• My Journey

ข้อควรปฏิบัติพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบิน บทความที่แล้วแอดมินได้เขียนเกี่ยวกับเมื่อแม่ตั้งครรภ์ขึ้นเครื่องบินควรปฏิบัติตัวอย่างไร มาถึงบทความนี้แล้วถ้าลูกน้อยคลอดออกมาแล้วล่ะ จะพาขึ้นเครื่องบินได้ไหม คำตอบคือ “ได้ค่ะ” แต่เรามาดูกันเวลาที่เราพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินมีสิ่งที่ต้องเตรียมและต้องปฏิบัติตัวอย่างไร - เริ่มตั้งแต่จัดเตรียมข้าวของเลยค่ะ พยายามแบกข้าวแบกของให้น้อยที่สุดกระเป๋าที่ต้องเตรียมแนะนำให้เป็นกระเป๋าสะพายหรือกระเป๋าเป้ค่ะเพื่อที่สองมือของคุณแม่จะได้ว่างอุ้มหรือจูงคุณลูก - เข้าไปศึกษาถึงเรื่องปริมาณ หรือลักษณะ หรือจำนวนของบรรจุภัณฑ์ของเหลวของเด็กอย่างเช่นพวกนม ยา ว่าข้อกำหนดของแต่ละสายการบินกำหนดอย่างไร - เลือกที่นั่ง ให้เหมาะสม แอดมินแนะนำให้เลือกที่นั่งด้านหลังสุดหรือหน้าสุดค่ะเพราะสองพื้นที่มีพื้นที่ที่ค่อนข้างสักหน่อยเผื่อจะใช้พื้นที่ทำกิจกรรมกับลูกน้อยเช่นเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือให้เค้าได้ยืนยืดเส้นยืดสายจะได้ไม่ต้องเครียดหรืออึดอัดขณะอยู่บนเครื่องบินค่ะ - Trick สำหรับแอดมินที่เคยไปอ่านเจอก็คือ เพื่อลดความเครียดหรือความเบื่อของลูกน้อยบางคนแนะนำให้หาซื้อของเล่นใหม่ที่ยังไม่แกะกล่องให้กับเค้าค่ะเพื่อให้เค้าได้เพลิดเพลินและตื่นเต้นกับของเล่นใหม่ ก็ช่วยยืดระยะเวลาความเบื่อไปได้บ้างนะคะ - อีก Trick หนึ่งอันนี้ก็น่าสนก่อนเครื่องขึ้นพยายามให้เค้าเล่นให้เหนื่อยๆ เข้าไว้ค่ะ เพื่อให้ฤทธิ์ได้ลดลงบ้างเล่นจนเหนื่อยหลับเลยยิ่งดี ทีนี้ขึ้นเครื่องก็สบายแล้วค่ะ - จัดเตรียมแพมเพิสเอาไว้ให้เพียงพอ เหลือดีกว่าขาดค่ะ - บางสายการบินมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารที่พาเด็กขึ้นเครื่องโดยเฉพาะนะคะ บางสายการบินมีเปลให้ด้วยลองสอบถามพนักงานดู - พยายามเลือกนั่งตรงริมทางเดิน เพื่อที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำได้สะดวกค่ะ - กรณีของเรื่องความกดอากาศที่อาจทำให้ลูกน้อยเจ็บหูได้ วิธีแก้ไขก็คือให้น้องดูดนมตอนเครื่องขึ้นหรือลงค่ะ จะช่วยลดทอนการปวดหูได้ เท่านี้เราก็หมดกังวลเรื่องพาลูกน้อยขึ้นเครื่องได้แล้วเด็กๆ ไปบินกันเล้ยยย ** ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก pixabay.com ค่ะ ** -----------------------------------------------------------   Create Date : 31 สิงหาคม 2558     