดื่มทันที สัญญาณเตือนภัยในเพศรสของผม ผมบอกกับเธอ เทพเจ้าหญิงแห่งรักของผมพลาดท่าซะแล้ว เธอเริ่มหัวเราคิ๊กคั๊กและสำลักเบา ๆ อีกครั้ง หัวใจผมเริ่มพองโตขึ้นมาอีกครา
- ผมบูชารักคุณจริง ๆ นะ ผมบอกกันเธอขณะที่นั่งรถกลับจากร้านอาหารด้วยกัน
ฉับพลันทันด่วน อารมณ์ของเธอก็เปลี่ยนไปทันที
- คุณไม่ควรจะมารักฉันหรอกค่ะ เธอบอก ฉันเป็นเหมือนยาพิษสำหรับคุณนะค๊ะ
คุณจะพูดอย่างไรกับคนที่คุณรักล่ะ ในเมื่อเธอบอกว่าคุณไม่ควรที่จะรักเธอ ราวกับว่าเธอโอบกอดผมไว้แนบอกแล้วผลักออก ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกให้ผมอย่าเกลียดชังเธอ มาวันนี้เธอกลับบอกไม่ให้รัก
- ฉันอยากจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ฉัน เธอพูด
- ผมไม่รู้ว่าคุณพูดอย่างนั้นออกมาได้อย่างไร
- ถ้าใครก็ตามที่ไม่ชอบตัวเองแล้ว มันก็ไม่ช่วยอะไรได้หรอกค่ะ ที่จะบอกกับพวกเค้าว่าวิเศษอย่างไร มีแต่ตรงกันข้าม
ผู้หญิงอัศจรรย์คนนี้ เธอช่างน่าหลงไหลในชุดเสื้อสีขาวกระโปรงดำยาวแค่เข่า กับแว่นตาเจือสีกุหลาบอ่อน ๆ เก็บผมด้วยหวีกระดองเต่า ใครล่ะจะปฏิเสธเธอได้
- คุณแค่อยากจะทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวดเท่านั้นเอง ผลักไสเค้าออกไปเพื่อให้เค้าได้ตะโกนด่าใส่คุณว่าคุณแย่แค่ไหน แล้วคุณก็จะสามารถพูดได้ว่า เห็นไหมล่ะ ฉันบอกคุณแล้วว่าฉันน่ะแย่ แต่คุณก็ยังจะมารักฉันเอง ช่วยไม่ได้
- อ้าว ถ้าคุณรู้อย่างนั้นแล้วคุณยังจะให้มันเกิดขึ้นทำไมล่ะ
- ก็เพราะว่าฉันอยากจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ฉันนะสิ เธอพูด หลังจากนั้นเราก็ขับรถกลับอพาทเมนท์ของเธอโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยตลอดทาง


Seventy eight

มันเริ่มเป็นไปตามรูปการณ์ เธอเริ่มแหนงหน่ายเมื่อผมสร้างความกดดันเพื่อให้เธอเลิกกับพอล ผมเองก็เริ่มเครียดกับเธอ ผมไม่โทรหา เธอเองก็ไม่โทรหาผมเช่นกัน มันดูเหมือนกับว่าทุกอย่างกำลังยุติลง แต่การที่จะต้องอยู่ห่างเหินกันเช่นนี้มันช่างทรมานเสียเหลือเกิน ผมก็เลยโทรหาเธอบอกกับเธอ และบอกกับตัวเองว่าเรื่องเกี่ยวกับพอลจะไม่ยุ่มย่ามใจผมอีกต่อไปแล้วละ ขอให้ผมได้เป็นเพื่อนกันเธอเช่นนี้ตลอดไปผมก็พอใจแล้ว
แต่การที่จะพูดคุยกับเธอทางโทรศัพท์มันก็ชักนำไปสู่ความใกล้ชิด และความใกล้ชิดนี้ก็นำไปสู่ความปราถนา และจากความปราถนาก็จะนำพาไปสู่การนัดพบเจอกันอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และก็เป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อเราได้พูดคุยกันมากเกินไป มีการร่วมรักกันด้วยความปราถนาที่เร่าร้อนมันยิ่งทำให้เรารอคอยให้ถึงวันที่ความสัมพันธ์ฉันท์ชีวิตคู่ของเราจะเป็นจริงเสียที แต่กับแอนนาแล้ว เธอมักจะสร้างกำแพงกั้นไว้เสมอเพื่อไม่ให้ผมข้ามไปได้ง่าย ๆ และเมื่อผมได้พยายามที่จะข้ามเข้าไป เธอกลับถอยห่างออกไปเสียทุกที
ผมมีความหลังกับซูซานทั้งทางด้านมิตรภาพและครอบครัว และสิ่งที่ผมค้นพบกับแอนนา มันคือความปราถนา ความหรรษา และการแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ด้วยกัน
จากผู้หญิงทั้งสองคนไม่ช้าไม่นานผมก็รู้สึกเหมือนถูกกีดกันให้อยู่นอกวงจรของพวกเธอ ในสุดท้ายทั้งซูและแอนนาต่างก็ถอยห่างจากผมไปทั้งคู่ เหมือนหอยมุกปิดฝาเมื่อเราพยายามที่จะหยิบเม็ดมุกข้างในของมัน มูลค่าของมันอาจจะต่างกันแต่การปกป้องของมันเหมือนกันหมด
- สิ่งต่อไปที่เธอจะทำก็คือการไปหาที่ปรึกษา เจนพูด เราเสร็จเรื่องสคริปท์กันแล้ว ตอนนี้เราสามารถผ่อนคลายเฮฮาได้อีกครั้ง
- ไร้สาระ
- เธอจะทำอย่างนั้นจริง ๆ คอยดูซิ
แต่เจนก็พูดถูกจริง ๆ เพราะแอนนากับพอลได้เริ่มไปหาที่ปรึกษาแล้วจริง ๆ แต่ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเจน เพราะผมไม่อยากให้เธอได้ใจ
ผมเคยไปหาที่ปรึกษาปัญหาชีวิตคู่กับซูซานเมื่อหลายปีที่แล้ว ผมคาดหวังไว้ว่าการถดถอยของเราอาจจะเป็นทางออกให้ผมหลุดพ้นได้ โดยมีคนที่ปรึกษาเป็นคนบอกว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องแยกทางกัน ซึ่งมันจะทำให้ผมไม่รู้สึกผิด
เรายกให้นักปรึกษาเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดชะตาชีวิตคู่ของเรา แต่สิ่งที่เขาทำคือพยายามประสานเราเข้าด้วยกันอีกครั้ง ทั้งยังปล่อยให้เรากลับมาคิดหาผู้แพ้ผู้ชนะเอาเอง ซึ่งเราก็ไม่สามารถทำได้
- คุณจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อการมีชีวิตคู่นะ มาร์ค
- เหมือนกับการใช้แรงงานนะหรือ
- คุณก็รู้ว่าฉันหมายความว่าอย่างไร
- แล้วคุณล่ะ หยุดทำมันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หรือว่าคุณจะปล่อยมันไปอย่างนี้จนกว่าคุณเหนื่อยหน่ายเกินกว่าจะทานไหว หรือจนกว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องตายกันไปข้างหนึ่งก่อน
นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากจะได้ยิน แต่หากว่าผมจะต้องตำหนิตัวเอง ผมคงจะตำหนิในเรื่องที่ปล่อยให้ซูซานถลำลึกเกินไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา เจนส่ายหน้าพร้อมกับกระดกว้อทก้าแก้วที่สามลงคอไปอย่างรวดเร็ว
- คุณคิดว่าตอนนั้นคุณจะสามารถรักษาชีวิตคู่ระหว่างคุณกับซูไว้ได้มั๊ย
มันเป็นคำถามที่ผมเองก็เฝ้าถามตัวเองมาแล้วหลายครั้ง คนมักจะถามคำถามแบบนี้ราวกันว่าชีวิตคู่เป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่ง; คุณจะช่วยชีวิตซูซานจากการจมน้ำตายได้มั๊ย หากว่าคุณสามารถว่ายน้ำได้ แต่ชีวิตคู่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันไม่ใช่สิ่งต้องห้าม เพื่อน ๆ และคนในครอบครัวต่างมองเราราวกับว่าเรากำลังเข้าสู่ช่วงหายนะ พวกเค้าต่างกำลังมองหาหนทางที่จะช่วยเราให้หลุดพ้นในสิ่งที่ไม่มีทางหลุดพ้นได้ จนแล้วจนรอดเมื่อไม่มีทางช่วยได้พวกเค้าก็พยายามหาคนผิดเพื่อที่จะตำหนิ
ชีวิตคู่บางคู่อยู่ยงคงกระพันจนถึงวันสุดท้ายแต่บางคู่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะว่าคนเราเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่ว่าคนดี คุณพ่อที่ดี ภรรยาที่ดี ลูกชายลูกสาวที่ดี ทุกคนอาจจะเปลี่ยนไปได้ทั้งนั้น ผมตื่นขึ้นมาวันหนึ่งก็พบว่าซูซานเป็นเหมือนสงครามที่ผมไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้ด้วยอีกต่อไปแล้ว
- คนเราก็เหมือนหอยนางรมนั่นแหละ เจน, ที่คอยเกาะติดอยู่ซึ่งกันและกันเพราะเรากลัวที่จะถูกปลดปล่อย กลัวที่จะหลุดพ้น
- มันก็ต้องมีดีอยู่บ้างละ ที่จะต้องเกาะติดกันเอาไว้
- ใช่ แต่คนมันก็เปลี่ยนไปตามกาลนะ อย่างน้อยผมคนนึงละ และผมก็ได้พยายามให้เธอเปลี่ยนไปกับผมด้วย ซึ่งผมก็รู้อยู่ว่ามันไม่แฟร์ ไม่เช่นนั้นผมก็ต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิมเพื่อให้ชีวิตคู่อยู่รอดได้
ก็เหมือนอย่างคุณไง ผมอยากจะพูดไปว่าอย่างนั้น
- เมื่อคุณรักใครเข้าแล้วสักคน คุณจะจากเค้าไปได้อย่างไรกัน เจนพูด แล้วคุณรู้มั๊ยว่านี่เธอกำลังพูดถึงชีวิตคู่ของเธอเอง
- ซูเคยบอกกับผมว่า ผมควรจะรักเธอโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น ผมไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างนั้นได้โดยเฉพาะในชีวิตคู่ เพราะชีวิตคู่เป็นสิ่งที่มีเงื่อนไขมากที่สุด แต่ความรักที่ผมมีต่อแม่ของผมเองนั่นไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เลยจริง ๆ หรือกับเดวิดก็เช่นกัน แต่ผมก็ไม่จำเป็นต้องอยู่กันพวกเค้าทุกวัน ผมไม่ต้องร่วมหลับนอนกับพวกเค้า แล้วทำไมผมต้องทนอยู่กับใครหากว่าเค้าไม่ทำให้ชีวิตผมมีชีวิตมากขึ้น
เจน กระดกแก้วว้อทก้าของเธออีกครั้ง แล้วดันแก้วเปล่าไปอยู่ตรงกันข้ามกับเธอ
- ฉันจะต่ออีกแก้วนึงนะ เจนพูด ถึงตอนนี้น้ำเสียงของเธอเริ่มไม่เหมือนเดิมแล้ว
- คุณยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้รึไง
เจนจุดบุหรี่ขึ้นสูบ เธอเริ่มหันมาสูบบุหรี่อีกครั้งหลังจากที่ได้หยุดไปนาน
- กลับไปหาไอ้เจ้าเทอรี่นะหรือ ยังหรอกค่ะ


