มาดามฟราย...ชีวิตที่เลือกเอง กับ ฝันที่เป็นจริง
 
Life In USA-12 ตอน Cape Girardeau County เมืองน่าอยู่

Life In USA-12 ตอน Cape Girardeau County เมืองน่าอยู่

เคปเจอราร์โด เป็นเมืองหนึ่ง (County) อยู่ในรัฐมิสซูรี่ (Missouri) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งประมาณ115 ไมล์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเซนต์หลุยส์ (St. Louis) และ 175 ไมล์ทางเหนือของเมมฟิส (Memphis)…มี Nickname หรือ เรียกเล่น ๆ ว่า Cape, The City of Roses, River City 

Bill Emerson Bridgeเชื่อมเคปเจอราโด และ อิลลินอยส์

ชื่อเมืองตั้งตามชื่อของผู้ก่อตั้งคือ Jean Baptiste de Girardot เมื่อประมาณปีคริสต์ศักราช 1733 Jean Baptiste de Girardot นั้นเป็นทหารฝรั่งเศส ประจำการอยู่ที่ Kaskaskia ระหว่าง ปีคริสต์ศักราช 1704 - 1720 ในอาณานิคมฝรั่งเศส Louisiane และเหตุที่ได้ชื่อ "Cape" นำหน้าชื่อเมืองนั้นเพราะว่าในครั้งกระโน้นมีแหลมหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินสามารถมองเห็นแม่น้ำมิสซิสซิปปี แต่ทว่ากาลต่อมามันได้ถูกทำลายไปเพราะมีการก่อสร้างทางรถไฟที่ขนานไปตามริมฝั่งแม่น้ำ...จำนวนประชากรในปี 2014 โดยประมาณ 39,167 คน


ริมแม่น้ำมิสซิสซิปปี้มีการก่อกำแพงป้องกันน้ำท่วมย่าน Downtown

ย่าน Downtown นั้นเป็นทั้งย่านธุรกิจเก่าและที่อยู่อาศัยประกอบไปด้วย อาคารพาณิชย์ที่ทำการค้า (ซึ่งมีไม่มาก) มหาวิทยาลัย บ้านเรือน และอพาร์ทเม้นท์ซึ่งมีทั้งแบบขายขาดและแบบให้เช่า ส่วนบ้านก็เป็นบ้านรุ่นเก่า ที่สร้างด้วยอิฐมอญ หรือหินปูน แต่ว่าหลังไม่ใหญ่นักและ มีพื้นที่รอบบ้านไม่มาก แต่ละบ้านจะไม่ทำรั้วกั้นอาณาบริเวณ เว้นแต่บ้านที่มีสุนัข...ที่ดินจะมีราคาแพงกว่าชานเมือง  หรือ Suburbs หลายเท่าตัวคงเหมือนกันทั่วโลกแหละนะ...พื้นที่ว่างในย่าน Downtown แทบจะไม่เหลือแล้ว ครั้นเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวทุกปี ๆ จำเป็นอยู่เองที่ต้องขยับขยายออกไปจนกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจใหม่ ซึ่งผู้คนสามารถทำทุกกิจกรรมได้ไม่ต้องขับรถไปมาไกล ๆ



นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ก็ต้องขยับขยายการพัฒนาที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยจากในเมืองก็ต้องขยับออกไปชานเมือง ซึ่งเป็นป่าไม้และพื้นที่การเกษตร แต่ละโครงการบ้านจัดสรรจะมีชื่อเรียก เช่น บ้านคีธจะอยู่ใน Hawk Landing เป็นหนึ่ง Subdivision...ผู้คนรุ่นใหม่จึงไปซื้อบ้านชานเมืองรอบ ๆ ใช้เวลาขับรถประมาณ 10-20 นาที ที่ความเร็ว 50 ไมล์ต่อชั่วโมง

ดูเหมือนว่าตั้งแต่ปี 2014 มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว...คีธขับรถพามาดามไปดู Subdivision อื่น ๆ หลายแห่ง ที่กำลังมีการก่อสร้างกันอย่างเร่งด่วนและที่น่าสนใจมากคือ บ้านเรือนของเมืองนี้ปลูกท่ามกลางดงต้นไม้ หรือบางแห่งอาจเรียกได้ว่าปลูกอยู่ในป่าไม้เลยก็ว่าได้ คนสร้างบ้านขายจะตัดต้นไม้ออกเฉพาะพื้นที่ส่วนที่จะปลูกบ้านเท่านั้น บาง Subdivision ได้ที่ดินโล่ง ๆ เพราะเป็นที่ทำการเกษตรจึงไม่มีต้นไม้เลย แต่พอคนซื้อบ้านไปแล้วเค้าก็จะหาซื้อต้นไม้มาปลูกเองจนดูเหมือนป่าจริงๆ ต้นไม้ที่ขายโดยทั่วไปความสูงประมาณ 4 ฟุต ลำต้นเท่าด้ามไม้กวาดประมาณนั้น...ส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีดอกสีสวย ๆและต้นไม้ที่ใบเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง สร้างสีสัน และชีวิตชีวาได้ทุกฤดูกาล...เมืองนี้ไม่มีการไปขุดล้อมต้นไม้ใหญ่ในป่าเอามาขายแบบเมืองไทยเรา คีธยืนยัน!!

