It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
All blogs
 

กรุงย่างกุ้งเสน่ห์ชีวิต

 กรุงย่างกุ้ง (Yangon) หรือชาวพม่าออกเสียง “หยั่งโก่ง” ในฉากของพื้นที่ตั้งถิ่นฐานโบราณแต่เดิมแล้ว คือถิ่นของชาวมอญ ที่ภายหลังพระเจ้าอลองพญา (ค.ศ. 1752 - 1760) ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์คองบองได้ยกทัพเข้าโจมตี เพื่อกรุยทางไปการตีกองทัพมอญเมืองหงสาวดีในเวลาถัดมา



     ในปี ค.ศ. 1755 ย่างกุ้งถูกพัฒนาให้เป็นเมืองท่าชั้นนำของจักรวรรดิพม่า แปลงสภาพให้กลายเป็นเมืองยุทธศาสตร์ในเขตสามเหลี่ยมปากน้ำอิระวดี ต่อมาเมื่อสงครามอังกฤษ-พม่า ครั้งที่หนึ่งก่อตัวขึ้น (ค.ศ.1824-1826) ส่งผลให้กองทัพอังกฤษชนะ



Smiley Smiley Smiley



คลิกชมภาพและอ่านต่อที่นี่ค่ะ....




 

Create Date : 18 ตุลาคม 2555    
Last Update : 18 ตุลาคม 2555 7:11:16 น.
Counter : 1986 Pageviews.  

‘Harvest Festival’ในสหรัฐ



การท่องเที่ยวที่สนุกอีกรูปแบบหนึ่งคือ การไปเที่ยวงานเทศกาลประจำปีของแต่ละเมือง เช่น October Fest ที่เมืองมิวนิก แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นงานที่บรรดาผู้ดื่มเบียร์รอคอย

ส่วนที่สหรัฐมีการจัดงานเทศกาลที่แต่ละงานมีชื่อ Festival ต่อท้าย มีทั้งเทศกาลดนตรี, ศิลปะ, วัฒนธรรม รวมถึงเทศกาลขายสินค้าการเกษตรที่เรียกว่าเทศกาลฤดูกาลเก็บเกี่ยว (Harvest Festival) มีการจัดในเมืองที่เป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผักผลไม้ เริ่มต้นงานปลายเดือนกันยายนถึงสิ้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นการสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตการเกษตร โดยมีการจัดงานเพื่อฉลองผลผลิตที่ได้มาในแต่ละปี




คลิกอ่านต่อ.....




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2555    
Last Update : 5 ตุลาคม 2555 19:34:47 น.
Counter : 1691 Pageviews.  

'เมลเบิร์น' เมืองน่าอยู่ท่ีสุดในโลก เขี่ย 'แวนคูเวอร์' แชมป์เก่าตกที่ 3





เมลเบิร์น (อังกฤษ: Melbourne, ออกเสียงว่า /ˈmel.bən/ หรือ /ˈmæl.bən/) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ มีประชากรประมาณ 3,806,092 คน (2549)[1] เมลเบิร์นเป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย เมลเบิร์นก่อตั้งในปี พ.ศ. 2378 (ค.ศ. 1835)



ขอบคุณข้อมูลจาก นสพ ไทยรัฐ และ //th.wikipedia.org




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2554    
Last Update : 31 สิงหาคม 2554 11:03:26 น.
Counter : 1867 Pageviews.  

โรแมนติก บอลติก เอสโตเนีย-ลัตเวีย-ลิทัวเนีย

ปิยะชาติ มงคลไชยสิทธิ์

ตกปากรับคำทันทีหลังได้รับคำชวนจาก "คุณหมู"ปนัดดา เจณณวาสิน หญิงแกร่งและเก่ง รองประธานบริษัท ตรีเพชร อีซูซุ เซลส์ จำกัด ให้ร่วมขบวนไปเยี่ยมตัวแทนจำหน่ายสุดยอดรถยนต์ปิกอัพของโลก "อีซูซุ ดีแมคซ์" ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

เหตุผลหนึ่งเพราะทราบว่า คณะนี้นอกจากจะมีคุณหมูเป็นหัวเรือนำทีมแล้ว คุณฮิโรชิ นาคางาวะ ประธานกรรมการบริษัทอีซูซุฯ คุณริซึโอะ ฟูกาซาวะ ประธานกรรมการบริษัท ไดอิจิ คิคากุ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ยังให้เกียรติร่วมเดินทางไปด้วย

