Group Blog
 
All Blogs
 

Never Been to Me

คุณรู้สึกได้ถึงรสขมและฝาดเฝื่อนในปาก ร่างของคุณโผเผกระย่องกระแย่งออกมาจากห้องน้ำอย่างเหนื่อยอ่อน การอาเจียนดูเหมือนจะสูบแรงของคุณออกไปหมดจนคุณต้องฉวยลูกบิดประตูห้องน้ำเพื่อรั้งไม่ให้ฟุบลงไปกองกับพื้นเสียก่อน สายตาอันอ่อนล้าของคุณกวาดไปทั่วห้อง ห้องที่คุณเรียกว่าเป็นที่พัก เป็นเรือนตาย เป็นรังรักนั้นเป็นแค่เพียงห้องรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กชนิดที่เปิดประตูห้องเข้าไปก็แทบจะชนกับเก้าอี้สองสามตัวที่วางไว้สำหรับนั่งเล่นหย่อนใจหน้าเครื่องโทรทัศน์ขนาด 14 นิ้วเก่าคร่ำคร่าเสียแล้ว ความคับแคบชวนให้อึดอัดนั้นยังเทียบไม่ได้กับความสกปรก ซอมซ่อ และรกรุงรัง กองเสื้อผ้าใช้แล้วถูกทอดทิ้งเกลื่อนกลาดไปทั่วห้องรอคอยให้คุณเดินไปเก็บใส่ตะกร้าผ้าสำหรับซัก แต่สภาพของตะกร้าที่มีกองเสื้ออัดแน่นเป็นพะเนินเทินทึกอยู่แล้วก็ทำให้คุณตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะทำอะไรกับเสื้อผ้าที่เรี่ยราดอยู่ตามพื้นห้องดี คุณใช้เท้าเขี่ยพวกมันให้แหวกออกเป็นทางขณะที่คุณค่อยๆ จรดปลายเท้าพยุงร่างอุ้ยอ้ายของตัวคุณเองเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง

คุณหยิบรีโมทโทรทัศน์ขึ้นมา ตั้งท่าจะกดเปิดโทรทัศน์อย่างเกียจคร้าน แต่แล้วก็ต้องชะงักกึก เมื่ออะไรบางอย่างที่ซ่อนตัวอยู่ในท้องของคุณขยับเคลื่อนไหว คุณก้มลงมองท้องขนาดใหญ่ของคุณด้วยแววตาที่อ่อนล้า หน้าท้องซึ่งเคยแบนราบ บัดนี้เปลี่ยนสภาพเป็นก้อนเนื้อที่โป่งนูนยื่นล้ำออกมาดูน่าเกลียดมากกว่าน่าดู คุณหลับตา ไม่อยากเห็นสภาพเช่นนั้นของตัวเอง สิ่งมีชีวิตที่ฝังตัวอยู่ภายใต้ช่องท้องของคุณยังคงขยับตัวไปมาจนคุณรู้สึกได้ สิ่งมีชีวิตอย่างนั้นหรือ...คุณอดคิดขึ้นมาไม่ได้ ในที่สุดคุณก็ปล่อยให้จิตใจที่อ่อนไหว อ่อนโยน และไม่เด็ดขาดของตัวเอง ปล่อยให้เจ้าสิ่งนั้นเติบโตขึ้นจากก้อนเลือดขึ้นมาเป็นสิ่งมีชีวิต มีแขน มีขา มีตา มีจมูก มีปากและมีหัวใจจนได้...ถ้าหากคุณไม่ใจอ่อน เหยาะแหยะแบบนี้ มันคงเป็นได้แค่เพียงก้อนเลือดที่ถูกขูดรีดออกมาจากร่างกายของคุณ สิ่งที่คุณพร่ำบอกกับตัวเองว่าคุณไม่ได้ต้องการมันแม้แต่นิดเดียว มันไม่ใช่ “อิสระ” แบบที่คุณตอกย้ำกับตัวเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าคุณต้องการเสียเหลือเกิน เจ้าสิ่งนั้นยังคงออกแรงดิ้นกุกกักไปมา มันเองก็คงต้องการ “อิสระ” แบบเดียวกับที่คุณต้องการเหมือนกันกระมัง...

