Hello People ... !!!

ข้าวยำ@น้ำบูดู
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน
ถ้ามองจากตรงนี้
เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง
อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ
หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น
สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน
ไม่ได้ไกลที่ไหน อยู่แค่นี้เอง

อยู่แค่นี้เอง
อยู่แค่นี้เอง
อยู่แค่นี้เอง
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ข้าวยำ@น้ำบูดู's blog to your web]
Links
 

 

One MoMenT in TiMe

เมืองกระบี่เป็นเมืองน่ารัก..

 
มีภูเขาสวยๆที่เวลาฝนตก ก็ปล่อยให้เมฆฝนลอยอ้อยอิ่งเลาะตามชายเขา


เป็นสายหมอกบางๆ..สวย..จับใจ..


มีทะเลที่สีสรรเจิดจ้ายามแดดส่องกระทบจากท้องฟ้า

ท้องทะเลเป็นประกายระยิบแดด สวยราวกับมีคนเทเพชรพลอยสีฟ้าเงินลงไปบนผิวน้ำ

 

กระบี่..เมืองที่หยุดนิ่งไร้การรุกรานของตึกสูงเสียดฟ้า

ผู้คนมีชีวิตที่เรียบง่าย

กระบี่ช่างเป็นเมืองที่น่ารักในสายตาของฉัน...

และฉันก็ได้เจอคนน่ารักที่กระบี่...

คนน่ารักที่อายุห่างกว่ากันเกินหนึ่งรอบ....


คนน่ารักตัวเล็กๆที่ชื่อ”แพท”


ฉันเห็นแพทเป็นน้องที่มีอารมณ์ดี

ยิ้มกวนๆ ถ้อยคำหัวเราะสนุกๆ

อารมณ์ขำๆทำให้แพทพาตัวเข้ามาใกล้ฉันได้ไม่ยาก

หรือบางทีอาจจะเป็นฉันที่ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้

เพราะติดใจในความสดใสของแพทก็เป็นได้



ในกลุ่มของผู้คนที่รายรอบแพทและฉันเป็นกลุ่มเดียวกัน

เรากิน เราเที่ยว และเราพูดคุย...

ต่างทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นในเวลาอันสั้น

และเป็นเวลาเดียวกันที่ฉันแสนจะสับสนเรื่องหัวใจกับคนไกล...


ก่อนหน้าจะมากระบี่..เป็นช่วงเวลาที่หัวใจอยากจะเปิดรับความรู้สึกดีๆ

จนกระทั่งมาเริ่มเรื่องราวมากมายกับคนไกลในช่วงต้นของการใช้ชีวิตที่กระบี่..

แต่แล้วก็ต้องหยุดไว้ เมื่อฉันกลายเป็นคนที่ใช่ในวันที่ผิดของคนไกลคนนั้น...

เพราะใจมันเคยได้เรียนรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า

หากเราเริ่มต้นผิด เรื่องราวต่างๆจะไม่มีวันจบด้วยคำว่าถูก..

ในขณะที่อารมณ์ของตัวเองและหัวใจของคนไกลยื้อฉันไว้


แต่เหตุผลและความเป็นจริงตะโกนบอกให้ฉันเดินออกมา ..

โชคดีที่เป็นอีกครั้ง ที่ความเป็นจริงและเหตุผลชนะอารมณ์

และใจอีกใจไม่อาจเหนี่ยวรั้งฉันไว้จากความรู้สึกผิดชอบ..ชั่วดี..


และในขณะเดียวกันที่ฉันพาตัวเองไกลห่างใครบางคน
มารู้สึกตัวอีกที ฉันก็อยู่ชิดใครอีกคนเข้าให้แล้ว..

ในค่ำคืนที่ฉันรู้ตัวว่าฉันกำลังอยู่ใกล้แพทเกินควร

และไม่อาจทนความสับสนของใจได้

ไม่...แม้แต่จะสามารถจัดระเบียบความคิดของตัวเองได้..

