ตอนที่ 27
(ต่อจากตอนที่แล้ว)

“บอกฉันอีกครั้งได้มั้ยว่าเธอเป็นใคร?” สุนีย์ถามตรงๆ กับความรู้สึกตั้งแต่แรกที่ได้เห็นหน้า เธอเชื่อว่าเด็กผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ด้วยขณะนี้คือลูกสาว หรือไม่ก็คือจูนเด็กสาวที่เคยเข้ามาในชีวิต และครั้งหนึ่งเด็กคนนั้นช่วยให้ครอบครัวของเธอสมบูรณ์ขึ้น
“ทำไมล่ะคะ หนูก็เป็นหนูไงคะ” จูนหันมาตอบไม่ค่อยเต็มเสียงนั้น
“ไม่ใช่ ฉันหมายความว่าเธอมาจากไหนกันแน่ เธอคงเข้าใจความรู้สึกของฉันบ้างนะพลอย?” สุนีย์พยายามอธิบายอย่างที่เธอต้องการจะถาม
“พ่อแม่เธอเป็นใคร”
“หนูก็เคยบอกคุณไปแล้วนี่คะ”
“ก็เล่าให้ฉันฟังอีกทีสิ ฉันอยากรู้ทั้งหมด”
“แล้วคุณจะรู้ไปทำไมล่ะ?” พลอยหันมาถามสุนีย์ตรงๆ เป็นคำถามที่ตัวของพลอยเองก็อยากรู้เช่นกัน สุนีย์เป็นฝ่ายนิ่งเงียบอีกครั้ง ไม่มีคำตอบอะไรออกมา
“หนูขอโทษค่ะ เอ่อ…หนูเพียงต้องการแค่อยากรู้เท่านั้นว่า ตอนนี้หรือเมื่อก่อน มันต่างกันอย่างไร?”
พลอยก้มหน้านิ่ง มันก็คงจะจริง เธอเองอยากรู้เหมือนกันว่าสุนีย์จะตอบว่าอย่างไร?


“การกลับมาของแตง คือสิ่งที่ทุกคนในครอบครัวฉันปรารถนา แม้ไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ แต่นั่นคือสิ่งเดียวที่พวกเราคิดเหมือนกัน ฉันอาจจะเป็นแม่ที่เคร่งครัด ตั้งกฏระเบียบกับลูกมากไปตอนนั้น ส่วนพ่อเขาก็โทษตัวเองตลอดเวลาว่าเป็นคนปล่อยให้ลูกไปเที่ยวจนเกิดเรื่อง และสุดท้ายที่หัวอกของคนเป็นพ่อแม่แบกรับไว้ คือการได้เห็นลูกที่เหลืออยู่มีชีวิตด้วยความเหงา โต้งทุกข์ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขากลายเป็นเด็กมีปมด้อย แต่ไม่ใช่เด็กมีปัญหา ถ้าเขามีพี่สาวเหมือนเดิม ความรู้สึกคงดีขึ้น เข้าใจความรู้สึกของฉันนะที่ถามหนูแบบนั้น”
“ค่ะ หนูเข้าใจแล้ว แต่เชื่อเถอะ…หนูก็แค่คนแปลกหน้า!!ที่มีบางอย่างคล้ายคลึงลูกสาวน้าเท่านั้นเอง” พลอยมองหน้าสุนีย์เขม็ง เหมือนมีบางอย่างในใจเช่นเดียวกัน

