ติดต่อพูดคุยกันได้ในเฟซบุ๊คเพจนะคะ
https://www.facebook.com/srisurangwriter
Group Blog
 
 
เมษายน 2557
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
21 เมษายน 2557
 
All Blogs
 
:::Excite:::แกร่ง:::๒ ความทรงจำ:::









๒ ความทรงจำ



๗๐ ปีผ่านไป

ดุจดวงเนตรดวงใจลอยหาย
มืดคล้ายดาวจันทร์ตะวันดับ
เมื่อท่านสูญชีพลิ่วลอยลับ
ข้ากลับเหลือเพียงร่างที่ไร้ใจ


ใบไม้สีสดสวยมากมายที่ในสวนพลิ้วตามสายลมอ่อนอันพัดแผ่วเบาอยู่นอกหน้าต่าง บ้างก็ร่วงตกลงมาในสระน้ำซึ่งใสดุจกระจกแก้ว ดอกบัวสีขาวมากมายกำลังแย้มบานรับแสงอรุณ

ลิลฎานั่งเอนกายอยู่ในเรือน มองผ่านหน้าต่างออกไปชมทิวทัศน์อันสวยงามเหล่านั้น ผีเสื้อและแมลงปอกระพือปีกร่อนอยู่ริมน้ำ นกสีสดหลายชนิดเกาะอยู่ตามกิ่งก้านพฤกษา ราวกับว่ามันกำลังร้องเพลง

แม้จะเห็นภาพ แต่ว่าตัวเธอเองกลับไม่อาจได้ยินเสียงใด มิว่าเสียงนกเสียงแมลงปอ ไม่อาจรู้สึกถึงสายลมแผ่วภายนอก เพราะหน้าต่างแก้วหรือประตูหนารอบเรือนที่อาศัยของนางแห่งนี้ล้วนปิดทึบแข็งแรง รอบนอกชานก็มีปราการมนต์ประดุจแผ่นกระจกที่กั้นไว้มิให้ออกไป หรือติดต่อสัมผัสสิ่งใด ณ ภายนอกได้เลย

นานมาแล้วที่เธอถูกขังอยู่ที่นี่ ไร้หวัง ไร้สุข มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นที่ทำให้มีความสบายใจขึ้น พอที่จะต่อลมหายใจต่อไปได้อีกวัน อย่างหนึ่งก็คือการนั่งนิ่งอยู่ลำพังกลางความเงียบ และหล่อเลี้ยงหัวใจด้วยความทรงจำอันงดงามในวันเก่า ครั้งที่มีเขา คู่รัก ยอดชีวิตเพียงผู้เดียวอยู่เคียงข้าง ก่อนที่จะสูญเสียเขาไปตลอดกาล

พรรษ เจ้าชายแห่งปักษาที่สง่าราวกับสุริยเทพ

ลิลฎาไม่เคยลืมครั้งแรกที่ได้พบเขา เนตรราวดวงตะวันทอแสงแรงกล้า บางครั้งสีส้ม บางคราก็เจือแสงสีแดง

เหนือปทุมวารี สระบัวน้ำใสเย็น กว้างขวางดุจทะเลสาบ ละอองหมอกจางโรยเรี่ยระผิวน้ำ ท่ามกลางดอกบัวใหญ่หลากชนิดมากมายละลานตา มีสัตตบุษย์ขนาดใหญ่ดอกหนึ่งซึ่งเป็นดุจบ้านหรือวิมานของอัปสราวารีเช่นเธอ

เขาปรากฏกายขึ้นกลางสายหมอก เหมือนวิหคเพลิง จ้องตาที่มีสีสันปานเปลวไฟมาที่หล่อน ลิลฎารู้ทันทีว่าเขาคือพญาครุฑ แม้ว่าจะอยู่ในร่างเทวบุตรสีทองเรืองรอง ลวดลายอักขระและภาพบนตัวสีแดงชาด ปีกใหญ่ทั้งคู่นั้นก็สีทอง หากปลายปีกกลับมีสีแสดอมแดง วับวาวเลื่อมระยับ