ไม่รู้แน่ชัด..ว่าใจตัวเองต้องการอะไร

ไม่รู้แน่ชัด..ว่าแพทพาตัวเองเข้ามาใกล้ฉันเพื่ออะไร..

ฉันแยกจากแพทที่โรงหนัง.. และจงใจขับรถทิ้งจังหวะ

เพื่อแยกกับแพทและตั้งใจไม่ให้เขาตามมาได้


ในเสิ้ยวนาทีที่ทำให้แพทคลาดรถฉันไป ..

ฉันก็พบตัวเองขับรถช้าๆอยู่บนนถนนที่มีแสงไฟริมน้ำ

แต่ก็ยังไม่พบว่าสามารถพูดคุยกับตัวเองได้

ปล่อยเวลาไปชั่วครู่.... จึงตัดสินใจไปหาที่นั่งในร้านเล็กๆ..

สั่งเครื่องดื่มให้ตัวเอง ...ถอนหายใจช้าๆ ยาวๆ

ใช้เวลากับการสงบจิตใจและได้มีโอกาสที่จะเริ่มคิดหาคำตอบของใจ

 

ในจังหวะที่ใจเริ่มเบา..

เงยหน้าขึ้นมาหัวใจก็กลับสับสนขึ้นมาใหม่ ..

เมื่อเจอหน้าเล็กๆพร้อมรอยยิ้มของแพทอยู่ตรงหน้า...

หลังจากนิ่งงันไปอึดใจ..หัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะ

แล้วจากนั้นฉันก็พบว่าฉันไม่สามารถได้มีโอกาสทบทวนความคิดกับตัวเองเงียบๆอีกแล้ว...

แต่ยังคงเก็บความสงสัยว่า ในเมืองที่มีร้านมากเกินกว่าจะนับนิ้วได้

แพทรู้ได้อย่างไร ว่าฉันมาอยู่ที่ตรงนี้?


ด้วยความสงสัย.. ฉันได้ถามแพทออกไปหลังจากค่ำคืนนั้นพ้นผ่าน...

ว่าตอนแรกที่ตั้งใจให้แพทไปอีกทาง แพทก็ไปแล้ว

แล้วแพทหาฉันเจอได้อย่างไร?

คำตอบจากปากของคนที่อายุห่างกันกว่าสิบปี ทำเอาฉันอึ้งไป

 

แพทมองหน้าฉันนิ่งๆ แล้วพูดว่า...

“พี่.. พ่อแพทเคยบอกว่า ถ้าเราเจอคนเดินเร็วมากๆ หรือวิ่งได้เร็วมากๆ ..

การจะไปให้ทันเขา เราไม่จำเป็นต้องเดินให้เร็วเท่าเขา หรือวิ่งให้เร็วเท่าเขา

แต่แค่เราจะต้องรู้ว่าเขาจะไปที่ไหน.. แค่นั้นก็พอ..”


ฉันเอง..สินะ..ที่กลับเป็นคนที่..เดินเร็ว.. วิ่งเร็ว.. แต่ตามหัวใจตัวเองไม่เคยทัน
แต่วันนั้น มีคนตามหัวใจฉันทัน ก่อนที่ฉันจะไปถึงมันเสียอีก...

 

หลังจากวันนั้นแพทยังคงพาตัวเองเข้ามาอยู่ใกล้ๆฉันอย่างไม่ลดละ..

และในเย็นวันหนึ่งก่อนพระอาทิตย์จะลับลงไปในน้ำทะเล

แพทพาฉันไปนั่งอยู่บนร้านอาหารแสนสวยที่อยู่สูงสุดบนเนินเขา

ตอนที่สายตาทอดจับไปที่ท้องฟ้ากว้างไกลสุดตาจรดกับน้ำทะเล..

ฉันถามแพทออกไปว่า..

ทำไมแพทกล้าที่จะทำ ....กล้าที่จะเข้ามา ..

