ดูดู๋...ความที่ตื่นเต้นกับฤดูใบไม้ร่วงอย่างสุดขีดเลยโพสต์เรื่องราวและภาพไปแบบสดใหม่ทำให้ลัดคิวเรื่องราวในฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนไปอย่างช่วยไม่ทัน...ขออนุญาตยูเทิร์นมาที่ช่วงสปริงถึงซัมเมอร์ก็แล้วกันนะคะท่านผู้ชม

ดอกไม้แสนสวย

เมื่อ Winter ที่เงียบเหงาและหนาวเหน็บ จากไป Spring ก็ย่างเข้ามาเสียบ...มาดามเฝ้าดูต้นไม้รอบบ้านว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นใบน้อยๆ เขียว ๆ ค่อยแตกออกจากกิ่งก้านและลำต้น ส่องดูด้วยกล้องดูนกของคีธซึ่งขยายได้ขนาดภาพที่ว่าอยู่ไกล 100 เมตรแต่มาปรากฎในกล้องเหมือนอยู่ตรงหน้ากันเลยทีเดียว...อากาศยังคงหนาวอยู่และลมก็ดูเหมือนจะพัดแรงกว่าเดิมนั่นยิ่งทำให้หนาวหนักในบางวัน...

ขณะที่เดินสำรวจรอบๆบริเวณบ้าน ซึ่งตอนนั้นมีเพียงบ้านคีธกับบ้านมานิก้า ..เดินไปถึงลำธาร (Creek) เพื่อมองหาเจ้ากระรอกน้อยที่เห็นตอนฤดูหนาว...ตอนนี้มันหายไปไหนนะ...ได้ยินเพียงเสียงนกน้อยเรดเบิร์ด (Red Bird) ที่ขับขานตั้งแต่เหมันต์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้มาดามชอบเสียงของมันจริง ๆ รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่โลกที่เคยอยู่มาตลอดชีวิตที่ผ่าน...

สิ่งมีชีวิตชุดแรกที่ปรากฏให้เห็นอยู่บนพื้นดินพวกมันพยายามเบียดตัวออกจากแนวหญ้าแห้งที่บัดนี้นอนราบติดพื้นเพราะถูกหิมะทับมานานแรมเดือนพวกมันคือวัชพืชนั่นเอง และที่น่าสนใจคือฟอร์มของพวกมันดูแปลกตาแต่ทว่างดงามราวภาพวาดลายเส้นที่เคยเห็นในนิตยสารเกี่ยวกับการจัดสวนซึ่งในสมัยนั้นมาดามคิดว่าคนที่เขียนลายเส้นเหล่านั้นคงแค่ใช้จินตนาการของศิลปินมันคงไม่มีลักษณะของพืชพรรณนั่นอยู่จริงแต่ตอนมาดามได้พบแล้วว่ามันมีอยู่จริงที่นี่ อเมริกา และมีหลายชนิด...

มาดามนั่งยอง ๆก้มลงพินิจพิจารณา เพราะบางชนิดมันเล็กมากมาดามถ่ายรูปไว้ด้วยความยินดีที่เห็นพืชเขียว ๆ และพวกมันโตเร็วมากเพียงอาทิตย์กลับไปสำรวจอีกครั้ง จำหน้าตากันไม่ได้เลยถ้าไม่ถ่ายภาพไว้มาดามจะไม่มีทางรู้เลยว่าก่อนหน้านั้นมันมีลักษณะยังไง...

ใบไม้ผลิย่างเข้ามาถึงกลางเดือนแล้ว...มาดามตามคีธออกไปซื้อของเมื่อผ่านบ้านเรือนผู้คน ก็เห็นความสดสวยสวยงามบริเวณหน้าบ้าน รอบบ้านของดอกไม้สีเหลืองสดใสหน้าตาคล้ายตระกูลว่าน ที่ขึ้นเป็นกอ ๆสนามหญ้าของพวกเค้าตอนนี้เขียวขจี เรียบกริบ น่าลงไปนอนกลิ้งเล่น...คีธบอกว่าดอกไม้นั่น เรียกว่า แดฟฟอดิล (Daffodil) ซึ่งใช้หัวปลูกเพียงครั้งเดียวออกดอกปีละครั้งตอนสปริง แล้วต้นก็จะแห้งตายไป แต่ว่าหัวยังไม่ตาย มันจำศีล รอวันงอกขึ้นมาใหม่ในทุกๆ ปี

สองข้างทางถนนเริ่มกลายเป็นสีเขียวมากขึ้น ผืนดินบางแปลงเขียวราวปูพรม ไร้ต้นไม้ขึ้นรกเกะกะมาดามคิดว่ามันเป็นหญ้าที่เจ้าของฟาร์มปลูกไว้เลี้ยงโคและม้า แต่คีธบอกว่า นั่นมันวีท (Wheat) หรือข้าวสาลีนั่นเอง...เกษตรกรจะลงมือปลูกข้าวสาลีก่อนเป็นอันดับแรกในฤดูไม้ผลิ...และมันเติบโตเร็วมากเพียงสามเดือนก็เกี่ยวได้แล้ว...จากนั้นจะปลูกข้าวโพด หรืออย่างอื่นต่อ

