ตอนที่ 30
(ต่อจากตอนที่แล้ว)

“น้าหญิงเห็นพี่มายด์กับพี่พลไปข้างนอกเมื่อกี้หรือเปล่า?” มีนถาม ค่อนข้างห้วนเล็กน้อยเพราะไม่มีหางเสียง หญิงสาวอย่างเธอชินเสียแล้ว ก็อย่างรู้ๆ มีนโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูที่ “โอ๋” เกินขอบเขตของผู้เป็นพ่อ เธอเคยคุยเรื่องนี้กับเสี่ยเชนไม่รู้กี่ร้อยรอบ แต่สุดท้ายเธอต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกเสี่ยเชนอบรมเสียเอง หญิงหันไปยิ้มให้กับลูกเลี้ยงเป็นการกลบเกลื่อนความรู้สึก

“อ๋อ!!เห็นสิ สวนทางกันพอดี มายด์ขอตัวกลับไปก่อนกับเอ่อ…เพื่อนของเขานะ”
“อ้าว ไม่ได้ห่วงป๊าเลย” มีนหัวเสียขึ้นมา หญิงหันไปดูอาการสามี ลูบแขนเบาๆ

“เดี๋ยวมีนหยิบชุดเปลี่ยนให้ป๊าด้วยนะ น้าจะรอรับเอกสารที่เคาร์เตอร์สักครู่ จะได้กลับบ้านกัน” หญิงหันไปยิ้มให้กับหม่าม๊าพร้อมกำชับด้วยสายตาไม่ให้พูดอะไรถึงเรื่องของมายด์ ก่อนจะออกไปข้างนอก

เสี่ยเชนกลับมารักษาตัวที่บ้านโดยมีหญิงคอยดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็หาเวลาไปเยี่ยมมายด์ที่โรงพยาบาล สถานการณ์อย่างนี้เธอไม่มีเวลาจัดลำดับความคิดว่าอะไรควรทำก่อนหรือหลังอย่างแน่นอน
“น้าหญิง มายด์ขอโทษ ป๊ารู้เรื่องนี้หรือยัง? มายด์กลัวป๊ารู้!!” เด็กสาวรู้สึกตัวขึ้นมาก็ร้องไห้คร่ำครวญเกาะแขนหญิงแน่น จนเธอเองก็หนักใจไม่น้อย แต่สิ่งที่จะทำได้ตอนนี้คือแสดงความเข้มแข็งและเป็นที่พึ่งให้กับเด็กสาวผู้นี้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยง!!

“เรื่องป๊าอย่ากังวลเลย น้าจะจัดการเอง ตอนนี้มายด์ทำใจให้สบายนะ และพักผ่อนมากๆจะได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วๆ ไปดูแลป๊าไง!!” หญิงลูบหน้าลูบผมให้เด็กสาว

“น้าหญิง….” มายด์รั้งแขนของหญิงไว้เมื่อหญิงสาวเตรียมจะกลับ หญิงหันกลับไปมองด้วยสายเวทนายิ่งนัก





“มายด์แท้งแล้วใช่ไหม?”

ไม่มีเสียงสะอื้นไห้ และหางเสียงนั้น มันคงเป็นความรู้สึกจากความสูญเสียนั้นมากกว่า หญิงไม่ได้ติดใจใดๆ หากแต่คิดว่าเด็กสาวคงตกใจกับประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านเข้ามาโดยไม่คาดคิดก่อน หญิงขยับตัวเข้าใกล้เด็กสาวลูบแขนเบาๆให้กำลังใจอีกครั้ง พูดไม่ออก ได้แต่พยักหน้ารับ เธอเองก็แปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นแววตาสะใจคู่นั้น หรือเธอคิดมากไป

“อย่าคิดมากนะ เขายังไม่พร้อมจะอยู่กับเรา”
เธอปลอบ
“มายด์ไม่ได้คิดเลยน้าหญิง สะใจมากกว่า มายด์ไม่อยากให้เด็กมันเกิดมาด้วย ไอ้สายเลือดคนชั่วๆพันธุ์นั้น”
น้ำเสียงของเด็กสาวที่ดูอ่อนล้ากลับเข้มแข็งยิ่งนัก หญิงมองแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง เด็กสาวดูโหดเหี้ยมกับสายเลือดของตัวเองเกิดกว่าที่เธอคิดไว้ จริงอยู่ครึ่งหนึ่งจะเป็นสายเลือดของพล คนที่จะเป็นพ่อเด็กในอนาคต แต่ครึ่งหนึ่งก็คือสายเลือดของเด็กสาวเหมือนกัน หญิงหน้าเจื่อนเล็กน้อย แต่ก็ฝืนยิ้มให้

