สำเพ็งที่รัก
วันนี้ตื่นมาอย่างกระปรี้กระเปร่า.. อะฮ้า.. วันหยุดๆๆๆ .. ดีใจ..เอิงเอย.. ตั้งแต่ทำงานแล้วหาโอกาสมีวันหยุดตรงกับสุดสัปดาห์ยากๆแล้วได้มาหยุดนี่รู้สึกมีคุณค่ามากๆ .. ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็นอนอืดดดด เกาพุงอยู่กับบ้าน ด้วยไม่ค่อยจะเห็นค่าวันหยุด แต่บัดนี้.. โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ววววว..ฮ่าๆๆๆ .. ทำงานหนักมากเช่นนี้ การได้หยุดแค่วันเดียวต่อสัปดาห์ ช่างมีคุณค่ายิ่งนัก!!! อยากทำนู่นทำนี่ไปหมดเล้ยยยย.. ตื่นตั้งแต่เช้า นัดเพื่อนไว้ว่าจะไปบางลำพู.. อยากไปธุระ .. ออกแต่เช้า รถไม่ติด โทรหาเพื่อนไม่รับสาย ..เอาว๊า ดันนัดไว้ใกล้เที่ยง ไปชอปปิ้งคนเดียวก่อนดีกว่าเนอะ .. สบายใจมากๆ ได้ซื้อของที่ตั้งใจไว้มานาน หลังจากนั้นเพื่อนโทรกลับมาพอดี .. ว่าแต่ .. ไปไหนดีหละเพื่อน ... บางลำพูฉานเดินกวาดมาโม๊ดดแล้ว.. ขับรถพลาง คิดๆๆๆพลาง.. โอ๊ววว จตุจักรก็อยากไป บองมาร์เช่ต์ก็อยากไป .. แต่.. จะปีใหม่แล้วนี่นา... ต้องหาของขวัญให้น้องที่ออฟฟิศ... โฮะๆๆๆๆ .. ที่ใดเล่าจะเหมาะเท่าที่สำเพ็ง.ง.ง.ง.งควักเพื่อนขึ้นรถ เพื่อนที่แสนดีก็เปลี่ยนคอสตูมในทันใดเมื่อรู้ว่าเป้าหมายได้เปลี่ยนไปแล้ว... จากบางลำพูแสนสบายจะไปเบียดฝูงชนที่สำเพ็ง แต่หลวมตัวเป็นเพื่อนเราแล้วก็ต้องไปกะเราดิ เหอๆมุ่งหน้าไปหาของขวัญกันเหอะๆๆๆๆเดินไปๆ.. เป็นอะไรไม่รู้ เห็นเป็นแบบเนี๊ยะทู๊กที .. อ้ายคนที่ตั้งใจไปไม่ยักกะใช่คนแรกที่ได้ของ... ครือว่า .. เพื่อนเราหน่ะ .. แต๊บอ้ายนี่มาก่อนเลย .. จะเอาไปทำสบู่ให้เจลลลล... กระเป๋าน้ำร้อน .. ต้นซอย 190 .. รู้สึกอันนี้จะได้กลางซอยที่ 170 โฮะๆๆๆๆ ประเดิมได้สวยยยจากนั้นก็ยังไม่ใช่คิวเราอีกแหละ.... เพื่อนฉานสอยริบบิ้นสีครีมๆนี่มาสองม้วน... เธอมีOrder เค้กปีใหม่ จะเอาไปผูกกล่องกิ๊บเก๋ตามประสาแม่ค้าpart time ฮิๆ .. ทุ่มเทกับขนมของตัวเองเหลือเกินนะเนี่ยยและแล้ว... ก็ประเดิมของตัวเองซักกะที .. แต่ไม่ยักใช่ของขวัญที่ตั้งใจมาหาแฮะ... เจอะหมอนสองใบ สวย(ในสายตาเรา) ราคาก็อยากจะกรี๊ดดังๆ ทั้งผ้าทั้งใยโพลี ค่าแรงค่าเย็บ ค่าขนส่ง ทำได้ไงยะ .. สองใบ ร้อยห้าสิบ... กรี๊ดดดดด .. ต้องสอยมาครอบครอง สวยป่ะค๊า พยักเพยิดกันเองสองคน สวยหว่ะๆๆๆ .. เพื่อนก็ไม่มีห้าม เห็นดีเห็นงามตามกัน .. สวยๆๆๆแก .. รถแกสีขาว เอาไปๆๆ เอาไปใส่รถถถถถถถถ .. ฮ่าๆๆ แล้วก็สำนึกทีหลัง.. หอบหมอนฟูๆสองใบฝ่าฝูงชนเนี่ยะนะ... เอาน่า... สวยนิ .. เอิ๊กกกกต่อมาก็เจอปากกา .. โอ๊ว โนวววว.. ไม่นะ .. มันไม่ใช่ของขวัญที่ชั้นตั้งใจมาซื้อนี่นา .. (เสียงในสมองกระซิบ) . . . เอ๊.. แต่มันถูกกกนะยะหล่อน ((เสียงในหัวใจตะโกน ... แล้วมันก็ออกมาที่ปาก .. ปู ปากกาๆๆ .. สะกิดเพื่อนให้ดู.. ... แน่นอน .. แน่นอน... และแล้วมันก็อยู่ในมือชั้น หันซ้าย หันขวา เข้าร้านโน้น ออกร้านนี้ ไม่มี๊ๆๆๆ ไม่มีของราคเหมาะสม บางอันสวย แต่แพง บางอันถูกแต่ยังไม่กรี๊ดอ่ะ .. หอบหมอนตุปัดตุเป๋ .. เบียดเสียดกะฝูงชน .. โอ๊ววว คนแน่นๆๆ .. สุดๆไปเลย เดินไปก็คิดไป ซื้อไรดีวะ .. เริ่มอยากให้เสร็จๆไป ร้อนเว้ยย คนเยอะเว้ยยย ฮือออออ .. และแล้ว... ก็เจอร้านติดแอร์ โอ้วววว ... ชั้นรักคนคิดค้นแอร์ ชั้นชอบบบบบบ.. ว่าแล้วก็ไปซื้อของสนองบุญคุณเจ้าของร้านกันหน่อยดีกว่า .. ฮิๆ ... เจอแล้วๆๆๆ ... กระเป๋าน่าร๊ากก ราคาเหลือเชื่อ .. อู๊วววว ให้เพื่อนร่วมงานปู้หยิง... สี่คนพอดีเลยง่า .. เอ๊.. หันไปหันมาอวดเพื่อน .. แน่นอน เพื่อนกัน .. ว่าไงว่าตามกัน... เธอดูไปดูมา น่ารักหว่ะ เออๆ สวยๆ ว่าแล้วก็คว้าแบบเดียวกะอิฉันไปอีกสามใบ ฮ่าๆๆๆๆๆ สบายใจไม๊เพื่อนนน ใบละห้าสิบเก้าบาท .. โอ้ววว แก๊งค์แมวเหมียวออกอาละวาดแล้ววววอันนี้ให้ดูหน้าตาเดี่ยวๆ .. ข้างในมีสองช่องแต่มีซิปเดียว ใส่มือถือ ใส่สตางค์ ใส่โน่น ใส่นี่ อโอ๊ววว น่าร๊ากไม๊ค๊า.. ทั้งราคาและรูปแบบ นุ่มนิ่มด้วยน๊าเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ รวมตั้งแต่ลงจากรถก็สามชั่วโมงกว่า .. หาของขวํญสำหรับน้องๆผู้ชายไม่ได้ .. รู้สึกเหมือนกันไหมคะ .. หาของให้ผู้หญิงนี่ง่ายกว่ากันเย๊อะ.. เดินจนจะทะลุเยาวราช .. แฮกๆๆๆๆ .. เอาซะทีเถ๊อะ ... หาอะไรๆพอได้ก็เอาแล้วววว ตรูอยากกลับบ้านนนนน ((เสียงเท้าประท้วงง)) หอบแฮ่กๆ ถือของที่ซื้อมาทั้งหมด.. เน้นว่าทั้งหมดดดดดดดดดด ... เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ .. ฮือๆๆๆ สุดท้าย .. ไม่ไหวแล้ว .. เจอร้านนี้ เอานี่แหละ .. แปดชิ้นค่า .. มาดูกันนะคะว่าได้อะไรมา.. ผ้าขนหนูไซส์แบบใช้เช็ดหน้าไม่ใหญ่มากหรอกค่ะ ราคาสบายกระเป๋าจริงๆ.. ฮิๆ..ตอนแรกก็ดูไปดูมา เลือกไปเลือกมากะให้เสร็จๆไปซักที .. แต่พอเอามาเรียงๆ.. โอ้ววว..ลายนี้ก็ดี ลายนั้นก็สวย เพื่อนเราก็ช๊วยช่วยเหลือดีจริงๆ.. เลือกมาให้ๆๆ .. เห้อออ สบายใจ ราคาสบายกระเป๋า ... ก่อนทายราคาดูทีละคู่นะคะ .. โฮ่ๆๆๆ อันนี้ลายสวยไหมคะนี่ลายจุด .. สีอ่อนหวาน แต่คงไม่อ่อนหวานเกินกว่าที่แมนๆจะใช้เนอะ ..นี่อีกชุดนึงค่ะ .. ดูไปดูมาก็สวยดี..