มาดามฟราย...ชีวิตที่เลือกเอง กับ ฝันที่เป็นจริง
 
ตอนที่ 11 กว่าจะมาเป็น มาดามฟราย (สมรส-สมรัก ตามธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ)

ตอนที่11 กว่าจะมาเป็น มาดามฟราย

สมรส-สมรักตามธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ

หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคมาหลายด่าน....ในที่สุด วันแห่งการรอคอย....ก็มาถึง


อาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2014 วันนี้....เป็นวันวิวาห์ ที่จัดขึ้นตามขนบธรรมเนียมและประเพณีไทย ที่ผู้คนรอบ ๆ ข้างมาดามจะรับรู้และยินดีด้วยอย่างแท้จริง...กาลเวลาได้พิสูจน์ในสิ่งที่มาดามใส่ความพยายาม... ใส่ความจริงใจ ตลอดระยะเวลา 1 ปีเศษๆ...

มาดามตื่นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกอย่างพร้อมในรถต้องแต่เมื่อคืนขันหมากเอก และ ขันหมากโทที่เป็น ต้นกล้วยให้พี่ชายเอามาจากลพบุรี ส่วน ต้นอ้อยให้เพื่อนร่วมงานเมื่อสิบกว่าปีก่อนจัดหาให้...ดูแล้วมาจากหลายสารทิศเนอะ...ประหยัดไงแล้วนี่ก็เป็นพิธีแต่งงานที่ประหลาดที่ฝ่ายเจ้าสาวต้องจัดขบวนขันหมากเพื่อมาแต่งตัวเองคริคริ...แต่เงินของเจ้าบ่าวเค้าทั้งหมดแหละจ้า

ขับรถออกจากบ้านคนเดียวตอนตีสี่ครึ่งเพื่อไปที่ Vicenza...มาดามนัดช่างแต่งหน้าทำผมไว้แล้วแต่ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยหลังจากวันที่คุยกันครั้งแรก (นี่คือความสะเพร่าอย่างแท้จริงกรุณาอย่าลอกเลียนแบบ) กำหนดการคือเริ่มแต่งหน้าตีห้าเพื่อเข้าพิธีเช้า 7 โมงเช้า....มาดามคิดว่าเวลาช่วงนี้รถราคงไม่มีออกมาแล่นบนถนนขับ 30 นาทีถึงสบาย ๆ โดยเฉพาะเป็นวันอาทิตย์ชะล่าใจ...ที่ไหนได้บนทางยกระดับช่วงวงแหวนอุตสาหกรรมไม่รู้อะไรนักหนารถรามากมายและยังติด ยึกยัก หลายช่วงหลายตอนเวลาที่กะไว้ไม่น่าพอ...มาดามเริ่มโทรเข้ามือถือช่างทำผมเพื่อที่จะบอกว่า รอหน่อยรถติดอยู่ แต่คุณผู้ชมคะคนที่รับสายเสียงผู้ชายค่ะ เขาทำเสียงงัวเงียมาดามต้องบอกไปว่าโทรมาเรื่องไร เขาก็ถามอย่าง งง ๆ ว่า “สถานที่อยู่ที่ไหนครับ” มาดามใจหายวาบเอาแล้วฉัน...ชีวิตจะรันทดอีกแล้วหรือนี่....บอกเขาไปเสียงฝั่งโน้นตอบมาว่า “ครับ ๆ เดียวจะบอกคุณบีให้ครับ” มาดาคิดว่าพวกเค้าอาจเป็นสามีภรรยากันแต่เมื่อพิจาณาจากคำถามดูเหมือนว่าคุณบีของมาดามจะยังไม่ได้ขยับร่างออกจากที่นอน...


