It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
All blogs
 

นั่งรถไฟกิน-เที่ยว'เกียวโต-โอซาก้า'

เมื่อเดือนเศษที่ผ่านมาผมไปทำครอบจักรวาลกับคุณพ่อ และได้เดินทางพร้อมกับบริษัทวินวิน ของ คุณชาย วุฒิสวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ น้องของคุณชายถนัดศรี เราเดินทางไปพร้อมๆ กับคุณชายวุฒิสวัสดิ์ เพราะคุณชายจะพาเราไปเที่ยวที่เมืองเกียวโต และในฐานะที่คุณชายถนัดศรี เป็นประธานกรรมการบริษัทวินวิน ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Sun Chlorella โดยมากแล้ว ก็จะไปเกือบทุกปี ไปเที่ยว ไปกิน ไปดูโรงงานสนุกมากครับ

ผมมีเวลาไม่มากนัก แต่สิ่งที่ทำให้มีความสุขมากๆ คือ วันที่เราไปนั่นเราเดินทางตอนเที่ยงคืน ใช้เวลาบินแป๊บเดียวจริงๆ ครับ และตอนเช้าใช้เวลาบินไม่นานก็ถึงคันไซ

ที่สนามบินคันไซของโอซาก้า อยู่กลางทะเล เปิดมาหลายปีแล้ว มีความสะดวกสบาย เป็นที่น่าชื่นชมว่า ญี่ปุ่นตรงเวลาสะอาดเรียบร้อย มีระบบทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะไปถึงคันไซ ผ่านศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข็นรถไปขึ้นรถไฟที่เมืองเกียวโต มีคนจากบริษัทมารับไปซื้อตั๋วรถไฟแล้วไปขึ้นรถ

ผมทึ่งในความสะอาดและตรงเวลาของคนญี่ปุ่นมาก เพราะชานชาลาของสถานีรถไฟปูเสื่อกินข้าวได้จริงๆ เพราะมันสะอาดและมีระเบียบมาก เราขึ้นรถไฟสายฮารุกุ ใช้เวลาเดินทางราว 75 นาทีก็ถึงเกียวโต เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น



พอถึงสถานีคราวนี้คนแก่อย่างคุณพ่อก็เสีย ดาย เพราะความจริงแล้วต้องมีรถเข็นให้ เพราะต้องเดินจากชานชาลาสถานีที่เชื่อมโยงหลายๆ สายที่เกียวโตไปทั่วประเทศ

กว่าเราจะเดินออกมาขึ้นรถบัสใช้เวลาเดินนาน แต่คุณพ่อยังแข็งแรงก็เดินได้สะดวกสบาย และเข้าไปเช็กอินที่โรงแรมโตเกียว

โรงแรมที่ญี่ปุ่นเป็นโรงแรมที่น่าอยู่และน่าพัก มีน้ำตกและต้นไม้ รับประทานข้าวกลางวันเสร็จก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และเขานำไปวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของเมืองเกียวโต ชื่อวัดคีโยมิชิเดระ สร้างเมื่อค.ศ.798

ศาลาเป็นเฉลียงใหญ่มาก สร้างด้วยไม้และไม่มีตะปูสักดอก สร้างเมื่อค.ศ.1633 และเป็นที่ท่องเที่ยวและคนมาสักการบูชา และเมื่อสมัยก่อนมีคนมาที่วัดนี้ เพื่อมากระโดดจากเฉลียงลงมาด้านล่างสูง 13 เมตร เพื่ออธิษฐาน ถ้าไม่เป็นอะไรก็จะสมความปรารถนาที่เราขอไว้

ในสมัยเอโดะก็มีคนกระโดดเยอะมาก เขาบอกว่ามี 234 คน ที่โดดในสมัยนั้น 85.4 เปอร์เซ็นต์ ยังมีชีวิตอยู่ แต่สมัยนี้เขาไม่ยอมให้ทำแล้ว



ในวัดนี้ก็ยังมีน้ำตกซึ่งทำมาจากน้ำ 3 สาย เป็นน้ำตกที่บอกว่า ถ้าได้กินน้ำทั้ง 3 สาย สายหนึ่งสำหรับความรู้ความเป็นปราชญ์ อีกสายหนึ่งสำหรับอายุยืน อีกสายหนึ่งสำหรับสุขภาพ

