• ห้องส่วนตัว
• 2020-2022
• 2019
• 2017-2018
• 2015-2016
• 2014
• 2013
• 2012
• 2011(My Ocean)
• 2010
• 2008-2009
• Dear Connie
• ห้องครัว
• แต่งหน้าเค้ก
• ห้องงานฝีมือ
• My little kashmiri bird

• Jolly Joey
• fozzil
• madam_ozzy
• monkey_bone
• เต่าญี่ปุ่น
• Cookie Nim
• ย่าชอบเล่า
• aumko
• Webmaster - BlogGang

• เว็ปของคนช่างกิน ช่างทำค่ะ
• BlogGang.com

My Lovely Hobbit House ช่วง พค.รู้ว่าจะย้ายกลับไทยแน่ๆ ก็คิดถึงการจัดการเรื่องที่พักก่อนเลย เริ่มเสิร์ชหา คอนโดเลี้ยงแมวได้ ทั้งแบบขายและเช่า หาเท่าไหร่ๆ ก็ยังไม่เหมาะใจ พื้นที่เล็กกว่าที่อยู่ปัจจุบันในย่างกุ้งเกินสองเท่าตัวทั้งนั้น แมวชั้นมันต้องเครียดแน่ๆ ไม่มีที่ให้เดิน ให้วิ่งเลย เสิร์ชหลายวันติดต่อกัน จนต้องหยุดพัก เพราะมันเยอะไปหมด แต่ไม่ได้แบบที่สนใจเลย จากนั้น feedในfacebook ก็มีแต่เรื่องบ้านขึ้นตามมาอย่างต่อเนื่อง จนวันนึง.. สะดุดตากับtownhouseมือสองหลังนึง(ไม่ใช่หลังที่ตัดสินใจซื้อ) เห็นlocationใกล้บ้านน้องที่สนิท เลยยื่นมือถือให้น้องช่วยดู "น้องๆ หลังนี้น่าสนใจไหม ใกล้บ้านหนูเลย เจ้ควรซื้อไหม?" น้องเอารูปบ้านไปเลื่อนๆดู แล้วบอกว่า "เออ ใกล้บ้านเพื่อนหนูเลยเจ๊ เดี๋ยวหนูถามเค้าแปบนะ" ว่าแล้วน้องก็ส่งlinkนั้นไปให้เพื่อนของน้องอีกทีนึง.. ไม่เกิน10นาที เพื่อนน้องเดินไปถ่ายภาพบ้านหลังนั้นมา พร้อมส่งข้อความมาบอกว่า" ถ้าจะเอาหลังนี้ ราคาแบบนี้ ลองดูหลังนี้แทนมะ เพื่อนพวกเราทำขาย บ้านเขาทำดีนะ ขายไวมากด้วย ตอนนี้มีหลังนึงเพิ่งเสร็จ" แล้วก็ส่งlinkมา.. เราเข้าไปดู เจอบ้านหลังนึงที่น่ารักมาก!!!! จากนั้นก็ไล่ดูๆๆๆๆตามเพจ ตั้งแต่บ้านเก่าโดนรื้อ เลาะฝ้า เลาะจนเห็นคาน ขุดรื้อถังส้วมเก่า ลงเสาเข็มเพิ่ม ฯลฯ.. จนตกแต่งเสร็จ.. โอ้.. ชอบบบ.. นี่มันงานcraft ชัดๆ คนทำดูใส่ใจมากๆ ดูซ้ำไป ซ้ำมา แล้วบอกน้อง" เอาหลังนี้แหละ!! สวย แสงเยอะดี" ปรกติ ไม่ไหวกะtownhouseเพราะมันทึบ นี่แสงดี(ไว้วาดรูป ปักผ้าได้)​ มีต้นไม้ มีช่องให้แมวมุดเล่น ไม่ใหญ่เกินจะทำความสะอาดเอง บอกเพื่อนหนู เจ้ซื้อ! " น้องหันมา "เจ๊! ซื้อบ้านนะ บ้าน! อย่ารีบ เผื่อเขาถ่ายรูปสวยเฉยๆ หนูไปดูให้ก่อน!" ว่าแล้ว น้องก็แพคกระเป๋าบินไปไทยแวะไปดูบ้านให้ (น้องแพลนไปไทยช่วงนั้นพอดี)​ จากนั้นน้องก็line VDO callมาให้เราดูบ้าน ยิ่งดูยิ่งร้อนใจ อยากได้โว้ยยย 5555 มันสร้างมาเพื่อ(แมว) ชั้นนน หลังนี้แหละ! ส่วนจิ๊บรู้ว่ารีบ เลยลงทุนขับไปดูตอนกลางคืนให้อีกรอบ เป็นการสำรวจความปลอดภัย​การจอดรถ และวิถีเพื่อนบ้าน สรุปว่าใช้ได้ แต่ละบ้านดูแลบ้านตัวเองดี มีจอดรถหน้าบ้านกันบ้าง แต่ไม่แย่มาก ยังเข้าบ้านได้อยู่ พอสองเสียงconfirm กับHobbit House (จิ๊บตั้งชื่อให้)​ นกก็ไม่รอช้า วางเงินมัดจำทันที เกิดมาไม่เคยคิดจะซื้อบ้าน ยิ่งบ้านในกทม.ยิ่งไม่คิด แต่ในที่สุดก็ซื้อแล้ว.. ก็หวังว่าแมวมิ้วจะชอบละนะ กะว่าอีกหน่อยตอนไปอยู่ริมทะเลที่เตรียมไว้ที่ละแม ที่นี่คงขายต่อ หรือให้เช่าไม่ยาก ด้วยทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ตลาด แถมเป็นแหล่งของกินเยอะแยะไปหมดอ่ะเนอะ     Create Date : 11 พฤศจิกายน 2565     Last Update : 18 มกราคม 2566 17:16:25 น. Counter : 117 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Dream It Possible Story#4  (one moment in time) Dream It Possible Story#4  (one moment in time) จากนั้นก็เริ่มเป็นการเล่าให้เพื่อนที่สนิทกันมากๆฟังเพื่อทบทวนความคิดของตัวเอง และฟังความคิดเห็นของเพื่อน ไม่ต้องพูดถึงเพื่อนคนแรกที่อยู่ด้วยกัน ขานั้นเชียร์อยู่แล้ว เพื่อนรักอีกคนที่เป็นอาจารย์ที่เคยอยู่ชุมพร ก็ช่วยดูรายละเอียดให้ และเห็นด้วยกับการซื้อที่.. คุยกับพี่เจ้าของที่จนได้วันนัดหมายที่จะต้องลงไปดูที่ดิน เนื่องจากไม่มีเวลามาก และช่วงโควิท เลยตัดสินใจขับรถลงไป และนัดแบบว่า วันแรกดูที่ ถ้าโอเคก็โอนที่ดินในวันรุ่งขึ้นเลยแล้วกัน !!! ลุ้นว่า พอได้เห็นที่จริงๆจะชอบสักแค่ไหนนะ และจะมีเรื่องอื่นๆที่ทำให้เปลี่ยนใจไม่ซื้อหรือเปล่า.. ระยะเวลาจากที่เริ่มเห็น post จนถึงวันที่ลงไปดูที่ ราวๆ2อาทิตย์ ระหว่างนั้นก็เริ่มเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนที่สนิทๆกันฟัง โดยเฉพาะเพื่อนที่รักมากเหมือนพี่สาว เพื่อฟังความคิดเห็นหลายๆด้าน ก้พบว่าหลายๆคนตื่นเต้นไปด้วย พร้อมสนับสนุนตามใจ ..และคงตามใจด้วยหลายเหตุผล บางคนบอกว่าก็ไม่เคยเห็นเราอยากได้อะไรแบบนี้ ไม่เคยคิดสะสมที่ดิน เงินทอง บ้าน ถ้าคิดจะซื้อก็คงอยากได้มากจริงๆ ซื้อเถอะ บางคนบอกว่า ยังมีเรื่องที่ทำให้ใจเต้นแรง ได้มีแรงบันดาลใจของการมีชีวิตอยู่ ก็ซื้อเถอะ มีบ้างที่แสดงความเป็นห่วง แต่พอเราแสดงความดื้อดึง เพื่อนก็ไม่บ่นอะไร (น่าจะเบื่อที่จะบ่นอ่ะเนอะ บ่นกันมา30ปีแล้วนี่) 5555 จากนั้น เราก็ชวน My guardian Angel friends และเหม่งน้อย ลงไปด้วยกัน เพราะGuardian