Seventy nine

มันมีช่วงจังหวะเวลาที่เน้นบ่งบอกถึงความรู้สึกแห่งความสัมพันธ์ของเรา เวลาที่เราได้บอกลากันไม่ว่าที่สนามบินหรือที่สถานีรถไปที่ไหนก็ได้ สัปดาห์ต่อมาเธอก็จะอารมย์ดีต่อผมมากเวลาที่เราคุยกันทางโทรศัพท์ น้ำเสียงของเธอจะดังก้องกังวาลจากระยะทางไกล เธอคงจะจัดการกับเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของเธอในเร็ว ๆ นี้
แต่แล้วความต้องการในตัวเธอซึ่งผมไม่สามารถที่จะหยั่งรู้ได้ เวลาที่เรานัดเจอกันทุกทีเธอจะแสดงออกถึงความตื่นเต้นรอคอยที่จะให้ถึงวันนั้น ยิ่งวันนัดไกล้เข้ามาความรู้ผิดยิ่งกัดกร่อนลึกเข้าไปเช่นกัน สำหรับสองสามวันแรกที่เราได้เจอกัน เรื่องอื่น ๆ เป็นอันถูกลืมเสียสิ้น ผมเป็นความลับที่เธอปิดบังไว้จากโลกภายนอก เป็นความละอายและนิสัยที่เธอคาดว่าวันหนึ่งเธอจะทิ้งมันไป ต่อมาเธอก็จะปฏิญาณว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะเจอกันจริง ๆ เธอจะต้องจัดการกับชีวิตของเธอซะที แล้ววงจรเดิม ๆ ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
ผมรู้ดีเกี่ยวกับชีวิตที่ติดกับของเธอ เพราะผมเองก็ติดอยู่กับสถานการณ์เดียวกันกับเธอกับความรู้สึกผิดและความปราถนา ตอนนี้ในบทบาทที่ต่างออกไป ผมบอกกับตัวเองว่าผมเองจะเป็นคนที่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากเรื่องหลอกลวงทั้งปวงซึ่งเป็นโอกาสที่ผมจะได้รับความรักจากเธอบ้าง ผมจะได้รู้ว่าเธอรักผมเพราะอะไร ผมจะได้เป็นต่อบ้าง ผมรู้ว่าความต้องการของคนนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผมมองหาความบกพร่องในผู้หญิงเหมือนสุนัขที่ได้ดอมดมได้กลิ่นคาวของความกลัว ถ้าผมไม่รู้จักเอาใจใส่แล้วผมจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าผมควรจะทำอย่างไรดี
- ฉันมีความสุขเหลือเกินที่ได้มีเพื่อนอย่างคุณค่ะ เธอเคยบอกกับผมอย่างนั้นครั้งหนึ่ง ฉันหวังว่าเราจะได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันตลอดไป
เหมือนลิขิตสวรรค์โดยพระเจ้าที่อารมย์กำลังบูดบึ้งได้ลิขิตไว้ไม่ให้เป็นไปอย่างนั้น
ความรู้สึกสิ้นหวังและสิ้นไร้เข้าครอบงำเธอจนสิ้น ราวกับว่าเธอไม่เหลือทางเลือกใด ๆ ทั้งสิ้นแล้ว
- ทำไมคุณถึงยังอยู่กับพอลล่ะแอนนา ในเมื่อคุณไม่ได้รักเขา
ได้ยินสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป ผมรู้สึกได้กลายเป็นอสูรร้ายไปแล้ว เป็นคนแปลกหน้าแม้ต่อตัวผมเอง ผมก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆ ในชีวิตเธอที่คอยบอกให้เธอทำอย่างนั้นคิดอย่างนี้
- ค่ะ มันอาจจะไม่สมบูรณ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องได้ทุกอย่างหรือไม่ได้อะไรเลยนี่ค๊ะ
- ผมได้ยินคุณพูดอย่างนี้หลายครั้งแล้วนะ มันต้องมีมากกว่านั้นซิ ทำไมคุณถึงไม่ยอมเล่นไปตามเรื่องล่ะ
ถึงตอนนี้มันคงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการควบคุม ไม่ว่ามันจะลงเอยด้วยรอยยิ้ม ความเงียบ หรือสิ่งที่ผู้ชายบางคนกระทำ คือการลงไม้ลงมือ การรู้จักการควบคุมเป็นสูตรสำเร็จอย่างหนึ่งของความรัก
แต่แทนที่จะปราถนาในตัวเองเหมือนที่ซูซานต้องการ แอนนากลับหลีกลี้ ฉับพลับผมก็กลับควบคุมอะไรไม่ได้เลย ผมมืดไปหมดกับบทบาทใหม่ที่ได้รับ ไม่รู้จะรับมือกับมันอย่างไรดี ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะเฉยชาเสียหรือว่าจะยอมรับความเจ็บปวดดี
- ฉันไม่สามารถทนรับต่อความเจ็บปวดของคุณได้อีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ เธอบอกกับผมในคืนหนึ่ง ฉันคงจะต้านความสำนึกผิดที่หลอกกับพอลไว้และความเจ็บปวดที่ได้ทำให้เกิดกับคุณไม่ได้อีกต่อไป
- มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณเลยนะ แอนนา ผมไม่เคยบอกว่ามันเป็น
หรือว่าผมจะเคยพูดออกไป มันเป็นสิ่งที่ทำให้คนเราเกาะติดกับความรัก ผมเริ่มไม่มั่นใจว่าผมได้พูดอะไรกับเธอไปบ้าง หรือเธอเคยได้ยินผมพูดอะไรออกไป
ไอน์สไตน์ได้เคยพูดไว้ว่าหากว่าคุณวางมือข้างหนึ่งไว้บนแผ่นเหล็กร้อน อีกข้างหนึ่งไว้ในช่องแช่แข็ง โดยเฉลี่ยแล้วคุณจะรู้สึกสบายดี ผมว่านี่คงเป็นสิ่งที่เรากระทำในความรัก ครั้งหนึ่งเมื่อคุณถูกไฟลวก แล้วรีบนำมือที่โดนไฟนั้นเข้าไปในช่องแช่แข็ง แผลรอยลวกก็จะไม่เกิด มันก็ฟังดูมีเหตุผลดี


