Group Blog
 
All blogs
 

ธนบัตรมีการใช้ในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อไร?

วันนี้ผมจะนำความรู้เกี่ยวกับธนบัตรไทยเริ่มใช้ตั้งแต่แรกมาให้อ่านกันครับ ไปดูกันเลยครับ...

เงินตรากระดาษมีใช้ครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๖ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ในราชวงศ์จักรี แต่ในสมัยนั้นใช้คำเรียกแทนเงินตรากระดาษว่า "หมาย"  โดยออกใช้ทั้งหมด ๓ รุ่น คือ หมายราคาต่ำ หมายราคาตำลึง และ หมายราคาสูง

                                           หมายราคาสูง                              หมายราคาต่ำ

หมายตำลึง

ต่อมาได้เกิดการขาดแคลนแร่ดีบุกและทองแดง จนทำให้ค่าของโลหะมีราคาแพงกว่าราคาที่กำหนดไว้หน้าเงินเหรียญอัฐ ชาวบ้านพากันหลอมเงินเหรียญอัฐที่ทำด้วยทองแดงและดีบุก เป็นแท่งโลหะส่งออกขายต่างประเทศ ดังนั้น เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๑๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงให้ประกาศใช้ "ตั๋วกระดาษ" ราคา ๑ อัฐ เพื่อใช้แทนเงินเหรียญกษาปณ์ที่ขาดแคลน จึงเป็นที่มาของคำว่า "อัฐกระดาษ" ที่ใช้เรียกขานกันในหมู่ประชาชน แต่เมื่อสภาวะการขาดแคลนโลหะหมดไป เงิน “อัฐกระดาษ” ก็ถูกเก็บออกจากตลาด รวมเวลาที่ใช้ “อัฐกระดาษ” ไม่ถึงปี

เมื่อมีการเก็บเงิน “อัฐกระดาษ” ออกจากท้องตลาด เพื่อแก้ปัญหาภาวการณ์การขาดแคลนเงินตราในตลาด ทางราชการจึงได้อนุญาตให้ธนาคารต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยสามารถพิมพ์ "เงินกระดาษ" ที่เรียกว่า “บัตรธนาคาร—Bank Note” ของตนออกมาได้ โดย “บัตรธนาคาร” ดังกล่าวอยู่ในรูปของ “สัญญา” มีข้อความเป็นสัญญาว่า ธนาคารผู้ออกบัตรพร้อมที่จะรับบัตรของตนคืน และจ่ายเงินตราที่เป็นเงินเหรียญอัฐตามราคาที่พิมพ์ไว้บนบัตรธนาคารนั้น ๆ ให้กับผู้ถือบัตรธนาคารฉบับนั้น ๆ แต่เนื่องจากทางราชการมิได้ให้การรับรองว่า“บัตรธนาคาร” นั้นสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ทำให้การใช้ “บัตรธนาคาร” จำกัดอยู่ในวงแคบ และเมื่อราชการออกเงินตรากระดาษของรัฐออกมา ก็มีการเรียกเก็บ “บัตรธนาคาร” นั้นออกจากท้องตลาด และเลิกใช้ไปในที่สุด

ธนาคารต่างประเทศที่เข้ามาเปิดสาขาดำเนินงานในประเทศไทย นขณะนั้นมี ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้, ธนาคารชาเตอรด์แห่งอินเดีย ออสเตรเลีย และจีน ที่ได้ดำเนินการออกธนบัตรมาใช้ในระหว่าง พ.ศ. ๒๔๓๒ จนถึง วันที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๔๕ จึงทรงให้ยกเลิก เพราะเป็นวันแรกที่ประเทศไทยได้ประกาศใช้ "ธนบัตร" แบบที่ ๑ ของอย่างเป็นทางการ

ปรับปรุงข้อมูลครั้งสุดท้าย 11 ธันวาคม 2551

//www.tanabat-thai.com/nosidebar112.htm




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2556 19:16:37 น.
Counter : 879 Pageviews.  