Angle เป็นผู้หญิงที่ฉลาดและมีสติตลอดเวลา ต่างกันมากกับเรา ที่เอาความรู้สึกนำสติอยู่เรื่อยเชียว 555555 เนี่ย ขับรถไปถึงหนาที่ดินก็ใจเต้นแล้ว ใกล้ตัวอำเภอมากๆ แถมถนนลาดยางสวยงาม เลี้ยวเข้าบ้านพี่เจ้าของที่ดิน พบครอบครัวเขาที่จะเป็นเพื่อนบ้านเราในวันข้างหน้าก็รู้สึกว่าโชคดีและอบอุ่นใจ น่ารักกันทั้งครอบครัวเลย เจ้าของที่ใจดีมากๆ ช่วยจ่ายค่าโอน ค่าภาษีให้หมด เพราะรู้ว่าคนซื้อหมดตัวแล้วววว :D พอไปยืนบนที่ดิน ด้านหน้าติดชายหาดมีต้นมะพร้าวอายุ50ปีที่คุณแม่พี่เจ้าของที่ปลุกไว้ เรียงกันหลายต้น สวยจริงๆ ด้านหลังเป็นต้นปาล์ม ออกมาดูชายหาดด้านหน้าที่ดิน สงบและเป็นธรรมชาติมากๆ ขับรถไปดูบริเวณรอบๆ  ท่าเรือชาวประมงพื้นบ้านหางแค่ระยะทาง3กม.เอง  ซื้ออาหารทะเลจากเรือประมงสดๆได้เลย กรี๊ดดด จากนั้นไปทานอาหารใกล้ๆที่พัก ห่างจากที่ดิน 8กม. ร้านนารัก อาหารรสชาตดี ราคาไม่แพงเลย นัดกันตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นริมหาดตอนเช้า ว่าจะเหมือนที่ฝันไว้ไหม ชีวิตวันข้างหน้าจะได้เห็นวิวนี้ในทุกๆวันที่ตื่นนอนขึ้นมาที่ริมทะเลที่นี่   .. ตื่นมากันตั้งแต่เช้าเพื่อดูภาพนี้.. สวยสมกับที่เคยใฝ่ฝันไว้จริงๆด้วย ตอนเช้าหาดทรายเงียบสงบมากยิ่งกว่าช่วงกลางวันที่ผ่านมา (กลางวันก็ว่าเงียบแล้ว) ได้ยินเสียงคลื่นซัดชายหาดเบาๆ เสียงลมพัดต้นสนริมทะเล .. เดินเล่นตามชายหาดดูสมบัติใต้ทะเลที่คลืนซัดมาวางไว้.. เช้าวันนั้นก็ได้โอนที่ดินเรียบร้อย เป็นความฝันเรื่องนึงที่กลายมาเป็นความจริง เราจะได้สร้างบ้านริมทะเล ทำระเบียงกว้างๆ ทำห้องสวยๆ ไว้รอรับเพื่อนๆที่จะเเวะมาเที่ยว ..  แต่ก่อนจะถึงตรงนั้น คงได้สร้างสถานที่สำหรับ camping ก่อน เพราะช่วงที่บินกลับมาไทยระยะสั้นๆในทุกๆปี จะได้ชวน Leh Ladahk Gang มา hang out  ก่อกองไฟ นั่งดูดาว ปิ้งย่างอาหารทะเล พุดคุยกัน กางเตนท์นอนฟังเสียงคลื่น  .. มันต้องดีแน่ๆเลยเนอะ :)  Dream it Possible เย้!   Create Date : 15 มิถุนายน 2564     Last Update : 15 มิถุนายน 2564 19:15:05 น. Counter : 380 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Dream It Possible Story#3 (ความฝันวิ่งตัดหน้า จะคว้าไว้ทันไหมนะ) Dream It Possible Story#3 (ความฝันวิ่งตัดหน้า จะคว้าไว้ทันไหมนะ) เช้าวันนึงที่อยู่ไทย และนัดเพื่อนสนิทไปนั่งทำงานในร้านกาแฟในสวนแถบชานเมืองด้วยกัน ระหว่างนั้นก็นั่งอ่าน feed หน้ามือถือ ด้วยความชอบ shopping หน้า feed ก็มี post ขึ้นมาจาก page ที่เกี่ยวกับ shopping ให้ดูอยู่เรื่อยๆ เลื่อนอ่านจนสะดุดตา post ใน จุฬามาร์เก็ตเพลส เป็นรูปทะเลสวยๆ .. ชายหาดดูสงบมาก เจ้าของpostขายที่ดิน ที่อ.