It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2562
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 สิงหาคม 2562
 
All Blogs
 

❖การสอนลูกแบบชาวเยอรมัน



"การสอนลูกแบบชาวเยอรมัน"
134
     เด็กที่ถูกเลี้ยงอย่างพะเน้าพะนอจนเกินเหตุ
เมื่อเติบโตแล้วยากที่จะพึ่งพาตนเองได้
เด็กควรถูกฝึกให้รู้จักความยากลำบาก
เพื่อความอยู่รอดของตัวเขาเองในอนาคต
และเพื่อจะช่วยกันพัฒนาสังคม พัฒนาโลกให้เจริญยิ่งขึ้น




     เมื่อเด็กๆเจอปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ
ฝึกให้เขาจะรู้จักหาทางออก และมีความมั่นใจในตัวเอง
เด็กเยอรมันส่วนใหญ่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยวิธีนี้
เมื่อโตขึ้นพวกเขาจึงสามารถปลีกตัวออกจากอ้อมอกพ่อแม่
และสร้างอนาคตในวันข้างหน้าด้วยตัวเขาเอง


   

 ลองมาศึกษาหลักการใหญ่ๆที่ชาวเยอรมันปลูกฝังในตัวลูกๆของพวกเขา


1.   ฝึกฝนให้รู้ความเป็นอยู่ของผู้คนประเทศอื่น และความคิดเห็นของคนอื่น

     ทุกๆปี จะมีนักเรียนระดับมัธยมมากมาย ใช้เวลาช่วงปิดเทอมใหญ่ 
เดินทางไปยังประเทศต่างๆที่ค่อนข้างยากจนในแถบแอฟริกาหรืออเมริกาใต้
พวกเขาไม่ได้ไปเรียนหนังสือ ไม่ได้ไปหางานทำเพื่อหารายได้พิเศษ
แต่มักเป็นงานพวกอาสาสมัครหรือจิตอาสา
พวกเขาเดินทางไปเพื่อฝึกฝนให้ตนเองอยู่ให้ได้ในสภาพสังคมแบบนั้น
เด็กๆจะดูแลและะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างของตัวเขาเอง
สิ่งที่พวกเขาได้รับคือได้เข้าใจและซึมซาบความยากลำบากของสังคมคนจน
รู้ซึ้งถึงความยากลำบากของคนอื่น
แล้วจะได้สำนึกถึงความสุขสบายที่ตนเองได้รับอยู่ในทุกวันนี้
นี่เป็นบทเรียนล้ำค่าที่เด็กๆชาวเยอรมันจะได้สัมผัสในช่วงขีวิตที่พวกเขากำลังเติบโต




     2.   การได้รับมรดกมากมายอาจไม่ใช่สิ่งดี

     พ่อแม่ชาวเยอรมันเห็นว่า ลูกหลานได้รับมรดกมากมายอาจไม่ใช่สิ่งดี
มีสิทธิ์ผลักดันให้พวกเขาดำดิ่งสู่ความหายนะ
นักธุรกิจใหญ่หรือเศรษฐีมากมายในเยอรมนีจึงบริจาคเงินทองมากมายให้องค์กรกุศล
และมักได้รับการสนับสนุนจากลูกหลานของพวกเขาเอง
พวกเขาคิดว่าอยากได้สิ่งใดก็ควรสร้างด้วยตนเอง
ช่วยให้พวกเขารู้จักและหวงแหนในสิ่งที่ตนหามาด้วยตัวเอง
มันน่าภูมิใจกว่ามากมาย




     3.   ต้องรู้จักให้เกียรติคนอื่น ตนจึงจะมีศักดิ์ศรี

     ชาวเยอรมันมักยึดมั่นในความคิดที่ว่า
สังคมเป็นเรื่องของส่วนรวม 
ทุกคนต้องช่วยกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ตนจึงจะอยู่ร่วมด้วยอย่างมีศักดิ์ศรี
สังคมจะดีนั้น เป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน


     มีเพื่อนเล่าให้ฟังว่า ตอนไปเที่ยวเยอรมัน
เมื่อเดินออกจากห้องน้ำสาธารณะ
มีคุณแม่ชาวเยอรมันยืนอยู่หน้าห้องน้ำชายถามเขาว่า
เห็นลูกชายของเขาในห้องน้ำหรือเปล่า
ลูกเขาเข้าไปนานแล้ว เพื่อนจึงเดินกลับเข้าไปสำรวจให้เขา
แล้วก็พบเด็กชายเยอรมันคนหนึ่ง
อายุประมาณ 11-12 ขวบ อยู่ในห้องสุดท้ายของห้องน้ำ
เด็กบอกเขาว่ากำลังซ่อมคันโยกของชักโครกอยู่ เพราะมันเสีย
แต่เขาไม่ต้องการให้สิ่งปฏิกูลของเขาที่อยู่ในโถชักโครกไปรบกวนคนอื่น
การทำให้ผู้อื่นลำบากใจ ไม่ได้เป็นการให้เกียรติแก่ตนเองเลยสักนิด
พ่อแแม่ชาวเยอรมันสอนลูกด้วยวิธีนี้