ผู้แต่งเพลงสรรเสริญพระบารมี

//www.royjaithai.com/webboard/index.php?action=dlattach;topic=537.0;attach=2341;image

ผู้แต่งทำนองเพลงชาติไทยคือพระเจนดุริยางค์

เพลงสรรเสริญพระบารมี
ทำนองโดย : ปโยตร์ สซูโรฟสกี้

คำร้องโดย : พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖
สมเด็จฯ ( เจ้าฟ้า ) กรมพระยา นริศรา นุวัดติวงศ์

แต่เดิม ไทยใช้ เพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นเพลง ประจำชาติ ในระหว่าง พ.ศ. ๒๔๓๑ - ๒๔๗๕ ได้มีการประพันธ์ เพลงชาติ ฉบับที่สาม หรือ เพลงสรรเสริญพระบารมี โดย สมเด็จฯ (เจ้าฟ้า) กรมพระยานริศานุวัดติวงศ์ ทรงนิพนธ์คำร้อง ส่วนทำนอง ประพันธ์โดย ปโยตร์ สซูโรฟสกี้ นักประพันธ์เพลงชาว รัสเซีย

สมเด็จฯ (เจ้าฟ้า) กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงแต่งบทร้อง เพลงสรรเสริญ ขึ้น โดยทรงแก้ไข เนื้อร้องใหม่ เป็น
ข้าวรพุทธเจ้า เอามโนและศิรกราน
นบพระภูมิบาล บุญญะดิเรก
เอกบรมจักริน พระสยามินทร์ พระยศยิ่งยง
เย็นศิระเพราะพระบริบาล
ผลพระคุณ ธ รักษา ปวงประชาเป็นศุขสานต์
ขอบันดาล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดังหวังวรหฤทัย
ดุจจะถวายชัย ! ฉะนี้

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ทรงแก้คำว่า ฉะนี้ เป็น ไชโย.
ทำนอง : ปโยตร์ สซูโรฟสกี้
คำร้อง : พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ สมเด็จฯ (เจ้าฟ้า) กรมพระยา นริศรา นุวัดติวงศ์
ข้าวรพุทธเจ้า
เอามโนและศิรกราน
นบพระภูมิบาล บุญญะดิเรก
เอกบรมจักริน พระสยามินทร์ พระยศยิ่งยง
เย็นศิระเพราะพระบริบาล
ผลพระคุณ ธ รักษา
ปวงประชาเป็นศุขสานต์ ขอบันดาล
ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดัง หวังวรหฤทัย
ดุจจะถวายชัย ! ไชโย.


คัดลอกจาก ห้องสมุดทางทหาร กองทัพบกไทย

//blog.eduzones.com/poonpreecha/80103




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2556 19:45:05 น.
Counter : 777 Pageviews.  

จดหมายเดินทางข้ามโลกได้อย่างไร

หมายเดินทางข้ามโลกได้อย่างไร

บริการไปรษณีย์ในที่ต่างๆทั่วโลกนั้นประกอบกันเป็นเครือข่ายซับซ้อนน่าพิศวงราวเส้นประสาทในสมองที่มีขนาดยักษ์ใหญ่เท่าดาวเคราะห์ ช่างน่าอัศจรรย์ว่าประชากรทั่วโลก 4,000ล้านคนสามารถติดต่อถึงกันได้ทางไปรษณีย์ในเวลาไม่กี่วัน

ที่ทำการไปรษณีย์ 654,000 แห่งทั่วโลกมีจดหมายและพัสดุภัณฑ์ที่ต้องจัดการรวมกันเแล้วเป็นจำนวนมหาศาล เฉพาะที่ส่งผ่านระบบไปรษณีย์ระหว่างประเทศก็มีเกือบ 1,000 ล้านชิ้น/วัน

การนำส่งจดหมายถึงยังที่หมายนั้นเป็นงานที่สิ้นเปลืองทั้งเวลาและแรงงาน แต่ก็เป็นงานที่ท้าทายสำหรับพนักงานไปรษณีย์นับล้านคนใน 169 ประเทศ ที่เป็นสมาชิกสหพันธ์ไปรษณีย์สากล

