All Blog
Ghana West Africa
สาธารณรัฐกานา เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใน แอฟริกาตะวันตก พรมแดนด้านตะวันตกจรดประเทศโกตดิวัวร์ ด้านตะวันออกจรดประเทศบูร์กินาฟาโซ และประเทศโตโก โดยมีชายฝั่งทะเลด้านใต้ติดกับ อ่าวกินี เดิมเป็นอาณานิคมของอังกฤษมีชื่อเรียกว่า โกลด์โคสต์ ชื่อประเทศกานามีต้นกำเนิดมาจากจักรวรรดิกานา (แม้ว่าอาณาเขตของจักรวรรดิดังกล่าวไม่เคยติดกับประเทศกานาในปัจจุบันเลยก็ตาม)



ก่อนยุคล่าอาณานิคมกานาเป็นจักรวรรดิโบราณที่ปกครองด้วยชนเผ่าต่างๆอยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ตั้งแต่ พ.ศ. 943 - 1783 จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2417 ได้ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งเรียกว่า Gold Coast และเป็นรัฐในอารักขา (protectorate) รวมเวลา 113 ปี และในวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2500 กานาจึงได้รับเอกราช จากอังกฤษซึ่งเกิดจากการรวมอาณานิคม Gold Coast และ Togoland เข้าด้วยกันต่อมาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2503 กานาได้ประกาศเป็นสาธารณรัฐภายใต้เครือจักรภพอังกฤษ



ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ และมีภาษาพื้นเมืองอื่น ๆ ได้แก่ Akan Moshi – Dagomba Ewe และ Ga ส่วนศาสนานับถือความเชื่อดั้งเดิม 38 % ศาสนาอิสลาม 30 % ศาสนาคริสต์ 24% ศาสนาอื่น 8 %



ลักษณะภูมิอากาศ อยู่ในเขตร้อนชื้น โดยมีอากาศค่อนข้างร้อนและแห้ง
บริเวณชายฝั่งนะวันออกเฉียงใต้ และมีอากาศร้อน-แห้งในตอนเหนือ






ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ทองคำ ไม้ เพชร แร่แมงกานิส บอกไซต์ ปลา และยางพารา ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่สำคัญ โกโก้ ข้าวโพด ข้าว มันสำปะหลัง กาแฟ กล้วย ถั่ว และไม้




รู้จักกานากันแล้ว เราก็ไปเที่ยวกันเลยค่ะ ที่แรกที่เราไปคือ Kakum อุทยานแห่งชาติ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความพิเศษและแตกต่างจากที่อื่นเท่าที่รู้จักในกานา ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1990 จากพื้นที่ 350 ตารางกิโลเมตรที่อยู่ทางตอนเหนือของ CapeCoast และ Elmina ใกล้เมืองเล็กๆของ Abrafo. พื้นที่ทั้งหมดปกคลุมด้วย ป่าฝนเขตร้อน




สะพานแขวนถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถเข้าถึงบรรยากาศ และการเยี่ยมชมพืชเขตร้อนในพื้นที่และสมุนไพรที่เกี่ยวข้องกับยาที่สำคัญ นอกจากพืชที่มีเหลือน้อยแล้ว Kakum อุทยานแห่งชาติยังมีสัตว์หายาก เช่น Mona-meerkat ช้างป่า กระบือ, ชะมดเชียง แมวและนกชนิดต่างๆ สัตว์ป่าที่เห็นได้ยากเนื่องจากความหนาแน่นป่าดงดิบ ในหลักสูตรของการพัฒนาการท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ได้วางแผนในอนาคตเพื่อที่จะเพิ่มจุดชมวิว ชมสัตว์ต่างๆ ให้มากกว่าเดิม




Kakum อุทยานแห่งชาติเป็นสถานที่ที่ที่ไม่ซ้ำใครในกานา นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านสะพานแขวนในป่าที่มีความสูงถึง 40 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งถ้าเป็นที่อื่นอาจจะไม่สามารถเข้าถึงได้





วันนี้มีทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้สูงวัย เยอะพอสมควรในรอบแรก เก้าโมงเช้า พร้อมแล้วลุยยยย





คำเตือนสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความสูง อาจจะทำให้ท่านเวียนหัวหน้ามืดได้เพราะมองลงไปข้างล่างรู้สึกหวาดเสียวพอสมควร แต่เด็กน้อยคนนี้บอกว่าสบายมากสำหรับเขา เพราะเขาชอบความตื่นเต้นและท้าทาย





มากันเป็นทีมเป็นครอบครัวเลยค่ะ




ต้นไม้ในต้นไม้




ออกจากอุทยาน เราก็ไป elmina Castle กันต่อ ที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าศึกษาไม่น้อย ระหว่างทางเห็นเขาลากอวนกัน ร้องเพลงไปด้วย




ผ่านบ้านชาวประมง




ผ่านที่เขาขุดหรือทำเรือ




ที่เห็นไกลๆนั้นแหละค่ะ ปราสาท เอลมินา ที่เราจะไปย้อนยุคกัน




Elmina ปราสาท ก่อตั้งขึ้น โดย ชาวโปรตุเกส ในปี ค.ศ 1482 เป็น เซา Jorge da Mina (เซนต์ George ของข้า) ปราสาทรู้จักกันเป็นเพียง Mina หรือ Feitoria da Mina) Elmina, กานา (เดิมชื่อ โกล์ดโคสต์) มันเป็นสถานที่แรกที่ซื้อขายโพสต์,ที่สร้างขึ้นจาก อ่าวกินี ดังนั้นเป็นอาคารเก่าแก่ที่สุดในยุโรปมีอยู่ด้านล่างของ ทะเลทรายซาฮารา แรกที่จัดตั้งปราสาทขึ้นเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน สินค้า ภายหลังกลายเส้นทางหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการแวะจอดในเส้นทางของ การค้าทาสแอตแลนติก ต่อมาชาว ดัตช์ ได้ครอบครองป้อมถาวรขนาดเล็กจากโปรตุเกสในปี ค.ศ 1637 และเอาทุกๆโกล์ดโคสต์ของ โปรตุเกส ในปี ค.ศ 1642 การค้าทาสต่อเนื่องภายใต้ดัตช์จนกว่าปี ค.ศ 1871 เมื่อป้อมถาวรขนาดเล็กกลายเป็นที่ครอบครองของ บริติชเอ็มไพร์ อังกฤษอนุญาตให้โกล์ดโคสต์ เป็นอิสระในปี ค.ศ 1957 และการควบคุมของปราสาทถูกโอนไปยังประชาชาติ elmina Castle กานา วันนี้เป็นที่นิยมของเว็บไซต์ประวัติศาสตร์ ปราสาทที่ได้รับการยอมรับจาก ยูเนสโก ให้เป็น มรดกโลกเว็บไซต์ มีนักท่องเที่ยว นักศึกษา มาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชาวกานาเอง และชาวต่างชาติ



แอตแลนติกค้าทาส ในศตวรรษ ที่เจ็ดสิบโดยส่วนใหญ่การค้าใน แอฟริกาตะวันตก จะเป็นการค้าขายทาส เซา Jorge da Mina จึงเป็นสถานที่สำคัญส่วนหนึ่งใน การค้าทาสแอตแลนติก ที่ปราสาท ปวงบ่าวที่ถูกซื้อหรือ ถูกแลกเปลี่ยนมาจากหัวหน้าหรือ ผ้นำเผ่าท้องถิ่นแอฟริกา ปวงบ่าว มักจะถูกกักขังในปราสาท ของชายฝั่ง เพื่อขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้าเช่น สิ่งทอ และ ม้า ปวงบ่าวถูกจองจำในปราสาทก่อน ที่จะผ่าน "ประตูที่ไม่มีวันกลับ" เพื่อจะขนส่ง ไปยังโปรตุเกส บราซิล และที่อื่นๆ (โปรดสังเกตุภาพนี้ไม่ใช่ทาสแต่เป็นผู้สนใจเรื่องราวของทาสค่ะ)



ประตูสำหรับขังทาส (นรกบนดินดีดีนี้เองค่ะ) แค่ลองเข้าไปอยู่ห้านาทีก็จะเป็นลมแล้ว




ภาพนี้ผู้ที่ลองโดนขังกำลังออกมา




ท่าเรือที่เคยขนส่งทาสที่ผ่านประตูที่ไม่มีวันหวนกลับมาอีก




แผนที่ Elmina ปราสาท และ เซนต์ George ปราสาท




จาก Elmina ปราสาท เราปยัง CapeCoast ปราสาท ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน และมีประวัติคล้ายๆกันด้วย
ปราสาทเคพโคสต์ เป็นป้อมปราการในกานา ครั้งแรกก่อสร้างด้วยไม้ในปีค.ศ. 1653 หลังจากคิง Charles เอ็กซ์สวีเดน มันถูกสร้างใหม่ในภายหลังด้วยหิน