คุณอดวางมือลงบนท้องของตัวเองไม่ได้ ฝ่ามือของคุณสัมผัสแรงเคลื่อนไหวจากภายใน ความรู้สึกบางอย่างไหลปราดไปทั่วร่างกาย คุณรู้สึกตัวเย็นวูบชั่วขณะหนึ่ง และในฉับพลันก็กลับร้อนวาบขึ้นมาแทนที่ จู่ๆ คุณก็รู้สึกคลื่นเหียนขึ้นมาอีกราวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเคยกลืนผ่านช่องปากเข้าไปทำท่าจะขย้อนกลับขึ้นมาใหม่ คุณปราดลุกขึ้น อาจจะเป็นเพราะคุณลุกขึ้นเร็วเกินไป คุณจึงรู้สึกว่าสภาพรอบตัวหมุนวนไปมา ขมับของคุณเต้นระริก หัวใจของคุณเต้นแรง คุณพยายามทรงตัว คว้าพนักเก้าอี้เพื่อยันร่างของตัวเองไว้อีกครั้ง จากนั้นจึงค่อยๆ ก้าวเดินโซซัดโซเซตรงไปยังห้องน้ำพร้อมกับหักห้ามไม่ให้อาการพะอืดพะอมที่แล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ สำแดงอาการก่อนที่คุณจะถึงห้องน้ำ

ทว่า เหลือแค่อีกไม่กี่ก้าวเท่านั้น คุณก็กลั้นไม่ไหว คุณออกแรงวิ่งตรงไปยังคอห่าน ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ขณะที่โก่งคอสำรอกกากอาหาร เศษข้าว และน้ำลายลงในโถส้วมอย่างหมดสภาพ เสียงอาเจียน โอ้กอ้ากทำให้คุณรู้สึกขยะแขยงตัวเอง พร้อมกันนั้นก็เกิดความเหนื่อยหน่าย อิดหนาระอาใจเช่นเดียวกันกับที่คุณต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้

นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ ถ้าหากคุณรู้ล่วงหน้าได้ว่า “อิสระ” ที่คุณร่ำร้องเพรียกหามาตลอดชีวิตคือการที่คุณต้องมาจมปลักอยู่ในสภาพผู้หญิงท้องโต อารมณ์ปรวนแปร ไปไหนมาไหนไม่สะดวก แถมยังต้องอาเจียนเอาสิ่งที่คุณพยายามยัดเยียดให้ร่างกายเนื่องจากคิดว่ามันจะดีต่อสิ่งที่อยู่ในท้องออกมาแทบทุกวันแบบนี้ คุณคงไม่เลือกตัดสินใจแบบนี้แน่ๆ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกเจ็บแค้นชิงชังก็ประเดประดังขึ้นมา ถ้อยคำของเขาที่ตะคอกใส่คุณเมื่อเช้ายังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท

“ถ้าผมรู้ว่าแต่งงานกับคุณแล้วต้องมาเจอกับอีเพิ้งบ้าเจ้าอารมณ์แบบนี้ ผมยอมอยู่เป็นโสดดีกว่าโว้ย”

ใช่สิ! คุณก็เหมือนกันนั่นแหละ...ถ้าหากคุณเลือกได้ใหม่อีกครั้ง คุณคงไม่เลือกที่จะมาใช้ชีวิตเร่ร่อนเป็นเมียทหารอยู่ในห้องพักทหารเก่าซอมซ่อที่คุณไม่อาจจะเรียกมันว่า “บ้าน” ได้เต็มปากเต็มคำนัก เพราะเมื่อไรก็ตามที่คุณเริ่มต้นคิดว่ามันคือบ้าน คุณก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนรถตู้ขนของสีเขียวคันใหญ่เทอะทะซึ่งพร้อมจะมุ่งหน้าพาคุณไปยังจุดหมายใหม่ที่คุณจำต้องเรียกและสร้างมันให้เป็นบ้านใหม่อีกครั้ง