“ตอนนี้เด็กก็หลุดแล้ว ถ้าจิตใจของมายด์เข้มแข็งแบบนี้ น้าก็หมดห่วง มายด์ต้องดูแลร่างกายให้เข้มแข็งด้วย ตอนนี้ป๊ายังไม่รู้น้าต้องแก้ไขทางนั้นต่ออีก เดี๋ยวพรุ่งนี้น้าจะมาใหม่นะ โทรหาน้าได้ตลอดเวลาเลยนะมายด์!!” หญิงยิ้มให้ แล้วออกจากโรงพยาบาลทันที ด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในหัว ไหนจะเรื่องของสามี ไหนจะเรื่องของลูกเลี้ยง เธอคิดถึงมิวขึ้นมา แต่ก็ได้เพียงแค่คิด เพราะเธอไม่อยากให้เพื่อนต้องเป็นห่วง ตอนนี้มิวควรจะทำความฝันให้เป็นจริงเสียที เธอต้องการเห็นมิวมีภาพลักษณ์เป็นศิลปินชัดเจน

****************

หลังจากที่อยู่ในความดูแลของคุณหมอตลอดเวลา เกือบเที่ยงคืนแล้วที่กรยังนอนนิ่ง มีเพียงเสียงเครื่องช่วยหายใจเท่านั้นที่ส่งเสียงดังอย่างสม่ำเสมอ ทุกครั้งที่สุนีย์ได้ยินเหมือนการนับเวลาถอยหลังลงทุกทีๆ
ชั้นลอยของดาดฟ้า โต้งนอนหงายหนุนตักของมิวมองขึ้นไปบนท้องฟ้ากว้าง ปล่อยใจคิดอะไรบางอย่าง มิวรู้ว่าแฟนหนุ่มมีเรื่องราวไม่สบายใจอยู่ในหัวมากมาย ตลอดเวลาครอบครัวของเขาไม่ได้สุขสบายหรือสมบูรณ์เหมือนที่ใครๆเห็น นานแค่ไหนที่เขาต้องมองสภาพของพ่อที่เมามาย ส่งเสียงเอะอะโวยวายและทำร้ายผู้เป็นแม่ ภาพต่างๆติดตาเขามาโดยตลอด จู่ๆโต้งก็พูดขึ้นมาเหมือนลืมตัว

“เกิดเป็นพี่แตงก็สบายนะ ไม่ต้องรับรู้ปัญหาในครอบครัว หนีไปสุขสบายคนเดียว”
โต้งพูดเหมือนน้อยใจ
“ไม่จริงหรอก ไม่มีใครเกิดมาแล้วอยู่ได้คนเดียว พี่แตงมีพ่อ มีแม่ ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนความเป็นพ่อแม่ลูกก็ตัดกันไม่ขาด” มิวปลอบ

“หมายความว่าไง?”


“โต้งเชื่อไหม?ว่าพี่พลอยคือคนเดียวกันกับพี่แตง” มิวก้มหน้าลูบผมของโต้งเบาๆ โต้งเอื้อมมือของมิวมาวางไว้ที่หน้าอกของตัวเอง
“เชื่อ เราเชื่อ และไม่ต้องการพิสูจน์ความจริงใดๆทั้งนั้น เพราะโต้งเชื่อ จึงมีความสุขแบบนี้ มิวรู้ไหม?บางครั้งโต้งอยากถามพี่พลอยตรงๆว่าหนีเขาไปทำไม แต่วันนี้ไม่อยากถาม ไม่อยากรู้แล้ว สักวันพี่พลอยคงพูดความจริงออกมาเอง”

“ถ้าโต้งเชื่อ โต้งก็ต้องเข้าใจพี่พลอยด้วยว่าเขาหนีไปเพราะอะไร เขาก็มีเหตุผลของเขา บางทีสิ่งที่เราเห็นกันอยู่นั้นพี่พลอยก็อาจจะไม่มีความสุขนักหรอก อย่าได้เสียใจเลยนะ…”
“มิว โต้งขอบคุณนะที่มิวดูแลและเคียงข้างโต้งมาโดยตลอด โต้งตัดสินใจไม่ผิดที่มีความรักกับผู้ชายด้วยกัน”
“อืมส์…ไม่ต้องพูดอะไรหรอกโต้ง มิวเข้าใจดี บางคนอาจจะรักกันเพราะไม่มีคนให้รัก บางคนรักเพราะความเหงา”

“มิวรักโต้งเพราะอะไร?”