มาดามเดา...พอขับรถได้ยาว ๆ ไม่ติดช่วงลงกาญจนาภิเษก บางแคมาดามเหยียบเกือบมิดจนถึงถนนบรมราชชนนี...มาดามขับลงมาแล้วเกิดจำไม่ได้ว่าต้องขึ้นสะพานกี่ครั้งและกลับรถใต้สะพานไหน...วนอยู่อย่างนั้นสองรอบ...มาดามสายไปกว่าครึ่งชั่วโมง...เมื่อเข้าไปจอดรถก็พบว่ามีรถคันหนึ่งจอดอยู่แล้วซึ่งก็คือรถของเมคอัพอาร์ทติสนั่นเอง....มาดามหอบชุดทั้งหมดออกจากรถวิ่งโร่ขึ้นไปห้องแต่งตัวชั้นบน...มีชายหนึ่งหญิงหนึ่งรออยู่...โชคดีที่พวกเค้ามีบ้านพักอยู่ไม่ไกล...ทุกอย่างต้องรีบแล้ว...ช่างหญิงแต่งหน้า-ช่างชายทำผม ไปพร้อม ๆ กันมาดามใจชื้นขึ้น แต่ก็บอกน้อง ๆ ว่าไม่ต้องสวยมากแต่ขอให้ทันเวลา....ครึ่งชั่วโมงต่อมาช่างภาพของมาดามก็มาถึงน้องเอกเค้าก็มาสวัสดีแล้วเริ่มปฏิบัติการถ่ายภาพ (หน้าซีดๆ ผี ๆ ) ของเจ้าสาวขณะถูกโบ๊ะหนังหน้าแต่ยังไม่ทันได้ป้ายสี...เห็นแล้ว ก๊ากกก...ยากที่จะยอมรับจากนั้นเอกก็ขอยืมชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปถ่ายอีกห้องหนึ่งสำหรับทำโพร์ไฟล์ตามแพทเทิร์นของตากล้องมืออาชีพ....

น้องสาวมาดามกับเจ้านายของเธอคุณอารยา ก็ขึ้นมาดูลาดเลา จริง ๆ พวกเธอได้มาถึงหลังมาดามไม่นานนักแต่ดูแลสถานที่จัดโน่นนี่นั่นให้เข้าที่เข้าทางอยู่ด้านล่าง...คุณอารยาติว่าสีทาปากจืดไป...ขอเติมหน่อย...ช่างก็อึดอัดเพราะคงขัดกับรสนิยมหรือแพทเทิร์นของเธอ แต่ก็ยอม ๆ ยังไม่พอคุณอารยาก็ยังบอกว่าดอกไม้ที่ติดผมนั่นไม่สวยเลยน่าจะอย่างโน้นอย่างนี้...ระหว่างนั้นเจ้าบ่าวก็ยังมาไม่ถึงเพราะหลานสาวของมาดามขับรถหลงไป-มาเจ้าคริสก็จำสะพานไม่ได้เหมือนมาดาม...มาดามเรียกหาน้องสาวให้ช่วยไปบอกนายพิธีว่าอย่าเพิ่งไปรับพระที่วัดแต่ไม่ทันการณ์ซะแล้วพระรู้หน้าที่มีรถมาเองไม่ต้องไปรับ...ท่านก็มานั่งฉันน้ำรอๆ ๆเจ้าบ่าวก็ยังมาไม่ถึง...เวรกรรม...โอย ๆ หน้าก็ยังแต่งค้าง ๆโทรศัพท์ก็เข้า...เพื่อนสมัยนักเรียนโทรมาถามทางบอกว่าอยู่ตรงนั้นตรงนี้จะมายังไงอยู่ตรงไหนแน่...บอกทางกันอยู่สามรอบ...

ในที่สุด...คริสก็พาคีธขึ้นมาชั้นบน...มาดามได้ยินเสียงใครคนหนึ่งถามว่า “ชุดเจ้าบ่าวอยู่ไหนเอามาหน่อยเร็วหน่อย” มาดามลืมตามอง....หัวใจจะวาย...เจ้าบ่าวของมาดามมาในชุดกางเกงยีนส์เสื้อยืดโปโลลายขวางเทา-ขาว...พลาดอีกแล้ว“ทำไมยูไม่เปลี่ยนใส่ชุดที่ไอบอกมันแขวนที่ราวในห้องนอนไง” คำตอบ “ไอ.ด้อน.โน” มาดามหันไปหาคริส “ทำไมไม่ดูให้เขาสวมชุดพิธีเช้าแม่สั่งแล้ว” คำตอบ “ไม่รู้เค้าบอกว่าแม่เอาชุดมาแล้ว” คุณอารยาเข้ามาขัดจังหวะ “เอาชุดกินเลี้ยงนั่นแหละสวมเร็วเกินฤกษ์มานานแล้ว” แล้วเธอก็ช่วยแต่งตัวให้เจ้าบ่าวดูเธอคล่องแคล่วไปซะทุกอย่าง...แล้วนายพิธีก็มายืนรออย่างกระวนกระวาย...และพาเราสองคนลงบันไดมาเพื่อจะเข้าไปในห้องทำพิธีชั้นล่าง...

