Nichar love Beauty ^^ Beauty love Nichar
 
 

วันนี้คุณกินข้าวเช้าหรือยัง

วันนี้คุณกินข้าวเช้าหรือยัง
 

ทุกคนต้องกินอาหารเช้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หลากหลาย เพราะเมื่อร่างกายไม่มีพลังงานจากอาหารเช้าไปใช้ ร่างกายจะดึงสารอาหารจากอวัยวะส่วนอื่นออกมา (ไม่ใช่ไขมัน ไขมันยังอยู่เหมือนเดิม) ซึ่งภายใต้กระบวนการนี้จะเกิดกรดชนิดหนึ่งออกมาด้วย

ซึ่งการที่เราบอกว่าไม่กินข้าวเช้า ก็ยังทำงานได้เป็นปกติมาตั้งหลายปีแล้ว นั่นคือ ร่างกายได้นำเอากรดที่เกิดขึ้นมาใช้แทนพลังงานทุกวัน เราจึงทำงานโดยใช้กรดแทนพลังงาน และเมื่อร่างกายต้องผลิตกรดออกมาบ่อยๆ พออายุมากขึ้นเราก็จะเป็นโรคตามมาหลายอย่าง นอกจากนี้ เรารู้หรือไม่ว่า

โดยปกติแล้วร่างกายของมนุษย์เราผลิตสารพิษอยู่ภายในร่างกายตลอดเวลา เป็นขยะ เหมือนรถที่เมื่อเติมน้ำมันเข้าไปแล้วก็จะมีควันออกมา ภาษาทางการแพทย์เขาเรียกขยะในร่างกายนี้ว่า สารอนุมูลอิสระ(oxidant) เกิดจากการสันดาปพลังงานของร่างกาย แล้วคายของเสียออกมา(ไม่ใช่อุจจาระนะ คนละแบบ)

นอกจากนี้ร่างกายจะเร่งผลิตสารอนุมูลอิสระอีกก็ต่อเมื่อเวลาเราเครียดหรือต้อง ทำงานหนัก ใช้สมอง ประกอบกับเจอมลภาวะต่างๆ สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ อุปนิสัยการดื่มสุรา สูบบุหรี่ ก็ยิ่งเป็นตัวสร้างให้เกิดสารพิษนี้มาก การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอตอนกลางคืนเป็นหนทางและเวลาสำคัญที่ร่างกายจะสร้างสารต่อต้านสารอนุมูลอิสระ(anti-oxidant) ขึ้น เพื่อกำจัดสารอนุมูลอิสระที่เกิดตอนกลางวัน การนอนให้เพียงพอและหลับสนิทจะเป็นประโยชน์ไม่เฉพาะการกำจัดของเสีย แต่ยังช่วยให้เม็ดเลือดแดงของคนเราแข็งแรง สร้างฮอร์โมนเพศทำให้ร่างกายสมบูรณ์ มีน้ำมีนวล คุณหมอเอาภาพขยายเม็ดเลือดแดงของผู้จัดการชายอายุ 35 คนหนึ่งซึ่งเป็นคนไข้มาให้ดู เปรียบเทียบกัน 2 ภาพ ผู้ชายคนนี้เหมือนมนุษย์งานทั่วไป ทำงานหนักและเครียดขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ ปรากฎว่าจำนวนเม็ดเลือดแดงของเขามีลักษณะเป็นก้อนขยุกขยุยไม่เป็นรูปทรงกลมเหมือนกลุ่มเม็ดเลือดแดงที่ควรเป็น เกิดความผิดปกติขึ้นเนื่องจาสารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจำนวนมากไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกาย ซึ่งก็จะนำมาซึ่งโรคร้ายจำนวนมากอย่างที่คนไทยกำลังนิยมอยู่ จงจำไว้ว่า

1.ทานอาหารเช้าแบบราชา อาหารกลางวันพอประมาณ และอาหารเย็นแบบยาจก หลีกเลี่ยงไขมันและของหวาน ออกกำลังกายให้ได้วันละอย่างน้อย 30-40 นาที(20นาทีแรกร่างกายเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต อีก 10-20 นาทีต่อมาร่างกายจึงจะค่อยเผาพลาญไขมัน) 

2.นอนหลับ หรือ หลับนอนก็แล้วแต่ ให้เพียงพอ 

3.รับแสงแดด ช่วง 8.00-9.00 ซึ่งมี UV ที่เป็นประโยชน์ 

4.พยายามเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการหัวเราะ ขำขัน ถ้าบ้าได้ก็ดี ชีวีจะเป็นสุข 


ขอบคุณ : heyhaparty




 

Create Date : 07 มิถุนายน 2555   
Last Update : 7 มิถุนายน 2555 10:02:27 น.   
Counter : 956 Pageviews.  


