ใต้ฟ้าเดียวกัน.... ForGet mE nOt
Group Blog
 
All blogs
 
กายนครคำกลอน(หน้า 111-120 ค่ะ)



ถ้าจะคิดเปลื้ององค์จากสงสาร
ควรวิจารณ์ผันแปรเร่งแก้ไข
กรรมบถสิบทัศฝึกหัดไว้
ก็จะได้ถึงนิพพานสำราญรมณ์

อันนาวารูปจะพาข้ามสมุทร
เป็นที่ยุดเหนี่ยวรั้งตั้งปฐม
ให้ถึงโลกุตตะรังดังนิยม
ไม่ล่มจมกลางมหาสาครัง

นี่แหละเรียกว่ามหานาวาแก้ว
พาคลาดแคล้วพ้นภัยได้ถึงฝั่ง
ถึงปลาร้ายว่ายตื่นคลื่นประดัง
ไม่กระทั่งกระเทือนลำเรือสำเภา

อันเภตราพานิชคิดไปค้า
ต้องลมกล้าอับปางอย่างโฉดเขลา
เรียกนาวาโลกีย์ไม่มีเบา
มักเสียเค้าเชิญบพิตรพินิจดู ฯ

112
กรุงกระษัตริย์สดับอรรถมธุรส
น้อมประณตชมว่าเพราะเสนาะหู
แล้วอ้อนวอนเถราสี่พระครู
นิมนต์ผู้เป็นเจ้าด้วยได้ช่วยกัน

โปรดจัดแจงรีบแต่งนาวาแก้ว
อันผ่องแผ้วพรรณรายได้ผายผัน
พวกเสนาข้าเฝ้าคนเก่านั้น
จงเกณฑ์กันเป็นศิษย์องค์พระทรงญาณ

จะได้ใช้ในหน้าที่อย่าหนีหลบ
จัดให้ครบเร้วพลันตามบรรหาร
เครื่องใช้สอยขุนจาคะจงประมาณ
กะรายการจ่ายให้พอต่อนาวา ฯ

หมู่อำมาตย์บังคมด้วยสมหวัง
ต่างรับสั่งใส่เกล้าจะเอาหน้า
นายใหญ่นั้นชื่ออัญญะสมานา
เห็นราชาชนะไหนวิ่งไขว่ตาม

113
ทราบว่าองค์ทรงฤทธิ์จิตราช
จะแคล้วตลาดหลีกพิบัติตัดเสี้ยนหนาม
รีบไปทำกิจดังรับสั่งความ
พยายามพันพัวตัวเป็นเกลียว

ด้วยสี่องค์ทรงสิกขาปรีชาหาญ
เป็นนายงานสามารถฉลาดเฉลียว
ให้ทำเสร็จทุกสิ่งดีจริงเจียว
รูปงามเพรียวเร็วรี่ดังนิฤมิต

ขุนนางยี่สิบห้านั้นก็สันทัด
ต่างรีบรัดเกณฑ์พลคนสนิท
แล้วบรรทุกเสบียงกรังต่างชนิด
สำเร็จกิจทูลปิ่นนริทร์รัตน์ ฯ

พระจอมจิตฤทธิรงค์ทรงฟังสาร
ดังได้ผ่านเมืองอินทร์ปิ่นสมบัติ
สั่งจาคะคนขยันการสันทัด
ให้แต่งจัดเครื่องอำไพไตรจีวร

114
ทั้งอัฏฐะบริขารประมาณหลาย
น้อมถวายพระอาจารย์ชาญสมร
ครั้นสั้งเสร็จเสด็จมาสรงสาคร
หอมขจรสุคนธากลิ่นมาลี

ผลัดภูษาอ่าองค์แล้วทรงเครื่อง
อร่ามเรืองเพียงจะคู่พระสุริย์ศรี
ทรงเบญจกกุธภัณฑ์อันรูจี
จรลียังฆานะปราสาทชัย

ยุรยาตรอาจจองทรงพระแสง
แล้วสำแดงเดชาสุธาไหว
พระธรรมมุนีออกหน้านำคลาไคล
เสนาในแซ่ซ้องกลองประโคม