ถ้าได้กินน้ำจาก 3 สายจะดีและมีสุขภาพที่ดี เพราะฉะนั้นผู้ที่แสวงบุญจะมากินน้ำ แต่มีคนบางคนที่เชื่อว่า ถ้ากินมากเกินไปทั้ง 3 สาย คือ โลภ เพราะฉะนั้นให้กินแค่ 2 สาย ไม่อย่างนั้นเราจะเป็นคนโลภและสิ่งไม่ดีก็จะเกิดขึ้น ก็แล้วแต่ความเชื่อของคนนะครับ

เราไปดูวัดนี้และมีทิศทางที่กว้างใหญ่และสนุกสนาน หลังจากดูนานพอสมควร ก็เดินมาในทางถนนคนเดิน ที่จะขึ้นไปทางวัดเดินลงมาอีกทีนึงเต็มไปด้วยของฝากของกิน โมจิและมีขนมต่างๆ ขบเคี้ยวและก็กินมาตลอดเลย

คืนนั้นกลับมาที่โรงแรมพักผ่อน และไปกินข้าวที่ร้านอาหาร Ganko ซึ่งเป็นร้านนั่งห้อยขาลง และคุณโทชิกับคุณเย็น ก็พาคุณพ่อและคณะไปรับประทานที่ร้านนี้ เพราะทางคุณชายวุฒิสวัสดิ์ชอบ ไม่ใช่แค่อาหารแต่ชอบสวน เพราะสวนที่ร้านนี้เป็นสวนญี่ปุ่นสวยมาก ส่วนอาหาร Kaiseki เป็นอาหารชุดออกมาเลยครับ

วันรุ่งขึ้นผมไปพบท่านประธานและเจ้าของบริษัท Sun Chlorella ซึ่งเป?นสาหร่ายเซลล์เดียว เป็นอาหารเสริมที่คุณพ่อรับประทานมา 20 ปีแล้ว ทำให้มีสุขภาพและความจำดี ผมก็ไม่ทราบมากนักก็ได้รับความรู้ว่ามาจากไหน เป็นอะไร

ผมเป็นคนนอนไม่หลับ ร่างกายไม่ค่อยได้พัก พอทานเข้าไปแล้วทำให้นอนหลับฝันดี แล้วรู้สึกว่าร่างกายปรับตัวได้ดีมากขึ้น ก็ดีใจที่ได้ไปพบและสามารถหาความรู้ได้จากที่นั่น

หลังจากนั้นทางคณะไปกินข้าว หลังจากกินข้าวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ในการเที่ยวเมืองเกียวโต ได้ซึมซับวัฒนธรรมของญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นมีความภูมิใจในความเป็นคนญี่ปุ่น ชอบความโบราณและประวัติศาสตร์ ไม่เหมือนคนไทยเรา ไม่เคยนึกว่าประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่สำคัญ

ผมอยากให้เด็กรุ่นใหม่รู้จักประวัติศาสตร์ เพราะเราไม่รู้จักตัวเอง ว่าตัวเองคือใครและสิ่งที่เราทำผิดๆ มาตลอด เราก็จะได้เรียนรู้จากประวัติศาสตร์ ถ้าเราไม่เรียนประวัติศาสตร์ก็จะทำผิดมาตลอดเหมือนการเมือง เพราะเราไม่ค้นคว้าหาความรู้ และเอาความรู้ ข้อคิดมาใช้ในชีวิต


- //www.khaosod.co.th/




 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2553 1:24:13 น.
Counter : 1578 Pageviews.  

เคียงจู...มรดกเกาหลี...มรดกโลก



















//www.thairath.co.th/content/life/128235




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2553 5:37:53 น.
Counter : 1104 Pageviews.  

ท่องเมืองตูลูส...ถิ่นเครื่องบิน ยลมนเสน่ห์สถาปัตยกรรม



ไม่เพียงความโดดเด่นทางด้านแฟชั่นชั้นนำเป็นเมืองศูนย์รวมดีไซเนอร์ที่มีชื่อ ประเทศฝรั่งเศส ดินแดนน้ำหอมแห่งนี้ยังมีมนต์เสน่ห์สีสันทางการท่องเที่ยวหลากหลายทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมรวมทั้งสถาปัตยกรรมงดงาม

ตูลูส เมืองทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสใกล้กับ ประเทศสเปนแห่งนี้เป็นอีกสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ความโดดเด่นเป็นอีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวแวะมาเยี่ยมเยือนพักผ่อน นอกจากอาคารวิหารเก่าแก่ถ่ายทอดความงามทางสถาปัตยกรรมปรากฏให้ สัมผัสเพลิดเพลิน