ไม่นับผู้อาวุโสวงการสื่อรถยนต์ของเมืองไทยอย่าง ปราจิน เอี่ยมลำเนา, ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์, จรวย ขันมณี, พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ, กิตติพันธ์ เหตระกูล, ธนิต รัตนถิรวรรณ และอีกจำนวนหนึ่ง

ที่สำคัญนอกจากจะไปเยือนกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์แล้ว คณะของเรายังมีโปร แกรมตระเวนชมเมืองต่างๆ ในกลุ่มรัฐบอลติก

ประกอบด้วย 3 ประเทศคือ เอสโตเนีย ลัตเวีย และ ลิทัวเนีย

ความน่าสนใจของกลุ่มรัฐบอลติกนอกจากจะเป็นดินแดนที่หาโอกาสไปเยือนได้ยาก เพราะความสัมพันธ์ในทุกมิติระหว่างไทยกับ 3 ประเทศนี้ยังมีค่อนข้างน้อยแล้ว ประวัติศาสตร์ ประเพณี อารยธรรม ฯลฯ ของพวกเขาก็ยังมีอะไรหลายอย่างที่เร้าใจด้วย

กางแผนที่โลกมองตรงไปที่ทวีปยุโรปด้านบน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลบอลติกคือสถานที่ตั้งของประเทศเอสโตเนีย-ลัตเวีย-ลิทัวเนีย ไล่เรียงกันลงมา

ประเทศเหล่านี้เคยปกครองตนเองแบบสาธารณรัฐระหว่างปีพ.ศ.2461-2483 หรือเมื่อเกือบ 100 ปีนี้เอง ต่อมาถูกรวมเข้าไปเป็น 3 ใน 15 สาธารณรัฐของสหภาพโซเวียต จนกระทั่งปีพ.ศ.2534
หรือ 20 ปีที่แล้วเมื่ออาณาจักร สหภาพโซเวียตล่มสลาย เอสโตเนีย-ลัตเวีย และ ลิทัวเนีย จึงแยกตัวออกมาตั้งเป็นประเทศอิสระ

เมื่อได้รับอิสรภาพ สิ่งแรกที่พวกเขารีบทำก็คือสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ ทันที หวังอาศัยบารมีคุ้มหัวให้รอดพ้นจากแสนยานุภาพทางการทหารของรัสเซีย พี่เบิ้มใหญ่ของสหภาพโซเวียต

ล่าสุดเพิ่งได้รับเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศประชาคมยุโรป หรืออียู หมาดๆ
ด้วยความเป็นดินแดนเล็กๆ โดยมีอาณาจักรใหญ่รายล้อมรอบ ประวัติศาสตร์ของเอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย จึงวนเวียนอยู่กับการถูกปกครองโดยชนชาติอื่น ไม่ว่าจะเป็นสวีเดน เยอรมัน รัสเซีย ฯลฯ จนแทบหาช่วงเวลาแห่งความเป็นอิสระของตนเองไม่ได้เล

เจ็บปวดสุดน่าจะเป็นยุคสมัยถูกยึดครองโดยรัสเซีย เพราะเป็นประวัติศาสตร์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปแค่ 20 ปี ยังจำอดีตกันได้อยู่

เสียงจากคนท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นที่กรุงทาลลินน์ เอสโตเนีย กรุงริกา ลัตเวีย หรือกรุงวิลนีอุส ลิทัวเนีย ล้วนรำพึงรำพันด้วยท่วงทำนองของความทุกข์ระทมเหมือนกันว่าช่างยากแค้นแสนเข็ญ

อาหารการกินทุกชนิดล้วนขาดแคลนทั้งที่ผืนแผ่นดินทั้ง 3 ประเทศเขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร เนื่องจากรัสเซียผู้ครอบครองสั่งให้ขนกลับไปปรนเปรอแผ่นดินแม่เกลี้ยง ขนมปังเก่าๆ หรือมันฝรั่งคืออาหารหลักในทุกมื้อ หากใครอยากได้เศษเนื้อสักชิ้นมาเพิ่มโปรตีนให้กับชีวิตบ้างจะต้องแลกด้วยการยืนเข้าคิวกลางสายลมหนาวรอซื้อนานไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง



ปัญญาชน พ่อค้าวาณิช พนักงานรัฐ ฯลฯ หลายหมื่นถูกกวาดต้อนไปคุมประพฤติที่ค่ายกักกันไซบีเรียและปรากฏว่าส่วนหนึ่งต้องดับสูญสลายหายไปจากโลกจนถึงทุกวันนี้

จากคำบอกเล่า ทำให้นึกถึงพระราชนิพนธ์ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 6 ที่ว่า "ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำกรำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย"

ความเป็นอยู่ทุกวันนี้ของชาวเอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย อาจจะยังไม่หรูหราสะดวกสบายเท่าไรนักถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฯลฯ เพราะชีวิตอยู่ระหว่างเริ่มต้น แต่แววตาของพวกเขากลับทอประกายวาววับเหมือนเปี่ยมสุขยิ่ง

"เพราะเรามีเสรีภาพ" คำตอบสั้นๆ ที่กุมความได้ทั้งหมด

แม้จะสืบรากมาจากชนเผ่าหลากหลาย แต่ผู้คนทั้ง 3 ประเทศนี้กลับมีความละม้ายคล้ายคลึงด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของความเป็นยุโรปร่วม จะต่างอยู่บ้างตรงภาษาถิ่นที่เป็นของใครของมัน

สถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของทั้ง 3 ประเทศได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดี จนได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นแถบถิ่นที่คงความเป็นยุโรปยุคกลางได้ค่อนข้างสมบูรณ์

****
คลิกอ่านต่อจ้ะ ....




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 25 กรกฎาคม 2554 5:46:58 น.
Counter : 4021 Pageviews.  

“ไบคาล” Baikal ทะเลสาบเก่าแก่ที่มีอายุราว 25-30 ล้านปี

โดย : อนันต์ ลือประดิษฐ์



ไบคาล เป็น ทะเลสาบในร่องเขา และถือว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก



ชื่อเสียงของ “ไบคาล” ทะเลสาบเก่าแก่ที่มีอายุราว 25-30 ล้านปี และได้รับการจัดอันดับเป็นทะเลสาบที่มีความลึกที่สุด ถึง 1,640 เมตร ทำให้ใครๆ ใฝ่ฝันอยากมีโอกาสไปเยือนสักหน

เมื่อปี 1996 ธรรมชาติอันสวยงามแห่งนี้ ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 20 ที่เมืองเมรีดา ประเทศเม็กซิโก ทำให้ยิ่งมีการพูดถึงชื่อของ “ไบคาล” เป็นระยะๆ ทั้งในแง่ของการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมอันบริสุทธิ์ให้ไกลจากมลพิษและอุตสาหกรรม ฯลฯ





ก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวว่าบริษัทน้ำมันจะเดินท่อน้ำมันผ่านเข้าใกล้พื้นที่นี้ ในช่วงระยะห่างไม่กี่ร้อยเมตร ก่อเกิดเป็นกระแสความหวาดวิตกต่อปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อม จนในที่สุด รัฐบาลของประธานาธิบดีปูติน ต้องสั่งการให้เปลี่ยนแปลงเส้นทางวางท่อน้ำมันกันเลยทีเดียว


ทะเลสาบไบคาล อยู่ในเขตไซบีเรีย ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซีย ใกล้กับมองโกเลีย มีชื่อเรียกขานหลายชื่อด้วยกัน เช่น ดวงตาสีน้ำเงินแห่งไซบีเรีย , ไข่มุกแห่งไซบีเรีย และ กาลาปากอสรัสเซีย เป็นต้น




ในหนังที่มีความยาว 133 นาที เรื่อง The Way Back ออกฉายเมื่อปี 2010 มีการพูดถึงทะเลสาบแห่งนี้ ในฐานะเป้าหมายของการหลบหนีแรกของเหล่านักโทษที่ถูกจองจำโดยรัฐบาลเผด็จการรัสเซีย