เธอเองก็อยู่ในร่างอัปสร เป็นสตรีกลางเกสรดอกบัวขาว หากเพลานั้นลิลฎาเกรงเหลือเกินว่าเขาจะทราบว่าตัวเธอนั้นสามารถกลายร่างเป็นปลาสีเงินสวย ลงแหวกว่ายใต้ธารใสได้ด้วย เธอเป็นเทพธิดาดอกไม้ยามอยู่บนบก และยังสามารถนิรมิตปีกบางประหนึ่งปีกแมลงปอยามที่จะโผขึ้นล่องเล่นบนฟากฟ้า เรื่องที่เป็นเทพธิดาหรือมีปีกนั้นไม่เท่าไร หากมัจฉาทั้งหลายเป็นเหยื่อตระกูลปักษีมาแต่บรรพกาล

“อัปสราน้อย เจ้ามีนามใด” เสียงทุ้มไถ่ถาม

เธอถอยหนีไม่ได้ กับผู้ล่าทรงพลังเช่นเขานั้น เหยื่อที่เขาต้องการไม่มีทางหนีพ้น รัศมีกายสว่างไสวรายล้อมบ่งบอกว่าเขามีกำเนิดและอานุภาพสูง เธอเดาว่าเขาคงเป็นเจ้าชาย เป็นเทพปักษี

แม้จะอยากมุดหนีลงน้ำเท่าไร ลิลฎาก็ทราบว่าหากเธอกลายเป็นปลาเวลานี้ ยิ่งเท่ากับล่อให้เขาอยากจับเธอกินมากขึ้นไปอีก ฉะนั้นเธอจึงคงร่างนารี ตอบข้อเจรจาด้วยเสียงสั่นหวั่นกลัว

“ข้า ข้าชื่อลิลฎา”

ครุฑหนุ่มทราบนามเธอแล้วก็มิได้พอใจเพียงนั้น วนเวียนอยู่รอบกายและรอบดอกปทุมบ้านของเธอ ราวกับผึ้งวนตอมดอกไม้ ไล่ล่าจนหัวใจเธอตื่นเต้นกระเด็นกระดอน และเชิญตนเองเขามาเป็นแขกพักอาศัยในบ้านดอกปทุมน้อยทั้งที่เธอไม่ต้องการ

“บ้านข้าเล็กคับแคบนัก ท่านคงพักไม่สบายดอก”

ธรรมดาชาวบ้านผู้อารี ยามมีนักเดินทางผ่านมาขออาศัย ส่วนมากก็จะเอื้อเฟื้อให้พักค้างคืนได้ และมักเลี้ยงอาหารผู้มาเยือนจนอิ่มหนำสำราญ เป็นธรรมเนียมนิยมของผู้มีน้ำใจ ทว่าการที่บุรุษมาขออาศัยเคหสถานของสตรีที่พักอยู่เพียงลำพังนั้นไม่ถูกธรรมเนียมด้วยประการทั้งปวง

“ข้าคงไม่อาจต้อนรับท่านด้วยดี และยิ่งผิดประเพณีชายหญิง” เธอกล่าวอย่างลำบากยากใจ “จวนค่ำแล้วท่านจงกลับไปสู่ถิ่นที่ท่านจากมาเถิด”

ลิลฎาพยายามไล่แขกที่เข้ามานั่งนอนเล่นในบ้านดอกบัวน้อยของตนทุกวิถีทาง หากโอรสเวนไตยที่เอนกายอยู่กลางพรมเกสรก็ไม่ขยับ มิได้อนาทรร้อนใจใดๆ เลย