ด้วยความต่างแสนต่าง และห่างแสนห่างทั้งหลายของเราสองคน

แพทไม่กลัวบ้างหรืออย่างไร แล้วถ้าทำสำเร็จแพทคิดถึงปัญหาที่จะตามมาบ้างไหม?...


 

แพทจับมือฉันแล้วชี้ให้ดูต้นไม้ไกลๆริมหน้าผา แล้วพูดกับฉันว่า

”พี่เห็นต้นไม้นั่นไหม. แพทไม่ได้มีวิธีคิดแบบพี่..

ถ้าแพทอยากได้มัน แพทไม่สนหรอกว่า กว่าจะไปถึงตรงนั้นมันจะเป็นยังไง

แล้วเมื่อถึงตรงนั้นแล้วมันจะเป็นยังไง

ในหัวแพทจะเป็น mind map ที่แพทเรียกมันว่า dot to dot

แพทก็แค่ก้าวไปจากจุดๆหนึ่งให้ถึงจุดๆหนึ่ง

ก้าวทีละก้าว.. ก้าวไปเรื่อยๆ..

ก้าวไป...จนกว่าจะไปถึงต้นไม้นั่น

...วันๆหนึ่งคนเรามันก้าวไม่ได้มากหรอกพี่

มันก็จะมีแค่ คุณจะก้าวยาวๆ.. หรือ..

คุณจะก้าวสั้นๆแล้วก้าวเร็วๆ

มันก็มีแค่นั้น

แล้วคุณก็ก้าวไปตามจังหวะของมันทีละจุด..

จนกว่าเราจะถึงสิ่งที่เราต้องการ

 

แล้วถ้าเราเจออะไรที่ใช่แล้ว

ทำไมเราต้องคิดอะไรให้มันมากด้วย

เราก็แค่ต้องลองดู

ไม่ เสี่ยง มัน ก็ ไม่ มี วัน ได้ อยู่ แล้ว

ก็แค่ต้องลองเสี่ยงดู ได้มามันก็คุ้มค่า

ชีวิตมันก็มีแค่นี้แหละพี่.......

แพทจบคำพูดกับตัวเอง พร้อมๆกับที่ฉันหันกลับไปมอง..

ใต้แสงไฟ..

ฉันเห็นแววตาที่นิ่งและจริงจังของแพท..

ทอ ประ กาย อยู่ ตรง นั้น


เวลาล่วงเลยผ่าน คล้ายจะบินได้..

แล้วอีกไม่กี่วัน.. ชีวิตฉันก็จะเดินทางไปจากเมืองน่ารัก...

ไปจากเมืองของภูเขาและทะเลแสนสวยของกระบี่

ไปยังเมืองของตึกสูง และไปสู่เมืองของภูเขาและดอกไม้..

และจากนั้นก็จะไปตามแต่จังหวะชีวิตจะพาไป..

แต่ยิ่งนับวัน..

ก็จะยิ่งไปไกลจากเมืองน่ารักที่ชื่อกระบี่..

ไกลจากคนน่ารักที่ชื่อแพท..


และบางที..

คงจะไกลจากใจของตัวเอง..ด้วยเหมือนกัน

เขียนให้ความทรงจำที่ชื่อ”แพท”

เขียนที่กระบี่ ..หน้าฝน มิถุนายน 2555..




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 1 กรกฎาคม 2555 0:38:52 น.
Counter : 633 Pageviews.  

..”ความเป็นจริงส่งเสียงดังจนความฝันต้องตื่น”...

หัวหินปลายหนาว..
ลมหนาวและความเหงาพาใครบางคนเข้ามาในสายตา..
ใครบางคนที่แค่เห็น...ก็เป็นสุข ..
อยากจะรู้จักมากกว่าที่เห็น
อยากจะค้นหาบางสิ่งในความนิ่งเฉยนั้น..