นักวิจัยออสเตรเลียชี้ บริโภคดาร์กช็อกโกแลต ส่งผลดีต่อหัวใจ

นักวิจัยออสเตรเลียชี้ บริโภคดาร์กช็อกโกแลต ส่งผลดีต่อหัวใจ
 
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) รายงานว่า ผลการวิจัยชี้ การบริโภคดาร์กช็อกโกแลต มีผลช่วยป้องกันภาวะความเสี่ยงจากโรคหัวใจ


โดยการวิเคราะห์ผลต่อสุขภาพจากการบริโภคดาร์กช็อกโกแลตของอาสาสมัครจำนวน 2,013 คน ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจ จากนั้นนำสถิติข้อมูลค่าความดันโลหิตและปริมาณคอเลสเตอรอล เพื่อสร้างโมเดลศึกษาต่อเนื่อง โดยทีมวิจัยพบว่าการบริโภคดาร์กช็อกโกแลต จะมีความเป็นไปได้ในการช่วยป้องกันภาวะหัวใจพิบัติที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 15 ครั้ง และไม่ถึงชีวิต 70 ครั้งใน 10,000 คน ในระยะเวลา 10 ปี

ทั้งนี้การส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคดาร์กช็อกโกแลตที่มีต้นทุนประมาณ 42 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1,300 บาท) ต่อคนต่อปี จะเป็นผลดีต่อการป้องกันโรคหัวใจของชาวออสเตรเลียในอนาคต

ข้อมูล teenee.com




 

Create Date : 06 มิถุนายน 2555   
Last Update : 6 มิถุนายน 2555 19:59:12 น.   
Counter : 950 Pageviews.  


"กินเนื้อ" จะทำให้อายุสั้นรู้ไหม!

"กินเนื้อ" จะทำให้อายุสั้นรู้ไหม!
 
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต

"กินเนื้อ" จะทำให้อายุสั้นรู้ไหม!

ไม่ใช่แค่ความเชื่อแต่การศึกษาครั้งแรกและใหญ่สุดยืนยันแล้วว่า ทานแค่เท่าแฮมเบอร์เกอร์ 1 อันต่อวันเสี่ยงอายุสั้นกว่าปกติ 30% บ้างก็ว่ารับประทานเนื้อมากๆ ไม่ดี อาจเป็นมะเร็งได้ บางคนก็ว่าทานสัตว์ใหญ่เป็นกรรมเยอะ แต่ก็ยังไม่ค่อยมีการกล่าวอ้างถึงผลการวิจัยที่บอกกันชัดๆ ไปเลยว่าตกลงแล้วการกินเนื้อสัตว์อย่างเช่นเนื้อวัวซึ่งฝรั่งเรียกกันว่าเนื้อแดงเป็นประจำจะก่อผลเสียต่อปัญหาสุขภาพจริงอย่างว่าหรือเปล่า จนล่าสุดมีผลการศึกษาอย่างเป็นทางการออกมาเป็นครั้งแรกและครั้งใหญ่ที่สุดซึ่งมีคำตอบให้กับคำถามนี้

การศึกษานี้ทำในผู้สูงอายุรุ่นกลางมากกว่า 500,000 คน ในสหรัฐอเมริกาโดยทำการติดตามผลกันนานถึง 10 ปี โดยระบุว่าคนที่รับประทานเนื้อแดงเป็นประจำทุกวันประมาณ 4 ออนซ์ หรือเทียบได้กับการทานแฮมเบอร์เกอร์เนื้อวันละ 1 ชิ้น มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตเร็วกว่าปกติเฉลี่ย 30%

โดยสาเหตุของการเสียชีวิตมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคเนื้อสัตว์ ได้แก่ โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง ไม่เพียงแต่เนื้อแดงที่ปรุงสดๆ เท่านั้น แต่การรับประทานเนื้อแดงที่ผ่านการแปรรูปแล้วก็มีความสัมพันธ์กับการตายเร็วกว่าปกติด้วยเช่นกัน โดยผลการวิจัยนี้เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการอายุรเวชศาสตร์ Archives of Internal Medicine

ข้อมูล teenee.com




 

Create Date : 06 มิถุนายน 2555   
Last Update : 6 มิถุนายน 2555 12:23:50 น.   
Counter : 1010 Pageviews.  