จากแคนาดาถึงฝรั่งเศส

จากทุกสิ่งที่ส่งมาทางไปรษณีย์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกิจการอันใหญ่โตนี้ สมมติว่า ปิแอร์ นักธรณีวิทยาหนุ่มชาวฝรั่งเศสถูกส่งไปทำงานที่เมืองพีซริเวอร์ในมณฑลอัลเบอร์ตาประเทศแคนาดา เขาเขียนจดหมายถึงคุณยายที่บ้านใกล้ๆเมืองนีซทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสService4

จากพีซริเวอร์ เมืองซึ่งอุดมด้วยน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของที่ราบกลางหุบเขาและมีประชาชนเพียง 6,300 คนแห่งนี้ ปิแอร์ส่งจดหมายไปหาคุณยายในเช้าวันจันทร์ แจ้งข่าวว่าได้เดินทางมาถึงแล้วโดยปลอดภัย

หลังช่วงเก็จดหมายจากตู้ไปรษณีย์เที่ยวบ่ายวันนั้นเอง จดหมายของปิแอร์ก็ไปสมทบกับจดหมายอีก 2,000-3,000 ฉบับในที่ทำการไปรษณีย์ท้องถิ่น พนักงานไปรษณีย์จะคัดแยกออกเป็นจดหมายท้องถิ่นนั้น จดหมายที่ส่งถึงที่อื่นๆในแคนาดาและจดหมายที่ส่งไปต่างประเทศอีก 2 กอง กองหนึ่งจะส่งข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปทางตะวันตก และอีกกองหนึ่งส่งไปทางตะวันออกของประเทศซึ่งรวมถึงยุโรปด้วย ภายในค่ำวันนั้น กองจดหมายทั้งหมดยกเว้นที่ส่งถึงผู้รับในเมืองพีซริเวอร์ ก็จะถูกขนขึ้นรถบรรทุกออกไปยังเมืองกรองด์ แพรรี ซึ่งอยู่ห่างออกไป 160 กม. ทางตะวันออกเฉียงใต้

จดหมายเดินทางข้ามโลกได้อย่างไร

ที่เมืองนี้จดหมายต่างประเทศทั้งสองกองจะถูกนำไปรวมกับกองอื่นๆจากเมืองในละแวกนั้น เช้ารุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันอังคาร รถบรรทุกอีกคันหนึ่งก็จะขนจดหมายต่อไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 480 กม. สู่นครเอ็ดมันตัน เมืองหลวงขอมณฑลนั้น แล้วกองจดหมายจากพีซริเวอร์ก็โตขึ้นอีก เมื่อรวมอยู่กับกองจดหมายต่างประเทศ ณ ที่ทำการไปรษณีย์เอ็ดมันตัน ก่อนขนไปยังสนามบินท้ายสุด

จากจุดนี้ จดหมายทั้งสองกองจะแยกไปคนละทาง ถุงไปรษณีย์ของกองที่ส่งข้ามแปซิฟิกจะขนทางเครื่องบินไปเมืองแวนคูเวอร์ทางตะวันตก อีกกองจะไปทางตะวันออก และถึงเมืองโทรอนโตในสายวันอังคาร ที่เมืองโทรอนโตทั้งวันพุธและพฤหัสบดีจดหมายจะแยกไปตามประเทศ และตามเขตของประเทศนั้นในบางกรณี ในที่สุดจดหมายของปิแอร์ก็ไปรวมอยู่ในตั้งจดหมายหนักถึง 330 กก. ที่จะส่งไปฝรั่งเศสจดหมายเดินทางข้ามโลกได้อย่างไร

ค่ำวันพฤหัสเครื่องบินระหว่างประเทศนำจดหมายจากโทรอนโตไปถึงสนามบินเดอโกลในปารีสในเช้าตรูวันศุกร์ จดหมายของปิแอร์เดินทางมาเป็นวันที่ 5 แล้ว

