ไปไหมไปไหม ไปเที่ยว
Group Blog
 
All blogs
 

เรื่องเล่าจากจั๊กจั่น2



เรื่องเล่าจากจั๊กจั่น2 (ต่อ) สายสายของวันต่อมา ฉันกับแม่ก็ออกเดินทาง แม้จะเป็นฤดุร้อนแต่ฉันรู้สึกว่าไม่ร้อนเลย ...ลมโชยพัดมาเป็นระยะฉันนั่งตะแกรงท้ายจักรยานสองมือจับเหล็กที่อานจักรยานไว้แน่น โลกของฉันวันนั้นสดใสจริงๆ แม่ปั่นจักรยานไปตามถนนเล็กๆ ผ่านหมู่บ้าน ผ่านทุ่งนาที่เต็มไปด้วยฟางข้าวหลังฤดูเก็บเกี่ยว กลื่นฟางข้าวลอยมาตามลม "นึกถึงปี่ฟางข้าวจัง" ฉันคิด. ฮัมเบอร์(พ่อเรียกจักรยานว่า"ฮ้มเบอร์')พาเราผ่าน บ้านหลังเก่าที่ติดกับสถานีตำรวจ (บ้านหลังนี้จะพูดถึงในโอกาสต่อไป) ผ่านวัดประจำจังหวัดแล้วแม่ก็มาหยุดที่บ้านหลังหนึ่งมีร่มไม้สร้างเงาใหญ่ร่มเย็น "แม่จะฝากรถไว้กับป้าที่บ้านนี้ อยู่รอแม่ทีนี่" ฉันยืนอย่างใจจดจ่อ แม่เดินกลับมา จูงมือฉันข้ามถนนไปยังริมตลิ่งทีสูงชัน ฉันเดินไปตามทางเล็กๆที่ชาวบ้าน ใช้จอบ ขุดดินให้เป็นบันใด บางทีก็นึกสนุกกระโดดข้าม ทีละสองขั้น เสียงแม่ปรามเบาๆมาจากด้านหลัง... ทรายแม่น้ำสายนี้เป็นทรายที่ไม่ละเอียดนัก แต่ฉันชอบเวลเดินย่ำไปบนทรายมันจั๊กจี้ที่ฝ่าเท้าดี วันนี้แม่พาขึ้นเดินบนสะพานไม่ไผ่ หูได้ยินเสียงแม่กับชาวบ้านทักทายกันอย่างเป็นกันเอง ส่วนสายตาก็มองพื้นสะพานไม้ไผ่ขัดกระเพื่อม ขึนลงอย่างนึกสนุก สลับกับมองแมงมุมน้ำที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว "มันทำไมไม่จมน้ำ" ฉันคิด... สุดสะพานไม้ไผ่ฉันเดินผ่านชาวบ้านที่ง่วนอยู่ที่ผืนทราย ฉันชะโงกหน้าไปดู เห็นหัวมันสีขาวที่ชาวบ้านมัดรวมกันไว้ แม่ซื้อมันมามัดหนึ่ง ฉันนึกถึงวิธีการใช้ฟันปอกเปลือกของมันชนิดนี้เพื่อกินเนื้อสีขาวที่หวานฉ่ำ.....หลุดจากรั้วต้นละหุ่งที่ใช้เป็นรั้วของโรงเรียน. ...ข้างหน้าของฉันคือแปลงดอกไม้ที่พี่นักเรียนช่วยกันปลูกและดูแล พี่นักเรียนบอกฉันว่ามันคือดอก"เยาวะร่า"ภายหลังฉันมารู้ว่ามันคือดอก"เยอบีร่า"นั่นเอง. แล้วสิ่งที่ฉันรอคอยมันก็ปรากฎ มันส่งเสียงของมัน จากขอบสนามฟุตบอลด้านทิศเหนือโน้น "เดี๋ยวเจอกันนะ"ฉันคิดในใจแล้วเดินตามแม่ไปที่อาคารโรงเรียน.................................