การมีบ้านที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่ยังคงความเป็นป่าอยู่นั้นมันช่างน่าอภิรมย์ยิ่งนัก คนเมืองนี้ไม่ค่อยปล่อยให้พื้นที่รอบ ๆ บ้านรกร้างไม่ว่าจะพื้นที่น้อยหรือหลายเอเคอร์พวกเค้าก็จะหว่านเมล็ดหญ้าลงไปช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิเมื่อฝนมาไม่กี่วันเราก็จะเห็นต้นหญ้าเขียว ๆ โผล่พ้นดินขึ้นมา แค่ครึ่งเดือนเท่านั้นก็ต้องตัดกันให้เตียนแล้ว  เสียงเครื่องตัดหญ้าจะดังกระหึ่มทุกสุดสัปดาห์....เรื่องจริงท่านผู้ชม ยิ่งบ้านไหนที่สร้างมานานนับสิบปีก็จะมีต้นไม้ต้นใหญ่ ๆ ให้ร่มเงา ร่มรื่น เห็นแล้วรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ... รอบ ๆ ตัวบ้านพวกเค้ามักจะปลูกไม้พุ่มที่มีสีสัน เขียว แดง ส้ม และดอกไม้ แม้แต่โคนเสาตู้รับจดหมายก็มีดอกไม้ปลูกประดับไว้สวยงาม ให้ มิสเตอร์ และ มิสซิสโพสต์แมนได้เชยชมตอนเอาจดหมายมาส่ง....เมืองนี้ผู้หญิงก็ทำงานเป็น สตรีไปรษณีย์ ด้วยนะ...พาหนะที่ใช้ในการจัดส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ ไม่ใช่ รถมอไซ แต่เป็นรถเก๋ง หรือรถกระบะส่วนตัว แค่ขับมาเทียบที่ตู้รับ จ.ม. เลื่อนกระจกลง แล้วเปิดฝาตู้รับ สอดไปรษณีย์ภัณฑ์เข้าไป โดยไม่ต้องลงจากรถเลย...เว้นแต่กล่องพัสดุใหญ่มาก ๆ หรือรายการที่ต้องมีคนเซ็นชื่อรับ...

อยู่ในโครงการเดียวกับบ้านคีธ ซึ่งอยูซอยถัดไป คือTalon Trail

 เพราะความที่ธรรมชาติยังคงอยู่แม้จะมีบ้านเรือนโผล่ขึ้นมาแซมในดงไม้ แต่สัตว์ป่าน้อย ๆ ก็ไม่หวั่นยังคงออกมาหากินตามแนวป่าบางครั้งก็ออกมาหาอาหารแถวบ้านเรือนของผู้คน...ในดงไม้ข้างบ้านมาดามมีกระรอกหากินลูกไม้ริมลำธารตั้งแต่ฤดูหนาว พอช่วงฤดูร้อนนอกจากเจ้ากระรอกน้อยแล้วมาดามยังเห็นมี กระต่ายป่าออกมาก้ม ๆ เงย ๆหากินอะไรซักอย่างที่สนามหญ้าของมานิก้าถัดจากบ้านมาดามไป... พอมาดามเดินไปใกล้จะถ่ายรูปมันก็วิ่งเข้าป่าไปเลย....มาดามยังพบเห็นกระรอกแทบทุกที่ ๆ มีต้นไม้ใหญ่และมีลูกไม้ให้พวกมันกินเป็นอาหาร แม้แต่ตามอพาร์ทเม้นท์ในตัวเมืองก็มีกระรอกกระแต (ไม่รู้ว่าไรเป็นไรแน่ละจ้ะ บางครั้งคีธชี้ให้ดูนั่น Squirrel บางครั้งบอก นั่น Chipmunk มาดามก็เห็นรูปร่างหน้าตามันเหมือนๆ กันแหละ เรียกกระรอกอย่างเดียวเลย)