วันเวลาทำให้ลมหนาวผ่านไป
จนสายลมเย็นแปรเปลี่ยนเป็นลมร้อนที่พัดมาจากท้องฟ้าที่เจิดจ้าไปด้วยแสงอาทิตย์
ฉันยังไม่อาจขยับตัวเองเข้าไปค้นหาบางสิ่ง..
ยังคงเป็นเพียง แค่ได้เห็นก็เป็นสุข..


แล้ววันเวลาก็พาลมร้อนลาจากท้องฟ้า
และฉันก็ลาจากหัวหินมา
เพื่อมาพบพานฝนฉ่ำฟ้าที่เมืองเล็กๆทางตอนใต้..
ท้องฟ้าสีขาวแกมเทา ฉ่ำไปด้วยไอฝน
และละอองน้ำที่ม้วนตัวกลายเป็นหมอกหนาลอยโอบกอดตามชายเขา..

ฉันมองภาพแสนสวยนั้น ทั้งวัน..ทุกวัน....
ทำให้ใจแสนเหงา
พร้อมด้วยความเบาของใจที่ไม่ต้องแบกรับงานหรือความรับผิดชอบอื่นใด..
ทำให้อยากจะค้นหาอะไรบางอย่าง อย่างตั้งใจอีกครั้ง..
อยากเป็นสุข..มากกว่าแค่ได้เห็น....


เครื่องมือสื่อสารที่ทำให้เราไม่จำเป็นจะต้องพูดคุยอย่างเป็นทางการ
ถูกทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างฉันกับคนไกล
ข้อความทักทายสั้นๆที่ถูกส่งไป
เริ่มด้วยเรื่องของหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างกัน...
จากหนึ่งข้อความ เป็นสอง และสาม
ตามด้วยบทสนทนาที่ยาวขึ้น ตามความรู้สึกของใจ ..

เวลาผ่านไป..
วัน และวัน..
อาทิตย์และอาทิตย์ ..
ไม่มีใครฉุดใคร
และฉัน..ก็ไม่ฉุดรั้งหัวใจ..


เวลาที่แสนจะอ่อนหวานของคนไกลกัน
เวลาที่ความรู้สึกดีๆมาห้อมล้อมหัวใจ
และโอบกอดเราไว้จากโลกแห่งความเป็นจริง
เป็นวันเวลาที่แสนประหลาด ..
เป็นความรู้สึกที่แสนจะทรงพลัง...
ฉันปล่อยให้ใจเดินเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกแสนหวาน ..

ค้นหา ค้นหา ..และ ค้นหา..


จนกระทั่งพบว่า..
ความรู้สึกที่เดินทางล่วงหน้าไปเสียแสนไกลแล้ว
ไปหยุดอยู่บนทางที่สิ้นสุดลง..
ไม่มีทางให้ไปต่อ....
ด้วยคนไกล..ไม่มีพื้นที่ว่างของใจ..


ฉันดึงตัวเองออกมาจากความรู้สึกแสนหวาน
ที่เป็นกาวดักใจอย่างยากเย็น
คนไกลไม่ได้ช่วยให้อะไรๆง่ายขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น..
ฉันปล่อยให้..คนยื้อใจ.. และใจฉันก็เอนไป..


ความรู้สึกพัดพาฉันไปไกลเกินกว่าจะรู้ตัว..
จากคนไกล..มาได้เห็น..ได้พบ
ได้สบตา.. ได้อยู่ตรงหน้า..
ได้เห็น ได้สัมผัส..
ได้มีความทรงจำในเสี้ยวเล็กๆของชีวิต..

ในวันที่มือจับมือ ใจอยู่ข้างใจ..
แต่จนแล้วจนรอด..ฉันก็ไม่อาจทนให้หัวใจอยู่คียงข้างใคร
ด้วยไม่มีพื้นที่ใดๆให้ฉันเข้าไปอยู่ได้..

พื้นที่ของใจนั้นไม่มีที่ว่างเสียแล้ว..