Last Update : 17 ตุลาคม 2558 22:55:34 น. Counter : 1755 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ตั้งครรภ์ขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ยังค่ะแอดมินยังไม่ได้ตั้งครรภ์แต่อย่างใด อยู่ดีๆ วันนี้ก็มีความคิดแว๊บขึ้นมาว่าถ้าฉันตั้งท้องล่ะ แล้วถ้าเดินทางด้วยเครื่องบินล่ะ จะไปยังไงปกติไม่ค่อยเห็นคนท้องขึ้นเครื่องบินสักเท่าไหร่ เลยไปลองหาดูข้อมูลดูว่า จริงๆ แล้วคนท้องขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ เอาเข้าจริงๆแล้ว ความคิดส่วนตัวมันก็ไม่ควรนะคะเพราะว่าเราไม่รู้จะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้คนท้องทำอะไรบางอย่างก็ไม่ค่อยจะสะดวกนัก แต่ก็เอาล่ะ ถ้ามันจำเป็นจริงๆลองมาดูข้อมูลรายละเอียดกันดีกว่า ว่าคนท้องตอนขึ้นเครื่องบินควรต้องเตรียมหรือปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง โดยปกติแล้วแต่ละสายการบินจะมีข้อกำหนดสำหรับอายุครรภ์ของหญิงตั้งท้องนะคะว่าสามารถขึ้นได้ที่อายุครรภ์ที่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่แล้วจะห้ามอายุครรภ์เกิน 35 สัปดาห์ขึ้นไปโดยสารเครื่องบินนะคะ ก่อนที่หญิงตั้งครรภ์จะขึ้นเครื่องควรจะต้องทำการขอใบรับรองแพทย์ไว้ก่อนเพื่อนำไปยื่นกับเจ้าหน้าที่และใช้ในการกรอกแบบฟอร์ม ข้อควรหลีกเลี่ยงสำหรับหญิงตั้งครรภ์สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบินคือไม่ควรจะเดินทางในระยะทางที่ไกลๆใช้เวลาในการเดินทางนานๆ เพราะว่า ภายในเครื่องบินมีความกดอากาศอยู่แม้ว่าจะมีการปรับความกดอากาศภายในเครื่องบินแล้วก็ตามแต่ก็ยังคงมีอยู่ซึ่งมีผลต่อการไหลเวียนของเลือดมีผลกระทบต่อคุณแม่และลูกในครรภ์ได้ด้วยค่ะ ในขณะที่คุณแม่อยู่บนเครื่องบินหากจำเป็นต้องเดินทางระยะทางนานๆให้หมั่นลุกขึ้นเดินบ้าง แต่ก็ต้องเดินด้วยความระมัดระวังถ้าเลือกได้ให้เลือกที่นั่งตรงริมทางเดินเพราะว่าปกติหญิงมีครรภ์จะปวดปัสสาวะบ่อยเพื่อสะดวกในการลุกนั่งด้วยค่ะ เอาเป็นว่าแอดมินฟันธงว่าคนตั้งครรภ์สามารถขึ้นเครื่องบินได้แต่ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของแต่ละสายการบินนั้นๆ นะคะ ก่อนจะใช้บริการก็ควรจะสอบถามไปทางสายการบินที่เราจะเดินทางหรือดูข้อมูลในเว็บไซด์ก็ได้ค่ะเค้ามีกำหนดไว้ชัดเจน  ** ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก pixabay.com ** -----------------------------------------------------------   Create Date : 30 สิงหาคม 2558     Last Update : 17 ตุลาคม 2558 22:52:08 น. Counter : 903 Pageviews.   0 comment Share Tweet

จองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวอย่างไรให้ได้ราคาถู๊กกก ถูก อารมณ์เสียทุกทีไปสิไหนใครบอก ว่าตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวนี้ถูกแล้ว ถูกกว่าเดินทางด้วยรถทัวร์อีก ไหนๆลองไปจองหน่อยสิ นั่นขึ้นเลยๆ ไหนว่าถูก พันกว่าทั้งนั้น ปิดคอม ปิด Appอารมณ์เสียเลยทีเดียว คนอ่านบอก แอดมินมันพล่ามอะไร คุณก็เป็นเหมือนกันใช่มั้ยล่ะจองตั๋วเครื่องบินทีไรไม่เคยจะได้ถูกๆ ซะทีวันนี้เรามาดูเทคนิคในการจองตั๋วเครื่องบินถูกๆ กัน ว่าเขาทำกันอย่างไร อย่ารีบร้อนจองนานถูกมาก อยากได้ของถูกต้องใจเย็นๆค่ะ ตั๋วเครื่องบินที่ถูกจริง ได้จริง เค้าจองกันข้ามปีค่ะเพราะฉะนั้นคาดการณ์การเดินทางล่วงหน้ายาวๆ ไปปีหน้าได้เลยยิ่งดีรับรองคุณจะได้ของตั๋วถูกค่ะไม่ใช่จะบินวันนี้พรุ่งนี้ไปกดจองรับรองราคาเกินเอื้อมค่ะ หลายคนคงบอกว่าฉันไม่รู้น่ะสิ อีกตั้งปี ฉันจะไปได้ไหม มีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม แต่แอดมินไม่แคร์ค่ะจองไปก่อน ยิ่งพวกโปร 0 บาทนี่ รีบตะครุบเลยพอถึงเวลาไม่ได้ไป ก็ค่อยไปทำเรื่องขอค่าธรรมเนียมต่างๆ คืนค่ะ ถึงไม่ได้ 0บาท พวกตั๋วถูกๆ ไม่กี่ร้อย ถ้าต้องเสียไปก็ไม่เสียดายนะคะเพราะถูกๆ แบบนี้มันหายากนัก อย่าจองวันหยุดยาววันหยุดนักขัตฤกษ์ นี่ข้อนี้ห้ามเลยคุณจะไม่มีโอกาสได้ยลตั๋วถูกเป็นแน่ อย่างที่ทางการเค้าเชิญชวนให้ไปเที่ยววันธรรมดานั่นละค่ะ เพราะคนไม่ค่อยไปเที่ยววันธรรมดาไงคะ ตั๋วก็เลยถูก เพราะฉะนั้นหาวันลาเหมาะๆ จองวันธรรมดาไปเลย หลายสายการบินก็ออกมาตอบรับนโยบายก็เฮโลกันลดตั๋วเครื่องบินให้ เพราะฉะนั้น อย่าจองวันหยุดค่ะ อย่านอยด์เรื่องที่นั่ง คิดจะซื้อของถูกก็ถูกให้มันสุดๆ ไปเลยค่ะ ไปด้วยกันไม่ต้องนั่งใกล้กันก็ได้ อย่านอยด์ค่ะอย่านอยด์คิดซะว่านั่งเครื่องแป๊บเดียวก็ถึงที่หมาย บางจังหวัดชั่วโมงนิดๆ เองถือซะว่าเป็นชั่วโมงให้อิสระซึ่งกันและกัน เพราะอะไรน่ะหรือก็ถ้าเราเลือกที่นั่งก็ต้องเสียเงินเพิ่ม ประหยัดไป ร้อยบาทก็ยังถือว่าได้ประหยัดนะคะ ไม่นั่งข้างหน้าต่างก็ไม่เป็นไร เราเน้นถูก เพราะฉะนั้นเค้าให้นั่งตรงไหนก็นั่งไปเลยค่ะ เราเน้นของถูก  อย่าบ้าหอบฟาง ไปเที่ยวนะไม่ใช่ย้ายบ้าน เอาเฉพาะของที่จำเป็นติดตัวไป ไม่ใช่ขนยกครัวกันไปเลยเพราะถ้าคุณหิ้วกระเป๋าน้ำหนักเกินเอาขึ้นเครื่องแล้วละก็คุณต้องได้โดนโหลดลงใต้เครื่องเป็นแน่ เสียเงินเพิ่มอีกๆ ไม่เอาๆ เราเน้นประหยัดเพราะฉะนั้นจัดการข้าวของให้ดีอย่าให้เกินที่สายการบินเค้ากำหนดให้ถือขึ้นเครื่องฟรีได้ หูไวตาไวติดตามโปรโมชั่น รักจะประหยัดก็ต้องทำการบ้านกันหน่อยค่ะ โหลดมา ไม่ว่าจะเป็น App หรือไปไล่กดLike ในแฟนเพจ ของแต่ละสายการบินเลยยิ่งในหน้าแฟนเพจยิ่งดีใหญ่ เค้าจะมีโฆษณาโปรโมชั่นมาเรื่อยๆ ค่ะ เกาะติดหน้าจอเลยโปรมาปุ๊บ จองปั๊บ  เท่านี้คุณก็จะได้ตั๋วถูกสมใจแล้วค่ะแล้วก็ไม่ต้องไปบ่นอีกน๊า ว่าทำไมโฆษณาชวนเชื่อตั๋วก็ยังแพงอยู่ จองให้มันถูกวันถูกที่ ถูกทาง สู้ๆ นะคะ ^ ^ **ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก pixabay.com ** -------------------------------------------------   Create Date : 28 สิงหาคม 2558     Last Update : 17 ตุลาคม 2558 22:49:30 น. Counter : 1147 Pageviews.   0 comment Share Tweet

2 ที่เที่ยวประวัติศาสตร์แห่งเมืองกาญที่ต้องห้ามพลาด เมื่อพูดถึงจังหวัดกาญจนบุรี พูดได้ว่านับเป็นจังหวัดที่อยู่ในกระแสกันเลยทีเดียว สังเกตได้จากหน้าฟีด ในเฟซบุ๊คของทุกคนที่ขึ้นมาให้ได้เห็นกันในแต่ละวัน พอมาโฟกัสกันที่ที่เที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี หลายคนจะแห่แหนกันไปนอนที่พักแพริมน้ำกันซึ่งมันก็สวยจริงๆ นะคะ แนะนำให้หาเวลาไปพักกันให้ได้สักครั้งหนึ่ง แต่บทความในวันนี้อยากจะนำเสนออีกมุมมองหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี นั่นคือ สะพานแห่งประวัติศาสตร์ที่ควรจะไปเยือนให้ได้สักครั้งเช่นกัน สะพานข้ามแม่น้ำแคว นอกจากความสวยงามอย่างไร้ที่ติของสะพานนี้แล้วยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกเรือนหมื่นเพื่อมาก่อสร้างสะพานแห่งนี้ เพื่อเป็นทางข้ามผ่านไปยังประเทศพม่าด้วยเส้นทางนี้ต้องผ่านแม่น้ำแควใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบากโดนทารุณกรรมจากเหล่าทหาร รวมทั้งขาดแคลนอาหาร โรคภัยไข้เจ็บก็รุมเร้าทำให้เชลยเรือนหมื่นนั้นบาดเจ็บล้มตายกันเป็นอันมาก ซึ่งนั่นนับเป็นอดีตที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง แต่ในปัจจุบันนี้ความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ยังเป็นแค่ความทรงจำ เหลือทิ้งไว้ให้คือความสวยงามไว้ให้คนรุ่นหลังได้ไปเยือน สะพานข้ามแม่น้ำแควตั้งอยู่ที่ตำบล ท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ เข้าไปนิดเดียวเพียง 4 