ตัวนี้หากินอยูข้างป่าแล้วก็ดอดมาหาของอร่อยที่บ้านหลังที่อยู่ ด้านหลังบ้านมาดามเอง

คีธบอกว่าเค้าเคยเห็นกวางในป่าข้างบ้านนี้ด้วย...โห! ไม่อยากจะเชื่อจนกว่าจะได้เห็นกับตา..หลายเดือนต่อมาคีธขับรถพาไปสำรวจที่ดินฟาร์มที่มีป่าไม้ใหญ่ ๆ เพราะมาดามพูดกรอกหูตลอดว่าอยากมีต้นไม้เยอะๆ ในที่ของตัวเอง แล้วจู่ ๆ เค้าก็เกิดอาการอยากจะมีฟาร์ม บนพื้นที่ 10 เอเคอร์ (มาดามว่าแค่ 5 เอเคอร์ก็ทำกันแทบรากเลือดแล้วละพี่น้อง!!)...เราขับเข้าไปในเขตป่าที่ติด Kiwanis Park คีธร้อง “โอ๊ะ นั่นกวาง” พร้อมกับเบรกรถ... เป็นไปไม่ได้!! มาดามว่าเค้าตาฝาดหรือไม่ก็แค่ล้อเล่นให้มาดามตื่นเต้น...เค้าถอยรถกลับแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนแคบ ๆ ไปประมาณยี่สิบเมตรแล้วหยุดมองหา แล้วบอกว่า “นั่นไง ตรงนั้นที่รัก”...มาดามเพ่งสายตาไปทางนิ้วที่ชี้ แบบไม่เชื่อหรอก มองหาไปงั้นแหละแต่เจ้าประคุณลุนช่อง สายตาพลันป๊ะเข้ากับบางอย่างที่มันเคลื่อนไหว...โอ้ว ๆ! นั่นมันเป็นกวางน้อยตัวนึง...เอ้านั่นอีกสองตัวรวมเป็นสาม กำลังเหลียวมองมาที่รถของเรา ทำท่าหันรีหันขวางว่าจะเอาไงดี...โว้ว แม่เจ้าโว้ยมันเป็นกวางป่าท่านผู้ชม ไม่ใช่สวนสัตว์นะจ๊ะ... มีอีกอย่างน้อยสองตัว ข้างในเห็นไวไว เผ่นไปก่อนเจ้าสามตัวนี่...มาดามไม่กล้าลงจากรถเพราะกลัวว่าจะทำให้พวกมันแตกตื่นหนีไปหมด Nikon ก็ไม่ได้หยิบติดมือมา ใช้มือถือถ่ายไกลแทบมองไรไม่เห็น สีของกวางเป็นสีเดียวกับสีของใบไม้แห้ง ๆ ในฤดูใบไม้ผลิง่ะ ถ้าพวกมันไม่เคลื่อนไหวนะ รับรองมีการ เดินชน แบบไม่รู้ตัวแน่...สัตว์บางครั้งอยู่ไม่เป็นที่เพราะต้องหาอาหารและน้ำดื่ม และที่เมืองนี้ มีแนวป่าติดต่อกันเป็นระยะ ๆ พอที่พวกมันจะเดินเพลิน ๆ ลัดเลาะมาจนถึงป่าข้างบ้านคีธนี่...เชื่อแล้ว! เพราะตอนมาดามก็ได้เห็นกับตาแล้วว่ามีกวางน้อยสี่ห้าตัวอยู่จริงๆ พ่อแม่ของพวกมันอยู่ไหนกันล่ะนี่?

กวางอยู่ในวงล้อมนั่นแหละพยายามเพ่งหน่อยนะคะ

ในเขตป่าที่ติด Kiwanis Park ในป่านั้นมีบ้านราคาแพง ๆ สิบกว่าล้าน สร้างไว้ขาย...เห็นตัวบ้านและโลเคชั้นแล้วน้ำลายหก อยากเป็นเจ้าของแต่พอได้ยินราคาแล้ว น้ำลายแห้งจนหืดขึ้นคอเลยละท่าน...(ไม่รู้ราคาแพงเพราะมีกวางออกมาเดินหาอะไรกินรึเปล่าเนอะ)