จากนั้น เขาก็ขนจดหมายเหล่านี้จากสนามบินไปรวมกับไปรษณีย์ภัณฑ์ที่ปารีสอีก 50 ล้านชิ้นทั้งหมดนี้จะผ่านระบบจัดการซึ่งเป็นเครื่องกลไกเครื่องอ่านรหัสไปรษณีย์บ้านคุณยายของปิแอร์แล้วประทับหรัสแท่ง(bar code) ระบุให้จ่ายไปที่จุดใดเครื่องมือนี้จัดการกับจดหมายได้ 40000ฉบับ/ชม.จดหมายเดินทางข้ามโลกได้อย่างไร

จากนั้น เขาก็ใช้อุปกรณ์แยกจดหมายออกไปตามแต่ละมณฑลของฝรั่งเศส ใช้ระบบสายพานขนลงถุงไปรษณีย์ และนำไปยังรถบรรทุกและรถไฟ รวมทั้งเครื่องบินซึ่งขนจดหมายวันละ 3000 ตัน แยกกันไปทั่วประเทศ จดหมายไปเมืองมาร์เซยและนีซนั้นขนไปทางเครื่องแอร์บัส จดหมายของปิแอร์ก็อยู่ในเที่ยวบินที่ออกเดินทางบ่ายวันศุกร์นั้น

ที่เมืองนีซในคืนนั้นเอง เขาจะคัดแยกจดหมายที่มาถึงแบ่งไปตามเขตต่างๆในเช้าวันรุ่งขึ้น รถตู้ก็ขนจดหมายไปยังที่ทำการไปรษณีย์แต่ละเขต เมื่อถึงที่ทำการไปรษณีย์แต่ละเขต

เมื่อถึงที่ทำการไปรษณีย์เขต จดหมายของปิแอร์จะถูกจัดลงสายส่งสายหนึ่งในจำนวน 70,000 สายทั่วประเทศ คุณยายได้รับจดหมายของปิแอร์ในเช้าวันที่ 6 นับตั้งแต่เดินทางจากพีซริเวอร์

จดหมายเดินทางข้ามโลกได้อย่างไร

ทั้งหมดนี้คือภาพในอุดมคติของงานไปรษณีย์ แต่ในทางปฏิบัติย่อมมีอุปสรรคเกิดขึ้นได้ เช่น ตรงกับวันสุดสัปดาห์หรือวันหยุด มีห่อพัสดุขนาดใหญ่เกินกำหนดเป็นจำนวนมาก อ่านจ่าหน้าซองไม่ออก เกิดการหยุดงานประท้วง อุกรณ์ขัดข้อง หรือมีจดหมายเข้ามามหาศาลในช่วงครัสต์มาส แม้จะมีอุปสรรคมาทำให้การนำส่งจดหมายล่าช้าได้ แต่จดหมายแต่ละฉบับที่มาถึงผู้รับ ก็สื่อถึงคุณค่าความคิดสร้างสรรค์และความร่วมมือกันของชาวโลก

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก://www.ความรู้รอบตัว.com

//wpc.ac.th/new/?p=134




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2556 20:43:52 น.
Counter : 930 Pageviews.  

8 สิ่งที่ลดความน่าสนใจในตัวผู้ชาย


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก stylehive

คนเราจะดูดีหรือไม่ บางทีก็ไม่ได้พิจารณาแค่เรื่องของรูปร่างหน้าเท่านั้น ทว่ายังมีรายละเอียดยิบย่อยต่าง ๆ ให้มาก ที่ผู้ชายอย่างเราคาดไม่ถึง และเป็นสาเหตุที่ลดทอนความเสน่ห์ในตัวคุณไปโดยไม่รู้ตัว หากยังนึกไม่ออกระคนสงสัยอยู่ล่ะก็ ลองไปดูเรื่องน่ารู้ที่เรานำมาฝากพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า สิ่งที่ลดความน่าสนใจในตัวผู้ชายนั้นมีอะไรบ้าง