และก็ใช่สิ! ถ้าคุณเลือกได้ใหม่อีกครั้ง ไม่มีทางที่สิ่งที่เติบโตอยู่ในท้องของคุณขณะนี้จะทำให้คุณอยู่ในสภาพแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่ๆ ความรู้สึกโกรธแค้นชิงชังผสมกับความอัดอั้นตันใจท่วมท้นล้นเอ่อออกมาจากร่างที่สั่นเทิ้มของคุณ ร่างป้อแป้ของคุณขยับไปพิงกำแพงสีถลอกในห้องน้ำที่เบียดแทรกตัวอยู่ในห้องพักซอมซ่อของคุณจนทำให้พื้นที่ซึ่งควรจะเป็นเนื้อที่ใช้สอยในห้องพักยิ่งแคบลงไปอีก

“ผมว่าที่นี่ดีกว่าที่แล้วอีกนะ อย่างน้อยเราก็มีห้องน้ำเป็นสัดส่วนของเราเอง ไม่ต้องไปใช้ห้องน้ำรวมแบบบ้านพักเมื่อคราวก่อน” เขาบอกกับคุณแบบนี้เมื่อตอนที่พาคุณย้ายเข้ามาพักที่นี่ใหม่ๆ คุณยังจำความรู้สึกของตัวเองตอนที่เห็นสภาพห้องพักที่คุณต้องทำให้มันเป็นบ้านของคุณได้ดี และคุณก็คงจะปิดความรู้สึกชิงชังนั้นได้ไม่ดีพอ เขาจึงสังเกตเห็นและทำให้ต้องรีบออกตัวหาเรื่องพูดปลอบใจคุณแบบนั้น

คุณขยับตัวลุกขึ้นช้าๆ หันไปกดชักโครกเพื่อกำจัดกลิ่นอาเจียนที่คละคุล้งไปทั่วห้องน้ำ กลิ่นเหม็นเอียนๆ ของมันทำให้คุณรู้สึกขยักขย้อนขึ้นมาอีก ทั้งๆ ที่คุณรู้ดีว่าถ้าคราวนี้คุณต้องโก่งคออยู่หน้าคอห่านอีกก็คงไม่มีอะไรออกมาจากในท้องของคุณอย่างแน่นอน

คุณเดินโผเผออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง รู้สึกว่าร่างของคุณไร้เรี่ยวแรงไปหมด คุณบอกกับตัวเองว่าคุณจะเดินไปที่เตียง ขอนอนงีบเอาแรงสักแป๊บหนึ่งแล้วค่อยลุกขึ้นมาเก็บกวาดห้อง ทว่า ขณะที่คุณเดินผ่านตู้เสื้อผ้าเก่าๆ ที่มีกระจกเงาบานยาวติดอยู่ที่ประตูตู้ เงาสะท้อนในกระจกก็ทำให้คุณต้องนิ่งอั้น ชะงักอยู่กับที่ ก้าวขาไม่ออกอย่างที่ตั้งใจไว้

เงาสะท้อนตรงหน้าคือภาพของหญิงสาวในชุดคลุมท้องสีซีด ผมเผ้าที่ยาวสยายของเธอยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ดวงตาของเธอแดงก่ำ ริมฝีปากก็เป็นสีแดงจัด คุณกวาดตาไล่มองจากใบหน้าของเงาสะท้อนนั้นลงมา แล้วสายตาของคุณก็หยุดกึกอยู่ที่ส่วนกลางของลำตัวที่โป่งนูนยื่นล้ำออกมา ผู้หญิงตรงหน้านี้ใช่คุณแน่หรือ? ใช่ผู้หญิงที่มีแต่ผู้คนรายล้อม ผู้หญิงที่อยากได้อะไรก็ต้องได้หรือนั่น? ไม่ใช่แน่ๆ! ไม่ใช่แน่ๆ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ

แล้วคุณต้องการอะไรกันเล่า? “อิสระ” เสียงในหัวกระซิบเบาๆ ใช่สิ! คุณต้องการเป็นอิสระจากชีวิตที่เพียบพร้อม คุณมีพร้อมมากเกินไป คุณบอกกับตัวคุณเองแบบนั้นมาก่อนนี่...คุณมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีพ่อแม่ที่รักและเทอดทูนพร้อมจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างคุณ คุณมีมากเกินไปจนคุณเบื่อ จนคุณบอกกับตัวเองว่าบางครั้งการที่มีคนคอยรักคอยเอาใจก็เป็นการริดรอน “อิสระภาพ” ของความเป็นมนุษย์ของคุณ คุณอยากท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ได้มีชีวิตที่เป็นของตัวคุณเอง...ชีวิตที่คุณเลือกเอง ไม่ใช่ชีวิตที่มีคนคอยดูแลและชี้บอกทางให้แบบเก่าก่อน...

และคุณก็ตัดสินใจเลือก “เขา” จากผู้คนมากมายที่รายล้อมรอบตัวคุณ อะไรบางอย่างในตัวเขาทำให้เลือดสาวของคุณเดือดพล่าน ทำให้ความรู้สึกและสัญชาตญาณที่รักเสรีของคุณสั่นระริก อาจจะเป็นเพราะเขารับราชการทหารทำให้เขาแตกต่างไปจากผู้ชายคนอื่นๆ ที่มาติดพันคุณ อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้มาจากครอบครัวที่มีฐานะแบบที่พ่อแม่ของคุณอยากให้คุณจับคู่ด้วย และอาจจะเป็นเพราะคุณต้องการ “อิสระ” จากกรอบของครอบครัวมากเสียจนตาพร่ามัวมองไม่เห็นความจริงเลยก็ได้

คุณเพิ่งมารับรู้และสำนึกเอาเองทีหลังว่า “อิสระ” จากครอบครัวที่คุณปรารถนานำพามาซึ่งภาระของการเป็นส่วนหนึ่งของอีกครอบครัวหนึ่งที่คุณยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับมันในตอนนี้ และเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนตัวอยู่ในท้องของคุณนี่แหละที่เป็นเครื่องตอกย้ำให้คุณรู้สึกถึงภาระนั้นทุกวัน นี่ยังไม่นับอาการกระปลกกระเปลี้ยอันเกิดมาจากความอ่อนล้า ไม่สบายเนื้อสบายตัวอีกต่างหากด้วย

สายตาของคุณจับนิ่งอยู่ที่ส่วนกลางของลำตัวที่ยื่นล้ำออกมาราวกับคุณมีตาเอ็กซเรย์มองทะลุเข้าไปภายในได้ คุณไม่ได้ต้องการมัน...เสียงกระซิบในหัวบอกกับคุณแผ่วเบา มันคือตัวการที่พรากอิสระไปจากคุณ มันคือภาระที่ทับถมลงมาบนบ่าของคุณนอกเหนือไปจากภาระการเป็นภรรยาทหารที่ต้องโยกย้ายไปมาซึ่งก็เป็นสิ่งที่คุณไม่เคยปรารถนามาก่อนอยู่แล้ว...

คุณเกลียดมัน!

ใช่สิ...คุณเกลียดมัน ถ้าเพียงแต่ตอนนั้นมโนธรรม และความใจอ่อนไม่ครอบงำคุณ คุณคงกำจัดมันไปแล้ว...คุณหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่เอาแล้ว ไม่อยากคิด ไม่อยากนึกถึงมัน เกลียด เกลียดมัน! ทำไมนะ...ทำไมคุณต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วย ทำไมคุณต้องมาทนทุกข์ทรมานเพื่ออะไรที่คุณเกลียดด้วย...แค่ชีวิตครอบครัวที่ไม่ได้ดั่งใจก็แย่พออยู่แล้ว ยังต้องมาเผชิญหน้ากับสภาพที่ชวนให้อึดอัด ทำอะไรได้ไม่สะดวกแบบนี้อีก...