ในเมื่อความเป็นจริงตะโกนอยู่ตรงหน้า
และดังกว่าเสียงของความฝัน..
ปลุกฉันตื่น..และพาฉันเดินออกมา..

ไม่อยากจะเดินหน้าค้นหา..
ด้วยไม่มีทางใดให้เดินเพื่อจะค้นหาอีกต่อไป..


ฉันหอบความฝันไว้เต็มอ้อมแขน..
เดินกลับมาในชีวิตของตัวเอง..
เปิดกล่องว่างเปล่า.. วางมันลง..

ทอดสายตามองความฝันที่ยังหลับสบายดี
ก่อนจะปิดกล่องอย่างสนิทแน่นหนา...
แล้วหันหน้ามาเจอกับความจริงของชีวิต..


อีกหน่อยฝนก็จะผ่านฟ้า..
คืนวันจะหมุนผ่านไป..
ชีวิตจะมีแต่เดินไปข้างหน้า..
และจะไม่มีวันจะย้อนกลับมา..


ชีวิตก็คงเป็นอย่างนี้...
ฉันไม่เสียใจที่บางสิ่งต้องจบลงไป
ไม่เป็นอย่างที่ฝันไว้
เพราะอย่างน้อย...นั่นก็หมายความว่า..
มันได้เคยเกิดขึ้นมา..และมีอยู่จริง..ในช่วงขณะหนึ่ง..


เขียนให้สิ่งดี..ดี.. ที่เกิดขึ้น ผิดที่..ผิดเวลา แต่มีคุณค่า ให้เก็บไว้ในความทรงจำ ต้นฤดูฝน พฤษภา-มิถุนา 2555 @กระบี่




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2555    
Last Update : 20 มิถุนายน 2555 18:49:03 น.
Counter : 716 Pageviews.  

ทำสิ่งที่ดีกับคนที่รัก

จะวันเกิดอีกแล้วSmiley

มานั่งนึกถึงสิ่งที่อยากทำในปีนี้ และพอจะเป็นไปได้ เพื่อตั้งเป้าหมายให้ทำ

คืออยากมีเวลาอยู่กับคนที่รักSmileyเรา


แต่เนื่องจากงานทำให้ไม่ได้ทำอย่างนั้นเลย

กลายเป็นว่าสามสี่เดือนที่ผ่านมา มีแต่เพื่อนแวะเวียนกันมาหาถึงที่นี่

แต่ละกลุ่มที่มา มากันเกิน2ครั้ง บางกลุ่มมาไกลเกิน1,000กิโลเมตร

มาเพราะรู้ว่าเราต้องการกำลังใจ

มาเพราะรู้ว่าเราอยู่แบบ"ไม่ไหวแล้ว"

 

จึงเป็นที่มาของความตั้งใจ

พาคนที่รักเราไปเที่ยว ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสักสามวันสองคืน

คาดว่างานนี้คงจะมีประมาณ20คนที่จะไปด้วยกัน

 

เราจะพาเขาเที่ยวสิงคโปร์

พาไปนั่ง singapore flyer พาไปดูเจ้าเมอร์ไลอ้อนพ่นน้ำ

พาไปกินปูยักษ์อร่อยๆที่ร้านจัมโบ้

พาหลานๆไปดูโลกมายาของ universal theater

และโชว์เชยๆใน night safari

พากันไปเสี่ยงโชคพอให้ตื่นเต้นในcasino และนั่งกระเช้าไฟฟ้า

 

ตุลาคมนี้นะ ตุลาคมนี้ รอกันหน่อย

Smiley

 




 

Create Date : 29 เมษายน 2555    
Last Update : 29 เมษายน 2555 15:56:38 น.
Counter : 567 Pageviews.  