//www.bloggang.com/data/boutiquehome/picture/1234279202.jpg width='450' height='337' border=0>


ในเมษายนปีค.ศ. 1663 สวีเดนโกล์ดโคสต์ทั้งหมด ได้ถูกครอบครองโดย Danes และรวม เดนมาร์กโกล์ดโคสต์ด้วย ในปีค.ศ. 1664 ปราสาทได้ตกเป็นของบริติช และได้ถูกสร้างใหม่โดยคณะกรรมการของร้านค้า (ผู้ว่าราชการปกครองอังกฤษ) ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ในปีค.ศ. 1844 มันเป็นที่นั่งของรัฐบาลอาณานิคมของอังกฤษโกล์ดโคสต์ ปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการค้าไม้และทองคำ (ในภายหลังต่อมาใช้ในการ ขนย้าย แอตแลนติกค้าทาส)



ในปีค.ศ. 1957 เมื่อ กานากลายอิสระ ปราสาทก็ตกอยู่ภายใต้การดูแลของกานาพิพิธภัณฑ์และ Monuments คณะกรรมการ (GMMB). ในช่วงต้นปีค.ศ. 1990 อาคารถูกเรียกคืนโดยรัฐบาลกานาและได้เงินสนับสนุนจาก สหประชาชาติเพื่อพื้นฟู พัฒนา (UNDP), สหรัฐอเมริกาให้ความช่วยเหลือสำหรับการพัฒนาระหว่างประเทศ [USAID] โดยมีความช่วยเหลือทางเทคนิคจากสถาบัน Smithsonian องค์กรเอกชนและ อื่นๆ เพื่อพื้นฟู ปราสาท Elmina และ ปราสาท Christiansborg



ปืนใหญ่เพื่อป้องกันความปลอดภัยในอดีต




ปัจจุบันนี้ข้างๆปราสาทมีหมู่บ้านชาวประมงเต็มไปหมด




ภ่ายจากบนปราสาท สวยดี




ชีวิตของชาวประมง




เรือหลายลำจอดพักหลังกลับมาจากหาปลา




เด็กชายช่วยพ่อ แม่เก็บอวน




ส่วนแม่บ้านก็ รมควัน ปลาให้เพื่อเอาไปขาย




พ่อบ้านก็เก็บ ทำความสะอาด อวน เตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่




เรือบางลำพึ่งจะกลับเข้าฝั่ง




เด็กๆกำลังเล่นน้ำ




โบสถ์ข้างปราสาท




ศิลป์ดี




ภาพสุดทาย ก่อนกลับบ้าน




เห็นห้องขังทาส โซ่ตรวนต่างๆแล้วรู้สึกสลด หดหู่ใจ ทำไมต้องทารุณ กักขังกัน ในเมื่อจะต้องตายด้วยกันทั้งนั้น อยากให้ชาวโลกรักกัน สันติสุขกับจิตรา อุ้ยไม่ใช่สันติสุขจะเกิดขึ้นแก่ชาวโลก สวัสดีค่ะ



Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2552 15:22:25 น.
Counter : 4313 Pageviews.

5 comments
  
เคยดูในทีวีแล้วคนอเมริกันผิวดำไปดูแล้วหลายคนร้องไห้ เพราะคิดถึงพรรบุรุษเขาถูกต้อนขายขายเป็นทาสในทวีปอเมริกา เห็นแล้วสดใจจริงๆค่ะ
โดย: สาวแคลิฟอร์เนีย IP: 69.230.18.130 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:34:02 น.
  

ดีมาก
โดย: tuey IP: 125.25.82.46 วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:02:13 น.
  
อ่าวแล้วสนุกมากกกกกก เดี๋ยวเอาภาพตอนที่ไปสิงคโปมาให้ดูน้า~
โดย: pret IP: 117.47.195.113 วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:18:13:02 น.
  