หลังนี้แหละสิบกว่าล้านบาท

บนท้องฟ้า และที่บึงน้ำใน Hawk Landing ยังมีห่านแคนนาเดี้ยน (Canadian Geese/Canada Goose) เช้ามืดพวกมันจะบินมาหากินที่บึงน้ำส่วนตัวของบ้านหลังหนึ่ง พอตกเย็นก็จะพากันบินกลับ  มาดามไม่รู้ว่าบ้านของพวกมันอยู่ไหนกันแน่ ฝูงนี้มีไม่ต่ำกว่า 50 ตัว เวลาบินมันจะจัดขบวนเป็นรูปตัว V หน้าขบวนจะมีจ่าฝูงบินเป็น Navigator ท้ายขบวนจะมีผู้ช่วยจ่าฯ บินปิดท้ายเพื่อคอยตบห่านที่อาจจะบินสะเปะสะปะจนทำให้เสียรูปขบวน (สงสัยว่าเพดานบินยังต่ำอยู่มั้ง) ดูเอาเถอะ แม้แต่ห่านก็ยังรักความเป็นระเบียบแบบแผน ตอนบินไม่บินเปล่า ๆ พวกมันจะบินไปร้องไป พอมาดามได้ยินก็จะวิ่งออกมาถ่ายรูปพวกมันตอนบินข้ามหัวไป...เย็นบางวันพวกมันไม่รู้เป็นอะไรบินและร้องวนไปวนมา สองสามรอบ...ตามสวนสาธารณะเกือบทุกที่ที่มีบึงน้ำมักจะพบเห็นแคนนาเดี้ยนกีสเสมอ คีธบอกว่าบางครั้งมันก็จิกคน...

การคมนาคมในเมือง Cape Girardeau

ความที่ตัวเองคุ้นเคยกับชีวิตเมืองหลวงของประเทศไทยที่เห็นแต่รถราสารพัดรูปแบบวิ่งขวักไขว่แออัดยัดเยียดกันบนท้องถนนติดแง่กยาวเป็นกิโล ๆ พอมาถึง Cape Girardeau มาดามเห็นว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดมากที่แทบจะไม่เคยเห็นรถโดยสารสาธารณะ หรือรถแท็กซี่วิ่งบนท้องถนนเลย...ว่าที่จริงในต่างจังหวัดบ้านเราก็ไม่เห็นแท็กซี่และรถเมล์เหมือนกันน่ะแหละเนอะ...

ในอดีตมาดามเคยคิดว่ารถราที่เมืองฝรั่งคงมีราคาแพง ที่จอดรถน้อย และผู้คนไม่ค่อยซื้อรถใช้...ไม่รู้อะไรทำให้คิดอย่างงั้น...หรืออาจเพราะเล็งไปที่คนในเมืองใหญ่ ๆ เมืองธุรกิจหรือเปล่าไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าเมื่อมาอยู่ที่เมืองนี้เห็นผู้คนมีรถกันทุกบ้านๆ ละ 2 คัน ผัวคัน เมียคัน บางหลังมี 3-4 คัน ล้นทะลักออกมาจอดตรงทางเข้าโรงจอดรถเลย....นี่คือความจริงที่ต่างจากความคิดของมาดามที่เคยมีอย่างสิ้นเชิง และก็เป็นคำตอบ หลังจากที่สงสัยมาตลอดครึ่งปี ว่าทำไมไม่มีคนมาเดินริมถนนให้เห็นเหมือนเมืองไทยบ้าง

Cape Transit Authority (CTA) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบบริหารจัดการด้านการคมนาคม ทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ...โดยจัดรถบัสคันเล็ก ๆ วิ่งรับส่งประชาชนภายในเมือง สนนราคาประชาชนทั่วไป $2 ผู้สูงอายุ $1 ส่วนเด็กอายุไม่เกิน ขวบ ขึ้น-ลงฟรี ในกรณีที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ห่างไกลจากป้ายรถประจำทางก็สามารถโทรเรียกแท็กซี่ ให้ไปรับ-ส่งถึงหัวบันไดบ้านได้ คิดราคาตามมิเตอร์ หรืออาจคิดเป็นการเหมาแล้วแต่ คีธบอกถ้าเจอคนขับไม่ดีก็ซวยไปเพราะจะเจอคิดราคาเหมา ๆ

ถนนหนทางในเขตเมืองชั้นในซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยนั้นจัดให้มีทางสำหรับขับขี่จักรยาน (Bicycle Lanes) โดยจะติดตั้งป้ายอักษร “Bike Lanes”แสดงไว้ริมถนน และพ่นสัญลักษณ์รูปจยย. ไว้ที่พื้นถนน และยังจัดให้มี Bike Lanes บนเส้นทางที่นำไปยัง State Park นอกเมือง สำหรับคนที่ชื่นชอบการปั่นจักรยาน หรือเดินป่า...และที่ถูกใจมาดามสุด ๆ เลยคือ แทบไม่มีมอไซออกมาวิ่งให้ปวดหัว มาดามเห็นมีคนขี่มอไซแค่สองครั้งตอนพวกเค้าขับเข้าไปเที่ยวป่า...ส่วนการจราจรตามท้องถนนนั้นสะดวกโยธิน Traffic-free เลยละ สำหรับการคมนาคมระหว่างเมืองนั้นจะให้บริการโดย Greyhound buses ซึ่งเป็นรถบัสคันใหญ่บริหารงานโดยภาคเอกชนมีเครือข่ายทั่วประเทศ และหลายภูมิภาค