กางเกงแบบหลวม ๆ

1. สวมกางเกงแบบหลวม ๆ

          อย่าเข้าใจผิดคิดว่าสไตล์การใส่กางเกงแบบหลุดตูด โชว์บ็อกเซอร์มันจะดูเท่นะ แม้ว่ามันอาจเคยได้รับความนิยมอยู่ช่วงหนึ่ง ทว่าไม่ใช่ในปัจจุบันแน่ ๆ ไม่มีใครหน้าไหนอยากเห็นก้นคุณหรอกครับ ซ้ำร้ายผู้ชายบางคนไม่ใส่บ็อกเซอร์แล้วดันใส่กางเกงแบบนี้อีก คราวนี้ล่ะคุณเอ้ยยย เห็นไปถึงไหนเลยเชียว

          แต่ถ้าเกิดคุณไม่ได้อยากจะโชว์บั้นท้าย (ที่ไม่มีใครอยากดู) เพียงแต่กางเกงมันหลวมแล้วจริง ๆ ด้วยความที่ผอมลงแล้วล่ะก็ ไปหาเข็มขัดมาคาดซะ หรือไม่ก็ลงทุนเปลี่ยนกางเกงที่มีขนาดพอดีเอวจะดีกว่า ขืนใส่แบบหลุด ๆ แล้วเกิดใครเขาหมั่นไส้ขึ้นมา ระวังจะโดนกระตุกหรือแอบเหยียบขากางเกงเอาเข้าให้นะ

เสื้อผ้าสีพื้น

2. เสื้อผ้าที่ใส่มีแต่สีพื้น

          จริงอยู่ว่าเสื้อผ้าสีพื้นอย่าง ดำ, กรมท่า, ขาว หรือเทา จะเป็นตัวเลือกพื้นฐานที่ปลอดภัยมากที่สุด ที่จะทำให้คุณมั่นใจว่าจะไม่ดูแปลกแยกจากคนอื่นแน่ ๆ ทว่าในทางกลับกันมันก็ดูน่าเบื่ออยู่ไม่น้อยเลยน่ะสิ

          เอาอย่างนี้ครับ ถ้าคุณมั่นใจในสีเสื้อผ้าดังกล่าว และไม่อยากเปลี่ยนแนวไปเป็นคนมีสีสันนะ ให้หยิบเอาเครื่องประดับอย่าง เข็มขัด, กระเป๋า, รองเท้า, นาฬิกาข้อมือ, เนคไทหรือหูกระต่าย (ผ้าพันคอก็ได้) และผ้าเช็ดหน้าที่เอาไว้พับใส่กระเป๋าเสื้อสูทมาใส่ เพื่อให้ดูมีอะไรมากขึ้น

ปกปิดความอ้วน

3. ใส่เสื้อตัวหลวมโครกปกปิดความอ้วน

          หนุ่ม ๆ หลายคนอาจคิดว่าการใส่เสื้อตัวใหญ่ ๆ แบบโอเวอรไซส์ จะช่วยปกปิดความอ้วนที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ร่มผ้าได้ แต่คิดผิดแล้วล่ะ อันที่จริงมันกลับทำให้คุณยิ่งดูตัวใหญ่ขึ้นอีกต่างหาก

          แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้เลือกใส่เสื้อแบบคับรัดติ้วนะ ทว่าเราหมายถึงให้เลือกเสื้อที่มีขนาดพอดีตัวไม่ใหญ่เว่อร์หรือแน่นเปรี๊ยะเกินไป และเลือกโทนสีที่ช่วยพรางรูปร่างคุณ นอกจากนี้แจ็คเก็ตหรือเบลเซอร์ก็ช่วยบดบังหุ่นได้เช่นกัน