เมืองที่มีประวัติศาสตร์แห่งนี้ยังเป็นแหล่งการศึกษา ซึ่งมีหลากหลายสาขาทั้งทางด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ กฎหมาย วิศวกรรมการบินและอวกาศ ฯลฯ รวมทั้งยังเป็นที่รู้จักกล่าวขานกันถึง ถิ่นกำเนิดเครื่องบินแอร์บัส และจากที่ได้ร่วมเดินทางไปรับ เครื่องบินลำใหม่ป้ายแดงแอร์บัส A320 ของสายการบินไทยแอร์เอเชียโดยลำดังกล่าวเป็นลำที่ 19 ในจำนวน 40 ลำ ซึ่งทยอยรับมอบโดยเครื่องใหม่ป้ายแดง เหล่านี้พร้อมบริการแก่ผู้โดยสาร ให้ได้รับความสะดวกสบายไปกับการเดินทางในทุกเส้นทางของสายการบิน





ก่อนเครื่องใหม่ป้ายแดงลำนี้จะเหินฟ้าบินกลับมาถึงเมืองไทย ไม่เพียงแวะเยือนสำนักงานใหญ่แอร์บัสซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองตูลูส ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโรงประกอบเครื่องบินแอร์บัสที่ทันสมัยมีระบบการผลิตทรงประสิทธิภาพ

โรงประกอบเครื่องบินที่นี่กว้างใหญ่แบ่งออกเป็นหลายส่วนด้วยกันซึ่งการผลิตในขั้นสุดท้าย จะถูกขนย้ายนำมาประกอบ รวมกันที่นี่ เช่นเดียวกับเจ้านกเหล็กยักษ์ลำนี้โดยทุกขั้นตอนนั้นละเอียด เคร่งครัดให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูง

นอกจากจะได้เห็นเครื่องบินลำใหม่ของแอร์เอเชียที่พร้อมบินร่วมฝูงบินให้บริการแก่ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายยังได้ชมเครื่องบิน A380 สะดุดตากับความน่ารักของเครื่องบิน เบลูกา รูปร่างคล้ายกับวาฬซึ่งเครื่องบินพิเศษนี้ใช้สำหรับขนย้ายชิ้นส่วนใหญ่ ๆของเครื่องบินมาที่โรงประกอบเครื่องบินที่นี่

ตูลูส นอกจากจะเป็นที่ตั้งของโรงประกอบเครื่องบินเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางการบิน การอวกาศ ฯลฯ เมืองแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักบอกเล่ากันในชื่อของ เมืองสีชมพู ซึ่งไม่ว่าจะเป็น สิ่งปลูกสร้างใด ๆ ทั้งอาคาร สถานที่สำคัญต่าง ๆ จะเป็นอิฐดินเผาสีแดงชมพูซึ่งมีมนต์เสน่ห์ ปรากฏโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยี่ยมเยือน

ด้วยการเดินทางที่สะดวก สามารถเดินเที่ยวชมเมืองได้โดยรอบ ในเขตตัวเมืองก็มีหลากหลายสถานที่ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ วิหารเก่าแก่หลายแห่งที่งดงามด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมพร้อมให้เลือกแวะชมเก็บภาพ บรรยากาศประทับใจ




จัตุรัสใหญ่ (Place du capitole) สถานที่นี้เมื่อมาถึงมักไม่พลาดไปเยือนกัน ที่นี่ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ด้านหน้าตัวอาคารมีความยาว อีกทั้งมีลานโล่งกว้าง ซึ่งในความมีสีสันชีวิตชีวาสัมผัสได้ทั้งในบรรยา กาศช่วงเวลากลางวันและยามค่ำคืน

วิหารแซง แซร์แนง เป็นอีกสถานที่มีมนต์ขลังเป็นที่รู้จักกล่าวขานมายาวนาน จากข้อมูลกล่าวถึงการสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 11-12 สถาปัตย กรรมผสมผสานระหว่างศิลปะโรมันและโกธิคสะดุดตาด้วยยอดโดม หอระฆังทรงสูง ฯลฯ