ทั้งแตร์สังข์กังสดาลสะท้านสะทึก
เสียงก้องกึกสรรเสริญเจริญโฉม
พื้นสุธาลั้นพิลึกเสียงคลึกโครม
ดังจะโสมนัสช่วยอำนวยชัย

115
อมเรศเทเวศร์บนสรวงสวรรค์
ก็โปรยพรรณบุปผามาลาไสว
ต่างองค์ซ้องสาธุการขนานไป
อวยพรชัยให้ชนะหมู่อรินทร์

เสด็จถึงซึ่งท่านนาวาประทับ
พระเถรรับจูงหัตถ์องค์พระทรงศิล
ชาวประโคมขับขานประสานพิณ
ธิบดินทร์สถิดท้ายสบายองค์

พร้อมสังฆราชาโหราราช
ล้อมรอบอาสน์ทรงนามงามระหง
ม้าล่อลั่นขันฉ้อชะลอตรง
พระพายส่งเหมือนจะเตือนให้เคลือนคลา

ยิงปืนเปรี้ยงเสียงทหารร้องขานโห่
ช่วยกันโล้เลื่อนกรากออกจากท่า
ท้องสินธูดังจะรู้โมทนา
ระลอกฉ่าฟูฟองไม่ต้องเรือ

116
มัจฉาโลดโดดประสานขนานหน้า
เหมือนชมบารมีเลิศประเสริฐเหลือ
แล้วแฝงกายว่ายวางออกห่างเรือ
กลัวหางเสือฟาดฟองมาต้องตน

เมื่อเสด็จยาตราเวลานั้น
อัศจรรย์ทั้งโลกาโกลาหล
ฝ่ายทั้งสองมเหสีนิฤมล
แจ้งยุบลภัสดาเสด็จจร ฯ

ต่างงันงกตกประหม่าวิ่งตาขาว
เจ็บทรวงร้าวถึงกระดูกเหมือนถูกศร
เรียกสาวสรรค์เสนาพลากร
เร่งรีบร้อนตามองค์พระทรงธรรม์

ครั้นถึงท่าเห็นนาวาอันผ่อนศรี
พระภูมีสถิตท้ายพอผายผัน
พร้อมพระสงฆ์จตุรงค์แน่นอนันต์
จิตอัดอั้นลงมิได้ในนาวา

117
ชุลีกรวอนร่ำด้วยคำหวาน
โอ้ภูบาลไยจึงร้างเสน่หา
ไม่ผินพักตร์สั้งน้องทั้งสองรา
อนิจจาตัดพระทัยได้จริง ๆ

ออกเอ๋ยอยู่ดีดีก็มีโทษ
ไม่ออกโอษฐ์ให้ประจักษ์เลยสักสิ่ง
ไม่สงสารสุนทรวอนประวิง
จะทอดทิ้งให้น้องอยู่กับผู้ใด

สิ้นโปรดน้องแล้วหรือหนาในครานี้
จึงคิดหนีตัดพระทัยไปเสียได้
ไม่เสียดายเวียงวังพระคลังใน
หมดอาลัยถิ่นฐานหรือผ่านฟ้า ฯ

จักรพงศ์ทรงฟังนางทั้งสอง
มาร่ำร้องเกลียดเหลือเบื่อนักหนา
พระเสแสร้งสรวลสรรจำนรรจา
เย้ยตัณหาอวิชชาสองนารี

118
ว่าแน่เจ้าเยาวยอดราโฉด
งามประโลมล่อชายไม่หน่ายหนี
เป็นผู้เหนี่ยวสัตว์ไว้ในโลกีย์
เรายินดีร่วมห้องสองนงคราญ

ตั้งแต่อเนกชาติไม่คลาดข้าง
เกิดก่อสร้างบ้านเมืองเรื่องสังขาร
ร่วมสุขทุกข์เวทนากันมานาน
ทนกันดารนครกายหลายแสนคราว

เจ้าพาเราเวียนวงในสงสาร
ทรมานทุกข์ระทมตรมโศกเศร้า
อย่ามาหน่วงทวงทักชักยืดยาว
เจ้ายังสาวอยู่เป็นสุขทุกข์อะไร