“ดึกแล้ว หนูขอตัวกลับก่อนนะค่ะ แล้วหนูขอกลับมาที่นี่บ่อยๆนะค่ะ” พลอยยกมือไหว้ลาแล้วคว้ากระเป๋าสะพายเปิดประตูออกไป สายตามองขึ้นไปที่ชั้นบนเล็กน้อยเหมือนกำลังมองหาใครสักคนที่เดินขึ้นไปก่อนหน้านี้ สุนีย์มองตาม รู้สึกสับสนในใจเช่นเดิม นี่เธอกำลังทำอะไรอีก!! มันคงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้วใช่ไหม? บางครั้งเธอเองก็อยากคิดเช่นกันว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงความฝัน ถ้ามันทำให้ครอบครัวเธอมีความสุขขึ้นมาก็ขออย่าให้เป็นความจริงเลยที่ต้องมีชีวิตอยู่ด้วยความเจ็บปวดในใจตลอดเวลา
พลอยเดินมาหยุดที่หน้าบ้านเหมือนชั่งใจบางอย่างอยู่เหมือนกัน แต่ก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อไปทั้งที่น้ำตากำลังล้นเอ่อออกมา โต้งกับมิวที่นั่งอยู่โต๊ะหินอ่อนตัวเดิมหันมามอง พลอยส่งยิ้มให้แล้วเดินจากไป

ด้านสุนีย์เดินตามออกมาเห็นพลอยเดินจากไป หัวใจของเธอก็อ่อนล้ายิ่งนัก เห็นโต้งกับมิวนั่งพูดคุยกันอย่างมีความสุขก็อดเสียใจลึกๆไม่ได้ ถึงแม้สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือการยอมรับและสนับสนุนทางเดินของลูกชาย แต่ถ้าให้เลือกได้เธอก็อยากให้ลูกเดินตามทางที่ถูกต้องมากกว่า น้ำตาของเธอตีตื้นขึ้นมาสุดห้ามใจ ก่อนจะค่อยๆเดินขึ้นบันไดไปอาบน้ำ พักผ่อนจากใจที่เหนื่อยล้า…แม้ร่างกายที่เหนื่อยล้ามันก็ยังมีช่วงเวลาที่พักผ่อน แต่ทว่าใจที่เหนื่อยล้าแม้ลืมตาตื่นอีกกี่ครั้ง ความรู้สึกนั้นก็ยังเหมือนเดิม สุนีย์กำลังจะเปิดประตูห้องพอดี หากสายตาไม่เหลือบไปเห็นปลายเท้าของสามีที่ยื่นพ้นออกมาจากประตูห้องน้ำ ด้านข้างระหว่างห้องของเธอกับลูกชาย เธอเปิดประตูห้องให้กว้างออกไป แทบช็อคเมื่อเห็นคราบเลือดบนศีรษะของกรไหลเปียกชุ่มตามพื้น สุนีย์ร้องออกมาสุดเสียงวิ่งหน้าตาตื่นออกมาร้องเรียกพลอย และลูกชายอีกครั้งที่หน้าบ้าน โต้งวิ่งกลับเข้าไปในบ้านทันทีด้วยสัญชาตญาณบางอย่าง มิววิ่งออกมาข้างนอกบ้านเพื่อตามพลอยให้กลับไปที่บ้านนั้นอีกครั้ง
  

สุนีย์ขับรถไปส่งกรที่โรงพยาบาล มืออีกข้างหนึ่งพยายามติดต่อโทรศัพท์เข้าเครื่องของอาหมอแต่ไม่สามารถติดต่อได้ คงกลับถึงบ้านแล้วเข้านอนเลย หันไปมองพลอยที่ประคองกรอยู่ที่เบาะด้านหลังคนขับ พลอยพยายามเขย่าใบหน้าของกรเบาๆพร้อมกับเรียกเป็นระยะๆ โต้งกุมมือข้างหนึ่งของกรไว้ บีบเบาๆด้วยความเป็นห่วง น้ำตาไหลออกมา มิวได้แต่นั่งนิ่งอยู่ด้านหน้าข้างสุนีย์
“
ทันทีที่ถึงโรงพยาบาลหมอบอกว่าอาการของกรไม่ดีมากๆ ทำให้อาการของกรทรุดลงอย่างที่เห็น
“คุณคงทราบแล้วว่าตับของผู้ป่วยไม่ดีตั้งแต่แรกแล้ว อาจเหนื่อยง่าย หรือเพลียเกินไปจนหายใจไม่ทันเป็นลมไปตอนที่มาถึงโรงพยาบาลความดันของเลือดก็ผิดปกติและสูงมาก ตอนนี้ควรให้หมอดูแลให้ใกล้ชิด 24 ชั่วโมง”
“มันจะรุนแรงขนาดไหนค่ะ” สุนีย์ถาม น้ำเสียงสั่นเครืออย่างชัดเจน
“ตับคนไข้ไม่ทำงานเลย นี่คือระยะที่รอคอยความหวังเท่านั้นเอง”
“ความหวัง?” เสียงสุนีย์เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน
สายตาของสุนีย์ยังคงมองไปที่เตียงคนไข้อยู่ โดยมีพลอยดูแลอย่างใกล้ชิด