ได้บรรยากาศบ้าน ๆ มากมาย
โดย: ostojska วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:5:12:37 น.
  
ขอบคุณน้ะค้ะพอดีว่ากำลังทำรายงานเรื่องประเทศกานาอยู่
ได้ความรู้เพิ่มเย่อะเลยค้ะ. :')))
โดย: อุ้ย IP: 113.53.104.57 วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:5:42:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

shada
Location :
น้ำหนาว เพชรบูรณ์ , เกาะพงัน สุราษฯ  Ghana

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



พระไตรปิฏก เป็นตาที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นหูที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นจมูกที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นลิ้นที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นกายที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นใจที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษยิ่ง พระไตรปิฏก เป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษยิ่ง.....พระไตรปิฏก เป็นแผนที่และป้ายบอกทางที่วิเศษยิ่ง
พระไตรปิฏก เป็นแสงสว่างส่องทางสู่นิพพานที่วิเศษยิ่ง

ธรรมวินัยอันพระตถาคตเจ้าประกาศแล้วเปิดเผย ไม่กำบังจึงรุ่งเรือง (เล่ม ๑๐ หน้า ๔๖๕_ปกน้ำเงิน)
บัญญัติของพระพุทธเจ้า จากพระไตรปิฎกชุด 91 เล่ม ของมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 3
(ปกสีแดง หน้า 887 ปกสีน้ำเงิน หน้า 940)
พระบัญญัติ อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่ง ทอง-เงิน หรือยินดี ทอง-เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ก็ดี เป็นนิสสัคคียปาจิตตีย์(นิสสัคคียปาจิตตีย์ 1 ตัว ต้องตกโรรุวนรก 1 ชั่วอายุ คือ 4,000 ปีของนรกขุมนี้ เท่ากับ 840,960,000 ล้านปีมนุษย์)

พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ให้ไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535
เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภาดังต่อไปนี้ มาตรา 15 ตรี มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
...(4)รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา
**หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา(โยมควรเรียนรู้) ทำบุญแล้วเป็นบาป ตกนรกทั้งพระและโยม
1.ตักบาตรด้วยเงินและทอง
2.ตักบาตรด้วยสิ่งของที่ต้องห้าม ข้าวสารอาหารแห้ง-ดิบ
3.ทำบุญกับพระทุศีล(ผิดศีลธรรมและไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย)รับเงิน รับทอง มีบัญชีเงินฝากธนาคารเป็นของตนเอง มีบัตรเอทีเอ็ม มีบัตรเครดิต
4.ฯลฯ
จากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปลไทยฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย 91 เล่ม
**ชาวพุทธทั้งหลาย ขอให้อธิษฐานเพื่อถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้
"ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลบุญของข้าพระพุทธเจ้าให้เข้าไปรวมเป็นพระราชกุศลของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลังบุญทั้งหลาย ที่พระองค์ได้ทรงกระทำต่อพสกนิกรและราชอาณาจักร ขอบุญนั้นทั้งหมด จงเป็นพลังขับดันโรคภัยทั้งหลายที่กำลังเกิดในพระวรกายของพระองค์ให้อันตรธานไป"

จากหลักฐานเทียบเคียงของการใช้สัจอธิษฐาน ในพระไตรปิฎก 91 เล่ม ฉบับมหามกฎราชวิทยาลัย เล่ม 74 หน้า 447-479 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 1, 3, 341, 342 และ 343 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักสงฆ์ป่าสามแยก ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ (www.samyaek.com) ผู้มีปัญญาทั้งหลาย ขอจงพิจารณาเอาเถิด เพราะไม่บังคับให้ใครมาเชื่อหรือทำตาม เพียงแต่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเปิดเผย เพื่อให้ชาวพุทธปฏิบัติได้ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
ยินดีในบุญกับทุกท่านที่รวมใจกันเปิดเผยพระธรรมวินัยให้รุ่งเรือง ค่ะ

ชฎา มีโครงการ จะเปิด บ้านพักตากอากาศ ติดถนน ติดทะเล ไม่ไกลจาก ท่าเรือ ท้องศาลา บรรยากาศ เหงียบ สงบ เป็นธรรมชาติ ให้เช่าที่เกาะพงัน

"สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด"