ใต้ฟ้าเดียวกัน.... ForGet mE nOt
Group Blog
 
All blogs
 
อดทน ในโลกมายา (คำสอนแห่งพุทธะ)



" ทน " เป็นคุณสมบัติเป็นคุณธรรมของคนที่อยู่ในโลกมายา
ขันติ หรือ คุณธรรมนั้นเป็นเครื่องมือของมนุษย์ทุกผู้ตัวคนควรเรียนรู้

ความอดทนตัวนี้เปรียบได้กับไม้ค้ำฝ้าเพดาน ถ้าไม่มีไม้เสียแล้ว
ฝ้าเพดานก็จะหล่นลงมากอง เพราะฉะนั้น ไม้พยุงฝ้าให้อยู่ฉันใด
ตัวอดทนตัวนี้เปรียบได้กับไม้ค้ำพยุงกิเลส ให้ได้ฉันนั้น
พยุงโลกมายา โลกแห่งความหลอกลวง ให้ปลิวไสวสะบัดพัดวีอยู่
แสดงแสนยานุภาพ เหมือนการสร้างโบราณสถานด้วยก้อน"ศิลา"
ที่ใช้หินที่แข็งแกร่งมาแกะสลักก่อสร้างเพื่อให้ทนทานแข็งแกร่งอยู่อย่างมั่นคง
ไม่ไหวเอนไปตามลมพายุไม่ถล่มทลายลงมา
เพราะฉะนั้น เราควรใช่ความอดทน ขันติ ความอดกลั้น
เป็นธรรมเพิกถอนกิเลสอย่างยิ่ง




อย่างมหาโจร องคุลีมาร เมื่อเข้ามาบวชในศาสนา แล้วโดนชาวบ้าน
เขาปาด้วยก้อนอิฐ ก้อนหิน โดนชาวบ้านทำร้าย พูดจาเสียดสีถากถาง
ก็มีขันติ คือ ความอดทน อดกลั้น ไม่แสดงอาการกิริยา เหมือนกับมหาโจรที่แล้วๆมา
ต้องผจญกับพายุ โหมกระหน่ำทุกทิศทาง
พระศาสดาก็ทรงมา แสดงขันติ ให้องคุลีมารพ้น เพื่อเอาชนะเขาเหล่านั้น
เขาจะด่าจะปาอย่างไรก็ทนเอาไว้ลูก ถือเสียว่านั้นเราเคยทำเขาไว้




พระพุทธเจ้าจะให้สำหรับคนที่ต่อสู้กับความจริง เอาความจริงไปสู้กับความไม่จริง
จึงจำเป็นต้องมีขันติ
แล้วทั้งโลกมายาและโลกแห่งความเป็นจริง มันอยู่ที่ไหน
มันก็ไม่ได้อยู่ที่อื่นไกล อยู่ในใจของเรานั้นเอง





ทุกคนว้าวุ่นไม่รู้จักกำจัดปัญหาของตน ก็เลยสร้างเงื่อนไข
ในการ แก้ปัญหาแห่งตน แต่ไปสัมผัสจับต้องกับเงื่อนไขของคนอื่น
เลยคิดว่าคนอื่นไม่ยอมรับตน ไม่ใช่พวกตน เพราะทุกคนไม่เป็นคนจริง
ไม่ยอมรับความจริง ไม่เข้าใจว่าความจริงเป็นอย่างไร
ใจของตัวเองไม่แข็งแกร่งเหมือน ก้อน ศิลา




ทำใจให้เหมือนเมฆหมอกที่กำลังเคลือนตัวเปลี่ยนรูป
หรือสายน้ำที่กำลังไหลริน ให้ ความฉ่ำเย็น กับสัพสิ่งบนโลกใบนี้




ฤดูใบไม้ร่วงสิ่งทั้งปวงทั่วโลกา
สัพเพสังขาราอนิจจาป่าช้าผี
เวลาของชีวิตสิ้นน้อยนิดไปทุกที
ประพฤติคุณความดีเมื่อยังมีลมหายใจ
อย่ารอให้แก่เฒ่าจะตายเน่าเข้าโลงไป
ขาดทุนสูญกำไรไม่มีใครช่วยแก้ตัว
เมื่อยังมีชีวิตอย่าให้จิตใจมืดมัว
เลิกทำบาปกรรมชั่วคิดเกรงกลัวไม่มัวเมา