  

ด้านนอกของห้องผู้ป่วย สุนีย์นั่งซึมคนเดียว ปลายเท้าทั้งสองข้างเหยียดออกไปข้างหน้า สองแขนประสานกันที่หน้าตัก ไม่มีใครรู้ได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรในใจ โต้งเดินออกมาเห็นก็ชะงัก ค่อยๆเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ ชายหนุ่มซบศีรษะลงบนบ่าของผู้เป็นแม่ สุนีย์ลูบศีรษะของลูกชายเบาๆ
“แม่!! …เข้มแข็งไว้นะครับ โต้งอยู่กับแม่แล้ว”
สุนีย์ค่อยหันไปมองลูกชาย น้ำตารินออกมาในแววตาคู่นั้น โต้งมือของแม่ที่ตัวเองกุมไว้แน่นในมือของตัวเอง สุนีย์ยกมืออีกข้างขึ้นมาทับมือลูกชายอีกที มองหน้าลูกยิ้มๆ

“โต้งคือกำลังใจสำคัญของแม่เสมอนะลูก”

น้ำตาของทั้งสองคนยิ้มออกมา พลอยเดินออกมากับมิวถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เช่นกันกับภาพที่เห็น
“พี่ฝากดูแลทางนี้ด้วยนะ แล้วพี่จะมาเยี่ยมอีกครั้ง” พลอยหันไปบอกกับมิว แล้วเดินจากไป มิวยืนลำพังคนเดียวด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ขาดหายไป ภาพที่เห็นเมื่อครู่นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยได้พบเจอแม้แต่กับตัวเองก็ตาม ครั้งสุดท้ายที่ได้สัมผัสไออุ่นนั้นก็คงกับอาม่าเท่านั้น…แม้แต่ผู้เป็นพ่อที่ช่วงหลังๆจะพบกันบ่อยขึ้นแต่ไม่มีครั้งใดที่จะได้สัมผัสไออุ่นแบบนี้สักครั้ง ยิ่งวัยที่โตขึ้นดูเหมือนจะเป็นช่องว่างระหว่างความรักจากผู้เป็นพ่อจะห่างหายออกไปทุกที

  
โต้งกับมิวนอนเฝ้ากรที่โรงพยาบาล พร้อมๆกับสุนีย์ พอรุ่งเช้าหลังจากที่คุณหมอมาตรวจอาการของกรอีกครั้ง สุนีย์ก็กลับบ้านเพื่อเตรียมข้าวของมาเฝ้ากรที่โรงพยาบาลสลับกับโต้งและมิว
“วันนี้ออกจากห้องซ้อมเสร็จแล้วเราจะมาที่โรงพยาบาลเองนะ โต้งไม่ต้องเป็นห่วง” มิวบอกกับโต้งก่อนที่จะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้าห้องซ้อมกับวงออกัส
“มิว…รีบกลับมานะ..เราไม่อยากอยู่คนเดียว” โต้งบอก
“อืม เราเข้าใจโต้ง …โต้งเข้มแข็งนะ อย่าให้น้านีย์ต้องเป็นห่วงอีกคน” มิวยิ้มให้แล้วเปิดประตูออกไป

  