The Way Back นำเสนอเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ “จานุสซ์” รับบทโดย จิม สเตอร์เกสส์ หนุ่มชาวโปลถูกจับในข้อหาสายลับ เมื่อ จานุสซ์ ไม่ยอมรับข้อหา เจ้าหน้าที่รัสเซียจึงไปคาดคั้นต่อภรรยาของเขา จนในที่สุด จานุสซ์ ถูกตัดสินว่ามีความผิด มีโทษติดคุก 20 ปี และถูกส่งมายังเรือนจำแรงงาน หรือที่เรียกกันว่า “เดอะ กูลัก” ในไซบีเรีย



ณ เรือนจำดังกล่าว จานุสซ์ ได้พบกับนักโทษหลายๆ คน ประกอบด้วย คนอเมริกัน อย่าง “มิสเตอร์ สมิธ” (รับบทโดย เอ็ด แฮร์ริส) และ นักแสดง “คาบารอฟ” (รับบทโดย มาร์ค สตรอง), ฆาตกรตัวแสบ “วอลกา” (รับบทโดย โคลิน ฟาร์เรลล์) และศิลปินชาวโปล “โทมาสซ์” (แสดงโดย อเล็กซานเดรอ โปโตเซียน) , นักบวชชาวแลทเวีย “วอสส์” (กุสตาฟ สการ์การ์ด) , หนุ่มโปส ชื่อ “คาซิก” และนักบัญชีชาวยูโกสโลวาเกีย “โซรัน”


พวกเขาตัดสินใจวางแผนหนีออกจากคุกไซบีเรียอันโหดร้ายและแสนหนาวเหน็บ โดยยอมเสี่ยงชีวิต เดินทางลัดเลาะฝ่าพายุหิมะ มุ่งไปทะเลสาบไบคาล จากนั้นเกาะขอบทะเลสาบ มุ่งหน้าสู่ทิศใต้เพื่อไปมองโกเลีย





เมื่อถึงมองโกเลีย เรื่องราวของพวกเขายังไม่สิ้นสุด เพราะในสมัยนั้น มองโกเลีย อยู่ภายใต้อิทธิพลของคอมมิวนิสต์ ชะตากรรมของตัวละครในเวลานั้น มีสภาพไม่ต่างหนีเสือปะจรเข้เท่าใดนัก ดังนั้น พวกเขาจึงต้องเดินทางกันอีกครั้ง ต้องฝ่าชีวิตผ่านเวิ้งทะเลทรายอันร้อนระอุ ไร้ทั้งน้ำดื่มและอาหาร มีคนทยอยบาดเจ็บล้มตายไปทีละคนสองคน กว่าจะถึง “หลังคาโลก” ทิเบต และหาช่องทางลัดเลาะผ่านเทือกเขาหิมาลัย มุ่งหน้าสู่อินเดียในที่สุด


ในปี 1941 มีชาย 3 คนเดินเท้าจากไซบีเรียมุ่งสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ นับเป็นเส้นทางเดินเท้าเพื่อบรรลุสู่เสรีภาพ ในระยะทาง 4,000 ไมล์ หรือ 6,437 กิโลเมตร !


จากการหลบหนีค่ายกักกันอันโหดร้าย มีการใช้แรงงานอย่างไร้มนุษยธรรม ด้วยสภาพอากาศหนาวเย็นติดลบ การมาถึง "ทะเลสาบไบคาล"จึงเป็นเสมือนแหล่งอาหารที่ทำให้พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดได้


ไบคาล เป็น ทะเลสาบในร่องเขา และถือว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ในเชิงปริมาตร) ปริมาณน้ำของทะเลสาบคิดเป็นร้อยละ 25% ของปริมาณน้ำจืดที่มีอยู่ทั้งหมดของโลก อุดมด้วยพืชและสัตว์หลายพันธุ์ที่หาไม่ได้ในพื้นที่อื่น สมกับชื่อของ ไบคาล ที่มาจากภาษาเติร์ก ไบกุล หมายความว่า "ทะเลสาบอันอุดมสมบูรณ์"


ปัจจุบัน มีธุรกิจพาเที่ยวรัสเซีย หรือมองโกเลียที่มีโปรแกรมแวะเที่ยวทะเลสาบอันแสนเย็นยะเยือกแห่งนี้ เพราะที่นี่มีน้ำแข็งจับตัวนานในทะเลสาบ เป็นเวลาถึงปีละ 5 เดือน นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายทรานสไซบีเรียอีกด้วย


ไปเที่ยวทะเลสาบแบบนี้ คงแตกต่างจากตัวละครในเรื่อง The Way Back แน่แท้เชียว.