เสียงดังระงม อยู่รอบตัว ตัวฉันดีใจมากตะโกนดังๆราวจะแข่งกับเจ้าของเสียงระงมนั้น "สวัสดี"ฉันตะโกนพร้อมกระโดดโลดเต้นไปพร้อมกัน ต้นจามจุรีสามสี่ต้น ที่แผ่ร่มเงาทำให้เหงื่อที่ไหลและความร้อน จากการวิ่งจากอาคารเรียน มาที่นี่แห้งหายและลดลงอย่างช้าๆจนรู้สึกสบายตัว....มีเงาความเคลื่อนไหววูบอยูทางซ้ายมือ ฉันเหลียวมองไปตามทิศทางนั้น "มานานแล้วบ้อ"เสียงทักทาย ดังขึ้น พี่สมยศ(ชื่อสมมุติ)นั่นเอง พี่สมยศเป็นห้วหน้าห้อง ป.3 ที่แม่เป็นครูประจำชั้น ต้วโตกว่าทุกคนในห้อง ยิ้มง่ายแต่ที่มุมปากเป็นสีขาว (แม่บอกว่าเป็นปากนกกระจอก เกิดจากการขาดวิตะมินบางชนิด เด็กนักเรียนตามหมู่บ้านสมัยนั้นมักเป็น) ฉันชอบพี่สมยศเพราะ จะพาฉันเตะฟุตบอล จับตั๊กแตน จับแมลงปอ บางวันมีผลไม้ที่ฉันไม่เคยเห็นมาแบ่งฉันกินด้วย เช่น หมากเป็น(เก็น)หมากบก หมากหลอด ฯลฯ ............ อ่อด อ่อด ๆๆๆๆ มีเสียงดังขึ้น..... วันนี้ในมือพี่สมยศมีเสียงประหลาด "พีเอามาฝาก..รู้มั้ย เสียงที่มันดังอยู่รอบๆ เนี่ย คือไอ้เนี่ยแหละ ..ฉันคงทำหน้าไม่ถูก พี่สมยศรีบพูดต่อ โดยลดเสียงอย่างแผ่วเบา "จั๊กจั่น" ไง อย่าบอกคุณครู กับครูใหญ่นะเดี๋ยวพี่โดนตีครูใหญ่ห้ามจับมัน " ฉันรับจั๊กจั่นมาใว้ในมืออย่างลิงโลด เดินกลับมาหาแม่ คิดว่า จะเอากลับบ้านโดยไม่ให้แม่รู้ .....บ่ายคล้อยแล้ว....... หลังจากที่ครูใหญ่ แม่ และฉันกินข้าวกลางวันเสร็จ พี่สมยศที่กลับไปกินข้าวที่บ้านก็กลับมา เพื่อช่วยปิดประตูหน้าต่างโรงเรียน (พ่อของพีสมยศเป็นภารโรงแต่วันนี้มีภาระกิจในเมืองจึงขอครูใหญ่ให้ลูกชายมาเปฺิดและปิดห้องแทน) ขณะที่ทุกคนต่างง่วนกับการเตรียมตัวกลับ ฉันแอบไปหาจั๊กจั่นที่ซ่อนไว้....ใส่กระเป๋า..เดินย่องกลับมาห้อง พักครู... ทันใด.....อ่อด อ่อด ๆๆๆๆๆๆ เสียงจั๊กจั่นตัวนั้นดังขึ้นในกระเป๋า ฉันเงยหน้ามองไปที่แม่ พร้อมกับแบมือ พลันก็ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นเกือบพร้อมกัน ของแม่และครูใหญ่ ว่า " สมโย้ดดดดดดด" ฉันหันไปมองในตำแหน่งล่าสุดที่พี่สมยศยืนอยู่ ปรากฎร่อยรองฝุ่นจางๆ คงจากฝีเท้านักวิ่งรุ่นจื๋วประจำจังหวัดนั่นเอง..........จบ เรืองเล่าวัยเด็ก ตอน"เรื่องเล่าจากจั๊กจั่น"