ทำไมดื่มนมแล้วท้องเสีย

ทำไมดื่มนมแล้วท้องเสีย
 

เคยไหม เวลาดื่มนมแล้วรู้สึกว่าท้องเสีย อยากรู้ไหมว่าทำไมนมถึงทำให้เราท้องเสียได้

ผู้ที่มีอาการปวดท้องหรือท้องเสียภายหลังจากการดื่มนม มีสาเหตุมาจากการขาดน้ำย่อยสำหรับย่อยน้ำตาลแลคโตสในนม (ขาดเอนไซม์ที่เรียกว่า บี-กาแลคโทซิเดส) อาการนี้ส่วนมากจะพบในผู้ใหญ่ เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ดื่มนมสดมาตั้งแต่เด็ก ทำให้มีอาการปวดท้องเวลาดื่มนม ทางแก้ไขคือ ควรค่อยๆ ดื่มนมทีละน้อยเพื่อให้ร่างกายเริ่มสร้างน้ำย่อยสำหรับย่อยน้ำตาลใน นม

สำหรับผู้ที่มีปัญหาจากการดื่มนม แนะนำให้เลือกดื่มนมเปรี้ยวแทน เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ในนมเปรี้ยวจะสร้างกรดแลคติกซึ่งจะช่วยย่อยน้ำตาล แลคโตสในนมได้ง่ายกว่าการบริโภคนมโดยตรง
ข้อมูล teenee.com




 

Create Date : 05 มิถุนายน 2555   
Last Update : 5 มิถุนายน 2555 10:39:55 น.   
Counter : 738 Pageviews.  


อัจฉริยะสร้างได้ด้วย“อาหาร”

อัจฉริยะสร้างได้ด้วย“อาหาร”
 

สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญ มีหน้าที่เกี่ยวกับการจดจำ ความคิด การเรียนรู้ ความรู้สึก การมองเห็น การได้ยิน ตลอดจนควบคุมการทำงานของอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย ซึ่งการที่สมองจะทำงานได้ดีนั้นเกี่ยวข้องกับอาหารอย่างมาก ส่วนจะเกี่ยวอย่างไร มาดูกัน

สมองประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ซึ่งมีหน้าที่ในการขนส่งพลังงาน สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ ความพิเศษของสมองนั้นอยู่ที่

      1. หลอดเลือด – สมองมีหลอดเลือดกระจายเป็นเครือข่ายโยงใยซับซ้อนมากมาย หากหลอดเลือดเกิดปัญหาตีบตันหรือเปราะบาง ย่อมส่งผลให้สมองได้รับสารอาหารและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ 

     2. Blood brain barrier – ทำหน้าที่คัดเลือกสารอาหารไปเลี้ยงสมอง ตรวจสอบสมดุลสารอาหารต่างๆ ที่จะเข้าไปเลี้ยงสมอง สมดุลของสารอาหารในสมองจึงเป็นสิ่งสำคัญ

      3. กลูโคส – สมองไม่มีแหล่งสะสมพลังงาน และต้องการกลูโคสเท่านั้นเป็นแหล่งพลังงาน

     ดังนั้นนอกจากสมองจะต้องการออกซิเจนประมาณร้อยละ 20 จากปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายได้รับ เพื่อใช้สำหรับกระบวนการทำงานต่างๆ ของสมองแล้ว โดยเฉลี่ยสมองซึ่งมีน้ำหนักประมาณร้อยละ 2 ของน้ำหนักตัว ยังใช้พลังงานประมาณร้อยละ 20 ของพลังงานที่ร่างกายต้องการใช้ในแต่ละวันอีกด้วย

หน้าที่ของอาหารต่อสมอง
     สมองต้องการอาหารเพื่อสิ่งเหล่านี้
     • โครงสร้าง – สมองต้องการ “ไขมัน” เพื่อสร้างเซลล์เยื่อบุผิวของเซลล์สมองและเซลล์ประสาท
     • พลังงาน – สมองต้องการ “คาร์โบไฮเดรต” เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงาน
     • ทำงาน – สมองต้องการ “โปรตีน” เพื่อสร้างสารสื่อประสาท และ“วิตามินและเกลือแร่” เพื่อส่งเสริมการทำงานของสมอง
     • ป้องกัน – สมองต้องการ “วิตามินและสารพฤกษเคมี” เพื่อป้องกันเซลล์สมองจากอันตรายของอนุมูลอิสระ