“สัตตบุษย์วิมานของเจ้านี้งามนัก ข้ามิเคยยลเลยว่าภายในดอกบัวหลวงสีขาวกลีบซ้อน สามารถแบ่งกลีบซอยเป็นห้องกว้าง ทั้งห้องสำราญ ห้องพักผ่อนนิทรา แม้กระทั่งห้องริมวารี ที่กลีบบงกชแหวกออกดุจเผยม่านหน้าต่าง ให้ชมทิวทัศน์แห่งท้องน้ำในทะเลสาบปทุมวารีนี้ด้วย”

เขาผินหน้าไปมองผิวน้ำใส ระเรื่อยห่างออกไป เห็นหมู่อุบลชาติสีสันละลานตาส่งกลิ่นหอม แบ่งบานสะพรั่งทั่วไป “นี่ช่างน่ารื่นรมย์นัก”

ลิลฎาไม่รู้สึกน่ารื่นรมย์เลย เมื่อมีบุรุษตัวโตมานั่งอยู่กลางบ้าน นางผลักไสขับไล่พญาครุฑผู้นี้ทั้งวาจาและกิริยา จนกระทั่งถึงต้องออกแรงลาก ดึง ผลัก ให้ออกไป แต่เขาก็ไม่ไป

พรรษกลับหัวเราะชอบใจ และส่งสายตาวาวหวานเป็นประกายมากยิ่งขึ้น

“หากจะให้ข้าจากไปในราตรีนี้ เจ้าก็ต้องออกปากเชิญข้ามาเยือนในวันพรุ่งนี้ก่อน เจ้าเทพธิดาบัวน้อย มิอย่างนั้นข้าก็ไม่ไป”

ลิลฎาส่ายหน้าจนผมกระจาย “ไม่ ข้าไม่เชิญ” ออกแรงผลักอกของตัวตนสูงใหญ่ให้แรงขึ้น จนเท้าเขาพ้นจากพื้นกลีบบัวริมวารี กระนั้นผู้มาเยือนก็มิได้พลัดตกน้ำไปง่ายอย่างที่ใจคิด ปีกคู่มหึมาสีทองปลายแสดนั้นกางออกขยับไหวเพียงน้อยนิดก็พยุงร่างเจ้าของไว้เหนือผืนน้ำและยังคงไม่พ้นไปจากกลีบบัวบ้านของหล่อน

“กลับไปนะ”

ดวงสุริยาจะลาลับฟ้าแล้ว กลีบสัตตบุษย์ค่อยค้อมคุ้มหุบเข้ามาหากันช้าๆ เพราะวิมานปทุมของเธอนั้นจะแบ่งบานในกลางวันเท่านั้น เธอรู้ดีว่าต้องผลักครุฑดื้อออกไปให้พ้นก่อนแสงสนธยาจะลาลับ มิฉะนั้นเขาจะติดอยู่ในบงกชกับเธอทั้งคืน

แต่พรรษไม่ขยับเขากลับบินเข้ามาใกล้ขึ้น ทำให้เธอต้องออกแรงผลักมากขึ้น ไม่ทันรู้ตัวว่าเป็นอุบายของผู้ชายมากเล่ห์ ชอบที่เธอสัมผัสตัวเขา และจงใจให้มากยิ่งขึ้น กว่าจะรู้ เธอที่เป็นฝ่ายผลักกลับถูกแผ่นอกอุ่นนั้นดันกลับเข้ามาถึงในห้อง กลีบเกสรที่เป็นดุจม่านและฉากกั้นห้องนอนข้างในสัมผัสแผ่นหลัง ลิลฎาจึงเพิ่งรู้สึกตัว หยุดตั้งหน้าตั้งตาผลักไสผู้ชายหน้าด้าน หันกลับมาเห็นว่าตนเองถอยมาจนถึงห้องส่วนตัวแล้ว

พรรษหยุดบินลอยลงยืนบนพื้นสีเหลืองลออนุ่มนิ่ม “แม้แต่บ้านของเจ้าก็ส่งกลิ่นหอมชื่นใจ เกรงว่าเจ้าของคงจะหอมไม่แพ้กัน”

ท้องฟ้าภายนอกสีครามเข้มมืดลงจนเริ่มเห็นแสงดาว แลเห็นผ่านรอยแยกของกลีบบัวขาว และกำลังจะลับไปเมื่อกลีบซ้อนดุจม่านไหมมากมายเบื้องบนค่อยปิดช้าๆ เข้ามาหากัน

อัปสราวารีตวัดสายตากลับมาสบนัยน์ตาวิบวับดุจเพลิงของพญาสุบรรณหนุ่มที่ยืนอยู่ชิดกาย แล้วตัดสินใจในพลัน เธอผละออกวิ่งหนี แหวกกลีบมาลีที่กำลังเลื่อนปิด วิ่งผ่านกลีบเกสรชั้นในออกมาถึงริมวารี หากเขาจะอยู่ที่นี่ ในบ้านของเธอคืนนี้ให้ได้ เธอก็จะหนีลงน้ำไป

เสียงหัวเราะทุ้มๆ วิ่งตามหล่อนมาติดๆ คล้ายกับเจ้าตัวสำราญใจยิ่งนัก

“จะไปไหนกัน”

ก่อนที่หล่อนจะกลายเป็นปลาแล้วกระโดดลงน้ำหายไป เขาก็จับหล่อนได้ วงแขนล่ำสันรวบรอบเอว ดึงหล่อนกลับไปปะทะกายกำยำที่อุ่นจัดเบื้องหลัง สัมผัสแรกทำให้ลิลฎาตกใจจนเปลี่ยนร่างกลายเป็นปลาในวินาทีนั้นเอง

แล้วก็มิรู้ว่าใครจะตกใจมากกว่ากัน

เธอที่รู้ว่าได้กลายร่างเป็นเหยื่อของพญาครุฑโดยสมบูรณ์ หรือพญาเวนไตยที่เห็นสตรีสวยใสกลายเป็นมัจฉา พรรษกลับหัวเราะมากยิ่งขึ้น เมื่อเขารัดนางปลาตัวใหญ่ที่จับได้ไว้มั่น แล้วมันก็กลับกลายเป็นหญิงสาวงดงามผู้เดิม ที่มีดวงหน้าตกใจ ดวงตาว้าวุ่นหวั่นไหว และกลีบปากแดงฉ่ำชวนจุมพิต

“ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าเจ้าจะกลายเป็นปลาได้เพลาตกใจ”

“เวนไตย ปล่อยข้า ละเว้นข้าเถิด”

“เสียใจนัก ข้าจับเจ้าได้แล้ว เกรงว่าจะต้องรีบกินเจ้าคืนนี้ ก่อนที่ฟ้าจะสาง อุบลแย้มบานแล้วเจ้าจะหนีลงน้ำหายไป”

ลิลฎายิ่งตกใจ หันมองไปก็เห็นว่ากลีบบงกชปิดเข้าหากันสนิทแล้ว และจะยิ่งแนบแน่นยิ่งขึ้นจนผ่านออกไปไม่ได้เลยในยามดึก

เธอตกใจดิ้นรนผลักอ้อมแขน เขาก็ปล่อยมือโดยดี รอยยิ้มยียวนของผู้ชนะที่รู้ว่าตนได้ดังใจแล้วกวนโมโหอย่างร้ายที่สุด หญิงสาวโกรธจนหน้าแดงก่ำ นึกหาคำบริภาษที่เจ็บแรงที่สุดออกมาไม่ได้ เพราะส่วนหนึ่งของสมองเธอกำลังละลายเพราะสายตาคมบาดใจคู่นั้น

“เจ้า...เจ้า...”