เฉลยราคาดีกว่า .. กล่องละห้าสิบบาทค่ะ .. ของข้างในก็ธรรมดาแต่ยอมรับว่า package o.k เนอะ .. เห้ออออ .. เสร็จแล้วววววววววววว ดีใจๆๆๆๆๆ เดินไปหาแท็กซี่ไปส่งที่จอดรถเหอะ .. ไม่ไหวแล้วถ้าให้เดินฝ่ากลับไป .. ขอตายซะดีกว่าแต่สักหน่อยๆๆๆ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์มาถึงแล้วนี่ ขอแวะซื้อลูกพลับซักหน่อย โดนรถเข็นลูกพลับสะกดจิตเป็นระยะๆมาตลอดทาง.. ทนมิไหวค่ะ .. ฮิๆ .. เดี๋ยวนี้ปั๊ดต๊ะนาตัดโฟมเป็นแบบนี้ น่ารักจังๆๆ ((เดี๋ยวๆ ซื้อลูกพลับไม่ใช่เหรอยะหล่อน... โฟมหน่ะเดี๋ยวก็โยนทิ้งงง))กลับถึงบ้านเพื่อนนั่งห่อของขวัญเสร็จ ถ่ายภาพเอามาลงบล็อกเล่น ก็ได้เวลาข้าวเย็น .. ไปทานที่บองมาร์เช่ต์ หิวกันมากไปหน่อย ไม่ได้เก็บภาพมา แต่อาหารอร่อยทู๊กกอย่าง ..อากาศเย็นๆ นั่งสบายๆ .. สุดท้ายก่อนกลับก็ยังอุตส่าห์ได้ปลาดาวมาเลี้ยงสองตัวค่ะ .. น่าร๊ากกกก ใส่แล้วเหมือนใส่แหวนที่นิ้วหัวแม่โป้งเลยนะคะ .. บ้าเห่อมาก .. ใส่เดินกลับเลย..ปลาดาวกระทบแสงไฟ ว๊อบแว๊บๆ .. ชอบจังค่ะ .. จบสำเพ็งที่รัก ในวันที่แสนสนุกและเพื่อนที่แสนดีเท่านี้หละค่ะ ..มีความสุขจังเลยวันนี้... Another One Fine Day ...
เที่ยวถนนคนเดินที่ภูเก็ตเทศกาลผ่อต่อ(2)
กินกันให้กระจายยย แล้วเดินผึ่งพุงกันดีกว่านะคะ .. ต้นถนนมีร้านขายของตกแต่งของเทศกาลแบบจีนเป็นกระดาษตัด มีมังกรที่ตัดจากกระดาษสีแดงนีแขวนโชว์อยู่ สวยดีนะคะมีเวทีการแสดงต่างๆมากมายคึกคักกันเลยหละค่ะ .. เบื้องหลังเวทีการแสดงของเด็กๆที่เป็นวงดนตรีมีหางเครื่องสวยงามกิจกรรมให้เล่นสนุกมากมายเลยค่ะ .. อันนี้ปาเป้าเห็นมีถึงสองสามร้านเลยนะของคู่กันกะร้านปาเป้า.. สำหรับสิงห์แม่นปืนค่า.. ยิงกันให้กระจุยนี่ร้านสำหรับนักเสี่ยงดวงค่ะ ซื้อเหรียญไปวางตรงช่องที่ขีดๆไว้ ยี่สิบบาทได้ห้าหกเหรียญประณนั้น แล้วก็จับไม้บรรทัดอันยาวๆตรงกลางหมุนๆ ถ้าไม้บรรทัดหมุนไปหยุดชี้ที่ช่องวางเหรียญไว้ก็จะได้นาฬิกาตรงช่องนั้นไปค่ะจะเลือกชอปปิ้งให้เพลิดเพลินก็ได้ค่ะ ของขายมากมายไปหมด.. เด็กๆร่ำร้องจะเอาของเล่นก็มีขายแยะแบบนี้ สีสรรล่อตาล่อใจคุณป้าคนนี้ก็ทำลูกโป่งบิดๆออกมาเป็นรูปร่างต่างๆ ขายกันมือเป็นระวิงเลยเชียวค่ะอันนี้ถ่ายมาเพราะชอบสีสวยๆกับการเรียงค่ะ น่ารักดีเดินๆไป พบอีกเวที.. คนเนืองแน่นอดไม่ได้เลยยื่นหน้ายื่นตาดูว่าใครขึ้นแสดงหนอฝูงชนถึงมากมายเพียงนี้.. เลยเก็บภาพมาแบบไม่ชัดเพราะถ่ายจากระยะไกลมาก ฝาคนไปหน้าเวทีไม่ไหวค่ะ น้องแก้ม The Star ขวัญใจคนภูเก็ตนี่เอง.. เสียงดีจังส่วนอันนี้ก็อีกเวทีนึงค่ะ ... ชอบจัง.. เวทีรองเง็งค่า .. ดูคุณป้าเต้นๆกันแล้วท่าทางจะทำด้วยใจรักจริงๆนะคะ เป็นการอนุรักษ์การแสดงพื้นบ้านค่ะ ได้มาอีกภาพ.. ประชันเวลาเดียวกะน้องแก้มเลยนะเนี่ยย คนดูไม่น้อยเหมือนกันค่ะก่อนกลับบ้าน แวะซื้อผลิตภัณฑ์งานฝีมือท้องถิ่นกันสักหน่อยไหมคะ ภาพแกะจากหนังสัตว์ค่ะฝีมือละเอียดสีสวยงาม เสียดายถ่ายมาไม่ชัดค่ะภาพหมดแล้วค่า ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมบล็อกนะคะ .. โอกาสหน้าเจอกันอีกทีเมื่ออิชั้นสะดวก .. แหะๆ .. ทิ้งท้ายไว้ด้วยภาพหาดราไวย์ยามบ่ายค่ะ
เที่ยวถนนคนเดินที่ภูเก็ตเทศกาลผ่อต่อ(1)ภาคของกิน
มาปัดหยากไย่ในบล็อก หลังจากร้างไปเป็นปีๆ ... แหะๆ ..สองเดือนก่อนไปใช้แรงงานอยู่ภูเก็ต แทบจะไม่มีเวลาไปชมนกชมไม้ให้สมใจอยากเลย... ได้ไปนู่นิดนี่หน่อยเพราะงานเยอะเหลื๊อเกินค่า ... เลยเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกในบล็อกของตัวเองจั๊กหน่อยจิ..มีโอกาสช่วงเลิกงานตอนดึกๆ น้องๆที่ทำงานพาไปเดนงานประจำปีของภูเก็ตชื่องานผ่อต่อ ไม่ได้รู้อะไรมากเท่าไหร่ น้องๆบอกแค่ว่ามีถนนคนเดินกะของกินพื้นบ้าน แค่นี้คนตะกละอย่าเราก็ตาลุกวาวซะแร้ววจิ.. จะมาโพสต์เลยหาข้อมูลมาพอเป็นน้ำจิ้มว่างานเทศกาลผ่อต่อคืออะไร ก็ได้มางูๆปลาๆ หากท่านที่สนใจรายละเอียกแนะนำให้ลองเสิร์ชหาความเป็นมาดูจะดีกว่าที่ลงไว้นะค๊า เนื่องจากเดือนเจ็ด (นับแบบจีน) ชาวจีนถือว่าเป็นเดือน ปล่อยวิญญาณประตูวิญญาณจะเปิดออก เพื่อให้เหล่าวิญญาณพเนจร ออกมาเที่ยวเล่นเป็นเวลา 1 เดือน ชาวจีนจึงร่วมกันจัดอาหารคาวหวานเซ่นไหว้ วิญญาณ และไหว้องค์ผ่อต่อกงที่ศาลเจ้าด้วยองค์ผ่อต่อก้ง (กวนอูไต่สู่) คือภาคหนึ่งของเจ้าแม่กวนอิมแปลงร่างให้น่ากลัวเหมือนพญามาร เพื่อให้สามารถปราบเหล่าวิญญาณได้ เนื่องจากต้องไปโปรดสัตว์ในนรก ซึ่งท่านจะคอยดูแลเหล่าวิญญาณพเนจรทั้งหลายที่ขึ้นมาบนโลกมนุษย์นี้นี่ศาลเจ้าผ่อต่อกงค่ะเข้าไปข้างในคนจะเยอะมากต้องหาจังหวะดีๆ.. ถ่ายออกมาไม่ติดผู้คนแยะมากนักแต่ก็เต็มไปด้วยควันธูปค่ะ เทียนที่จุดดูสวยดีนะคะประเพณีนี้มี "ขนมเต่า" เป็นของเซ่นไหว้ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ในประเพณีนี้ ซึ่งเป็นขนมที่ทำจากแป้งสาลีผสมน้ำตาล ปั้นขึ้นเป็นตัวเต่าขนาดต่างๆกัน แล้วทาด้วยสีแดง การนำขนมเต่ามาเซ่นไหว้ เชื่อว่าเกิดจากการที่เต่าทะเลยักษ์โผล่ขึ้นจากทะเลลึก ช่วยพระถังซัมจั๋งให้รอดพ้นจากพายุตอนเดินทางอัญเชิญพระไตรปิฎก จึงนำมาเป็นของเซ่นไหว้เพื่อการระลึกถึง และเป็นเคล็ดให้อายุยืนยาวเหมือนเต่านั่นเอง .. รูปเต่าน้อยสีแดงค่ะบนตัวเต่าเท่าที่เห็นจะมีการเขียนคำมงคลต่างๆ เช่น วาสนา โชคดี เงิน ทอง มั่งมี ความรัก