ที่ระยองเสียงเพลงดังออกมาลั่นบ้าน มายด์กับพลและมีนต่างสนุกสนานกันอีกครั้ง โดยคราวนี้พลแอบส่ง “ของดี” มาฝากมีนอีกด้วย มันคือ “น้ำผลไม้ผสมยาปลุกเซ็กส์สำเร็จรูป”
“สุดยอดเลยนะมีน กระป๋องเดียวเสียวได้ทั้งคืน พี่เอามาให้ทดลองก่อน ถ้าได้ผลติดต่อพี่ได้ คิดราคากันเอง”
พลอวดอ้างสรรพคุณให้กับน้องชายของแฟน โดยที่มายด์ไม่ได้ยิน นอกจากไม่ได้ยินและก็คงจะไม่รู้ตัวด้วยเช่นกันว่าที่ตัวเองพลาดท่าเสียที ตกเป็นของรุ่นพี่คราวนั้นก็มาจากผลไม้กระป๋องตัวนี้นั่นเอง
  

“น้าหญิง!! มาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?”
มายด์ตกใจเมื่อเห็นหญิงเปิดประตูบ้านเข้ามาพร้อมกับหม่าม๊า พวกเด็กๆพากันหน้าซีดไปตามๆกัน หญิงเดินเลยเข้าไปด้านในเบาเสียงเพลงลง เธอไม่อยากจะหักหน้าเด็กๆ และขณะเดียวกันเปิดเพลงเสียงดังมากๆหากหนวกหูหรือทำให้หม่าม๊าต้องหงุดหงิดอาการของหม่าม๊าเธอจะกำเริบอีก โลกของเธอกับโลกของเด็กวัยรุ่นในปัจจุบันมันต่างๆกันมาก หรืออาจพูดได้ว่าชีวิตวัยรุ่นของเธอไม่เคยมีเลยเสียด้วยซ้ำไป หญิงเดินไปส่งหม่าม๊าที่ห้องแล้วกลับออกมา พลมองหน้าหญิงด้วยความพอใจ ขณะที่หญิงเดินเข้าห้องไป มายด์หยิกแก้มพลด้วยความหึงหวง ชายหนุ่มร้องโอยด้วยความเจ็บ

“รู้นะคิดอะไร? นั่นน้าหญิงนะ เมียของพ่อมายด์ ห้ามทำอะไรน่าเกลียดเชียวไม่งั้นมายด์เอาเรื่องแน่” มายด์ค้อนให้กับแฟนตัวเอง แล้วสนุกสนานต่อ เสียงประตูเปิดออกมาอีกครั้ง หญิงถามหาเสี่ยเชน

(โปรดติดตามตอนต่อไป)



Create Date : 18 กันยายน 2551
Last Update : 18 กันยายน 2551 17:39:36 น.
Counter : 267 Pageviews.

4 comments
  
ก็นะ
คงยังไม่ถึงเวลาที่จะอ่านนะครับ
เพราะว่าผมแอบเข้ามารอตอนทำงาน
เลยขอมาฝากคำว่าขอบคุณให้เจ้าของบ้านไว้นะครับ
แต่ค้างเลยครับ
ขอต่อความรู้สึกด่วนนะออมสิน
อย่างนี้ไม่ดีเลย แง้....แกล้งกันจัง
โดย: a IP: 118.175.62.86 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:17:58:07 น.
  
ป้าขวัญไม่อยากให้เรื่องมันเศร้าแบบนี้เลย
แล้วเมื่อไรทุกคนจะได้มีความสุขพร้อมกันเสียที
โดย: andy_kwan IP: 118.174.195.2 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:22:34:26 น.
  
แวะมาลงชื่ออ่านแน่ะครับ
โดย: กริชครับผม IP: 202.44.135.34 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:0:28:21 น.
  
ออมสินครับ
ตอนนี้หลายคนมารอสายามแห่งรักกันหนาแน่นมากครับ
เข้ามาพร้อมกันตั้ง ห้าคน
แล้วทำไงล่ะทีนี้ อิอิ
โดย: a IP: 202.149.25.235 วันที่: 22 กันยายน 2551 เวลา:18:07:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณหมอกมลชนก
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



"Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them."

บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ

คำคมนี้ดูจะบ่งบอกความเป็นตัวตนของ"ออมสิน"ได้เป็นอย่างดี...


สมาชิกอยู่ในบ้านขณะนี้