ใส่กางเกงทรงเดิมตลอดอาทิตย์

4. ใส่กางเกงทรงเดิมตลอดอาทิตย์

          เชื่อว่าทุกคนย่อมต้องมีกางเกงคู่ใจที่ใส่เป็นประจำอย่างน้อยหนึ่งตัวแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องใส่แต่กางเกงตัวเดิมหรือทรงเดิม ๆ ตลอดทั้งอาทิตย์นี่นา มันดูน่าเบื่อเกินไป ลองเปลี่ยนไปใส่กางเกงทรงอื่น ๆ สลับ ๆ กันบ้าง เช่น วันนี้ใส่ยีนส์ พรุ่งนี้เปลี่ยนเป็นกางเกงชิโน่ หรือไม่ก็ใส่ทรงเดิมแต่เปลี่ยนไปใส่สีอื่นบ้าง จะช่วยให้คุณดูมีลุคที่หลากหลายมากขึ้น แม้จะเสียเวลากับการมิกซ์ แอนด์ แมทช์ เสื้อผ้าในทุก ๆ เช้า แต่แลกกับความแปลกใหม่ในตัวก็คุ้มนะ

ขนจมูก

5. ไม่เคยดูแลเรื่องเส้นขนบนใบหน้า

          อย่าคิดว่าเป็นผู้ชายแล้วไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องเส้นขนบนใบหน้านะครับ เช่น ขนจมูก หนวดเครา หรือขนคิ้ว เป็นต้น ลองคิดดูสิว่าหากคุณได้มีโอกาสเจอกับผู้หญิงในฝันแล้ว แต่ขณะที่คุยกับเธออยู่นั้น เธอกลับสังเกตเห็นขนจมูกโผล่แพลมออกมาจ๊ะเอ๋ คงไม่ทำให้เธอประทับใจในตัวคุณแน่นอน ฉะนั้น อย่าลืมหมั่นสำรวจความเรียบร้อยบนใบหน้าหน้ากระจกสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี

รูปร่างหน้าตา

6. ไม่ดูแลรูปร่างหน้าตาเสียจนดูแก่เกินอายุจริง

          บางคนห่วงแต่ปาร์ตี้ดื่มเหล้าแทบทุกคืนจนสภาพร่างกายทรุดโทรม หน้าตาดูแก่เกินกว่าวัยเข้าไปทุกที ขืนปล่อยตัวแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นานวันเข้า จะไม่มีสาว ๆ คนไหนมาสนใจคุณนะ ในเมื่อร่างกายตัวเองยังไม่ดูแล แล้วจะมาดูแลเธอได้ยังไง

          ทางที่ดีหลีกเลี่ยงสิ่งที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพคุณบ้าง แล้วหันมาออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร พักผ่อนให้เพียงพอ และหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับผู้ชายมาใช้ ถึงจะห้ามอายุตัวเลขไม่ได้ แต่คุณยังชะลอริ้วรอยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้นี่นา



7. ปล่อยให้ผิวแห้งเป็นขุย

          สืบเนื่องต่อจากข้อก่อนหน้านี้สักนิด แต่ลงไปที่รายละเอียดขึ้นอีกหน่อย ทว่าที่ต้องเตือนกันไว้เลยก็คือเรื่องของผิวพรรณที่แห้งจนลอกออกมาเป็นขุยนั่นเอง เนื่องจากผู้ชายส่วนใหญ่คงไม่ค่อยทาครีมบำรุงผิวกันสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังต้องออกไปผจญกับแสงแดดและมลพิษที่อยู่รอบตัวนอกบ้านแทบทุกวัน จึงทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้

          ทางแก้ง่าย ๆ 3 วิธี โดยเฉพาะคนที่ผิวแห้งจัด ๆ ด้วยแล้วล่ะก็ อันดับแรกดื่มน้ำมาก ๆ ให้ได้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 8 แก้วต่อวัน กินผักผลไม้เป็นประจำ และบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอไรเซอร์ทุกวันทั้งเช้าและก่อนนอน