“อย่าเปลืองแรงด่าข้าเลย มันไม่มีผลอะไรแล้วละ”

ความโกรธกลายเป็นความหมดหวัง และกำลังกลายเป็นความกลัว เมื่อเขาเตือนให้เธอรู้ตัวว่ากำลังอยู่สองต่อสองกับผู้ชายร่างใหญ่ที่มีพลังอำนาจเกินตน และไม่มีทางที่จะหนีไปไหนได้...ตลอดราตรี

ทว่า สิ่งที่เธอกลัวที่สุดไม่ได้เกิดขึ้น

พรรษยั่วแหย่ กวนโมโห ตั้งคำถามมากมาย ชวนคุยเรื่องหลากหลาย เล่าเรื่องของตนและสนใจเรื่องราวของเธอ ถึงเขาจะเข้ามายึดพื้นที่บนเตียงเกสรไปกว่าครึ่งค่อน แต่ก็แค่นอนคุยและแอบแตะต้องผมของเธอบ้าง พอให้เธอโมโหปัดมือเขา หรือยั่วเย้าให้เธอเป็นฝ่ายทำร้ายผลักดันร่างใหญ่โตลงจากเตียง

สุดท้ายแล้วคืนนั้น โอรสสุบรรณได้เปลี่ยนความแปลกหน้ากันกลายเป็นความรู้จักและวางใจ อีกไม่กี่คืนถัดมาเมื่อเขามาหาและเล่นลูกดื้อไม่ยอมกลับ ลิลฎาจึงไม่ได้ต่อต้านปฏิเสธอะไรมากนัก ดังนี้ครุฑหนุ่มจึงได้ใจแวะเวียนมาหาเธออย่างสม่ำเสมอ ความคุ้นเคยสนิทสนมค่อยเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว และในที่สุดเขาก็ได้เข้ามานั่งในใจและครอบครองเป็นเจ้าของร่างกายของเธอ เพียงไม่ถึงปีหลังจากนั้น

ลิลฎาถอนหายใจกับความทรงจำแห่งความหวานล้ำและความสุข เธอหลงอยู่ในห้วงรัก แทบลืมทิวาราตรี จนกระทั่งวันหนึ่งถึงได้รู้ความจริงว่า เขามิใช่แค่ครุฑอิสระที่จะมาคลอเคล้าอยู่กับเธอตลอดไป หากพรรษเป็นเจ้าชายรัชทายาทแห่งนคร มีภาระหน้าที่ และฐานะเช่นเขานี้ย่อมจะต้องมีมเหสีที่เป็นครุฑเลือดกษัตริย์ทัดเทียมกันเท่านั้น

เธอเพิ่งมารู้ว่าเธอนี้มิใช่นารีที่ควรคู่ และคงเป็นเช่นบริจาริกานางหนึ่งในอีกหลายสิบหรือหลายร้อยนางในอนาคตเป็นแน่แท้

“ข้าไม่อาจติดตามท่านกลับไปได้”

เธอร้องไห้เมื่อตระหนักใจในความจริง

แต่พรรษไม่ยินยอม “เหตุไรจึงไม่ได้”

ด้วยความทะนงของโอรสกษัตริย์ขัตติยชาติ เขาย่อมไม่ยอมรับการตัดสินใจของนาง ย่อมต้องเป็นเขาที่ตัดสินการอยู่หรือจาก พบหรือพราก ดังนั้นเขาจึงประกาศว่าเธอเป็นสมบัติของเขา เป็นหนึ่งในทรัพย์ที่เขาเสาะหามาได้ และเขาจะเก็บเธอไว้ไม่ว่าเธอจะมีความเห็นอย่างไร

นั่นทำให้ทั้งสองทะเลาะโต้เถียงกันเป็นครั้งแรก เธอหมั่นไส้ความเจ้าอำนาจของเขา ขัดใจประท้วงไม่ยอมตามใจ เวนไตยหนุ่มก็ไม่พอใจหายหน้าไปไม่มาหาเสียหลายราตรี ต่างก็คิดว่าการเย็นชาจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้ได้รู้สำนึกและตามใจตน จนกระทั่งรู้ว่า เมื่อขัดใจกันต่างฝ่ายต่างก็เจ็บปวด เมื่อแยกจากกันต่างฝ่ายต่างก็รวดร้าว