นอกจากนี้หากชื่นชอบสนใจในประวัติศาสตร์ ศิลปะประติมากรรม จิตรกรรมความเป็นมาของเมืองแห่งนี้ยังสามารถเติมต่อประสบการณ์การท่องเที่ยวได้ที่ พิพิธภัณฑ์ ซึ่งที่ ตูลูสนั้นมีหลายแห่งให้เลือก เข้าชม แต่ถ้าชื่นชอบการชอปปิง มาที่ตูลูสก็ไม่น่าจะผิดหวังมีหลากหลายสิ่งละอันพันละ น้อยทั้งแฟชั่น ของตกแต่งงาน ดีไซน์ต่าง ๆ ให้เลือกซื้อหา

อีกทั้งในเขตเมืองยังมีความงดงามของธรรมชาติให้สัมผัสโดยเฉพาะช่วงเวลานี้ซึ่งมีสีสันอากาศหนาวมีความงามของต้นไม้จากใบเขียวถูกแซมด้วย ใบสีเหลืองซึ่งยามแสงสาดส่องผ่านใบไม้ยิ่งมีเสน่ห์ อย่างที่ริมฝั่ง แม่น้ำกาโรน (la Garonne) แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านเมืองตูลูส บริเวณนี้นอกจากจะมองเห็นสะพานเป็นอีกจุดชมวิวมองทิวทัศน์ได้กว้างไกล สองฝั่งแม่น้ำยังมีชีวิตชีวาบอกเล่าสีสันเมืองตูลูส วิถีชีวิตผู้คนในปัจจุบันและความทรงจำวันวานให้สัมผัส





ด้วยการเดินทางที่สะดวกไม่ไกลไปจากเมืองตูลูสยังมีอีกหลายสถานที่น่าสนใจอย่างที่เมืองอัลบี เมืองมรดกโลกซึ่งไม่เพียง มหาวิหารอัลบี หรือมหาวิหารแซงต์เซซีลแห่งอัลบี ซึ่งสง่างามทรงคุณค่าทางสถา ปัตยกรรมโดยศิลปะสถาปัตย กรรมที่ปรากฏปัจจุบันเป็นแบบโกธิค มหาวิหารเก่าแก่แห่งนี้จากเสียงบอกเล่ารวมทั้งตามที่มีบันทึกกล่าวถึงการสร้างขึ้นนับแต่ศตวรรษที่ 4 จากนั้นถูกเพลิงไหม้และมีการสร้างขึ้นอีกและที่ปรากฏในปัจจุบันสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1282-1480 ในความโดดเด่นและสง่างามของมหาวิหารแห่งนี้ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน ด้านนอกอาคารสะดุดตาด้วยรูปทรงคล้ายดั่งป้อมปราการหลังใหญ่





ด้านหน้ามีลวดลายสลักอ่อนช้อยยิ่งเมื่อก้าวผ่านประตูเข้าไปด้านในนั้นอลังการด้วยประติมากรรม สถาปัตยกรรมภายในที่ผ่านการเวลามายาวนาน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีภาพจิตรกรรม ฝาผนังงดงาม เช่นเดียวกับ บนเพดานปรากฏภาพจิตรกรรมเก่าแก่ทรงคุณค่า ฯลฯ

นอกเหนือจากนี้ที่ เมืองเก่าอัลบี ของประเทศฝรั่งเศสยังได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมซึ่งหากได้เดินเที่ยวชมเมืองยิ่งเพิ่มความประทับใจด้วยเมืองแห่งนี้มีมนต์เสน่ห์ทั้งในการปลูกสร้างซึ่งลดหลั่นไปตามสภาพพื้นที่ ความสงบเงียบเรียบง่าย อีกทั้งทั่วเมืองยังมีจุดชมวิวมุมถ่ายภาพหลายแห่ง อย่างเช่น สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ฯลฯ




เมืองเก่ามีเสน่ห์แห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานของ อองรี เดอ ตูลูส-โลแตร็ก ศิลปินที่ได้รับการกล่าวขานในแวดวงศิลปะโดยผลงานหลากหลายของศิลปินได้จัดแสดงไว้ภายในพิพิธภัณฑ์ให้ศึกษาเพลิดเพลินเป็นอีกสีสันการมาเยือนอัลบีเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ อีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบศิลปะสถาปัตยกรรม



//www.dailynews.co.th/




 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2553 0:49:12 น.
Counter : 2827 Pageviews.  