จากรุ่นสู่รุ่น

เมื่อวาน มีครอบครัวเพื่อนรัก4ครอบครัว มาหาถึงหัวหิน

น่าจะเพราะภาษิตที่ว่า เมื่อขุนเขาเดินหาเราไม่ได้

เราก็เดินมาหาขุนเขาเสียเลย 555





พอรถตู้เปิดประตูลงที่ชายหาด

เราได้เจอผลผลิตตัวเล็กๆเรียงรายพร้อมเสียงเจื้อยแจ้ว

บางหน่วยที่กล้าหน่อยและพอจำกันได้จากการเจอหน้าเพียงสองครั้ง

(ครั้งละไม่เกิน2ชั่วโมงเมื่อปีที่ผ่านมา)

กระโดดเข้าหาและยกตัวให้อุ้มในทันที

พร้อมกับส่งเสียงเล็กๆไม่ขาดปาก



ในมื้อเย็นริมทะเลคืนนั้น

เราก็ได้ศิษย์หลานในการถ่ายทอดวิทยายุทธ์แกะปูนึ่งอย่างสนุกสนาน

เจ้าตัวเล็กๆสนใจใฝ่รู้และแกะ-แกะ-แกะ

จนปูหลายต่อหลายกิโลที่วางสุมอยู่เต็มถาด หายไปในพริบตา

มีเพื่อนๆของเราที่เคยเป็นขาแสบฝูงใหญ่ในกาลที่ผ่านมา

แต่ในวันนี้ได้แปลงกลายเป็นพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบได้อย่างน่าอัศจรรย์

ต่างเฝ้ามองดูเจ้าตัวเล็กพวกนี้อย่างอิ่มสุข





คืนที่พระจันทร์หม่นบนฟ้า และชายทะเลไม่มีลมเย็น...

หากแต่การนั่งริมทะเลกับกลุ่มเพื่อนที่เรารู้ตัวว่าเป็นที่รักของพวกเขา

และรักอย่างไม่มีข้อแม้ว่าเราจะเป็นอย่างไรแบบไหน

เป็นคืนที่รู้สึกเหมือนได้มีฝนเย็นๆจากฟ้าตกลงมาบนทะเลทราย

ใจที่หม่นหมองมานานได้มีโอกาสเปิดรับความสดใส

เสียงหัวเราะของเจ้าตัวเล็กๆ

ทำให้เป็นคืนที่หัวใจเปี่ยมไปด้วยความสุขล้น





เช้านี้ขณะกำลังนั่งในห้องทำงาน

มีข้อความเรียกให้เดินออกไปที่ด้านนอก..

แล้วก็เจอเจ้าตัวเล็กๆวิ่งเข้ามาล้อมรอบตัว

เพื่อมาบอกลาก่อนเดินทางกลับ

..บางแขนกางเข้ามาโอบกอด..

..บางมือเข้ามาจับจูงให้เราพาเดินไป..

เรากอดตอบและจับต้องมือเล็กๆของเจ้าตัวเล็กๆ

ด้วยความรู้สึกเหมือนมีดอกไม้บานในหัวใจ ..



เป็นที่ตระหนักแน่แท้แล้วในวันนี้

ว่าบางที...หนูตัวเล็กๆ

ก็ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บใหญ่ๆของเจ้าราชสีห์ได้ดีเหมือนกัน





เขียนเพื่อเก็บไว้ระลึกถึง วัน-คืนที่ดีๆ ที่มีความรักจากเพื่อน และจากสายใยรักของเพื่อน ที่ถ่ายทอดความรักเราส่งต่อรุ่นลูกของเขาได้อย่างมหัศจรรย์




 

Create Date : 30 มีนาคม 2555    
Last Update : 30 มีนาคม 2555 16:35:49 น.
Counter : 563 Pageviews.  