“เพราะมิวรักโต้ง มิวรักโต้งโดยไม่ต้องยกเหตุผลมาอ้าง” มิวก้มหน้ายิ้มๆให้กับแฟนหนุ่ม โต้งดึงมือของมิวขึ้นมาห้อมฟอดใหญ่ แล้วสีหน้าที่มีความสุขก็เจือจางลงเพราะมีเรื่องที่อยุ่ในใจบางอย่าง
“อย่ากังวลใจเลย อาหมอต้องช่วยอากรได้แน่ๆ”
“มิว กลับเข้าไปที่ห้องกันเถอะ โต้งสงสารแม่ ไปอยู่เป็นเพื่อนแม่กัน” โต้งลุกขึ้น สบตากับมิว ก่อนจะพากันเดินกลับเข้าไปที่ห้องคนไข้
อาหมอเดินมาบอกกับสุนีย์ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก การที่ตับผู้ป่วยไม่สมบูรณ์ปกติ และทำงานหนักมาโดยตลอดที่ผ่านมา ถึงวันนี้ถือว่าปาฎิหารย์ที่สุดแล้ว
“เผื่อใจไว้ได้แล้วนะ นีย์ !! พ้นคืนนี้ไปก็อยู่ที่การตัดสินใจของนีย์แล้วว่าจะยื้อเขาไว้ หรือว่าจะให้เขาไป”

“ไม่ พี่หมอ ไม่!!” สุนีย์ร้องไห้โผกอดอาหมอร้องไห้ป่านใจจะขาด โต้งและมิวเปิดประตูก้าวเข้ามา ตกใจกับเหตุการณ์นั้น รีบเข้ามาดูอาการของผู้เป็นพ่อ โต้งตาแดงกร่ำน้ำตาคลอเอ่อ
“เข้มแข็งไว้นะโต้ง เราต้องเป็นที่พึ่งให้กับแม่ รู้ไหม?” อาหมอหันมาบอกกับหลาน สุนีย์ทรุดลงกับเก้าอี้ข้างๆสามีตัวเดิม ร้องไห้เรียกชื่อสามีเบาๆ
“คุณ ลุกขึ้นมาคุยกับฉันหน่อยเถอะ ลืมตามองฉันสักครั้งเถอะ ฉันขอร้องนะ”
“แม่ครับ อย่ารบกวนพ่อสิครับ โต้งส่งใจถึงพ่อแล้วเดี๋ยวพ่อก็รู้สึกตัว เรายังมีหวังนะแม่” โต้งจับบ่าผู้เป็นแม่ ปลอบใจเท่าที่จะทำได้ แม้ตัวเองแทบจะปล่อยโฮออกมาก็ตาม

“โต้ง แม่ไม่ไหวแล้วลูก แม่รับไม่ได้ถ้าต้องสูญเสียพ่อเราไปแบบนี้” สุนีย์หันมากอดลูกชายแน่น หล่อนสารภาพออกมาตามตรง ในขณะที่โต้งเองก็ไม่สามารถควบคุมน้ำตาตัวเองได้ มิวนั่งอยู่ที่เก้าอี้โซฟาถึงกับหน้าเศร้าเบือนหน้าหลบไม่ให้เห็นน้ำตาเช่นกัน

“มันคงไม่แย่ขนาดนั้นก็ได้นะคะ”