วอลมาร์ท ขนต้นไม้ดอกไม้ นานาพันธุ์หลากสีสวยสด ทั้งแบบ แขวน และตั้ง กระถางเล็ก ๆ ออกมาขายให้ลูกค้าได้ซื้อไปประดับสวนหน้าบ้านหลังบ้าน แต่พอเหลือบมองราคาแล้ว อยากหยอดเมล็ดปลูกเองดีกว่า เอาแบบ “ดอก...ไม่กลัวหนาว” ไปเลย แต่ก็อดใจรอไม่ได้ ต้องซื้อติดมือกลับบ้านสนองตัณหา ให้หายอยาก 4 ต้น

ดอกบานแล้ว กระถางละ $3+

Hyacinth วางไว้หลังบ้านก่อน รอให้ดอก

ดอกชมพูนี่ คือ Hyacinth แม้จะยังเล็กแต่ก็ออกดอกช่อใหญ่สะใจยิ่งนัก...ส่วนสีเหลือง คือ Daffodil พวกนี้ขยายพันธุ์ด้วยหัว (Bulb) ดอกตูมกระถางละ $0.98 ถูกได้ใจจริง ๆ ....เชื่อว่าวอลมาร์ทคงเอาหัวลงดินไว้ตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวและปลูกในพื้นที่ ๆ ปรับอุณหภูมิเหมาะต่อการเติบโต... Hyacinth กับ Daffodil เอามันวางไว้ที่ขอบหน้าต่างในครัวจะได้รับแสงแดดช่วงบ่าย ๆ และมาดามจะได้ชื่นชมมันตลอดเวลาที่ต้องกิจกรรมในครัวตั้งแต่ 10.00-13.00 คิดว่าเดี๋ยวอีกสองสามวันจะเอาไปลงดินปลูก....

ต่อมาก็ย้ายดอกชมพูกับดอกเหลืองมาลงดิน...แต่คุณผู้ชม เจ้าสองไม้ดอกแสนสวยนี่ดูมันไม่อึดไม่ทนเอาซะเลยมันโชว์ดอกอยู่ได้น่าจะอาทิตย์เดียว แล้วก็เฉา ๆๆๆๆ ตามกันไป...พอดอกจากไปไม่นานใบก็ไม่คิดอยากจะมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะรดน้ำยังไงมันก็ไม่แคร์ ได้แต่เฉาลง ๆแล้วก็เปื่อยไป...มาดามคิดว่ามันไม่ชอบดินบ้านคีธแหง!  แต่ว่ายังมีลุ้น ๆ ว่าปีหน้ามันอาจจะงอกขึ้นมาอีกถ้าหัวเก่าไม่เน่าไปซะก่อน

ด้วยความที่อยากลองปลูกเองบ้างก็อุตส่าห์ไปหยิบซองพันธุ์ดอกไม้ที่ก็มีขายด้วยมาสองชนิดแบบเสี่ยง ๆ ว่าจะขึ้นไม่ขึ้น...ได้ Tigridia Mixtured ในรูปมี 3 สีและมี 3 หัวในซอง เดาว่าน่าจะหัวละสีละนะ และ FragrantGladiolus (Acidanthera) มี 4 หัวในซองดอกสีขาวไม่สวยเท่าไหร่ แต่ไม่มีอย่างอื่นแล้วมีแค่สองขนานนี่เอง...

มาดามเอาลงดินเลย รวม 7 หลุม ทำตามที่แนะนำหลังซองเป๊ะ แต่ไม่ได้ใส่ปุ๋ยหรือผสมดินสำหรับปลูกดอกไม้แต่ประการใด...เฝ้ารดน้ำไม่ได้ขาด ยกเว้นวันฝนตก (อเมริกาฝนดี ตกได้ตกดี) คอยเช็คว่าเมื่อไหร่จะเห็นอะไรโผล่พ้นดินขึ้นมาบ้าง.....เจ้า Fragrant Gladiolus มันออกดอกหลังจากปลูกได้ 4 เดือน ออกครั้งละดอก ออกมา 12 ครั้ง รวมได้ 12 ดอกในหนึ่งช่อที่สำคัญ มันหอมมาก ส่วนเจ้าTigridia Mixtured มันไม่โผล่หัวขึ้นมาให้เห็นไรเลย

ชุบชีวิตเฟิร์น

ช่วงต้น ๆ ฤดูใบไม้ผลิมาดามเจอเฟิร์นโทรมๆ ต้นและรากแห้ง ๆ บ้านหลังที่อยู่ด้านหลังโยนมันทิ้งมาใกล้ ๆ เขตที่ของคีธเลยเก็บมันมา ให้คีธเอาเลื่อยแบ่งมันออกเป็นสองส่วนมาดามเอาลงดินตรงหน้าห้องทำงานของคีธ สองมุม รดน้ำไม่ขาดกว่ามันจะฟื้นใช้เวลาประมาณเกือบสองเดือนใบจะงอกจากราก และสปอร์ที่ติดมา...มาดามรอจนมันแตกใบได้ทรงพุ่มใหญ่ก็จัดแจงแยกกออกไปปลูกแทรกตรงกลางระหว่างสองกอแรก...มัมมาที่บ้านเห็นต้นเฟิร์นเวอร์ชั่นใหม่ร้องวู้เลย