เกาะ-โรแมนติก-ที่สุด

หากต้องการไปเที่ยวทะเลกับแฟนแบบเงียบๆไร้ผู้คนรบกวนต้องไป ที่มัลดีฟส์ ประเทศที่มีเกาะเล็กๆถึง 1,192 เกาะ อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย เกาะเกือบ 1,000 เกาะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แต่บางเกาะรัฐบาลได้จัดสรรให้เอกชนมาทำรีสอร์ต ทำให้เกิดรีสอร์ตที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด

หนึ่งในเกาะที่รัฐบาลมัลดีฟส์เปิดให้นักท่องเที่ยวมาพัก ผ่อนคือ เกาะรังกาลี อยู่ในหมู่เกาะที่มีชื่อว่า อาลิฟ ดาอัล อะโทล บนเกาะรังกาลีจะมีรีสอร์ตหรูที่ให้บริการครบวงจรชื่อ คอนราด มัลดีฟส์ รีสอร์ต แอนด์ สปา ที่มีห้องพักแบบพูลวิลล่า มีสระน้ำส่วนตัว และห้องพักแบบบังกะโลยื่นลงไปในทะเล ทำให้แขกที่มาพักได้นอนอยู่ในห้องพักที่มีน้ำทะเลสีเขียวมรกตล้อมรอบ นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารให้เลือกว่าจะรับประทานอาหารที่ริมทะเลหรือจะลงไป ห้องอาหารใต้ทะเลที่มีเพดานเป็นกระจกใสมองเห็นฝูงปลาอยู่ด้านบน

ธรรมชาติที่สวยงามของท้องทะเล ประกอบกับรีสอร์ตสวยหรูบนเกาะ ทำให้รังกาลีได้รับการโหวตให้เป็นเกาะที่โรแมนติกที่สุดจากผู้อ่านนิตยสาร ท่องเที่ยวชื่อดังคือ Travel & Leisure เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนของครอบครัว สามารถเดินทางไปได้ด้วยเครื่องบินเล็ก

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวมัลดีฟส์ต้องทำความเข้า ใจอย่างหนึ่งคือ มัลดีฟส์มีธรรมชาติของท้องทะเลที่สวยงาม แต่เกาะต่างๆไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากนัก หากใครต้องการไปเที่ยวเกาะที่ได้ชมทั้งธรรมชาติและสถานที่สำคัญทางประวัติ ศาสตร์ไปพร้อมกันต้องไปที่เกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เช่น เกาะคาปรี ในประเทศอิตาลี และเกาะซานทอรินี ประเทศกรีซ ซึ่งทั้ง 2 เกาะได้รับการโหวตจากผู้อ่านว่าเป็นเกาะที่มีความโรแมนติกสูง

คาปรี เป็นเกาะที่กษัตริย์แห่งอาณาจักรโรมันเคยมาสร้างวังอยู่ที่นี่เพื่อพักผ่อน และในสมัยก่อนยังเป็นแหล่งพักผ่อนที่บรรดาขุนนาง รวมถึงราชวงศ์จากหลายประเทศในยุโรปพากันมาสร้างวิลล่า ส่วนใหญ่วิลล่าที่มีชื่อเสียงในเกาะคาปรีจะอยู่ในเขตภูเขาสูง

หากนัก ท่องเที่ยวต้องการขึ้นไปชมวิลล่าจะต้องนั่งรถขนาดเล็กไต่ขึ้นไปตามถนนแคบๆ เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะมีทั้งวิลล่าและสถานที่สำคัญของเกาะคาปรี รวมถึงร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และจุดชมวิวที่มองลงมาเบื้องล่างจะเห็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสวยงามมาก


ในช่วงกลางวันเกาะคาปรีจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่นั่ง เรือเฟอร์รี่ข้ามฟากจากเมืองเนเปิลส์หรือซอเรนโตมาเที่ยวจนทั่วแล้วก็กลับไป หากใครต้องการชมความงดงามของเกาะคาปรีตอนกลางคืนควรจะพักในโรงแรมบนเกาะที่ มีอยู่จำนวนมาก ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยศิลปะแบบเมดิเตอร์เรเนียน

ซานทอ รินีหรือบางทีเรียกว่า Thera เป็นเกาะที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ อยู่ทางตอนใต้ของทะเลอีเจียนที่เป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของกรีซประมาณ 200 กิโลเมตร สามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินขนาดเล็กบนเกาะ หรือนั่งเรือโดยสารขนาดใหญ่ไปได้ทุกวัน

เขตที่เป็นเกาะซานทอรินีมี เกาะเล็กๆอยู่รอบๆมากมาย เกาะเล็กๆเหล่านี้มีผู้อยู่อาศัยไม่เกิน 1,000 คน แต่ซานทอรินีเป็นเกาะใหญ่ มีประชากรเกือบ 20,000 คน