เป็นการอธิษฐานขอให้ผู้เซ่นไหว้ประสบโชคในเรื่องที่ขอ ส่วนเมื่อไหว้แล้วหากไม่นำกลับไปรับประทาน ก็จะขียนที่กระดาษรองตัวเต่าว่า ปล่อย ผู้ที่มาศาลเจ้ารายอื่นก็จะสามารถนำเต่าที่มีคำว่าปล่อยนี้กลับไปทำขนมรับประทานที่บ้านได้ โดยนิยมนำไปชุบไข่ทอดค่ะ รสชาติใกล้เคียงกับขนมเข่งชุบไข่ทอดเลย (ดูจากภาพแล้วเหมือนปูอัดชุบไข่ทอดนะคะ) หวาน นุ่มๆ เหนียวๆ ค่ะไม่ได้มีแต่เต่าน้อยนะคะ..เต่ายักษ์ก็มีค่ะ ลวดลายสวยเชียววว มากันเป็นกองทัพมากมายเต็มศาลเจ้าไปโม๊ดดออกจากศาลเจ้าเราไปหาขนมอร่อยๆทานดีกว่านะคะขนมอันนี้ใครรู้จักมั่งเอ่ยยยย เป็นแป้งทอดฟูๆ.. มีไส้กรอกอันจิ๊ดนึงอยู่ข้างใน ถ้าจำไม่ผิดเคยได้ยินคนเรียกอยู่สองชื่อนะคะ ... โป๊งเหน่ง และ ไมโครโฟน .. อันนี้ของกินเล่นพื้นเมืองค่ะ ... เจ้าลูกเหลืองๆนี่เป็นขนุนพันธ์พื้นเมือง เนื้อบางนิ่ม รสหวานจัดเรียกว่า จำปาดะ .. เข้าใจว่าเป็นอันเดียวกับขนุนละมุดของภาคกลางนะคะเอาไปชุบแป้งทอดออกมากรอบนอกนุ่มในหวานฉ่ำเคี้ยวเจอเม็ดขนุนมันๆหอมๆด้านในสุดค่ะป้ายอันนี้สะดุดตาเลยแวะเข้าไปดูสักหน่อย มันคืออะไรหนออขนมชื่อแมนๆแบบนี้หน้าตาจะเป็นไงเนี่ยย ทำบนเตาสี่ห้าอันมีฝาใบน้อยๆครอบ คนทำหยอดแป้งลงไปบนกระทะใบน้อยๆแล้วกรอกแป้งให้กลมด้วยความว่องไวเอาฝาปิด แล้วคอยไล่เปิดฝาดูขนมที่สุกกรอบหอม.. ไวจนเหมือนเล่นกลเลยหง่ะขนมสุกก็แซะออกมาม้วนให้กลมๆยาวๆ ชิมแล้วอร่อยดีค่ะ ครงขอบๆกรอบบางหอมหวานเหมือนทองม้วนแต่ตรงกลางนิ่มฟูเหมือนขนมถังแตก หวานน้อยๆอร่อยดีค่ะพูดถึงขนมถังแตกเดินมาอีกหน่อยก็เจอค่ะ ... ปรกติเคยชิมแต่ไส้ที่มีน้ำตาลผสมงคลุกมะพร้าว คราวนี้เจอไส้สังขยา แปลกดีนี่ขนมท้องถิ่นอีกเหมือนกัน น้องๆบอกว่าหวานๆมันๆกรอบๆทำจากแป้งทอดเป็นเส้นยาวๆได้ชื่อเหมือนหน้าตาขนมแหละค่ะ ชื่อขนมไส้ไก่กินขนมกันมากๆแล้วแวะทานน้ำหวานโบราณให้ชื่นใจนะคะ ชอบหัวจ่ายโซดาทำเป็นรูปรถน่ารักเชียวนิเริ่มของหนักกันดีกั่วเนาะ .. ดูเครื่องเคราเสียก่อนน อะไรเอ่ยยมีเผือกหั่นเต๋า กากหมู หอยนางรมตัวเล็กๆ ที่นี่เค้าเรียกหอยติบอ่ะค่ะ แล้วก็ลงมือผัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆด้วยสปีดสูงสุดเช่นนี้ออกมาเป็นโอต๊าว หรือหอยทอดของชาวภูเก็ตที่แสนอร่อยนี่แหละค่ะ นุ่มๆนิ่มๆไม่กรอบนะคะ หอมๆมันๆ เติมซีอิ๊ว พริกน้ำส้มได้ตามใจชอบ โรยหน้าด้วยกากหมูเจียวโอ๊ยยอร่อยสุดยอดดดหันมาอีกทางเจอแผงขายอะไรเนี่ยย เครื่องเครามากมาย ม้วนๆๆออกมาได้เปาะเปียะสดค่ะ ขายดิบขายดีแม่ค้าห่อกันไม่ทันคนซื้อเลยภูเก็ตติดทะเล ที่ถนนแห่งนี้ย่อมมีของกินเล่นแบบทะเลๆเก๋ๆให้กินด้วยนะคะ ของจริงเก๋กกว่าภาพที่ถ่ายมามากเลยค่ะ เป็นกุ้งวางเรียงอยู่บนช่อใบเล็บครุฑที่แผ่อย่างสวยงามแล้วนำไปทอด น้องๆบอกว่าเค้าเรียกว่า"เบือ"ค่ะกุ้งสดมาก หวานเนื้อแน่นเชี๊ยะเลยง่ะนี่high light เดินไปก็สอดส่ายสายตาหาไปด้วยเพราะเคยได้ทานที่ ตรังและกระบี่ก็ติดใจค่ะ ... เจอหน้าก็คว้ามาเลยหนึ่งถุง... หอยชักตีนลวกค่ะเจ้าหอยนี่เนื้อหวานกรอบไม่คาวเลย ทานเพลินมาก ตอนเปิดถุงได้กลิ่นจะหอมออกหวานๆเหมือนกลิ่นอ้อยควั่นเลยค่ะ .. วิธีทานก็แบบภาพข้างล่างนะคะ .. มันจะมีตรีนน้อยๆเหมือนตะขออยู่ข้างหน้าก็บรรจงเช็คแฮนด์กะตรีนมัน.. ดึงออกมาอย่างนุ่มนวล เด็ดตรงปลายทิ้งหน่อยแล้วก็เข้าปากหม่ำได้เลยค่ะ .. อ้อ ... ส่วนตรงตรีนจะแข็งนะคร๊า ห้ามรับประทานเข้าไปค่ะ ...นี่แผงขายอาหารประจำถิ่นค่ะ ... มาขายกะเค้าด้วย.. ดูเอาว่าอะรายยกินจนเหนื่อย มากินของเบาๆอีกสักสองอย่างแล้วไปชอปปิ้งกะเล่นเกมส์ในงานนี้ที่บล็อกหน้ากันเหอะค่าของเบาๆที่ว่าคือ ... แอ่น แอน แอ๊นนนนน เบาเจรงๆน้อ .. ข้าวเกรียบว่าวค่ะ คุณป้าก็ขายดิบขายดี ปิ้งกันม่ะทันเล้ยย.. ปิดท้ายด้วยขนมเบาๆสีสรรเย้ายวนใจ แล้วไปเดินเที่ยวกันต่อในบล็อกหน้านะคะ
หายไปไหนๆๆๆ
ทิ้งบล็อกไปซะน๊าน นานนน วันนี้เลยเข้ามาซักหน่อยจะ ฝุ่นเยอะเชียว ฮ่าๆ ..มีคนถามมาหลังไมค์ว่าหายหน้าไปไหนๆๆๆ.. ส่งข่าวตรงนี้เลยจ้ะ ...คือว่าที่ผ่านมาหน่ะยุ๊ง..ยุ่ง ฟังดูเหมือนแก้ตัวเนอะ เล่าให้ฟังดีกว่า ... 1.รถเสียเริ่มมาจากว่า.. อยู่ดีๆ ..รถที่เพิ่งซื้อมา1ปี ก็เครื่องดับไปซะดื้อๆ .. รอสักพักก็ติด เอาไปเปลี่ยนแบตตารี่ก็ไม่หาย... เข้าศูนย์ไปสองสามครั้งเลยเพิ่งได้รู้ว่าเป็นที่ปั๊มน้ำมัน โชคดี(หรือเปล่า?) ที่ได้เคลมอะไหล่ฟรีค่ะ .. เสียเวลาหน่อยเท่านั้นเอง2 Note BOok เสีย Note BOok ที่ใช้มาห้าปี.. ก็เกิดอาการหน้าจอดำคล้ำประหนึ่งโดนของ เช็คไปก็มัปัญหาเรื่องสายไฟอะไรไม่รู้ ยุ่งขิงไปโม๊ดด .. ทาง IT ของบริษัทที่ช่วยเช็คให้ก็บอกว่า ซื้อใหม่เถิดพี่ เห้ออออ...3 มือถือและความรู้สึกเสียเรื่องเสียตังค์ยังไม่จบค่า .. Nokia เกิดหน้าจอมีปัญหาสีเพี้ยนกับเป็นเส้นๆหน่อยๆ ยังอยู่ในระยะประกันซะด้วย เลยเข้าศูนย์ Nokia Care ที่ Esplanade ซะเลย .. เข้าไปที่ศูนย์บริการดี๊ดี ถามเบอร์โทรไว้ซะสองเบอร์ บอกว่าถ้าโทรไม่ติดเบอร์แรกจะติดต่อไปเบอร์ที่สอง ถามอีเมล์เราด้วยในกรณีโทรไม่ติดสองเบอร์ โหยยย สุดยอด CRM เจ๋งเมิ่ก พร้มแจ้งรายละเอียดว่าจะทราบว่ามือถือเป็นอะไรภายในสองวัน ... ประทับใจๆๆๆและแล้วหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปสี่วัน .. ก็ไม่มีเสียงเรียกจากสวรรค์ เอ้ยย Nokia Care เราเลยต้องไปที่ Esplanade เพื่อสอบถามด้วยตัวเอง.. เจ้าหน้าทีจิ้มๆดูในคอมฯแล้วบอกว่าประเมินค่าซ่อมแล้ว รายละเอียดในนั้นบอกว่าพนักงานโทรติดต่อเจ้าของมือถือแล้วแต่ไม่มีคนรับสาย (โทรเบอร์แรกเบอร์เดียว) พอเราถามว่างั้นทำไมไม่โทรเบอร์ที่สอง พนักงาน".............." เราถามอีกว่า แล้วทำไมไม่ SMSบอกหรือ Emailคะ พนักงาน".............." เราเลยถามว่าแล้ว informationmขอไป..ขอไปทำม๊ายย พนักงาน".............." เห้ออออ ที่สำคัญก่อนไปเราพยายามโทรเข้าศูนย์สี่วันแล้วค่า เพื่อสอบถามเพราะไม่มีการติดต่อกลับ แต่เบอร์ของศูนย์ไม่มีคนรับ เจ้าหน้าที่ทำหน้าตาไม่สนใจค่ะ ไม่มีคำอธิบาย ยืนนิ่งๆเฉยๆ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ซะอย่างนั้นเองCRM สุดยอด(แย่)มากๆ... แถมพอไปฟังเรื่องโทรศัพท์ว่าเราต้องจ่ายค่าอะไหล่ เนื่องจากว่า ค่าความชื้นเครื่องสูงกว่ากำหนด เราก็เฮ้ยยยย มือถือใช้มาอย่างปรกติค่อนข้างระวังนะ ไม่เคยเปียกน้ำ ไม่เคยโดนน้ำเลย... จนท.บอกว่าเช็คแล้วค่ะว่าไม่เปียกน้ำ ทราบค่ะ แต่อาจจะเกิดจากความชื้นของเหงื่อในมือ (กรี๊ดดดดดดดดดดด... พี่คะ.. มือถือค่ะ มือถือ .. มันต้องใช้ มือ ในการถือนะคะ ... เห้อออ โดนเหงื่อก็ไม่ได้เหรอคะพี่ๆๆๆ) สรุปว่าไงๆก็ต้องจ่ายค่าอะไหล่ไอ้ตัวที่ว่า แต่อะไหล่อีกสองตัวจะฟรี เราเลยบอกว่าให้เปลี่ยนตัวฟรีมาละกัน เราไม่อยากจ่ายแล้วเว้ยยยย เด๋วไปให้ร้านข้างนอกซ่อมให้ เค้าบอกว่าไม่ได้ ถ้าไม่เปลี่ยนตัวเสียตังค์ก็จะไม่ใส่อะไหล่ตัวฟรีให้ แถมพอเรารับมือถือกลับ(โดยไม่ซ่อมอะไรทั้งนั้น)อาการที่เคยเป็นแค่สีเพี้ยนและเป็นเส้นหายไปแล้ววว... อย่าคิดว่าหายแบบดีขึ้นนะจ๊ะ .. หายไปเพราะหน้าจอไม่ติดเลยค่ะทีนี้ ดำมืดมากๆ เลิกคุยค่ะ เลิกคุย ใช้มือถือมาสิบกว่าปี ยี่ห้อโนเกียมาโดยตลอด .. นาทีนี้ขายทิ้งอย่างเดียวด้วยความแค้นและจะไม่ใช้Nokia ตลอดชีวิต รวมทั้งจะเอาของที่บ้านไปขายทิ้งให้หมด พอกันที ซื้อมา15,000 ยังอยู่ระยะประกัน เอาเดินไปขายทิ้งที่Fortune 1000 บาทนี่แหละค่ะ .. อีกนาทีเดียวก็ไม่อยากใช้แล้ว ได้ Samsung ถูกๆมาใช้แก้ขัดไปก่อน สบายใจเป็นอันมากเรื่องสุดท้าย (หวังว่า)4 เสียเลือดเสียเนื้อเลยค่าอันนี้เกิดเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วค่ะ .. จะไปทานก๋วยเตี๋ยวแถวที่ทำงาน เดินผ่านลานโล่งหลังร้านเค้าจะต่อเติมหลังคารองรับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น (ก๋วยเตี๋ยวอร่อยค่า ขายดีๆๆ) เราก็เดินเลี่ยงๆออกมา ทั้นใดนั้น!