อาหารของสมอง
      อาหารสำหรับสมองจึงประกอบไปด้วย

      คาร์โบไฮเดรต
      เนื่องจากสมองไม่มีการสะสมพลังงาน แป้งและน้ำตาลจึงเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์สมอง เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตหรือได้รับในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ร่างกายจำเป็นต้องใช้พลังงานจากสารอาหารอื่นเป็นแหล่งพลังงานทดแทน สมองจะทำงานช้าลงหรือไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามการได้รับคาร์โบไฮเดรตที่มากเกินไป จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงขึ้น ลง อย่างรวดเร็ว ทำให้การส่งสารอาหารไปเลี้ยงสมองถูกรบกวน ระดับของสารสื่อประสาทในสมองไม่สมดุล อาจทำให้เกิดอาการมึนศรีษะ ง่วงนอน สับสน ชัก หมดสติ ซึ่งเป็นผลร้ายกับการทำงานของสมองได้เช่นเดียวกัน คาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสมองคือ ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว เพราะอาหารเหล่านี้จะค่อยๆ ปลดปล่อยกูลโคสออกมาในระดับต่ำและคงที่

      โปรตีน
      กรดอะมิโนจำเป็นมีความจำเป็นต่อการสร้างเซลล์และสารสื่อประสาทในสมอง มีผลให้สมองทำงานได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น กรดอะมิโนทริปโตเฟน ใช้ในการสังเคราะห์สารเซโรโทนิน ที่มีหน้าที่ในการควบคุมการนอนหลับ ทำให้หลับสบาย ทริปโตเฟนพบมากใน เนื้อสัตว์ นม โปรตีนจากถั่วเหลือง ถั่วลิสง ข้าวไม่ขัดสี หรือกรดอะมิโนไทโรซีน เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทชนิดโดปามีน ช่วยลดอาการซึมเศร้า และช่วยในการทำงานของต่อมหมวกไต และต่อมไทรอยด์ ไทโรซีนพบมากในนมและผลิตภัณฑ์จากนม เมล็ดฟักทอง เมล็ดงา และอัลมอนด์ การมีสารสื่อประสาทเหล่านี้ในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้สมองทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้การควบคุมการทำงานของอวัยวะอื่นทำได้ดีตามไปด้วย

      ไขมัน
      กรดไขมันจำเป็นมีความสำคัญกับการทำงานของเซลล์สมอง เช่น กรดไขมันโอเมก้า-3 docosahexaenoic acid (DHA) ซึ่งพบมากในสมองและเรตินาในตา ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์ปลายประสาท ทำให้การถ่ายทอดข้อมูลและการส่งสัญญาณของเซลล์ประสาททำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีผลดีต่อการเรียนรู้ ความจำ และการมองเห็น โดยกรดไขมันโอเมก้า-3 มีมากในปลาทะเลน้ำลึก และปลาน้ำจืดไทยๆ อย่างปลาสวาย เป็นต้น

      วิตามิน
      วิตามินเกือบทุกชนิดมีความสำคัญต่อการทำงานของเซลล์สมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 

      วิตามินบี 1 ที่ทำหน้าที่สำคัญในกระบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต เพื่อให้เกิดพลังงาน นอกจากนั้นยังทำให้การส่งผ่านสัญญาณของกระแสประสาทบนเยื่อบุผิวเซลล์ประสาททำงานดีขึ้น ร่างกายจะตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นไวมากขึ้น การขาดวิตามินบี 1 จะทำให้การรับรู้ปัญหา และความจำลดลง เนื้อเยื่อของสมองเสียหาย และอาจมีผลต่ออารมณ์ได้ วิตามินบี 1 พบมากใน ข้าวซ้อมมือ เนื้อสัตว์ ไข่แดง ปลา ถั่วเหลือง รำข้าว และจมูกข้าว เป็นต้น 

      วิตามินบี 6 ช่วยในการเผาผลาญอาหารและการสังเคราะห์กรดอะมิโนในร่างกาย ทำให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น โดยกระตุ้นการสร้างความจำชนิดถาวร อีกทั้งช่วยสร้างสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน และโดปามีนได้อีกด้วย วิตามินบี 6 พบมากใน ไข่ เนื้อสัตว์ จมูกข้าว ข้าวซ้อมมือ ข้าวโพด และกล้วย

      วิตามินบี 12 มีความสำคัญในกระบวนการเผาผลาญอาหาร เพื่อสร้างพลังงาน อีกทั้งยังกระตุ้นการสังเคราะห์เยื่อหุ้มเส้นประสาท ทำให้การส่งกระแสประสาทเร็วขึ้น ส่งผลให้ร่างกายตอบสนองสิ่งเร้าหรือสิ่งกระตุ้นไวขึ้น การขาดวิตามินบี 12 อาจทำให้สูญเสียความทรงจำระยะสั้น และอาจทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นถึง 4 เท่า วิตามินบี 12 พบมากใน ยีสต์ ไข่ เครื่องในสัตว์ นมและผลิตภัณฑ์จากนม และเนื้อสัตว์

      วิตามินซี ทำหน้าที่สำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์สมองจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ และยังช่วยในการทำงานของสารสื่อประสาท วิตามินซีพบมากในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ผักต่าง ๆ

      วิตามินอี ทำหน้าที่สำคัญในการต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกัน จึงช่วยปกป้องกรดไขมันที่เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ป้องกันเซลล์ประสาทจากอนุมูลอิสระ วิตามินอีพบมากในเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันปาล์มโอเลอิน และน้ำมันรำข้าว

      ธาตุเหล็ก 
      ธาตุเหล็กมีความจำเป็นในการขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง เพราะธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ซึ่งทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจน การขาดธาตุเหล็กจึงทำให้เซลล์สมองไม่ได้รับออกซิเจนในปริมาณที่ต้องการ มีผลให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลง ความจำและสมาธิสั้นลง ธาตุเหล็กพบได้ทั้งในเนื้อสัตว์และในพืช แต่ธาตุเหล็กในเนื้อสัตว์จะอยู่ในรูปฮีม (heme) หรือธาตุเหล็กที่ไปจับกับกรดอะมิโนโกลบูลิน ขณะที่ธาตุเหล็กในพืชจะอยู่ในธาตุเหล็กที่ไม่ใช่ฮีม (non heme) โดยธาตุเหล็กในเนื้อสัตว์จะดูดซึมได้ดีกว่าธาตุเหล็กในพืช

      สารพฤกษเคมี หรือที่เรียกว่าไฟโตนิวเทรียนส์ 
      ไฟโตนิวเทรียนส์เป็นสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพพบในพืชผักและผลไม้ ทำให้พืชผักมีสี กลิ่น และรสชาติเฉพาะตัว สารเหล่านี้ต้านอนุมูลอิสระได้ดี จึงช่วยป้องกันเซลล์สมองจากอันตรายของอนุมูลอิสระได้ เช่น สารอินโดลส์ ที่พบมากในผักวงศ์ครูซิเฟอร์รัส (cruciferous) เช่น บรอกโคลี กระหล่ำ หัวไชเท้า สารฟลาโวนอยด์ ที่นอกจากจะต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังป้องกันการอักเสบ ป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ราและไวรัส ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด จึงป้องกันเส้นเลือดในสมองอุดตันได้อีกด้วย สารฟลาโวนอยด์พบมากใน หอมหัวใหญ่ หอมแดง บรอกโคลี องุ่นแดง เป็นต้น

การจะทำให้สมองทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพนั้น สมองจะต้องได้รับสารอาหารและออกซิเจนอย่างครบถ้วน โดยการกินผักและผลไม้เป็นประจำ หลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์ บริโภคปลาทะเลสม่ำเสมอ ลดการกินเกลือและน้ำตาล ขยันออกกำลังกาย รวมทั้งควบคุมน้ำหนักตัวและความดันโลหิตให้เป็นปกติ นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสื่อมของเซลล์สมอง เช่น ภาวะความผิดปกติของหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น 

เพียงแค่นี้เราก็จะมีสมองดีๆ ไว้ใช้งานแล้ว



ขอบคุณ : healthtoday




 

Create Date : 05 มิถุนายน 2555   
Last Update : 5 มิถุนายน 2555 10:36:39 น.   
Counter : 563 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

chiza_love
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add chiza_love's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com