ละแม จ.ชุมพร เป็นที่ดินติดชายหาด จำนวนสี่ไร่กว่า อ่านแล้วก็ยื่นให้เพื่อนดู บอกว่า เห้ยยยย สวยมากกกก ดีจังเลยเนอะ แล้วก็เล่าให้เพื่อนฟัง ว่าเคยอิจฉาเจ้าของร้านอาหารที่หัวหิน ที่เขาอาศัยอยู่ที่ร้านติดริมทะเล แล้วนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าทุกเช้า ตอนที่เห็นแบบนั้นก็คิดว่าเขาจะมีความสุขขนาดไหนกันนะ ที่เห็นทะเลอยู่ตรงหน้าทุกเช้า เล่าไป หน้าตาก็คงฟินไปด้วย เพื่อนเลยเอามือถือไปอ่าน แล้วบอกว่า “โทรไปถามเจ้าของที่สิ” หน้าตาเพื่อนจริงจังมาก เราได้ยินก็เหวอไป .. คือหลายๆหนเห็นที่สวย ก็คิดว่าแพงแน่ และก็ไปไม่ถึงจุดที่จะโทรไปถามรายละเอียด .. ยกเว้นที่ๆเชียงใหม่ของบ้านเพื่อนอีกคน ที่เคยบินขึ้นไปดูกันแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตกลงใจซื้อ .. คราวนี้เพื่อนบอกให้โทรก็ยังลังเล .. นั่งอ่านpost นั้นไปมา เช็คดูราคา แล้วก็คิดว่าถ้าจะซื้อ ก็คงเอาที่เข้าแบงค์ละนะ แล้วผ่อนไป .. แต่พอคุยกับเพื่อน ก็รู้ว่าในช่วงเวลาที่เรมาอยู่ไทยสั้นๆ น่าจะยุ่งยากมาก หากจะทำเรื่องกู้แถมเป็นการกู้ซื้อที่ดินเปล่า ไม่น่าจะทัน ..ได้ยินแล้วก็คิดว่าจะล้มเลิกความตั้งใจ .. แต่ภาพชายหาดก็ยังคงอยู่ในความคิด คิดวุ่นวายไปมาสักพักนึง แล้วก็รู้ตัวว่าไม่ยอมล้มเลิกความคิด .. ว่าแล้วก็เลยนั่งคิดๆบวกๆเงินสะสม .. สักพักก็เห็นจำนวนตัวเลข ว่า เห้ยยยยยย!! เหมือนจะซื้อได้นะ ขาดนิดหน่อยเท่านั้น ! ถ้าขายกองทุนกับของสะสมบางอย่างก็จะพอดี หมดหน้าตัก แต่เงินน่าจะพอ (ถือว่าโชคดีที่เริ่มหยอดกระปุกหลัง trip Leh ตามที่เพื่อนสั่งให้เก็บเงิน) ใจเริ่มเต้นแรง นั่งเลื่อนดูรูปใน feed ความรู้สึกเหมือนกึ่งฝัน .. ใจนึกถึงว่าเท้าเราจะได้เหยียบทรายดูพระอาทิตย์ขึ้นทุกเช้าริมชายหาด .. บ้านหลังเล้กๆที่มองเห็นทะเลจากในบ้าน สติเริ่มหลุดลอยไปกับจินตนาการในหัว แต่สักพักก็หันไปบอกเพื่อนว่า เห้ยย มันชุมพรนะ ! เพื่อนก็บอก อือ ไกลไปหน่อย ..