มาดามคล้องแขนคีธไว้เราเดินมาถึงทางเข้าแล้วอย่างไม่คาดคิดเจ้าบ่าวร้อง “อุบส์” พร้อมกับกระตุกแขนที่มาดามคล้องอยู่ไปคว้าเอวกางเกงของตัวเองมาดามก้มมองดู...เวรกรรม ๆ กางเกงหลวม ขนาดรูดลงมา ที่สำคัญคีธไม่ได้คาดเข็มขัดที่ปกติเค้าต้องใช้เป็นประจำ...วันนี้เขาสวมยีนส์โดยไม่คาดเข็มขัด???? โอย ๆอยากจะบ้าให้รู้แล้วรู้รอด...นายพิธีหันมาเห็นก็แก้ไขสถานการณ์โดยวิ่งไปขอยืมเข็มขัดน้องๆ นักศึกษา ม.มหิดลศาลายาที่มาช่วยเสิร์ฟอาหารเครื่องดื่ม....เวลานี้คีธเหมือนเด็ก ๆ ที่ดูไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ทำตัวไม่ถูก (มาดามมานึกได้ตอนหลังว่าเพราะเค้าตื่นแล้วยังไม่ได้ปลุกตัวเองด้วยกาแฟ 3ถ้วยทำให้ยังงง ๆไม่พร้อมที่จะทำอะไร)


พิธีการเช้า เริ่มด้วย บ่าว-สาวจุดธูปเทียนนั่งฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ตักบาตรถวายภัตตาหาร ถวายสังฆทาน-ปัจจัยกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล....พิธีเช้าผ่านไปด้วยดี คีธทำได้ดีขึ้นเพราะว่าเขาได้เรียนรู้จากวีดีโอและเอกสารที่มาดามส่งให้ก่อนหน้าหลายเดือน....เราส่งพระกลับออกไป

จากนั้นเป็น พิธีแห่ขันหมาก-สู่ขอ ซึ่งในระหว่างนั้นนายพิธีให้มาดามเก็บตัวที่ห้องชั้นบน...มาดามได้รับเกียรติจากอดีตนายจ้างเมื่อ 12 ปีก่อน คุณสมพงษ์ อวกุล มาเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว...วันนี้เจ้านายผู้แสนดีของมาดาม รับบทหนักมาก...ส่วนผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวก็มีบรรดาพี่ชายและพี่สาวของมาดามรวมสี่คนคุณพ่อท่านแก่มากไม่สามารถเดินทางไกล ๆ จากลพบุรีมาร่วมพิธีได้ส่วนคุณแม่นั้นได้แต่นอนอยู่บนเตียงมาหลายปีเพราะเป็นอัมพาตครึ่งซีก....


ลำดับถัดมาเป็น พิธีหมั้น นายพิธีพาเจ้าบ่าวขึ้นมารับตัวเจ้าสาวลงไปทำพิธีหมั้นหมาย...เราต่างสวมแหวนให้กันและกัน...ตอนนี้มาดามมีแหวนสองวงในนิ้วนางซ้าย แหวนหมั้นและแหวนแต่ง เป็นแหวนเซ็ทคู่ที่มีคนชมว่าสวยงามนัก...สวนแหวนเจ้าบ่าวเป็นแหวนมรดกตกทอดจากรุ่นปู่มาถึงรุ่นพ่อของเค้าตอนนี้มันอยู่ที่นิ้วนางของเค้าแล้วพอดีเป๊ะ มาดามไม่ต้องจ่ายสักเก้...เป็นธรรมดาที่แขกเหรื่อก็อยากจะกลั่นแกล้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว...ต่างๆ นา ๆ ซึ่งเจ้าบ่าวดูเหมือนจะชอบ...