กิโลเมตรเมื่อไปถึงคุณก็จะพบกับความงดงามของสะพานเหล็กที่เป็นรูปโค้งตัดกับแม่น้ำแควใหญ่เมื่อได้ไปยืนอยู่บนนั้น ลมพัดเย็นสบาย หายร้อนกันไปเลยทีเดียวแต่วันที่แอดมินได้ไปนั้น คนจะมากไปสักหน่อย เลยเก็บภาพมาได้แบบติดผู้คนแต่สะพานก็ยังสวยอยู่ ถ้าจะให้ดี ต้องมีไปซ้ำอีกแน่นอนคิดว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมน่าจะเป็นช่วงเช้าๆ หรือไม่ก็เย็นๆ ไปเลยเค้ามีบริการรถรางด้วยนะคะ เปิดเป็นเวลาแต่วันนั้นต้องรีบกลับเข้ากรุงเทพ ไม่ได้ลองนั่งเลย เอาไว้คราวหน้ากะจะลองนั่งดูซักครั้งคงจะได้อีกอารมณ์หนึ่งตรงกันข้ามจะเห็นวิวของวัดและมีเจ้าแม่กวนอิมองค์โตตั้งตระหง่านรอให้พวกเราไปสักการะ ตรงตีนสะพานมีร้านรวงเปิดขายสินค้าของที่ระลึกมากมายเลยค่ะใครที่อยากจะหาอาหารทาน หรือจะหาซื้อของฝากก็ซื้อกันได้ตรงนี้เลยค่ะ  ทางรถไฟสายมรณะ ถ้าเรานั่งรถไฟต่อไปอีกเราก็จะเจออีกหนึ่งทางรถไฟสายประวัติศาสตร์เช่นกันนั่นคือ ทางรถไฟสายมรณะ ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะเหตุผลเช่นเดียวกันกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว แต่เส้นทางนี้สวยงามกว่าสะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นอย่างมากแอดมินเทใจให้ทางรถไฟเส้นนี้มากกว่าเยอะเลยค่ะ  เนื่องด้วยทางรถไฟสายโหดสายนี้ถูกสร้างขึ้นลัดเลาะภูเขาและเหวที่สูงชันน่าหวาดเสียวมากๆ ค่ะ ไปเที่ยวคราวนี้แอดมินได้สัมผัสทางรถไฟสายนี้อย่างใกล้ชิดกันเลยทีเดียวค่ะเราได้ไปพักกันที่ สวนไทรโยครีสอร์ท ซึ่งมีสถานีรถไฟตรงนั้นด้วยค่ะเราไปรอขึ้นรถไฟกันที่นั่นแต่ก่อนรถไฟจะมาเราสามารถเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์บนรางรถไฟได้อีกด้วยเรียกได้ว่าเสียวว้าบ กันเลยทีเดียว เบื้องล่างคือเหวและแม่น้ำที่ไหลแรงใครชอบแอดเวนเจอร์หรือชอบความหวาดเสียวท้าทาย ก็สามารถเดินต่อไปจนสุดทางก็จะเจอกับถ้ำกระแซค่ะ แต่แอดมินขอบายใจไม่กล้าพอ เดินไป แค่ 300เมตรขาก็สั่นพั่บๆ แล้ว ขอไปแอ๊บเดินแล้วก็แช๊ะภาพซักสองสามภาพ  เสียงวูดรถไฟดังมาแต่ไกลปู้นๆๆๆวิ่งกลับแทบไม่ทัน มารู้อีกที พี่คนขับรถไฟเค้าจะจอดให้คนเดินกลับจนหมดเสียก่อนค่ะค่อยขับไปต่อ ใครที่อยากจะติดรถไปที่ถ้ำกระแซด้วยก็เชิญเลยค่ะ ฟรีค่ะ พอรถกลับก็ค่อยกลับพร้อมรถก็ได้ค่ะ สำหรับบทความนี้ขอฝากสองทางรถไฟสายประวัติศาสตร์นี้ให้เพื่อนๆได้ไปเยือนกันด้วยนะคะ รับรองได้เซลฟี่ กับวิวที่สวยงามมากๆ อย่างแน่นอน -----------------------------------------   Create Date : 13 สิงหาคม 2558     Last Update : 17 ตุลาคม 2558 22:45:25 น. Counter : 794 Pageviews.   0 comment Share Tweet