แต่ที่ดูสวยมากๆนะ (ยังมีทิ้งท้าย ดูมันนน) แล้วเพื่อนก็บอกให้โทรไปถามรายละเอียด เราก็ยังคงนั่งดูรูปใน post แล้วก็นั่งคิด ในเวลานั้นเรื่องของ Connie ก็ย้อนกลับเข้ามาในหัว .. ถ้ามันไกลนัก ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ settle down ก็ได้นี่นา แต่สุดท้ายแล้ว แค่ได้ใช้ช่วงหนึ่งในชีวิตแบบที่อยากอยู่ ก็คงมีความสุขไม่น้อย ถึงไกลเพื่อนฝูงที่คุ้นเคยไปสักหน่อย แต่ใช้ชีวิตในช่วงที่ยังมีกำลังวังชายัง adventure ไหวอยู่ อาจเป็นช่วงชีวิตสั้นๆหลัง retire ก็น่าจะมีความสุขมากพอแล้ว แล้วค่อยย้ายกลับมาใกล้เพื่อนฝูงหรืออยู่ในที่ๆ facilities เอื้อต่อชีวิตยามแก่มากๆทีหลังก็ได้นี่.. คิดได้แล้วก็เห็นภาพชัดขึ้นในหัว ก็ตัดสินใจโทรติดต่อพี่เจ้าของที่ และขอ line เอาไว้หลังจากคุยกัน .. พยายามที่จะขอนัดดูที่ดิน เพราะเรามีเวลาอยู่ไทยสั้นมาก ถ้าจะจัดการก็ต้องรวดเร็วมาก .. แต่ติดที่พี่เจ้าของที่มีธุระที่ต้องจัดการเรื่องบ้านอีกจังหวัดนึง .. ยังไม่แน่ใจเรื่องวันนัดลงไปดู .. หลังจากวันนั้นใจก็จรดจ่อพะวักพะวนอยู่กับเรื่องที่ ยิ่งคิดถึงชีวิตที่เงียบสงบริมทะเล ภาพบ้านหลังเล็กๆ ภาพพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า.. ยิ่งใจเต้นแรง.. นึกถึงการนั่งเรือตกปลาที่บ้านพี่ดาวที่ออสเตรเลีย ยิ่งเห็นภาพชีวิตตัวเองหลัง retireชัดขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันก็มีคำถามเกิดขึ้นในหัวมากมาย ว่าที่ของจริงจะสวยไหม เราไปยืนอยู่ตรงนั้นเราจะชอบไหม ที่เปลี่ยวหรือเปล่า ในอนาคตจะไปอยู่ได้จริงไหม ที่สำคัญที่สุดคือ .. เงินเราจะต้องเทหมดกระเป๋า และต้องขายกองทุนที่สะสมไว้ .. ราคากองทุนช่วงนี้ก็ดิ่งเหลือเกิน เอาไงดีนะ แล้วถ้าปรึกษาเพื่อนสนิทๆกัน จะโดนคัดค้าน ไม่เห็นด้วยหรือเปล่านะ .. สับสนและวุ่นวายใจไม่ใช่น้อยเลย   Create Date : 15 มิถุนายน 2564     Last Update : 15 มิถุนายน 2564 17:23:26 น. Counter : 186 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Dream it Possible Story #2(หนทางสู่ความฝัน) Dream it Possible Story #2(หนทางสู่ความฝัน) หลังจากที่พบกับ Connie เราก็ได้เติบโตทางหน้าที่การงานไปเรื่อยๆ งานหนักมากสนุกมาก จนแทบไม่มีเวลาว่างอย่างที่ทุกคนรู้กัน เราใช้ชีวิตกับงานเป็นหลัก และอยู่กับในแต่ละวัน โดยยังไม่มีแผนอะไรแน่นอนในชิวิต คิดแต่ว่าทำแต่ละวันให้มีความสุข แล้วก็อย่างที่ทุกคนเห็น ชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่กับเรื่องของ งาน การกินของอร่อยๆ การไปเที่ยวที่ชอบ การทำงานอดิเรกล้านแปดด ทั้งวาดรูป ทำอาหาร อบขนม ปักผ้า อ่านหนังสือ .. ชีวิตแต่ละวันหมดไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้มองไปข้างหน้ามากนัก จนถึงวันที่พักเบรคจากการทำงานยาวๆ ได้หยุดทำงานไป3เดือน และเดินทางท่องเที่ยว ในช่วงนั้นมีTripของการขี่ big bike ขึ้นไปบนภูเขาที่ Leh Ladakhกับกลุ่มเพื่อนสนิท ทริปนั้นเพื่อนถามด้วยความเป็นห่วง ว่าเรามีแพลนอะไรบ้างกับชีวิต .. ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีอะไรชัดเจน.. เพื่อนเลยสั่งให้เก็บเงินเตรียม retire ได้แล้ว !! ด้วยความที่เพื่อนรู้นิสัยดี ว่าเป็นคนไม่มี saving plan ที่ดี มีเงินได้มาแล้วเหลือจากการดูแลพ่อแม่และญาติๆ รวมทั้งการกินการเที่ยว ก็ใช้เงินไปเรื่อยๆแบบสนุกสนาน มีเก็บบ้างนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้มีแผนการอะไรมากนักกับชีวิต พอได้ยินเพื่อนสั่งการ ก็เลยบอกเพื่อนไปว่า ได้ เดี๋ยวเริ่มเก็บเงินก็ได้ จะได้ retire ไปทำอะไรสนุกๆกัน เพราะทำงานจะไม่ค่อยมีเวลาไปทริปกับเพื่อนยาวๆแบบนี้อีก .. (ในใจใฝ่ฝันว่าจะได้ไปขี่ big bike กับกลุ่มนี้อีกหลัง retire 555) แถมกลัวมันจะเอาไปฟ้องเพื่อนคนอื่นๆ .. คงฟังบ่นจนหูชาแน่ๆ .. อ่ะ เริ่มเก็บเงิน(ก็ได้วะ) หลังจาก Tripนี้ อย่างที่ทราบกัน ชีวิตเราก็ออกเดินทางไปทำงานที่จีนและพม่าตามลำดับ..ยิ่งมี Covid จากที่เคยได้กลับไทยช่วง weekend ก็อยู่ยาวๆไปเป็นปีๆ.. จนกระทั่งเป็นจังหวะชีวิตที่ได้กลับมาเมืองไทยเมื่อไม่นานนี้ และมีเวลาเพียงไม่นาน ก่อนจะเดินทางต่อในเวลาอันใกล้ .. แต่ใครจะไปรู้ว่าในเวลาอันสั้นนี้ จะเป็นเวลาที่เราได้ทำตามความฝัน และเป็นความฝันที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นความจริงขึ้นมา..     Create Date : 15 มิถุนายน 2564     Last Update : 15 มิถุนายน 2564 17:21:11 น. Counter : 110 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Dream it Possible Story#1 (แรงบันดาลใจ) Dream it Possible Story#1 (แรงบันดาลใจ) Connie เป็นชาว American ที่เราได้มีโอกาสช่วยงานตอนที่บริษัทจ้างเธอมาเป็นที่ปรึกษา เนื่องจากทางบริษัทต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จากห้างชั้นนำระดับโลกมาให้คำแนะนำในบางเรื่อง ตอนนั้น Connie ได้ retireจากงานประจำที่ทำอยู่และรับเป็นที่ปรึกษาของโครงการ เราเองได้ถูกบริษัทมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยของ Connie ใน Projectนั้น ถือเป็นช่วงเวลาดีๆของชีวิต ที่ได้เรียนรู้ function งานต่างๆจากผู้มีประสบกรณ์เก่งๆ และเหนือไปกว่าเรื่องของ ความรู้ในงาน ยังเป็นเรื่องของวิธีคิด วิธีใช้ชีวิต เราสนิทกันมากๆในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ได้เดินทางไปหลายแห่ง ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ได้ใช้ชีวิตด้วยกันนอกเวลางาน แม้ว่าอายุเราจะห่างกันมากเกือบ30ปี แต่เราก็พบว่าเราสองคนเข้ากันได้ดีมากๆ และรู้สึกสนุกมากที่ได้มีโอกาสทำงานด้วยกัน Connie มีอิทธิพลทางความคิดเราหลายอย่างไม่ใช่แค่เรื่องการทำงาน แต่รวมไปถึงการใช้ชีวิตที่มีความคิดคล้ายๆกัน Connie เป็นคนที่กล้าใช้ชีวิต รักการผจญภัย มีความสุขกับทุกๆวันของชีวิตแบบไม่มีกรอบมากนัก .. จากการแชร์เรื่องราวต่างๆในชีวิตของกันและกัน มีเรื่องหนึ่งในหลายๆเรื่องของConnieที่เราประทับใจมาก Ed,สามีของ Connie ที่ทำงานในองค์กรเดียวกัน มีงานอดิเรกคือการเล่น Surf board ชอบมากขนาดที่ว่า เมื่อ retire แล้ว ทั้งสองคนเลือกโยกย้ายจาก main land ไปอยู่ยังเกาะ Hawaii ทั้งสองคนเลือกซื้อบ้านอยู่ตรงชายหาดที่เป็นจุดที่สวยที่สุด เหมาะที่สุดกับการเล่น surf โดยในแต่ละปีก็จะมีการแข่งขัน surf board จากนักแข่งนานาชาติ มารวมตัวกันให้เห็นอยู่หน้าหาดหน้าบ้านนั่นเอง ความรู้สึกตอนนั้นที่ได้ฟังเรื่องราว และConnieได้ให้ดู ภาพบ้านบนชายหาด ภาพ Ed เล่น Surf และ ภาพนัก Surf นานาชาติ ทะเลที่สวยมาก ฟองคลื่นขาวๆ มันช่าง Super WOW มากๆ .. ทั้ง Ed และ Connie เลือกใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองชอบอยู่หลายปี ก่อนที่ Edจะสูงอายุมากขึ้นและเริ่มลดการใช้ชีวิตกับงานอดิเรกแบบ Surf น้อยลง จากนั้นทั้งสองคนก็โยกย้ายกลับมาปักหลักที่ main land (ตอนที่เราพบกันเมื่อปี 2010 Connie และ Ed ยังอาศัยอยู่ในบ้านบนหาดแสนสวยที่ Hawaii และมีเพื่อนบ้านเป็นนักร้องโปรดของเรา Jack Johnson แน่นอน เราได้รับของฝากเป็น CD เพลงเพราะๆอยู่เรื่อย ) เรามีโอกาสใกล้ชิดทำงานอยู่กับ Connieได้เกือบปี ก่อนเธอจะกลับไป America โดยไม่รู้ตัวเลยว่า Connieได้ทิ้งแม่พิมพ์ของการใช้ชีวิตบางแง่มุมไว้ในหัวใจเรานี่เอง.. หลายๆครั้งที่หวนไปคิดถึง Connie ก็จะจดจำภาพและเรื่องราวที่ได้คุยกัน รวมทั้งความคิดว่า มันจะดีสักแค่ไหนนะ ที่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตตามใจฝัน และตามความชอบแบบนั้น..   Create Date : 15 มิถุนายน 2564     Last Update : 15 มิถุนายน 2564 16:38:29 น. Counter : 201 Pageviews.   0 comment Share Tweet