Airplane (แอร์เพลน)

แม่สามีตระหนักว่าศรีสะใภ้ชื่นชอบการปลูกผักและดอกไม้วันนึงก็ขับรถมาที่บ้านพร้อมกล่องใบหนึ่งในนั้นมีกอไม้เขียว ๆ โทรม ๆ ดูเหมือนกอตะไคร้...แด็ดอุ้มมันไปวางที่หลังบ้านมารู้ชื่อของมันในเวลาต่อมาว่า แอร์เพลน ดูไม่เหมือนเรือบินเนอะ สภาพมันอยู่ในขั้นโคม่ามาดามแยกมันเป็นสองกอ ดึงใบที่ตายแล้วออกไปประมาณ 20% ตัดปลายที่แห้งเพราะขาดน้ำทิ้งเหลือแต่ใบเขียวๆ ดูดีขึ้นมาหน่อย แล้วเอาไปปลูกหน้าบ้านที่โรยกรวดไว้ตรงนั้นขุดลงไปมีแต่ทรายมากกว่าดิน..ขุดแล้วก็ต้องปลูกละนะที่อื่นไม่เหมาะมีแต่หญ้า...รดน้ำเช้าเย็น มัมก็หมั่นโทรมาถามลูกชายว่าต้นไม้เป็นไง...มาดามไม่เคยรู้มาก่อนว่าเจ้า แอร์เพลนนี่มันมีดอกด้วย จนกระทั่งวันหนึ่งเห็นอะไรม่วง ๆ แพลม ๆ แซมในกอ พอแหวกดู ว้าว ๆ มันมีดอกสีม่วง สีที่โปรดปราน....ออกเป็นช่อเล็ก ๆ ยาวขึ้น ๆ จนสูงเลยใบเห็นได้ชัดเจน...

แบล็คอายซูซาน (Black Eye Susan)

มัมมาที่บ้านเห็นแอร์เพลนงอกงามดี เธอก็เลยเรียกคีธไปขุด แบล็คอายซูซาน มาปลูก...คีธไม่รู้ความเล่นถอนกอมาทำให้ดินร่วงออกจากรากหมด (ก็ดินมันแห้งมาก) กว่ามาดามจะประคบประหงมให้มันรักษาดอกที่ติดมา และแตกดอกใหม่ เล่นเอาลิ้นห้อยเมื่อแดดจัด ๆ มันเฉา หัวใจงี้แทบสลาย ต้องเอาร่มไปกางป้องกันแดด ไอ้ลมบ้าก็ดันพัดแรงร่มกระเจิง เลยต้องหาหลักปักและมัดร่มติดไว้ พอช่วยได้... แบล็คอายซูซาน จริง ๆเป็นดอกไม้ป่า มันขึ้นมาป่าเขา และข้างทาง ออกดอกช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงซัมเมอร์

พิทูเนีย

ต่อมามัมก็ยกกระบะพิทูเนีย จากระเบียงห้องซันรูฟ มาให้รอบนี้โทรมทรุดโคม่า ยิ่งกว่าแอร์เพลนอีก...เอาเหอะไหนเธอก็อุตส่าห์ยกมาให้ถึงบ้าน ก็รดน้ำไป ตัดกิ่งที่แห้งตายออก วางให้เจอแดดครึ่งวันก่อนเพราะดูเหมือนว่าบางต้นมัมเพิ่งจะหักกิ่งจิ้มลงในกระบะ...ดูสารรูปเอาก็แล้วกันบรรยายไม่ถูก....ช่วงปลายซัมเมอร์รอบๆ บ้านก็เลยมีมีดอกไม้ พุ่มไม้ขึ้นมาบ้าง

ที่อเมริกา มีดอกไม้ให้เลือกปลูกหรือซื้อหาในแต่ละฤดูกาล ผู้คนส่วนมากนิยมซื้อ ดอกไม้ตามฤดู มันง่ายกว่าปลูกเอง ทำให้รอบ ๆ บ้านไม่เคยขาดสีสันของดอกไม้สวย ๆ เลยสักวัน...

ตอนต่อไปมาชมผักสวนครัวของมาดามกันค่ะ ดูว่า นอกจากไม้ดอก แล้ว ยังมี ไม้แดก ไรปลูกไว้บ้าง 

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมานะค๊า

อ่าน Life In USA-9 ตอน ผักสวนครัวมาดามฟราย

คลิกอ่าน วิถีเกษตรที่เมือง Sikeston

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 2 มกราคม 2559 3:54:56 น.		0 comments
Counter : 2263 Pageviews.
Share Tweet