8. ออกกำลังแบบเดิม ๆ นานเกินไป

          การออกกำลังกายเป็นประจำถือว่าเป็นเรื่องดี ๆ แต่ถ้าหมายมั่นปั้นมือว่าในอนาคตจะมีหุ่นเหมือนนายแบบสุดล่ำแล้วล่ะก็ คุณจำเป็นต้องจัดโปรแกรมการออกกำลังให้ดี โดยเปลี่ยนรูปแบบวิธีออกกำลังทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้กล้ามเนื้อทุกส่วนออกแรงเท่า ๆ กันหมด ไม่ใช่แข็งแรงเฉพาะส่วน ไม่งั้นถึงออกกำลังเป็นปี ๆ ก็ไม่เห็นผลอยู่ดี อ้อ แต่ก็ไม่ต้องหักโหมฝืนเล่นจนร่างกายได้รับบาดเจ็บเข้าซะล่ะ

ในเมื่อทราบข้อบกพร่องที่เป็นสาเหตุที่ทำให้สาว ๆ หมางเมินกันแล้ว หากหนุ่ม ๆ คนไหนเป็นอย่างที่กล่าวไป ก็อย่าลืมนำไปใช้ปรับใช้ดูนะ เผื่อจะช่วยให้คุณดูเตะตาจนสะกิดใจใครขึ้นมาบ้าง หรือหากเพื่อน ๆ มีอะไรอยากแนะนำเพิ่มเติม ก็ลองมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2556 18:25:07 น.
Counter : 849 Pageviews.  

ทำอย่างไร! เมื่อเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

บาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกพบได้บ่อย โดยมากมักจะมีสาเหตุจากอุบัติเหตุ ความประมาท ขาดความระมัดระวัง ซึ่งอาการการบาดเจ็บจะมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใดขึ้นกับหลายปัจจัยครับ ปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่ ระยะเวลาที่ผิวหนังสัมผัสกับความร้อน อวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บ ระดับความลึกของบาดแผลและขนาดความกว้างพื้นที่ของบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกนั้นๆ


3 ระดับความลึกของบาดแผล

ความลึก ระดับ 1 คือ บาดแผลอยู่แค่เพียงผิวหนังชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น ซึ่งโดยปกติจะหายเร็วและไม่เกิดแผลเป็น

ความลึก ระดับ 2 คือ บาดเจ็บในบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ บาดแผลประเภทนี้ ถ้าไม่มีภาวะติดเชื้อแทรกซ้อนมักจะหายภายใน 2-3 อาทิตย์ ขึ้นอยู่กับความลึกของบาดแผลจากอุบัติเหตุไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดร่องรอยผิดปกติของบริเวณผิวหนัง หรืออาจมีโอกาสเกิดแผลเป็น แผลหดรั้งตามได้ ถ้าได้รับการรักษาไม่ถูกต้อง  กรณีถูกไฟไหม้ หากบาดเจ็บไม่ลึกมากก็จะพบว่าบริเวณผิวหนังจะมีตุ่มพองใส เมื่อตุ่มพองนี้แตกออกบริเวณบาดแผลเบื้องล่างจะเป็นสีชมพู และผู้ป่วยจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมาก แต่ถ้าพยาธิสภาพค่อนข้างลึกจะพบว่า สีผิวหนังจะเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองหรือขาว ไม่ค่อยเจ็บ

ความลึก ระดับ 3 คือ ชั้นผิวหนังทั้งหมดถูกทำลายด้วยความร้อน บาดแผลเหล่านี้มักจะไม่หายเอง มีแนวโน้มการติดเชื้อของบาดแผลสูง และมีโอกาสเกิดแผลหดรั้งตามมาสูงมากถ้าได้รับการรักษาไม่ถูกต้อง

  สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อโดนไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