ลิลฎารู้ในเวลานั้นว่าตนรักเขาเกินกว่าจะตัดใจได้ขาดเสียแล้ว และคงจะต้องเตรียมจิตใจเพื่อรับฐานะหนึ่งในนางสนมหลายนางของเจ้านครในอนาคต

ฉะนั้นเมื่อเขาปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง กลางละอองหมอกในปทุมวารี ที่นอกวิมานสัตตบุษย์บ้านของเธอ ลิลฎาก็ได้แต่จ้องมองเขาด้วยดวงตาตัดพ้อ มิคาดคิดว่าจะได้เห็นแววพ้อระคนน้อยใจในดวงตาคู่สีเพลิงของชายหนุ่มด้วยเช่นกัน

เขาลงยืนที่ปลายกลีบบุษบงชั้นนอกสุด ทั้งสองต่างจ้องมองกันนิ่งเช่นนั้น

“ติดตามข้ากลับไป...เป็นชายาแห่งข้า”

น้ำตารื้นขึ้นในตานาง

“หากพระบิดามารดาอนุญาต เจ้าจะเป็นเมียเอก”

หยาดอัสสุชลหนึ่งร่วงลงบนแก้มนวล แค่ได้รู้ว่าเขาตั้งใจให้เธอเป็นที่หนึ่งเหนือกว่านารีใดก็เพียงพอแล้ว ถึงแม้ว่าภายหน้าท่านบิดามารดาเขาจะไม่ยอมรับ แต่ลิลฎาก็ได้รู้แล้วว่า ในใจเขานางมีความสำคัญที่สุด

“อย่าร้องไห้ได้ไหม ยังไม่พอใจหรือ”

พรรษเบือนหน้าไปด้านข้างไม่มองเธอ

“จะให้ข้ายอมมาเป็นสามีเอกของเจ้าที่นี่คงไม่ได้”

สำหรับฐานะโอรสสุบรรณรัชทายาทเจ้านคร นับว่าเขาอ่อนข้อให้เธอมากนักแล้ว

“ข้าพอใจ ข้าพอใจยิ่ง”

พรรษหันกลับมาสบตา นัยนาพรายด้วยความพึงใจ

“น้ำตานี้ เพราะว่าข้าซึ้งใจ ที่ท่านมิได้เห็นข้าเป็นเพียงหญิงหนึ่งในหนทางผ่าน”

“ลิลฎา ใจข้าไม่เคยคิดเช่นนั้น”

“ท่านรักข้าใช่ไหม”

นัยน์ตาคมกล้าเบิกกว้างขึ้น “ใครบอกว่ารัก!”

พรรษคล้ายตกใจและขัดเขิน โหนกแก้มกับใบหูขึ้นสีระเรื่อ หันหน้าหนีไปครู่หนึ่ง แล้วเวนไตยหนุ่มก็ทาบมือกับอกข้างซ้ายของตน หลุบตาลงต่ำจนเห็นแพขนตาสีเข้มเป็นเงา เอ่ยเสียงเบาว่า

“ข้าแค่รู้สึกเจ็บข้างในนี้บ่อยๆ เวลาที่เห็นน้ำตาของเจ้า เวลาที่เราเถียงกัน หรือเวลาที่ข้าต้องจากไปไกล”

ลิลฎารู้ว่าเขากำลังบอกอะไร

“ขะ ข้า ข้าเองก็ทรมานใจ เมื่อคิดว่าต้องจากท่านไปเช่นกัน”

ยังไม่ทันได้รู้สึกว่าเขาล่องลอยเข้ามาหา จู่ๆ ชายหนุ่มก็มาอยู่ใกล้จนดวงตาสบกันในระยะชิด