เนื่องจากเป็นเกาะที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในสมัย โบราณ บริเวณหาดทรายรอบเกาะจึงเป็นสีดำๆดูแล้วไม่สวยงาม แต่คนส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยวซานทอรินีมักจะเดินชมเขตเมืองเก่าที่มีร้านขายของ ที่ระลึก ร้านอาหารพื้นเมืองของกรีซที่ส่วนใหญ่เป็นซีฟู้ด และยังมีโบสถ์ที่ตัวอาคารเป็นสีขาวมีหลังคาเป็นรูปโดมสีฟ้าสดใส ชาวซานทอรินีได้นำเอกลักษณ์ของโบสถ์ไปสร้างเป็นบ้านเรือนที่ส่วนใหญ่ทาสีขาว ทั้งหลัง จุดเด่นของซานทอรินีอีกอย่างหนึ่งคือ ตัวเกาะเป็นภูเขาที่มีหน้าผาสูงชัน แต่ชาวซานทอรินีสามารถสร้างบ้านพักอยู่บนเขตหน้าผาสูงได้อย่างงดงาม


เกาะที่โรแมนติกที่ได้รับการโหวตจากผู้อ่านนิตยสาร Travel & Leisure ที่อยู่ใกล้เมืองไทยที่สุดน่าจะเป็นเกาะปามาลิคัน อยู่ในจังหวัดปาลาวันของฟิลิปปินส์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมะนิลา เป็นเกาะขนาดเล็กในหมู่เกาะคูโย ตั้งอยู่ในทะเลซูลู เกาะปามาลิคันมีขนาดเล็ก ทั้งเกาะมีรีสอร์ตเพียงแห่งเดียวชื่อ Amanpulo โดยรีสอร์ตแห่งนี้จัดห้องพักเป็นบ้านขนาดเล็ก แต่ละหลังแยกจากกัน

สิ่งที่น่าสนใจในเกาะปามาลิคันคือ การล่องเรือเพื่อไปยังแนวปะการังที่อยู่ไม่ไกลนัก ซึ่งแนวปะการังจะมีพื้นที่ 7 ตารางกิโลเมตร มีความยาว 2.5 กิโลเมตร สามารถล่องเรือไปใกล้แนวปะการังแล้วดำน้ำลงไปชมได้ ใกล้แนวปะการังมีสัตว์ทะเลนานาพันธุ์ให้นักท่องเที่ยวได้ล่องเรือเที่ยวชม และในเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคมที่หาดทรายตามแนวชายฝั่งของเกาะปามาลิคันจะ สิ่งที่น่าสนใจในเกาะปามาลิคันคือ การล่องเรือเพื่อไปยังแนวปะการังที่อยู่ไม่ไกลนัก ซึ่งแนวปะการังจะมีพื้นที่ 7 ตารางกิโลเมตร มีความยาว 2.5 กิโลเมตร สามารถล่องเรือไปใกล้แนวปะการังแล้วดำน้ำลงไปชมได้ ใกล้แนวปะการังมีสัตว์ทะเลนานาพันธุ์ให้นักท่องเที่ยวได้ล่องเรือเที่ยวชม และในเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคมที่หาดทรายตามแนวชายฝั่งของเกาะปามาลิคันจะ มีเต่าทะเลจำนวนมากขึ้นฝั่งมาวางไข่มีเต่าทะเลจำนวนมากขึ้นฝั่งมาวางไข่

เกาะปามาลิคันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของนักธุรกิจชาวฟิลิปปินส์ ชื่อ แอนเดรส โซเรียโน จูเนียร์ ทำให้สร้างรีสอร์ตเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวได้เพียงรายเดียว โดยทางรีสอร์ตมีเครื่องบินขนาดเล็กให้บริการนักท่องเที่ยวจากสนามบินนานา ชาติที่กรุงมะนิลา


เกาะที่โรแมนติกที่สุดอีกแห่งหนึ่งอยู่ในยุโรป ในเขตอินเตอร์ เอบริดเดส ทางชายฝั่งตะวันตกของสกอตแลนด์ มีชื่อว่า Isle of Mull แม้จะมีขนาดเล็ก มีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึง 3,000 คน แต่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษและทั่วโลก