พลอยเดินเข้ามาเงียบๆ สุนีย์เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่ก้าวเข้ามา โต้งยิ้มน้อยๆให้ พลอยวางกระเป๋าลงแล้วเดินเข้ามาที่เตียงยกมือไหว้สุนีย์และหันไปไหว้กร แม้จะไม่รู้สึกตัวก็ตาม
“ใช่ครับ พี่พลอยพูดถูก เรายังมีโอกาส หมอเดี๋ยวนี้เก่งจะตาย ขอเพียงตอนนี้อากรรู้สึกตัวได้ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น”
มิวเดินมาที่เตียงคนไข้ ปลอบใจสุนีย์ด้วยอีกคน สายตามองไปที่ร่างไร้สติของกร
“อย่าปลอบใจน้าเลยพลอย มิว มันไม่ได้ช่วยให้น้ารู้สึกดีได้หรอก อาหมอก็บอกแล้วให้ทำใจไว้ได้เลย แต่น้าเองต่างหากที่ทำใจไม่ได้ มิวเข้าใจน้าใช่ไหม? ”
สุนีย์พูดเสียงเศร้าลง แทบจะจับประโยคไม่ได้ นึกถึงภาพครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันกร สุนีย์ โต้ง และแตงลูกสาว หากขาดใครไปสักคนตอนนี้เธอจะอยู่ต่อได้อย่างไร?....แทบขาดใจ



“ได้สิครับน้านีย์ พี่พลอย โต้ง ดูอะไรนี่สิ!!” มิวยิ้มทั้งน้ำตา และแววตาที่เฉิดฉายนั้นดูเปี่ยมไปด้วยความดีใจ เมื่อเห็นนิ้วมือของกรกระดิกไหว ทุกคนมองตามแม้จะไม่เห็นว่ากรจะรู้สึกตัวอะไร แต่ทุกสายตาเหมือนส่งแรงใจให้กรได้รู้สึกตัวอย่างที่มิวเห็น และปาฎิหารย์ก็มีจริง นิ้วของกรค่อยๆกระดิกทีละน้อย สุนีย์รีบกดสัญญาณเรียกหมอและพยาบาลทันที

“โต้ง…. โต้ง!!”
สุนีย์เรียกลูกชาย ได้เพียงเท่านั้น ไม่มีคำใดๆหลุดออกมานอกจากความรู้สึกดีใจและตื้นตันใจจนไม่รู้จะพูดคำใดๆออกมา
“แม่ครับ ปาฎิหารย์กลับมาอยู่กับเราอีกครั้งแล้วครับ”
โต้งกอดแม่แน่น สุนีย์เองก็เช่นกันไม่มีความสุขใดในเวลานี้อีกแล้วที่เธอรอคอย แม้กรจะขยับเขยื่อนได้เพียงน้อยนิดนัก แต่นั่นก็เป็นสัญญาณบ่งบอกถึง “โอกาสรอด”ของสามีเธอ มิวเห็นสีหน้าของสุนีย์และโต้งที่ฉายแววดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่...ความรักความผูกพันของครอบครัวโต้ง...แม้อยู่ในเหตุการณ์ที่เศร้าหมอง เขาก็แสดงออกถึงความรักกันได้อย่างดี เช่นเดียวกับพลอยที่ลูบแขนของกรเบาๆให้อีกฝ่ายได้รู้สึกตัว สายตาของพลอยมองที่ใบหน้าของกรตลอด เหมือนจะบอกให้กรได้รู้ว่าวินาทีที่ลืมตาขึ้นมาเขาจะพบเห็นใบหน้าใครคนหนึ่งที่ละม้ายคล้ายลูกสาวที่จากหายกันไปนาน...แม้จะเหนื่อยจากงานช่วงกลางวันแค่ไหน แต่วินาทีนี้เธอก็มีความสุข หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง อีกอย่างพี่อ็อดก็เปิดไฟเขียวและเข้าใจเธอมากขึ้นกว่าเดิม

(โปรดติดตามตอนต่อไป)




Create Date : 01 ตุลาคม 2551
Last Update : 1 ตุลาคม 2551 17:18:44 น.
Counter : 323 Pageviews.

9 comments
  
สรุปว่า
ขอบคุณครับออมสินที่มีเรื่องดีๆๆให้ติดตามรสชาติของชีวิตครับ มีให้ได้ลิ้มลองเสมอครับ
โดย: a IP: 118.175.62.86 วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:17:04:05 น.
  
โห!!เวลาเดียวกันเลยนะครับพี่เอ....เว่อร์แล้วนะ
อิอิ
โดย: ออมสินไตตั้น วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:17:05:56 น.
  