ตามด้วยพิธีรับไหว้ คีธจริง ๆ ไม่สามารถนั่งพับเพียบได้จึงต้องนั่งขัดสมาธิตลอดพิธี (เราซ้อมนั่งสวมแหวนที่บ้าน แต่เค้าทรงตัวไม่ได้จะล้มไปด้านข้าง)....ได้เวลาหิวกันแล้ว...เบรกรับประทานอาหารว่างเช้าสำหรับแขก 50 คน


ลำดับถัดมาเป็น พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์...เจ้าหน้าที่ได้ปรับแต่งสถานที่ไว้พร้อมแล้ว...ตลอดพิธีการนายพิธีผู้น่ารักและมีอารมณ์ขัน (แซวได้ตลอดเวลา ทำให้บรรยากาศคึกครึ้น) ได้บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับพิธีแต่งงานตามขนบธรรมเนียมไทยแท้ ๆรวมถึงความหมายของแต่ละสิ่งอย่างใน ชุดขันหมากเอก และขันหมากโทแก่แขกที่มาร่วมและแปลเป็นภาษาอังกฤษควบกันไปทำให้คีธรู้เรื่องราวตลอด...เนื่องจากมีแขกมาร่วมงานไม่มากพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์เสร็จเร็วกว่ากำหนด...


จากนั้นเป็น พิธีส่งตัวเข้าหอ ซึ่งก็ใช้ห้องชั้นบนที่มีเตียงนอนใหม่ ๆ แต่ว่ามาดามเตรียมผ้าปู ปลอกหมอนของตัวเองมาใช้..ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายขึ้นมาให้โอวาทให้พรอีกรอบ...โปรยดอกไม้...แล้วปล่อยให้เราอยู่กันสองคนเพื่อเปลี่ยนชุดลงไปงานเลี้ยงกลางวัน


งานเลี้ยงกลางวัน เจ้าหน้าที่ปรับเวทีเป็นครั้งที่สามและจัดโต๊ะรับประทานอาหารให้กระจายเต็มห้องซึ่งเร็วกว่ากำหนดมาดามได้มอบหมายให้หลานสาวอีกคนช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ควบคุมระบบเพื่อการฉายสไลด์พรีเซนเทชั่นระหว่างงานเลี้ยงและมอบหน้าที่ให้เธอช่วยเป็นพิธีกรด้วย....เจ้าบ่าวและเจ้าสาวถูกเชิญให้ลงไปที่ห้องจัดเลี้ยง...เจ้าสาวมาในชุดกระโปรงบานยาวสีขาวแขนแขนล้ำแบบคล้องคอ (เพราะมันช่วยปิดไหปลาแดกที่ลึกมาก) เปลี่ยนดอกไม้ติดผมช่อใหม่ที่ช่างทิ้งไว้ให้เจ้าบ่าวอยู่ในสูทสีดำชุดเดิมที่เหงื่อโชก...มาดามคล้องแขนเจ้าบ่าวมาหยุดที่หน้าประตูทางเข้า (ตามคำสั่งของหลานสาวซึ่งแทนที่จะขึ้นไปเป็นพิธีกรอยู่บนเวทีชีก็ผันตัวเองมาเป็นคนช่วยพิธีกรกำกับบทแล้วโยนสคริปท์พิธีกรที่เตรียมมาให้เจ้าพี่ชายซึ่งก็เป็นหลานชายของมาดาม...ดีมะล่ะคะ)...


ยืนรอหน้าประตูจนพรีเซนเทชั่นจบก็เดินควงคู่กันเข้าไปด้านในผ่านโต๊ะแขกที่จัดไว้สองฟากข้าง ตรงกลางเป็นทางเดิน (นี่เป็นไอเดียคุณอารยาสั่งการเองเลย) หน้าเวที เป็นโต๊ะเค้ก มาดามสั่งคัพเค้ก 50 คัพเรียกว่าได้กินกันครบทุกคน...ชั้นยอดเป็นเค้กปอนด์ไว้สำหรับตัด...พิธีก็เริ่มไปเหมือนคู่อื่นๆมีการคล้องมาลัยบ่าว-สาว เชิญผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายขึ้นอวยพรบ่าว-สาวกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานสัมภาษณ์นิดหน่อยว่าเราเจอกันได้ไง (เพราะในพรีเซนเทชั่นไม่มีการเล่าเรื่องราวมีแต่ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งประกอบเพลง I do Cherish Youที่มาดามชอบ)