เพราะสถานที่บนเกาะหลายแห่งถูกนำไปสร้างภาพยนตร์ที่มีชื่อ เสียง รวมถึงภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ บนเกาะมีอาคารบ้านเรือนของชาวประมงที่สร้างที่พักเป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญคือ ปราสาทดูอาร์ทที่สร้างโดยกษัตริย์ผู้ปกครองสกอตแลนด์ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 สิ่งที่มีชื่อเสียงบนเกาะแห่งนี้คือ โรงบ่มวิสกี้ ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องแวะชิม

ยังมีเกาะเล็กๆทั่วโลกอีกหลาย แห่งที่ได้รับการโหวตให้เป็นเกาะที่โรแมนติกที่สุด เพราะมีทัศนียภาพและธรรมชาติแห่งท้องทะเลที่สวยงาม สนใจอ่านรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์   //www.travelandleisure.com/

ที่ มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 6 ฉบับ 283 วันที่ 30 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 หน้า 40 คอลัมน์ Smallworld โดย อุษณีษ์ สาลิฟา




Credit :  //www.dailyworldtoday.com




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2553 2:35:43 น.
Counter : 1295 Pageviews.  

เยือนบรัสเซลส์ ชมศูนย์รวมความเป็นสุดยอดของ บรัสเซลส์



เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม กรุงบรัสเซลส์ (Brussels) เสร็จสิ้นจากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการประผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 8 (ASEM) มาไม่นาน เนื่องจากเมืองหลวงแห่งนี้มีความเพียบพร้อมด้านการประชุมสัมมนาระดับโลก เป็นศูนย์กลางของยุโรปก็ว่าได้ โดยเฉพาะบรัสเซลส์ เป็นสถานที่ตั้งของสำนักงานกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) และหน่วยงานสำคัญระดับโลกอื่นๆ

เบลเยียม มีพรมแดนติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์ มีพื้นที่ 30,528 ตารางกิโลเมตร ด้วยเหตุนี้จึงมีความหลากหลายของผู้คนและวัฒนธรรม โดยเฉพาะภาษาพูด ที่มีแตกต่างกันในสองภูมิภาคใหญ่ ได้แก่ ฟลานเดอร์ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาดัตช์ และในภูมิภาควัลโลเนีย ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศส ส่วนในบรัสเซลส์นั้น เป็นเขตทวิภาษา พูดทั้งฝรั่งเศส ดัตช์ และเยอรมัน ซึ่งทั้งสามจัดเป็นภาษาทางราชการอีกด้วย



หากได้มาเยือนบรัสเซลส์ ตลาด Grote Markt หรือ Grand Market เป็นย่านที่ใครก็ต้องมา เพราะเป็นศูนย์รวมความเป็นสุดยอดของบรัสเซลส์ มีอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ตลอดสองข้างทาง ตลาดดอกไม้สีสันสดใส ร้านอาหาร ผับ บาร์ ที่พัก โรงแรม นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า Museum voor Moderne Kunst (Museum of Modern Art) ซึ่งไม่เพียงรวบรวมผลงานจากศิลปินในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีงานของศิลปินจากประเทศอื่นๆ ให้ชมด้วย


ส่วน อะตอมเมียม (Atomium) สัญลักษณ์แทนเมืองใหญ่ทั้งเก้าเมืองของเบลเยียม เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยลูกกลมสีเงินเก้าลูกซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยเหล็กสีเงิน จำลองจากโครงสร้างของอะตอมแบบขยายส่วน มีความสูงขนาด 102 เมตรจากพื้นดิน

สัญลักษณ์ของบรัสเซลส์อีกแห่งหนึ่งก็คือ อนุสาวรีย์แมนนาคินพิส (Menneken Pis) หนูน้อยยืนฉี่ตามตำนานว่าเด็กน้อยรายนี้ยืนปัสสาวะเพื่อดับไฟที่เป็นต้นเพลิงที่อาจลุกลามไปทั้งเมือง ชาวบ้านจึงสร้างไว้เพื่อให้ระลึกถึง



ยังมีสถานที่ที่น่าสัมผัสอีกหลายแห่งโดยเฉพาะหมู่ตึกอาคารที่เป็นสถาปัตยกรรมอันสวยงาม เช่น ศาลาว่าการเมือง หมู่ตึกกริลเฮ้าส์ ที่จัตุรัสแกรนด์เพลซ ที่เคยเป็นสถานที่ประทับของกษัตริย์ เบลเยียม และเป็นตลาดนัดจุดรวมการแลกเปลี่ยนสินค้าในอดีต