Cape Girardeau Regional Airport เป็นสนามบินที่ให้บริการด้านการบินภายในประเทศทั้งเครื่องบินเล็กส่วนตัวและเครื่องบินใหญ่อยู่ห่างจากศูนย์ธุรกิจประมาณ 9 ก.ม. ตอนแรกมาดามคิดว่าเมืองนี้ไม่มีสนามบิน เพราะว่าตอนคีธเดินทางไปประเทศไทยเพื่อแต่งงาน เค้าไม่ได้บินจากที่นี่ แต่เค้านั่งรถตู้ 2 ชั่วโมงจาก เคปเจอราโด ไปขึ้นเครื่องบินที่ เซนต์หลุยส์ ไปที่ ชิคาโกและต่ออีกลำไป เกาหลี อีกลำ มาเมืองไทย...มาดามมารู้ทีหลังว่าที่นี่มีสนามบินก็เลยอดไม่ได้ที่จะถามเค้าว่าทำไมไม่ตีตั๋วยาวจากที่นี่ไปชิคาโก้เลย มันแวะไหนก็ช่างหัวมัน เพราะได้ราคาถูกว่าเยอะ....คำตอบ คือ “ไม่รู้เหมือนกันที่รัก” (มาดามคิดเอานะ ว่าเพราะเค้าเสิร์ชหาไฟลท์ ไป Thailand เว็บของ Expedia มันก็จะโผล่ขึ้นมาให้เลือกต้นทางจากเซนต์หลุยส์ เลยเพราะว่าสนามบินที่นั่นใหญ่กว่าเที่ยวบินเยอะกว่า)


Cape Girardeau Regional Airport



Southeast Missouri State University 


Southeast Missouri State University - River Campus


โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดและให้บริการประชาชนในรัฐมิสซูรี่



ห้างสรรพสินค้า


ร้านบาร์บีคิว ใหญ่มาก

วันนี้ Cape Girardeau เป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาค ด้านการศึกษา การพาณิชย์ และการดูแลทางการแพทย์ แม้ว่าประชากรของเมืองจะอยู่ที่ประมาณ 39,000 คน แต่คาดว่าจริง ๆ ในแต่ละวันมีคนมากถึง 90,000 คน ที่เดินทางมาทำงาน ช้อปปิ้ง เรียนหนังสือ และไปหาหมอตามคลินิก หรือโรงพยาบาลทั้งสองแห่งของ Cape Girardeau...


Bill Emerson Bridgeเชื่อมเคปเจอราโด และ อิลลินอยส์

Welcome toCape Girardeau


น่าอยู่มั๊ยล่ะท่าน  นี่ยังจาระไนไม่หมดนะ ยังมีอีกเยอะ!!!

ขอบคุณที่แวะมาค่ะ





Create Date : 21 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2558 9:12:06 น. 2 comments
Counter : 1285 Pageviews.  
 
 
 
 
รออ่านต่อค่ะ ติดใจมาก
 
 

โดย: jinaka IP: 182.53.190.208 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:11:32:34 น.  

 
 
 
คุณ jinaka เงียบไปนานเลยนะคะเนี่ย
พยายามเขียน ๆ อยู่ค่ะ แต่เกรงว่าอาจมีทิ้งช่วง เพราะตอนนี้ดูเหมือนเวลามันหดหายไปกับหลาย ๆ อย่างค่ะ
ขอบคุณที่ส่งเสียงมาค่ะ
 
 

โดย: มาดามฟราย (สมาชิกหมายเลข 1963584 ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2558 เวลา:1:16:18 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

สมาชิกหมายเลข 1963584
 
Location :
United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาดามฟรายค่ะ...
ข้ามห้วยมาไกล...ขอจอยน์ด้วยคนนะคะ
หากอ่านแล้วมีความคิดเห็นยังไง
ก็กระซิบกระซาบมาให้ได้ยินได้อ่านบ้าง
หรือเชิญมาดามไปเยี่ยมที่บล็อกของเพื่อนบ้าง
ด้วยความยินดีค่ะ...
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามา
และทุก ๆ ท่านที่ติดตามประจำนะค๊า
New Comments
[Add สมาชิกหมายเลข 1963584's blog to your web]

MY VIP Friends


 
 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com