Movie : The Way Back (2010)
Director : Peter Weir
Casting : Jim Sturgess, Ed Harris and Colin Farrell
Place : Lake Baikal
Country : Russia
เมื่อถึงมองโกเลีย เรื่องราวของพวกเขายังไม่สิ้นสุด เพราะในสมัยนั้น มองโกเลีย อยู่ภายใต้อิทธิพลของคอมมิวนิสต์ ชะตากรรมของตัวละครในเวลานั้น มีสภาพไม่ต่างหนีเสือปะจรเข้เท่าใดนัก ดังนั้น พวกเขาจึงต้องเดินทางกันอีกครั้ง ต้องฝ่าชีวิตผ่านเวิ้งทะเลทรายอันร้อนระอุ ไร้ทั้งน้ำดื่มและอาหาร มีคนทยอยบาดเจ็บล้มตายไปทีละคนสองคน กว่าจะถึง “หลังคาโลก” ทิเบต และหาช่องทางลัดเลาะผ่านเทือกเขาหิมาลัย มุ่งหน้าสู่อินเดียในที่สุด


ในปี 1941 มีชาย 3 คนเดินเท้าจากไซบีเรียมุ่งสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ นับเป็นเส้นทางเดินเท้าเพื่อบรรลุสู่เสรีภาพ ในระยะทาง 4,000 ไมล์ หรือ 6,437 กิโลเมตร !


จากการหลบหนีค่ายกักกันอันโหดร้าย มีการใช้แรงงานอย่างไร้มนุษยธรรม ด้วยสภาพอากาศหนาวเย็นติดลบ การมาถึง "ทะเลสาบไบคาล"จึงเป็นเสมือนแหล่งอาหารที่ทำให้พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดได้


ไบคาล เป็น ทะเลสาบในร่องเขา และถือว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ในเชิงปริมาตร) ปริมาณน้ำของทะเลสาบคิดเป็นร้อยละ 25% ของปริมาณน้ำจืดที่มีอยู่ทั้งหมดของโลก อุดมด้วยพืชและสัตว์หลายพันธุ์ที่หาไม่ได้ในพื้นที่อื่น สมกับชื่อของ ไบคาล ที่มาจากภาษาเติร์ก ไบกุล หมายความว่า "ทะเลสาบอันอุดมสมบูรณ์"


ปัจจุบัน มีธุรกิจพาเที่ยวรัสเซีย หรือมองโกเลียที่มีโปรแกรมแวะเที่ยวทะเลสาบอันแสนเย็นยะเยือกแห่งนี้ เพราะที่นี่มีน้ำแข็งจับตัวนานในทะเลสาบ เป็นเวลาถึงปีละ 5 เดือน นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายทรานสไซบีเรียอีกด้วย


ไปเที่ยวทะเลสาบแบบนี้ คงแตกต่างจากตัวละครในเรื่อง The Way Back แน่แท้เชียว.

Movie : The Way Back (2010)
Director : Peter Weir
Casting : Jim Sturgess, Ed Harris and Colin Farrell
Place : Lake Baikal
Country : Russia


●Credit  : //www.bangkokbiznews.com/


● อยุธยา มากกว่าประวัติศาสตร์ คือความทรงจำ

●โครงการเสนอ จ.ระนอง เป็น "แหล่งมรดกของชาติไทย (Thai national Heritage)"

●'น่าน'มุมหนึ่งเมืองไทยที่งดงาม

●แคชเมียร์ ชุมทางการค้าระหว่างยุโรป เปอร์เชียร์ อินเดีย ทิเบต จีน

●สนุก สนาน ทุ่งแสงตะวัน ของกินเล่นจากธรรมชาติ 'ซิซาหน้าฝน'

●ตามรอยเส้นทางเดินทัพ 'สมเด็จพระเจ้าตากสิน'

●สืบสานศิลปกรรม รัชกาลที่ 1น้อมระลึกพระมหากรุณาธิคุณ 'วันจักรี'

● "ภูฎาน"อนุรักษ์วัฒนธรรมเก่าแก่แดนธรรมชาติ !!




 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2554 3:14:34 น.
Counter : 3132 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.