คุณชัยสิทธิ์ กล่าวว่า คือ วัตถุโบราณภายในวัดกัลยาณมิตรนั้น ได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุโบราณเมื่อปี2492และตามพรบ.วัตถุโบราณ มีคำสั่งห้ามทุบหรือทำลายวัตถุโบราณจะต้องอนุรักษ์ไว้ หากปรับปรุงหรือต่อเติมจะต้องมีการแจ้งและได้รับอนุญาติจากกรมศิลปากรซะก่อน ซึ่งปัจจุบันที่วัดมีเจ้าอาวาสอยู่ 10 รูป แต่เดิมมี 9 รูปก็ไม่เคยมีปัญหา จนมาองค์ที่ 10 เพิ่งเข้ามาเมื่อเดือนมีนาคม ปี2546 พอเข้ามาได้ 2- 3 เดือนเริ่มมีการทุบทำลายหอระฆัง ที่ถูกสร้างไว้เมื่อปี 2386 ทุบเสร็จแล้วก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผมก็ได้ร้องเรียนไปที่กรมศิลปากรตั้งแต่ตอนนั้น ทางกรมศิลปากรก็ทำจดหมายมาถึงเจ้าอาวาสว่า วัตถุโบราณถูกจดขึ้นเป็นโบราณสถานแล้วไม่ให้ทุบหรือทำลาย แต่ก็ไม่เป็นผลเจ้าอาวาสไม่ได้สนใจอ้างว่า"วัดของกู" และยังทุบวัตถุโบราณอื่นๆมาเรื่อย อาทิ เมรุเผาศพ ,กุฏิหลวงพ่อเส่งที่มีอายุมากว่า 100 ปี ถูกรื้อไปเรียบร้อย ,หอสวดมนต์กัลยาณาลัย ซึ่งรัชกาลที่ 7 ทรงประทานนามไว้ให้ ก็ถูกทุบทิ้งลงไป,หินอับเฉาเรือ มีต้นกำเนิดมาจากการค้าสำเภา เป็นประวัติศาสตร์ของคนไทยกับจีนมานาน , และที่เจ็บปวดมากที่สุดคือได้ทุบ "เจดีย์เจ้าจอมซึ่งบรรจุอัฐิเจ้าจอมมารดาแช่ม ชายา ร.5" ไม่เหลือซาก! ซึ่งผมต้องการเรียกร้องประวัติศาสตร์ของผมคืนมาให้ชาติ ให้ชาวบ้านเรา ผมอยากเก็บอนุรักษ์ไว้ให้เด็กรุ่นหลังได้ศึกษา ผมคิดว่าในการพัฒนามันพัฒนาได้แต่ไม่ใช่ทำลายประวัติศาสตร์ของประเทศชาติ
ติดตามเรื่องราวรายการปากโป้ง 10.30 และ 21.00 น. ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม //www.thaich8.com หรือhttps://www.facebook.com/thaich8 หรือ IG thaich8