คุณยกมือสูงขึ้นอย่างลืมตัว บางทีถ้าคุณทุบมันแรงๆ ทำอะไรก็ได้ให้มันกระทบกระเทือน มันอาจจะช่วยทำให้ภาระที่คุณต้องแบกอยู่นี้จบลงก็ได้ แค่เพียงออกแรงนิดเดียว คุณก็อาจจะกำจัดมันไปได้ คุณจะได้เป็น “อิสระ” แบบที่คุณปรารถนามาทั้งชีวิต

ขณะที่คุณค่อยๆ กำหมัด เล็บของคุณที่ถูกละเลยปล่อยทิ้งไว้จนยาวก็จิกเข้ากับฝ่ามือพอดี คุณเงยหน้าขึ้นมองไปที่เงาสะท้อนในกระจกอีกครั้ง ทว่าภาพที่คุณเห็นตรงหน้ากลับไม่ใช่ภาพที่คุณเห็นในตอนแรก มันกลับกลายเป็นภาพของหญิงสาวผู้หนึ่ง หญิงสาวผู้มีใบหน้าหม่นหมอง ดวงตาของเธอดำคล้ำราวกับผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ร่างกายของเธอซูบผอมเหมือนคนป่วยหนัก ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นช่างเหมือนกับคุณราวกับถอดกันมา เพียงแต่ว่าเธอดูทรุดโทรมมากกว่า ดูเหนื่อยล้ามากกว่า และที่สำคัญก็คือเธอไม่ได้ตั้งครรภ์ แบกท้องอันใหญ่โตเหมือนเช่นคุณ

“รู้ตัวไหมว่าเธอกำลังจะทำอะไร” ไม่ผิดแน่ๆ ผู้หญิงในกระจกกำลังพูดกับคุณ

“เธอเป็นใคร” คุณถามออกไป

“ฉันเป็นใคร เธอก็รู้ดีอยู่แล้วนี่” หญิงสาวในกระจกตอบ

“รู้ตัวไหมว่าเธอกำลังจะทำอะไร...”

คุณตอบไม่ได้ ทั้งๆ ที่คำตอบติดอยู่ที่ริมฝีปากของคุณอยู่แล้ว คุณค่อยๆ ลดมือลง มองเงาสะท้อนในกระจกอย่างประหลาดใจ

“ฉันมีอะไรจะบอกเธออย่างหนึ่ง...” เงาของหญิงสาวในกระจกบอก

“เธอรู้ไหมว่าสิ่งที่เธอเรียกมันว่าอิสระ สิ่งที่เธอยึดเป็นความปรารถนาสูงสุดของชีวิตคืออะไร...มันเป็นแค่เพียงข้ออ้างเท่านั้นแหละ เป็นข้ออ้างที่เธอตอกย้ำกับตัวเองเพราะเธอเบื่อสภาพความเป็นอยู่ เบื่อชีวิตที่ซ้ำซากจำเจของตัวเธอเอง เธอต้องการอะไรที่แปลกใหม่ เธอเรียกมันว่า “อิสระ” เพราะมันฟังดูหรูหราและทำให้เธอยึดมันไว้เป็นสรณะของตัวเองได้ง่ายกว่าที่จะบอกตัวเองว่าเธอเบื่อ และก็เกลียดชีวิตของเธอเอง...”

คุณพูดไม่ออก ทั้งๆ ที่คุณรู้สึกอยากจะพูด อยากจะหาอะไรโต้แย้งคำพูดเหล่านั้นใจจะขาด

“เธอไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น สิ่งที่ตัวเองเลือก สิ่งที่ประกอบขึ้นมาเป็นชีวิตของเธอ เธอจึงต้องตะเกียกตะกาย ดิ้นรน ไขว่คว้าหาตัวเลือกใหม่ๆ ให้กับชีวิตโดยใช้คำว่า “อิสระ” เป็นข้ออ้าง เป็นเครื่องบังหน้าการตัดสินใจของตัวเอง แต่พอพบว่าชีวิตใหม่ที่เธอเลือกเองไม่ถูกใจ ไม่ใช่สิ่งที่เธอคิด เธอก็หยิบข้ออ้างเดิมขึ้นมาใช้อีก เธอบอกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ไม่ใช่ “อิสระ” แต่กลายเป็น “ภาระ” ไปเสียแทน...”

คุณหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าสบตากับเงาสะท้อนตรงหน้า ดังนั้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคุณในตอนนี้คือหน้าท้องของคุณที่ยื่นล้ำออกมาแทน

“ลองคิดดูให้ดีๆ สิ...อะไรคือ ความจริง กันแน่...อะไรคือสิ่งที่เธอต้องการกันแน่...ถ้าเธอเอาแต่วิ่งหนีสิ่งที่เธอคิดว่าเธอไม่ต้องการ เธอก็จะต้องวิ่งหนีมันอยู่แบบนี้เรื่อยไป...”

อะไรบางอย่างที่แทรกปนมาในน้ำเสียงของเงาสะท้อนในกระจกเงาทำให้คุณระลึกกลับไปถึงวันแรกที่คุณพบว่ามีชีวิตใหม่กำลังจะถือกำเนิดในครรภ์ของคุณ คุณยังจำแววตาปีติลิงโลดของเขาได้ จำสัมผัสจากอ้อมแขนแข็งแรงที่โอบรัดรอบตัวคุณได้ จำน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขของเขาได้ แล้วคุณเล่า...คุณก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันไม่ใช่หรือ...ในตอนนั้น คุณไม่ได้คิดเลยแม้แต่น้อยว่าเจ้าสิ่งที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกผ่านตัวของคุณนี้จะเป็น “ภาระ” ที่พราก “อิสระ” ไปจากตัวคุณ

น้ำตาอุ่นๆ ไหลซึมออกมาจากกระบอกตาของคุณ คุณหลับตาลงอย่างอ่อนล้า และเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เงาร่างในกระจกนั้นก็หายไป ภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าคุณคือตัวคุณเอง ตัวของคุณในสภาพที่คุณพร่ำบอกกับตัวเองว่าคุณชิงชังรังเกียจมันเสียเหลือเกิน ทว่า ตอนนี้ความรู้สึกเกลียดชังกลับจางลงไปอย่างน่าแปลกใจ คุณถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความอ่อนล้ายังคงเกาะติดแน่นอยู่กับตัวของคุณ แต่ คุณกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นภาระที่คุณต้องแบกมันไว้อีกต่อไป...คุณยกมือขึ้นลูบที่หน้าท้องของตัวเองอย่างแผ่วเบา และราวกับจะรับสัมผัสอันอ่อนโยนนั้นได้ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในครรภ์ของคุณจึงเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง หัวใจของคุณเต้นตุบตับตามจังหวะการเคลื่อนไหวของเจ้าสิ่งนั้น...ก่อนที่คุณจะยิ้มออกมาจนได้

คุณค่อยๆ โผเผ เดินกระย่องกระแย่งออกมาจากห้องน้ำ สายตาอันอ่อนล้าของคุณกวาดไปทั่วห้อง คราวนี้สภาพของห้องไม่ได้ดูคับแคบชวนให้อึดอัดแบบเมื่อครู่ ลมเย็นที่พัดโชยมาจากหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ทำให้ความอบอ้าวในห้องเจือจางลง คุณก้มลงหยิบเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งไว้เรี่ยราดบนพื้นขึ้นมาทีละชิ้น วางมันลงบนกองเสื้อผ้าในตะกร้าผ้าสำหรับซัก ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียง...คุณมองไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง แล้วจึงค่อยๆเอนกายล้มตัวลงนอน...คุณบอกกับตัวเองว่าขอนอนงีบเอาแรงสักแป๊บหนึ่งแล้วค่อยลุกขึ้นมาเก็บกวาดห้องก็แล้วกัน...จากนั้นคุณก็หลับตา ปล่อยความคิดให้ไหลเลื่อนไปสู่ห้วงแห่ง นิทรารมย์




 

Create Date : 01 สิงหาคม 2548    
Last Update : 1 สิงหาคม 2548 10:43:44 น.
Counter : 455 Pageviews.  


Filippo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Filippo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.