มีนาคม (สักวันหนึ่ง)

มีเวลาน้อยนิด เลยหันมาจัดการ Blog

ปัดกวาด เก็บและจัดการพื้นที่ เพราะจะพยายามมาบันทึกสั้นๆไว้
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นพัฒนาการของชีวิตในปีนี้...
เพราะประเดิมปีด้วยความเสียใจ ด้วยความเจ็บปวด
"โดนทิ้งค่ะ โดนทิ้ง"


อายุเท่านี้ก็เจ็บค่ะ หากมีใครบอกว่าโดนบ่อยๆจะมีภูมิต้านทาน
ทำให้รับมือได้ง่ายขึ้น

มันโกหกกกกกกกกกกค่าคุณ
โดนทีไร เจ็บน้ำตาไหลทุกทีสินะคะ

ความรักร่วง งานก็แป้กค่ะ .. ข้างนอกมองเหมือนดี๊ดีนะคะ
ได้งานที่คนจำนวนมากมายในองค์กรใฝ่ฝัน อยากมาทำตรงนี้
เป็นที่อิจฉาสารพัด มีแต่คนเยินยอว่าเก่ง ว่าดี
โอ๊ยยยยยยยยย ของแบบนี้ต้องมาเป็นเองแล้วจะรู้สึกค่า
งานมันโหด หิน หืด สุดๆหน่ะเอ๊ออออ


และยังไม่พอค่ะ ยังๆๆๆ
เพื่อนที่รักที่สุดคนหนึ่งก็มาทรยศหักหลังซะอย่างนั้น
อันนี้ช้ำจนน้ำใบบัวบกก็แก้ไม่หายนะคะ
เอาเข้าไป !! ได้อีก ได้อีกกกกกกกกกกกก

จิตใจขนาดนั้น.. ร่างกายไม่ต้องพูดถึงค่ะ ป่วยadmitกันเลยทีเดียว
ชนิดที่วันเข็นเข้าห้องโรงพยาบาลนั่นไม่รู้สึกตัวแล้ว
เพราะไข้สูงปรี๊ดดดได้ยากันไป3คืน
พอให้แบกสังขารออกมาเจอกับเรื่องช้ำๆได้ต่อไป





เอาๆๆๆ ไม่เป็นไร Now, I am back !!!!

เปล่า..ไม่ได้กลับมามีแฟนหวานแหววเข้าอกเข้าใจ
งานไม่ได้กลับมาราบรื่น
สุขภาพไม่ได้ฟิตเปรี๊ยะหรอกค่ะ

แต่ที่กลับมา คือ กำลังใจและทัศนคติที่ดี ...
มันกลับมาแล้วค่ะ มันมาเพราะเป็นธรรมชาติของเราค่ะ
เราทุกข์ได้ไม่นาน
เราไม่อยากให้คนรอบตัวทุกข์กับเราด้วย
เราไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วง
เราไม่อยากให้เพื่อนที่รักเป็นห่วง
เราไม่อยากให้ตัวเองมองแต่ข้างหลังและจมอยู่กับทุกข์

มันมีบ้างระหว่างวันที่เรื่องต่างๆมันมากระทบใจ
มันก็ยัง"ร่วงๆ"อยู่บ้างค่ะ
แต่เมื่อเรารู้ทันใจ เราก็พยายามมองไปข้างหน้านะคะ

บอกตัวเองให้มองคนที่เขายื่นมือมาพยุง
มากกว่าเฝ้ามองหาคนที่เดินจากไปค่ะ


ชีวิตไม่มีทางเลือกให้เรามากนัก
แทบทุกครั้งที่ชะตากรรมโยนอะไรให้เรา ก็ต้องรับไว้
เหลือทางเดียวที่ทำได้ คือ"ใจ" ค่ะ

ปาด น้ำ ตา แล้ว ยิ้ม ซะ
ถ้ามันจะยังไหล ก็บอกกับตัวเองว่า
แล้วมันก็จะหยุดสักวันหนึ่ง

สักวันหนึ่งนับจากวันนี้ ในปีนี้
จะเป็นวันที่ดีของเราค่ะ

สัก วัน หนึ่ง




 

Create Date : 07 มีนาคม 2555    
Last Update : 7 มีนาคม 2555 17:34:03 น.
Counter : 559 Pageviews.  

1  2  3  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.