เชิญทั้งสองครองธานีบุรีเอก
แล้วอภิเษกสมสู่หาคู่ใหม่
อันตัวเราแสวงสุขหนีทุกข์ภัย
สิ้นเยื่อใยกันแล้วเจ้าอย่าเฝ้ากวน

119
ตัดเมียรักหักกิเลสเศษพันห้า
อย่าตามมาสำออยละห้อยหวน
แม้นมิฟังยังร่ำเฝ้าคร่ำครวญ
เขาจะชวนกันสังหารผลาญชีวิต ฯ

ทั้งสองนางฟังองค์พระทรงศร
ทั้งตัดรอนแนมเหน็บให้เจ็บจิต
ต่างตีทรวงทรงกันแสงสุดแรงฤทธิ์
จนโลหิตเนตรไหลนองนัยนา

คิดเคืองขุ่นหมุนไปว่าพระสังฆราช
ศีลมิขาดเสียเปล่าหรือเจ้าขา
แกล้งทำให้ได้ทุกข์ทั้งพารา
ช่างอวดกล้าไม่กลัวผิดในกิจกรม

คงไม่แคล้วนรกตกลำบาก
เพราะบาปมากพรากคู่เคยสู่สม
อย่าให้พบสบผู้หญิงสิ่งนิยม
ให้ขาดชมเชยสวาททุกชาติไป

120
แม้นมิส่งภัสดาข้ามาก่อน
จะขอดค่อนแช่งด่าไม่ปราศรัย
จะพรากสามีข้าพาไปไกล
ไม่อายใจหรือคะท่านพระชี

ฝ่ายพระสังฆราชาฟังว่าขาน
ดูดื้อด้านพาลเกเรมเหสี
น้อยหรือช่างถางถากฝีปากดี
เฝ้าเซ้าซี้ทั้งสองคนบ่นวุ่นวาย

มิตอบบ้างนางจะเคยเกินเลยหนัก
จึงผินพักตร์ว่าไปดังใจหมาย
อะไรนี่สีกาหน้าไม่อาย
วิ่งตามชายมาทำเป็นสำออย

พระสามีมิได้อาลัยเหลียว
กลับโกรธเกรี้ยวแช่งด่าไม่ล่าถอย
ซึ่งสาปซ้ำร่ำเร้าเฝ้าตะบอย
ให้เราพลอยไร้ผู้หญิงสิ่งโลกีย์







Create Date : 13 พฤษภาคม 2550
Last Update : 31 พฤษภาคม 2550 11:53:55 น. 2 comments
Counter : 841 Pageviews.

 
ภาพสวยคะ

มาเยี่ยมคะ

ว่าง ๆ เชิญเยี่ยมที่ blo na ka


โดย: goodpeople วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:17:46 น.  

 
สวัสดีคะ..น้องบัว
พี่แวะมาอ่านและทักทายน้องบัวก่อนนอนคะ..
หลังจากอ่านแล้วก็มีความรู้สึกว่า..ในบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน..ความต้องการและจุดมุ่งหมายไม่เหมือนกันเลยทำให้แต่ละคนดูจะแสดงอารมณ์ไปคนละทางเลยนะคะ..
หนทางที่จะหลุดจากความทุกข์เพื่อลดบ่วงใจของตนเอง..กลับทำให้คนอื่นเสียใจนะคะ..จริงๆแล้วน่าจะร่วมกันหาทางพ้นทุกข์นะคะ..แล้วเดินไปด้วยกันทั้งหมด..จะได้ไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง..


โดย: พิจักษณา วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:20:27 น.  

วนารี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หัดเขียนเพื่อเรียนรู้ค่ะ
^^^^^^^^^^^^
ความรัก เสลาสลักสวยใส
งามใดเล่า งามใด
เทียบได้งดงาม ความรัก
จรดลึก ในความทรงจำ
ลึกล้ำ ย้ำรอยสลัก
นิรันดรนั้น นานหนัก
แต่รักเรา นานกว่านั้น
^^^^^^^^^^^^

เขาว่าเรา เราอย่าโกรธ ลงโทษเขา
ในเมื่อเรา นั้นไม่เป็น เช่นเขาว่า
หากเราเป็น จริงจัง ดังวาจา
เมื่อเขาว่า อย่าโกรธเขา เราเป็นจริง
Friends' blogs
[Add วนารี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.