สายน้ำที่กำลังไหลริน ให้ ความฉ่ำเย็น กับสัพสิ่งบนโลกใบนี้



มนุษย์เราต้องมีสติอยู่เสมอ แข็งแกร่งให้เหมือน ศิลา

สัมปชัญญะ: มีความรู้ตัวอยู่เสมอ

ธรรมะ ที่ต้องเรียนรู้ในการทำให้ชีวิตมีความสุขอยู่บนโลกใบนี้

รู้จักเหตุที่เกิด ในบ้างครั้งเมื่อมีอะไรมากระทบความรู้สึกของใจ
ให้เกิดทุกข์ ในการดำเนินชีวิตให้ราบเรียบให้ใจเป็นสุข
เมื่อมีเหตุเกิด ต้องแก้ไขหาเหตุที่เกิด แก้ไขเหตุที่เกิดทุกข์

เพราะฉะนั้น ต้องมองเหตุการที่เกิดขึ้นและผลที่ได้รับ
เราต้องมีสัตย์กับตัวเอง รู้จักตัวเอง รู้จักประมาณ รู้หน้าที่
รับผิดชอบต่อหน้าที่ และสังคม เรียนรู้สังคมรอบด้าน

สติและสมาธิมันเรื่องเดียวกันหรือไม่
สติเป็นเหตุ สมาธิเป็นผล
ถ้าพูดถึงเรื่องการฝึกสติ ก็คือการฝึกการระลึกได้
แต่ถ้าพูดถึงการฝึกสมาธิ ก็คือการสร้างฐานที่ตั้งของการระลึกได้
และขยายผลของสติให้มีประสิทธิภาพเป็นพลัง
ศาสนา มิใช่กฎเกณฑ์กติกา ระเบียบ แบบแผน ขนมธรรมเนียม
จารีตประเพณี หรือ ความดีกับความชั่ว
ศาสนา มิใช่การทำตัวให้ไปอยู่กับพระเจ้า หรือ เป็นบ่าวของพระพรหม
ศาสนา มิใช่เป็นเพียงแค่ทำตัวให้เป็นที่นิยม ยอมรับ หรือปฏิเสธ
ศาสนา คือ ที่มาของคำว่า ดับและเย็นเท่านั้น
มาเรียนรู้ให้ชีวิตมีความสุขร่มเย็น กับการที่ยังมีลมหายใจอยู่กันเถอะ




ในความว่าง ไร้ชื่อเรียกขาน ไร้ตัว ไร้ตน ไร้พรหมแดน
มีชีวิตและจิตใจ รวมเป็นสมาธินั้น
ทุกสรรพสิ่ง สรรพชีวิต สรรพวัตถุ
รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีแม้แต่กาลเวลา
คงไว้แต่ปัจจุบันของอารมณ์ สมาธิ
(คำสอนจากพุทธะ)




มาเรียนรู้เพื่อตอบแทนโลกเหมือนกับ โบราณสถานที่ยังทรงคุณค่าอยู่เสมอ








Create Date : 10 กันยายน 2550
Last Update : 16 กันยายน 2550 17:59:15 น. 0 comments
Counter : 869 Pageviews.

วนารี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หัดเขียนเพื่อเรียนรู้ค่ะ
^^^^^^^^^^^^
ความรัก เสลาสลักสวยใส
งามใดเล่า งามใด
เทียบได้งดงาม ความรัก
จรดลึก ในความทรงจำ
ลึกล้ำ ย้ำรอยสลัก
นิรันดรนั้น นานหนัก
แต่รักเรา นานกว่านั้น
^^^^^^^^^^^^

เขาว่าเรา เราอย่าโกรธ ลงโทษเขา
ในเมื่อเรา นั้นไม่เป็น เช่นเขาว่า
หากเราเป็น จริงจัง ดังวาจา
เมื่อเขาว่า อย่าโกรธเขา เราเป็นจริง
Friends' blogs
[Add วนารี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.