Eighty

สิบแปดเดือนหลังจากงานศพของซูซาน เถ้ากระดูกของเธอยังถูกเก็บไว้ในกล่องพลาสติกแข็งสีเทาที่บ้าน ผมยังทำใจที่จะไปแตะต้องมันไม่ได้
แต่ในคืนหนึ่ง ด้วยความหนาว ความสิ้นหวังและเหนื่อยหน่าย ผมนำเอาอัฐิของซูซานเข้าไปนอนกอดไว้ด้วย ความเศร้าโศกมันเหมือนจะทะลักออกมา ผมหายใจหายคอไม่สะดวกอยู่พักนึงเมื่อผมรู้สึกดีขึ้น ผมก็ประโลมเธอเหมือนที่ผมเคยทำ ผมกอดกล่องสีเทาไว้แน่นเพื่อให้ความอบอุ่นกันอัฐิข้างใน และบอกกับเธอว่าทุกอย่างจะดีเอง
ฉันกำลังจะสิ้นใจตายเพราะการดำรงชีวิตอยู่ของฉันในสี่สิบปีที่ผ่านมานั้นมันไม่ได้ผลเสียแล้ว ...ฉันต้องเชื่อมั่นในเสียงจากหัวใจของฉัน ฉันรู้ว่าฉันกำลังตายลงไปทีละนิดจากภายใน และภายนอกในที่สุดหากว่าฉันไม่ทำอย่างนี้
โอ! พระเจ้า ผมกระซิบท่ามกลางความมืดที่ว่างเปล่า ผมเสียใจจริง ๆ มันเริ่มจากความรักโรแมนติคเหมือนเทพนิยาย เพียงแต่เจ้าชายและเจ้าหญิงไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดกาลในตอนจบเท่านั้นเอง ชุดออกรบของเจ้าชายผุ่นเขรอะ ในขณะที่เจ้าหญิงเปลี่ยนทรงผมเกล้ามวยมาเป็นทรงที่ง่ายกว่า และเราก็บอกกับตัวเองว่านั่นเป็นเรื่องธรรมดาของความรัก แต่บางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ
ผมไม่ต้องการให้เธอเปลี่ยนตัวเองเพื่อผมหรอก ผมอยากให้เธอเป็นตัวของตัวเองมากกว่า
ผมรู้ว่าเราอาจจะประณีประนอมกันได้ แต่ในเรื่องของความรักแล้วผมไม่อยากให้มันเป็นเรื่องประณีประนอมกัน ไม่เช่นนั้นแล้วผมเองก็คงจะต้องตายไปทั้งข้างในและข้างนอกเหมือนกัน
ผมนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ พลิกกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะสะดุ้งตื่นเพราะเห็นซูซานกำลังนั่งอยู่ที่ปลายเตียงนอน
- ซูซาน นั่นคุณหรือ
- คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้อีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ มาร์ค
- ผมขอโทษ ผมขอโทษ
- มันผ่านไปแล้ว เธอบอกกับผม ให้ลืมมันไปซะ เธอจะได้ไปซะที
ครั้งหนึ่งผมรักเธอ รักเธอเกินกว่าที่จะพูดหรือยอมรับได้ เกิดอะไรขึ้นกับมันหรือ คนสองคนได้เปลี่ยนความสุขให้กลายเป็นโซ่ตรวนได้อย่างไรกัน
- ผมรู้สึกเหมือนว่าเราล้มเหลว
- เรามีหลายปีที่สวยงามด้วยกันค่ะมาร์ค และเราก็ยังมีลูกชายที่แสนจะน่ารักอีก มันแค่ถึงเวลาที่จะต้องยุติลง ทุกอย่างมันสิ้นสุดลงแล้วไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ฉันควรจะจากไปเมื่อหลายปีที่แล้วเสียด้วยซ้ำไป
- ถึงอย่างไรในตอนนั้นผมก็คงจะไม่ให้คุณไปหรอก
เราคิดว่าเรารู้ว่ารักคืออะไร ทั้งที่จริงแล้วเราไม่รู้เลย เราอยู่ด้วยกันอย่างคนรักเพื่อความสุขและความปราถนา และเมื่อเวลาผ่านไปมันกลายเป็นหน้าที่และการดูแลซึ่งกันและกัน แล้ววันหนึ่งคุณก็ค้นพบมันอีก เหมือนกับคนที่หิวโซท่ามกลางงานเลี้ยง คุณก็จะไขว่คว้าหามันไว้อีกครั้ง แต่ถึงตอนนั้นมันก็สายเกินกว่าจะเดินไปข้างหน้าหรือจะถอยกลับไปใหม่
- ฉันจะต้องไปแล้วล่ะค่ะ
- ซูซาน
- ทุกอย่างมันจะดีเอง ค่ะมาร์ค ทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น
แล้วเธอก็ลับหายไปในความมืด ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าอย่างไม่มั่นใจว่ามันเป็นความฝันหรือว่าผมจะกลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว ผมกับซูซานไม่มีเรื่องที่จะต้องพูดกันอีกแล้วในชาตินี้ แต่ผมก็ยังอยากจะได้ยินเสียงของเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะจากไป
XXXXXXX





Create Date : 12 กันยายน 2553
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 11:26:58 น. 1 comments
Counter : 241 Pageviews.

 
ขอบคุณนะคะ ที่มีผลงานมาให้อ่าน


โดย: pp IP: 118.175.107.47 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:9:45:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maxmaya
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แม๊กซ์ ครับ อยากเขียนนิยายแต่ไม่เก่ง ก็เลยอาศัยการแปลจากที่คนอื่นเขียนไว้แล้วไปก่อน รวมทั้งงานเขียนอื่น ๆ แล้วแต่อยากจะเขียน ลองติดตามกันดูนะครับ

เปลือย...ใจ ใส่บันทึก เป็นเรื่องราวของ

ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีแล้ว แต่โชคชะตาพาเธอ

ให้ไปพบกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งชักนำชีวิต

ของเธอ ให้ต้องเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย

ที่พูดไม่ได้ห้ามใจไม่อยู่ เลยต้องเปลือยใจใส่

ไว้ในบันทึก.....อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับใคร

หลายคน แตกต่างกันไปในรายละเอียด และ

จุดจบ.......

สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจผลิตภันณ์จาก Dream Cosmetique จาก Link เวชสำอาง ข้างล่างนี้ ท่านจะได้รับส่วนลด 10% ทันที เพียงท่านแจ้งการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ว่าได้ข้อมูลจาก Maxmaya http://www.dreamcosmetique.com/

New Comments
Friends' blogs
[Add Maxmaya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.