“แล้วความเจ็บพวกนั้นจะจางไป เมื่อไรก็ตามที่ได้กอดเจ้าไว้อย่างนี้”

กายของเขาอุ่นจัด ราวกับถูกโอบล้อมด้วยกองไฟที่มีเลือดเนื้อ ความรักและปรารถนาถ่ายทอดออกมาจากดวงตาคู่นั้นแจ่มชัด มันเรืองรองเร้าใจให้เต้นรัวแรง

จุมพิตร้อนระอุ ส่งผ่านกระแสความรู้สึกประหนึ่งธารเสน่หาไหลซึมซ่านเข้ามาในกาย แล้วหลอมรวมสองร่างกลืนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

ลิลฎาได้แต่กอดเขาไว้ รับพลังจากกล้ามเนื้อแกร่ง ขณะที่ชายหนุ่มประคองศีรษะเธอด้วยมือหนึ่ง อีกมือโอบรัดแนบแน่น ปีกทั้งคู่ของเขาพาสองร่างล่องลอยเข้ามาถึงห้องใน หากโอรสครุฑไม่เห็นม่านกลีบบัวที่บังไว้ และพาทั้งคู่ชนผนังบุปผาอันคล้ายฉากผ้านั้น กลิ้งล้มลงมาด้วยกันบนพรมเกสร

กลิ่นหอมฟุ้งอบอวล บทรักเร้าอารมณ์ ลิลฎาไม่เคยลืมดวงตาสีส้มแวววาวดุจเตาหลอมที่พร่าพรายด้วยไฟรัก รอยจูบดุจตีตราจองทุกพื้นที่บนผิวกาย และคำสัญญาในวิมานดอกไม้กลางทะเลสาบปทุมวารี

ว่าเราจะมีเพียงกันและกันตลอดไป





*****************


ปล.เรื่องนี้จะลงตัวอย่างสี่ตอนนะคะ






แกร่ง โดย ศรีสุรางค์
นิยายหนึ่งในสี่เรื่อง ในรวมเล่ม Excite
(อีกสามเรื่องโดย นันท์นภัส Tonpalm
และ Mirininthemoon)
เปิดให้จองแล้วที่
Hongsamut.com
กำหนดออกเป็นรูปเล่ม 2พค.57












Create Date : 21 เมษายน 2557
Last Update : 30 เมษายน 2557 10:58:15 น. 0 comments
Counter : 787 Pageviews.

ศรีสุรางค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]












visit me at:
Srisurang's book recommendations, liked quotes, book clubs, book trivia, book lists (read shelf)




ประวัติผลงาน





สงวนลิขสิทธิ์

การนำส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของงานเขียนในเว็บนี้ ไปเผยแพร่ ดัดแปลง เสนอขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
Srisurang's bookshelf: read

หัวใจที่ถูกจอง รักนี้ (ไม่) มีสตรอว์เบอร์รี รวมมิตรแต้พานิช มายานาง เจ้าดวงใจ คนในผ้าเหลือง A Man in Saffron Robes

More of Srisurang's books »
Book recommendations, book reviews, quotes, book clubs, book trivia, book lists

My Goodreads bookshelf

Dream Lake
Rose
เหยื่ออธรรม
ประมูลหัวใจ
Something About You
ปทมาศวรรย์
อานาปานสติ วิถีแห่งความสุข
Celebrity in Death
The Madness of Lord Ian Mackenzie
รักหลงฤดู
สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ เล่ม 1
จิตสดใสแม้กายพิการ
Love me, please...เพียงรักฝากใจ
พระสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ภาค๑ และอรรถกถา Tipitaka The Pali Canon (Thai Translation) Book 15
Born in Sin
Dark Desire
ตุ๊กตา
นาคราช
ทวิภพ
Red River, Vol. 8


Srisurang's favorite books »
Friends' blogs
[Add ศรีสุรางค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.