ในบรัสเซลส์มีอาหารท้องถิ่นที่นักเดินทางควรลิ้มรส เช่น มันฝรั่งทอด ต้นตำรับของ French Fries รวมถึง Moules Frites หรือหอยแมลงภู่อบ เครื่องดื่มที่มีชื่อไม่แพ้เยอรมันก็คือ เบียร์หลากหลายชนิดนั่นเอง ส่วนของหวานที่ไม่แพ้สวิสก็ได้แก่ ช็อกโกแลต รวมทั้งขนมวัฟเฟิลที่เลื่องชื่อเช่นกัน


หากเดินๆ อยู่แล้วเจอชาย-หญิง หรือเพศเดียวกัน เดินกอดจูบตามที่สาธารณะก็อย่าได้ตกใจ เพราะบรัสเซลส์เป็นดินแดนที่มีเสรีภาพทางเพศ คนต่างเพศและคนเพศเดียวกันสามารถแต่งงานมีสถานภาพที่กฎหมายให้การยอมรับ


ไม่บ่อยนักที่จะได้ชมภาพยนตร์จากเบลเยียม Everybody Famous! (2000) คือหนึ่งในผลิตผลส่วนน้อยที่กำกับโดยชาวเบลเยียมเข้าชิงรางวัลบนเวทีออสการ์ ปี 2000 แม้ไม่ได้รางวัลติดมือแต่เนื้อหาของภาพยนตร์ไม่ธรรมดาเลย

หนังเล่าเรื่องครอบครัวของ “ฌอง” หนุ่มใหญ่หัวหน้าครอบครัวเป็นคนงานในโรงงานแห่งหนึ่ง สิ่งที่เขาฝันใฝ่ในชีวิตก็คือ การได้เป็นที่ยอมรับของคนในสังคม เป็นคนเด่นดังที่ใครๆ ก็นิยมยกย่อง เขาพยายามเหลือเกินที่จะผลักดันลูกสาว “มาร์วา” ขึ้นประกวดร้องเพลงในเวทีต่างๆ โดยที่มาร์วาเองไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย เพราะด้วยรูปร่างที่อวบเกินพิกัดนักร้องทั่วไปทำให้เป็นที่อึดอัดใจอย่างยิ่ง แต่ก็จำใจเดินสายไปทุกเวที



อยู่มาวันหนึ่งโรงงานปิดกิจการ ฌองและเพื่อนๆ ตกงานทันที เขาจึงหวังว่าเพลงที่เขาฮัมทำนองไว้จะเป็นโอกาสหนึ่งที่จะทำให้เขาและครอบครัวกับมาเชิดหน้าชูตาในสังคมอย่างภาคภูมิใจ และบังเอิญเขาพบกับ “เด็บบี้” นักร้องคนดังระหว่างเดินทางกลับบ้าน ฌองสบโอกาสจึงได้ลักพาตัวเธอโดยมีเพื่อนอดีตพนักงานโรงงานช่วยเหลือ แต่ค่าไถ่กลับไม่ใช่เงิน เงื่อนไขที่ฌองต้องการก็คือผู้จัดการของเด็บบี้จะต้องปั้นลูกสาวของเขาให้กลายเป็นนักร้องโด่งดังเป็นที่รู้จักให้ได้



Everybody Famous! ภาพยนตร์ตลกร้ายเสียดสีวงการบันเทิงและสื่อมวลชนอย่างแสบสัน ดำเนินเรื่องไม่สลับซับซ้อนแต่แยบคาย พลิกสถานการณ์กลับไปกลับมาอย่างคาดไม่ถึง ผู้กำกับ Dominique Deruddere นำเอานักแสดงเบลเยียมที่คัดสรรผลงานมากกว่าหน้าตามารวมไว้ เป็นงานแบบเล็กดีรสโตที่ผู้ชมต้องจดจำ

เช่นเดียวกับเบลเยียม เล็กแต่มีศักยภาพสมกับการเป็นศูนย์กลางของยุโรป

…………….

Everybody Famous! (2000)
City : Brussel
Country : Belgium
Population : 10,419,000
Film : Everybody Famous! (2000)
Director : Dominique Deruddere
Cast : Josse De Pauw, Eva van der Gucht, Werner De Smedt, Thekla Reuten, Victor Low

************
//www.bangkokbiznews.com




 

Create Date : 23 ตุลาคม 2553    
Last Update : 23 ตุลาคม 2553 1:48:53 น.
Counter : 3284 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.