เสร็จแล้วก็ตัดเค้ก...รันทดเล็กน้อยกว่าจะตัดได้เพราะเราไม่ได้ซ้อมกันมาก่อนเลยไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแต่ก็สำเร็จลงด้วยเพราะ มาดามเทคโอเว่อร์ดาบ...บอกคีธ “ยูแค่จับดาบเฉย ๆปล่อยไอจะคอนโทรลมันเอง” .....เป็นอันว่าแขกทุกคนได้กินเค้กอร่อย ๆ กันถ้วนหน้า (เหลือไว้ให้มาดามเอากลับบ้าน 3-4 ถ้วย....โต๊ะจีนอีกหนึ่งโต๊ะขนกลับไปให้เพื่อนบ้านที่ไม่ได้มาร่วมงานแต่ให้ซองมา)


เมื่อกินอิ่มสวนเสเฮฮาและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันจนพอใจแล้วเราก็ออกไปส่งแขกที่โถงด้านหน้าอาคารถ่ายภาพสุดท้ายกันก่อนออกประตูไป....ก่อนจากกัน...อดีตเจ้านายสั่งเสียคีธผู้ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว “Take care of her” เขาตอบอย่างหนักแน่น “Don’t worry I will”  มาดามจำคำนี้ไว้ไม่มีวันลืม แล้วบอกคีธว่า "อย่าลืมคำพูดนี้ ไอถือว่ามันคือคำสัญญา"



เราสองคนขอถือโอกาสนี้

ขอบคุณ ทีมงาม Siam House, นศ.มหาวิทยาลัยมหิดลที่มาช่วยงานและยังให้ยืมเข็มขัดช่วยกู้หน้า...

ขอบคุณ นายพิธีที่แปลความเป็นอังกฤษโดยไม่คิดค่าตัว ซึ่งปกติ ที่อื่น ๆต้องจ่ายสี่ห้าพันบาท...

ขอบคุณ อดีตเจ้านายผู้อารี คุณสมพงษ์ อวกุล  หนึ่งเดียวในดวงใจผู้ซึ่งเป็นมิตรแท้ตลอดกาลของมาดาม

ขอบคุณ คุณอารยา เมตตคุณมัย บิ๊กบอส แห่งบจก.สแตนดาร์ดแพลนเอ็นจิเนียริ่ง

ขอบคุณ น้องบุษ ที่ช่วยเป็นแม่งานดูแลทุกอย่างแทนพี่สาวคนนี้

ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ลูก หลานๆ และแขกที่มาเป็นเกียรติทุกๆ ท่าน ที่ทำให้งานมีชีวิตชีวาขึ้น

ขอบคุณ เพื่อนร่วมและอดีตเจ้านาย...ที่แม้ไม่สามารถมาร่วมงานแต่ก็ส่งความยินดีมาในซอง!

มาดามซาบซึ้งใจยิ่งนัก...ขอบคุณจากใจค่ะ

และที่ไม่อาจลืมเลือนได้เลย

ขอบคุณเว็บไซต์ FriendsFinder

ที่ทำให้เรา ได้พบ ได้รัก และได้ร่วมชีวิต


หลังจากนี้...มาดามต้องไปรับการสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวที่สถานทูตอเมริกา...จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรขึ้นอีกมาดามจะจัดการกับสถานการณ์นั้นอย่างไง...จะผ่านการสัมภาษณ์หรือไม่ติดตามอ่านตอนต่อไป...

คลิกไปอ่านเรื่องอื่น ของมาดามได้ที่นี่จ้า





Create Date : 15 กันยายน 2558
Last Update : 22 กันยายน 2558 3:56:56 น. 0 comments
Counter : 1724 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

สมาชิกหมายเลข 1963584
 
Location :
United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาดามฟรายค่ะ...
ข้ามห้วยมาไกล...ขอจอยน์ด้วยคนนะคะ
หากอ่านแล้วมีความคิดเห็นยังไง
ก็กระซิบกระซาบมาให้ได้ยินได้อ่านบ้าง
หรือเชิญมาดามไปเยี่ยมที่บล็อกของเพื่อนบ้าง
ด้วยความยินดีค่ะ...
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามา
และทุก ๆ ท่านที่ติดตามประจำนะค๊า
New Comments
[Add สมาชิกหมายเลข 1963584's blog to your web]

MY VIP Friends


 
 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com