เที่ยวทะเลมามากแล้ว เที่ยวแม่น้ำบ้างดีกว่า มีคนไม่น้อยที่หลงใหลการท่องเที่ยวทะเลอาจจะเป็นเพราะเสน่ห์ของสายลม หาดทราย แสงแดด และเสียงคลื่นที่เย้ายวน คนไม่น้อยที่ว่านั้นก็รวมแอดมินเข้าไปด้วยค่ะ จนมาถึงเมื่อวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาแอดมินได้มีโอกาสเปลี่ยนอารมณ์ลองไปเที่ยวแม่น้ำ และภูเขามาปกติไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ก็ใจมันไม่ไปทางนั้นแต่ก็ทนกระแสโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คไม่ไหว คนแห่แหนกันไปเที่ยวกาญจนบุรีกันเป็นว่าเล่นรีวิวขึ้นหน้า Feed เช้า กลางวัน เย็น ทนไม่ไหวซะแล้วขอลองหน่อย ขับรถออกจากกทม.ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชม. ก็ถึงจุดหมายปลายทาง จ.กาญจนบุรีพอหลุดจากตัวเมืองกาญจนบุรี เข้าเส้นทางไปไทรโยคเท่านั้นแหละ คุณขา.... โอ้โหเส้นทางนั้น ภูเขาเรียงรายเต็มไปหมด วิวสวยๆ ฟ้าใสๆ บรรยากาศดีๆอยากจะเปิดกระจกขับรถกันเลยทีเดียว นี่ละน๊า ที่เขาว่ากันว่า ไม่มาเห็นด้วยตาตัวเองก็คงไม่รู้ภูเขาก็สวยไม่แพ้ทะเลเลยค่ะ อากาศบริสุทธิ์ที่ได้สูดเข้าไปขับไล่อากาศเป็นพิษในปอดออกไปจนหมดกันเลยทีเดียวขับรถต่อไปอีกนิดไม่ถึง 15 กิโลเมตรเราก็มาถึงจุดที่พักของเรา เป็นรีสอร์ทที่อยู่ติดกับแม่น้ำค่ะ ลองนึกภาพตามนะคะเบื้องหน้าคือแม่น้ำ ฉากหลังคือภูเขา สุขใดเท่านี้ไม่มีแล้วค่ะแม่น้ำเบื้องหน้าของเราเป็นแม่น้ำแควน้อยค่ะ อยู่ติดกับสะพานรถไฟสายมรณะ วิวทิวทัศน์ที่เห็นต่างจากภาพถ่ายในรีวิวที่เราเห็นมากค่ะ มันสวยกว่า สวยกว่ามาก  มันเป็นอะไรที่ดีนะคะได้นั่งมองดูสายน้ำไหลผ่าน ลมเย็นๆ พัดมาปะทะหน้าเรียกได้ว่าฟินสุดๆ ไปเลยค่ะ ตอนนี้แอดมินเริ่มจะหลงใหลการท่องเที่ยวตามภูเขาและแม่น้ำซะแล้วถ้าหากมีเวลาลองหาโอกาสมาท่องเที่ยวสไตล์นี้กันนะคะ รับรองได้ว่าคุณจะลืมทะเลไปชั่วขณะเลยทีเดียว เดี๋ยวบทความหน้าสัญญาว่ามีรีวิวให้ชมกันแน่นอนค่ะ ตอนนี้อุบไว้ก่อนนะคะ ว่าแอดมินแอบไปพักที่ไหนมา ---------------------------------------------------------   Create Date : 10 สิงหาคม 2558     Last Update : 17 ตุลาคม 2558 22:40:53 น. Counter : 1212 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• KhunPa_Pui
• charavan
• yingkatoon
• made-from-heart
• GadZook!
• Webmaster - BlogGang