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2560    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2560 10:34:11 น.
Counter : 246 Pageviews.  

โรงเรียนแห่งแรก



เรื่องเล่าวัยเด็ก ตอน โรงเรียนแห่งแรก. สายตาที่มองไปยังอาคารไม้สีแดงเปลือกไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง ฉันยืนนิ่งอยู่ตรงนี้ มาเกือบหนึ่งนาที หลังจากเสร็จภาระกิจกับหน่วยงานราชการ หน่วยหนึ่งที่มาใช้อาคารนี้เป็นที่ทำงานชั่วคราว ภาพที่ผุดขึ้นมาในความทรงจำคือห้องอนุบาล 2ก ที่มีครูสตรีรูปร่างท้วม ตาโต เป็นครูประจำชั้น ท่านค่อนข้างดุ เข้มงวด เสียงดัง นักเรียนทั้งห้องกลัวและยำเกรง ต่างกันกับครูประจำชั้นห้อง อนุบาล 2ข.ที่อยู่ห้องติดกัน
....ท่านเป็นครูสตรีที่ค่อนข้างมีอายุแล้วรูปร่างผอมเล็กพูดเสียงเบาๆใจดีและมักเล่านิทานก่อนนอนตอนกลางวัน ให้นักเรียนฟังเกือบทุกวัน จึงไม่แปลกที่จะมีการจองที่นอนตอนกลางวันของเด็กๆ อ.2ก ใกล้ๆประตูห้อง เพื่อใด้ยินเสียงเล่านิทานที่แว่วมาจากห้อง อ.2ข แล้วพากันม่อยหลับไปกับเสียงเล่านิทานอันแสนอ่อนโยนนั้น.....กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.....เสียงของคุณครูดอกไม้แว่วลอยผ่านมาเบาๆ เคล้ากับสายลมตอนบ่าย..... โรงเรียนของฉันเป็นโรงเรียนอนุบาลเล็กๆประจำจังหวัด มีอาคารชั้นเดียวใต้ถุนสูงสองอาคาร มีโรงอาหารเชื่อมต่อปลายของสองอาคารเข้าด้วยกัน เสาธงอยู่ตรงหน้าโรงอาหารอาคารด้านตะวันตกเป็นห้องเรียนเด็กอนุบาลด้านทิศตะวันออกเป็นห้องเด็กประถม ความทรงจำของฉันในโรงเรียนเริ่มที่ชั้นอนุบาล2ก. ..............รั้วไม้ระแนงที่ไม่สูงนัก คงมีจุดประสงค์พอที่จะให้ทราบว่าเป็นอาณาเขตโรงเรียน มองลอดรั้วไปต้นขาไก่ถูกตัดแต่งอย่างมีระเบียบ ประตูเหล็กดัดมีสัญลักษณ์รูปดอกบัว เปิดต้อนรับเด็กๆและผู้ปกครอง ในยามเช้า ถนนคอนกรีตเล็กๆที่โรงเรียนอื่นๆยังไม่มี ทำให้ฉันภูมิใจ อยู่ลึกๆขณะย่างก้าวผ่านพร้อมกับยกมือไหว้คุณครูที่ยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนอย่างอ่อนน้อม เสียงม้าหมุนดังแว่วเข้ามา....."เก็บกระเป๋าก่อน เดี๋ยวค่อยมาเล่น คงมีเวลาก่อนเข้าแถว" ม้าหมุนเป็นเครื่องเล่นที่ได้รับความสนใจ จากเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง อาจเป็นเพราะวิธีเล่นค่อนข้างโลดโผน มากกว่าเครื่องเล่นอืนๆ มันถูกตั้งไว้กลางสนามหญ้า ขนาดหนึ่งห้องเรียน ทีมีเครื่องเล่นอื่นอยู่รอบๆ อาคาร ชั้น ป.ที่มีห้องพักครูและห้องครูใหญ่ อยู่ใกล้กับสนามเด็กเล่นนี้ กรี๊งงงงงงงงงงงงง ออดเข้าแถวดังขึ้นฉันวางมือจากเครื่องเล่น วิ่งพร้อมกับเพื่อนๆไปเข้าแถว เคารพธงตอนเช้า ตอนโตฉันเคยถามตัวเองว่าทำไมต้องวิ่งทั้งที่จุดหมายก็ห่างไปไม่กี่สิบเมตร คำตอบคือความรู้สึกในตอนนั้นคือ วิ่งแล้วรู้สึกสนุก มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เคยพิสูจน์ความรู้สึกนี้จากการไปดูเด็กๆอนุบาลตอนเข้าแถวเคารพธง...ช่างสนุกจริงๆ อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง....




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2560    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2560 10:29:24 น.
Counter : 367 Pageviews.  


HUNNALL
Location :
เลย Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




images by free.in.th ตื่นตอนย่ำรุ่ง..เท้าเปล่าสัมผัสกับยอดหญ้า..นั่งลงบนพื้น ที่ชุ่มน้ำค้าง อืมมม "เอาตูดแช่น้ำแล้วเดินต่อไป"ของวงเฉลียง มันเป็นอย่างนี้เอง เอนหลังลงทาบกับพื้น ความเย็นแผ่ซ่านผ่านแผ่นหลัง แสงเรืองรองส่องทาบฟากฟ้า.. ปล่อยความคิดให้ลอยไปตามใจอยาก ...
Friends' blogs
[Add HUNNALL's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.