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ลมก็พัดมาวูบหนึ่ง เรียกว่าแบบลมกรรโชกมาเลยค่ะ ... บันไดของช่างก่อสร้างความสูงกว่า2.5เมตร ก็ล้มลงมา .. เราก็เอี้ยวตัว ชักเท้าหนี .. แต่ไม่พ้นค่า บันไดเหล็กอันนั้นฟาดสับเหมาะเหม็งไปที่นิ้วโป้งเท้าเราอย่างเต็มแรง!! คิดดูเถอะว่าบันไดอันใหญ่ขนาดน้านนน ล้มลงมาจะถึงพื้นแล้วด้วยแรงโน้มถ่วงโลกบวกแรงผลักของลม .. เท้าเราหล่ะ รีบก้มลงดูทันที่พร้อมๆกับน้องปู้จายที่ไปด้วย จากเล็บชมพูเปลี่ยนไปในพริบตา ... ไม่ใช่แค่ห้อเลือดจ้ะ .. แต่เล็บแตกเลย .. เลือดพุ่งออกมาเหมือนในหนังสยองขวัญ ไหลๆๆๆๆๆๆๆๆ นองเต็มพื้นในเวลาแป๊บเดียว ลามมาเต็มรองเท้าจนชุ่มเป็นเมือกลื่นๆ ..ขณะที่น้องกำลังไปสตาร์ทรถเพื่อพาไปรพ. เราก็มองอะไรไม่เห็นแล้วจ้ะ .. หน้ามืด และหูดับ เหมือนจะเป็นลม... คาดว่าเพราะเลือดออกมากและเยอะในเวลาอันสั้น.. ถึงรพ.หมอเห็นแผลแล้วก็บอกว่าต้องถอดเล็บ พร้อมฉีดยาชาเข้าไปที่โคนเล็บซะสองเข็ม โอ้ววววววววววววววววววววจอร์จและซาร่า.. อยากจะกรี๊ด ..มือและเท้าเป็นปลายประสาทค่ะ... รับรู้ได้เยี่ยมเมิ่กกก มันเจ็บสุดๆๆๆไปเลยยย จากนั้นก็ฉีดบาดทะยักหนึ่งเข็มและไปX Ray ดูพบว่ากระดูกไม่หัก เย้ๆๆๆ .. เข็นกลับมาอีกที คุณหมอทำการถอดเล็บให้แถมด้วยการเย็บแผลเพราะนิ้วฉีกอีกตะหาก .. เราหันไปดู..หง่ะ .. โป้งน้อยของเราสภาพเหมือนหอยแครงเลยอ่ะ เลือดชุ่มฉ่ำมาก ..โอยยไม่ดูดีกว่า หลังจากนั้น เราก็รู้สึกสะเทือนที่นิ้ว ได้ยินเสียงดัง กรึบ กรึบบ กรึบบ หันไปดูอีกที .. อ้าวว คุณหมอกำลังเอาไหมเย็บแผล ก็เลยดูเพลินๆ .. สักแป๊บเดียวไอ้ไหมที่เย็บแผลก็ค่อยๆเปลี่ยนจากสีขาวๆเป็นฉ่ำไปด้วยสีแดง เอิ๊กกกกกกก ไม่ดูดีกว่า.. เสร็จเรียบร้อยเราก็ได้นิ้วหน้าตาแบบนี้มา หลังจากนั้นก็ได้พาราเซ็ตมาเยอะมากๆ พร้อมกับAntiBiotic อีกด้วย .. ปวดไปอีกสามวัน ล้างแผลไปสองอาทิย์กว่าแผลจะแห้ง.. เห้อออ ที่สำคัญ กลับมานอนคืนแรก ปวดเท้าก็ปวด ดันเกิดอาการคันที่ตา.. เกาไปนิดนึง..เกิดอาการบวมค่า..บวมไปทั้งหน้าซีกซ้ายแบบภาพนี้ หมอบอกว่าแพ้อะไรก็ม่ายรู้ ได้ยาแก้แพกับยาหยอดตาผสมเสตียรอยด์มาหยอด สามวันยุบทันใจเจรงๆเห้ออออออ ตอนนี้แผลแห้งแล้วจ้า หน้าตานิ้วโป้งแบบไม่มีเล็บและแถมด้วยสะเก็ดแผลน่าเกลียดมากๆ.. อับอายประชาชีจริงๆ..เป็นอันว่าจบแถลงการณ์นะค๊า ว่าหายไปไหนมา.. แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะสบายหรอกค่า... ทอนซิลอักเสบอยู่และมีไข้อีกตะหาก..แต่อันนนี้จิ๊บๆเดี๋ยวก็หาย ฮ่าๆๆ หายแล้วจะเริ่มทำผลงานมาที่ห้องงานฝีมือนะจ๊ะ.. สวัสดีค่า