อ้าวสองคนข้างบน มาพร้อมกันซะงั้น คิดถึงจังเลย (คิดถึงอะไร/ใคร ไม่บอกหรอก อิอิ) ขอบคุณค่ะชอบฉากบนดาดฟ้า และแน่นอนความรักที่ส่งผ่านจากคนข้างเตียงเพื่อคนบนเตียงนั้น มันทำให้เกิดปาฏิหารย์ (ได้จริง ๆ เหรอคะ) แทบจะอดใจรอตอนต่อไปไม่ไหวซะแล้วสิ ไม่เคยอ้อนคุณออมสินสำเร็จ งานนี้ฝากคุณa อ้อนให้ดีกว่า ชอบมุมนี้ของคุณa จังเลย น่ารักดี
โดย: ป้าfc IP: 124.120.96.94 วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:20:29:30 น.
  
ไม่รู้สิครับ
เป็นเพราะออมสินแหล่ะครับ
ที่ทำให้ผมต้องเข้ามารออ่าน
รอทักทาย
จนแทบจะย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ถาวรซะแล้วล่ะครับ
พอว่างจากงานก็แว๊ปเข้ามาดูแวะมาทักทาย
ดูว่าใครเข้ามาบ้างประหนึ่งเป็นเจ้าของบ้านเลยครับ
อ้อน....ออมสินเหรอครับ
ผมว่าออมสินใจดีอยู่แล้วล่ะครับเน๊อะ....
ไม่ต้องออ้นยังไงก็จัดให้
แต่ตอนนี้น่ะครับออมสินขอตอนต่อไปด้วยนะครับอิอิอิ
โดย: a IP: 202.149.24.161 วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:20:44:08 น.
  
ป้าขวัญเห็นด้วยกับหลายๆคนข้างบนนะ
ฉากบนดาดฟ้าของโต้ง+มิว น่ารักและอบอุ่นมาก

แต่ออมสินให้กรฟื้นขึ้นมาเพื่อสั่งเสียครั้งสุดท้ายหรือเปล่า
การจากกันเป็นเรื่องปกติ อย่าแซวว่าป้าขวัญอินจัด

รอตอนต่อไปจ๊ะ
โดย: andy_kwan IP: 118.174.155.187 วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:22:35:13 น.
  
รอตอนต่อไปด้วยคนนะ
โดย: พี่ซู IP: 202.12.118.61 วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:7:00:50 น.
  
หวีดดีนายออมสิน ตอนนี้เราตัดสินใจไปแล้วเรารอคำแนะนำของนายไม่ไหว ทำไมราเลือกจะปรึกษานายเพราะเราคิดว่าเรามีปัญหาคล้ายๆกันเีพียงแต่เราแ่ค่สลับกันใน สองเรา....หัวใจเดียว(ถ้าเป็นเรื่องจริง)ตอน ออมสินอกหัก ตอนนี้เราอัปเปหิตัวเองย้ายนิวาสสถานจากจากสุดเขตทางเหนือสุดมาอยู่ใต้สุด แต่เราจะเข้ามาอ่านงานเขียนของนายบ่อยๆนะ(ถ้ามีโอกาส) เป็นกำลังใจนะ ขอบคุณที่ให้พักเหนื่อย(ใจ)ในบ้าน
โดย: นายนล (ryw ) วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:11:27:50 น.
  
ก็เข้ามานั่งรอออมสินคนเร้าเรื่องสยามแห่งรักเหมือนเดิมครับ
ที่นี่ทุกวัน
ยังไงก็จะรอคอยเพื่อเป็นกำลังใจตลอดไป
ก็ขอมอบเพลงนี้ที่เจ้าของบ้านเลือกไว้สำหรับวันเกิดวันฮาโลวีนนี้ด้วยนะครับ
โดย: a IP: 202.149.25.233 วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:19:03:24 น.
  
หาที่นั่ก่อนนะ...
อ้อ...ตรงนี้ดีกว่า
ปูเสื่อรอไว้ตอนเย็นจะเข้ามาฟังนะครับออมสิน
โดย: a IP: 202.149.25.234 วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:13:00:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณหมอกมลชนก
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



"Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them."

บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ

คำคมนี้ดูจะบ่งบอกความเป็นตัวตนของ"ออมสิน"ได้เป็นอย่างดี...


สมาชิกอยู่ในบ้านขณะนี้