1.ล้างด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิปกติ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลช่วยลดการหลั่งสารที่ทำให้เกิดอาการปวดบริเวณบาดแผลได้
2.หลังจากนั้นซับด้วยผ้าแห้งสะอาด แล้วสังเกตว่าถ้าผิวหนังมีรอยถลอก มีตุ่มพองใส หรือมีสีของผิวหนังเปลี่ยนไป ควรรีบไปพบแพทย์ แต่ถ้าไฟไหม้ น้ำร้อนลวกบริเวณใบหน้า จะต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะบริเวณใบหน้ามักจะเกิดอาการระคายเคืองจากยาที่ใช้ ห้ามใส่ยาใดๆ ก่อนถึงมือแพทย์ เพราะผู้ป่วยแต่ละคนมีอาการตอบสนองต่อตัวยาไม่เหมือนกัน จะต้องขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์


ข้อห้ามเมื่อโดนไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

ไม่ควรใส่ตัวยา/สารใดๆ ทาลงบนบาดแผล ถ้าไม่แน่ใจในสรรพคุณที่ถูกต้องของยาชนิดนั้น โดยเฉพาะยาสีฟัน น้ำปลา เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อบาดแผล เพิ่มโอกาสการเกิดบาดแผลติดเชื้อ และทำให้รักษาได้ยากขึ้น รอยแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก สามารถเกิดได้ในกรณีที่บาดแผลมีความลึกค่อนข้างมาก หรือ ไม่ได้รับการรักษาโดยถูกต้อง แต่เมื่อเกิดรอยแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวกขึ้นแล้ว สามารถรักษาและทำให้ดีขึ้นได้ แม้ว่าจ ะไม่สามารถทำให้สีผิวกลับมาเหมือนปกติได้ดังเดิมก็ตาม

การรักษาเริ่มตั้งแต่…

1. ใช้ยาทาในระยะเริ่มต้น
2.การใส่ชุดผ้ารัด ในกรณีที่รอยแผลจากไฟไหม้น้ำร้อนลวกมีแนวโน้มที่จะนูนมากขึ้นและไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาทา
3.ฉีดยาลบรอยแผลเป็น ซึ่งจะทำได้ในกรณีที่เกิดรอยแผลนูนและไม่ตอบสนองต่อการใส่ชุดผ้ารัด
4.ผ่าตัดแก้ไข โดยแพทย์จะต้องทำการประเมินลักษณะและความรุนแรงของบาดแผล

ทั้งนี้ ขึ้นกับชนิดและความรุนแรงของบาดแผลหดรั้งเหล่านั้น… โดยทั่วไปช่วงอายุของผู้ป่วยไม่เป็นอุปสรรคในการรักษาบาดแผล และวิทยาการการรักษา ณ ปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมาก

       ดูแลตนเองหลังการรักษา

1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นผง หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้ระคายเคือง

2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ทุกชนิด เพราะหากโดนบริเวณแผลก็อาจทำให้คันหรือมีการติดเชื้อได้ง่าย

3.รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น พวกเนื้อสัตว์ต่างๆ เพื่อเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่บริเวณบาดแผลให้บาดแผลสมานปิดเร็วขึ้น

4.หมั่นทายา/รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญ ต้องรักษาความสะอาดแผลให้ดี

อุบัติเหตุไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากความประมาทแทบทั้งสิ้น ถ้าต้องทำอาหารและอาจต้องสัมผัสของร้อน ควรระมัดระวังและป้องกันตนเองให้ดี ในบ้านที่มีเด็กเล็ก ควรระมัดระวังและจัดหาสถานที่ที่วางวัสดุที่มีความร้อนให้เหมาะสม ห่างจากมือเด็กเอื้อมถึงได้ ส่วนบุคลากรที่ต้องทำงานกับเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องทำความร้อนต่างๆ ที่มีโอกาสสัมผัสกับเปลวไฟหรือเปลวเพลิงสูง ควรมีการป้องกันตนเองให้เหมาะสมด้วย ทั้งนี้เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติภัยไฟไหม้ น้ำร้อนลวกนี้ครับ

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก  //www.manager.co.th

//www.สาระน่ารู้ดีดี.com




 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2556 17:54:45 น.
Counter : 737 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.