 4.   ฝึกฝนศีลธรรม

     "ศีลธรรมที่ดีงามมาจากการซึมซาบ
ไม่ใช่มาจากการท่องจำ"
ในหลักสูตรของพวกเด็กนักเรียน
เขาสอนให้เด็กรู้จักดูแลตัวเองให้อยู่ได้กับสังคมอย่างมีระเบียบ
มีปัจจัยหลักๆที่เน้นเป็นพิเศษก็คือ
“รักชีวิต รักความยุติธรรม ซื่อสัตย์ และมีสัจจะ”
โรงเรียนจะเน้นให้นักเรียนศึกษาหลักการของศาสนาให้ลึกซึ้ง
ไม่ว่าจะเป็นศาสนาคริสต์ พุทธ หรือเต๋า
สิ่งดีงามที่ศาสนาบ่มเพาะไว้
ย่อมสามารถนำพาให้เด็กมีความคิดและมีความประพฤติที่ดีจากส่วนลึกของจิตสำนึก




     5.  เด็กๆชาวเยอรมัน เรียนหนังสือแค่ครึ่งวัน

     ครูบาอาจารย์ไม่ได้มุ่งยัดเยียดความรู้ให้นักเรียน
แต่มีการสอนแบบองค์รวมของวิชาต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยา มนุษย์ศาสตร์ ศิลปะ ศาสนา และความรู้อื่นๆทั่วๆไป ให้เด็กสัมผัสรับรู้ถึงความรู้ขั้นพื้นฐานแบบสิ่งละอันพันละน้อย

     เขาฉลาดพอที่จะให้เด็กๆ รับรู้จากความรู้พื้นฐานทั่วๆไป
ให้เด็กเข้าใจสังคม ให้เด็กเข้าใจครอบครัว
และตั้งหัวข้อให้เด็กๆได้สนทนา แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น
แสดงปาฐกถา และให้เด็กค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวพวกเขาเองหลังเวลาเรียน
นี่คือวิธีที่สอนให้เด็กเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดของตัวเอง
ไม่ใช่ให้ท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทอง

     เด็กๆแม้อายุจะยังไม่มาก แต่ครูมักหาหัวข้อสังคมมาให้เด็กๆได้สนทนากัน
ได้แสดงความคิดเห็น เสนอหนทางแก้ไขหรือหาทางออก
นี่คือวิถีเส้นทางเติบโตของเด็กๆชาวเยอรมัน
ช่วยให้พวกเขาสามารถบ่มเพาะให้คิดเป็น คิดอย่างสร้างสรรค์และมีอิสระ




     6.  กิจกรรมร่วมกันคือวิธีของการอยู่ร่วมกัน

     ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมหรือกีฬาที่ทำร่วมกัน
เด็กๆจะถูกปลูกฝังให้รู้จักอยู่ร่วมกันของมนุษยชาติ
ส่งเสริมให้เด็กๆไปดูแลและสนทนากับคนแก่ในสถานเลี้ยงดูคนชรา
ร่วมกันเป็นจิตอาสาทำงานให้สังคม
เสริมสร้างให้เด็กๆมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมอย่างมีคุณค่า

     สังคมจะอยู่กันอย่างมีสำนึก
ประเทศชาติจะเจริญก้าวหน้า
ล้วนมาจากประชาชนที่มีสำนึกต่อส่วนรวม
สำนึกในหน้าที่ของพลเมืองที่ดีและมีคุณภาพ


     การปลูกฝังสิ่งมีค่าเหล่านี้ไว้ในตัวเด็กตั้งแต่ก้าวแรกๆในสังคมของพวกเขา
เปรีบบเสมือนต้นกล้าที่ถูกบ่มเพาะดูแลอย่างดีที่ถูกวิธีตั้งแต่เริ่มแรก แล้วจะค่อยๆเติบโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแรง มีรากที่สมบูรณ์และมั่นคง ยืนหยัดแข็งแกร่งอยู่ได้ด้วยตัวเขาเอง
แล้วพวกเขาก็จะรวมกันเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ให้คุณค่าให้ความร่มรื่นตลอดไป



www.facebook.com/Flintlibrary 

"ขจรศักดิ์" 
แปลและเรียบเรียง
Credit: kknews.com
ที่มา 
https://www.winnews.tv/news/26370

ขอบคุณของแต่งบล็อก...

132
ญามี่  / June July August / ชมพร  / เรือนเรไร  /  oranuch_sri / goffymew / Zairill




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2562
2 comments
Last Update : 8 สิงหาคม 2562 8:30:38 น.
Counter : 1449 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนกสีเทา, คุณSweet_pills

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Topical Blog ดู Blog
จันทร์ใส Topical Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
Turtle Came to See Me Klaibann Blog ดู Blog

ขอบคุณที่นำมาฝากค่ะ

 

โดย: นกสีเทา 8 สิงหาคม 2562 10:13:58 น.  

 

การสอนลูกมีประโยชน์มาก
ขอบคุณนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 9 สิงหาคม 2562 0:32:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.