เมื่อพูดถึงจังหวัดกาญจนบุรี พูดได้ว่านับเป็นจังหวัดที่อยู่ในกระแสกันเลยทีเดียว สังเกตได้จากหน้าฟีด ในเฟซบุ๊คของทุกคนที่ขึ้นมาให้ได้เห็นกันในแต่ละวัน

พอมาโฟกัสกันที่ที่เที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี หลายคนจะแห่แหนกันไปนอนที่พักแพริมน้ำกันซึ่งมันก็สวยจริงๆ นะคะ แนะนำให้หาเวลาไปพักกันให้ได้สักครั้งหนึ่ง

แต่บทความในวันนี้อยากจะนำเสนออีกมุมมองหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี นั่นคือ สะพานแห่งประวัติศาสตร์ที่ควรจะไปเยือนให้ได้สักครั้งเช่นกัน

สะพานข้ามแม่น้ำแคว

นอกจากความสวยงามอย่างไร้ที่ติของสะพานนี้แล้วยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกเรือนหมื่นเพื่อมาก่อสร้างสะพานแห่งนี้ เพื่อเป็นทางข้ามผ่านไปยังประเทศพม่าด้วยเส้นทางนี้ต้องผ่านแม่น้ำแควใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบากโดนทารุณกรรมจากเหล่าทหาร รวมทั้งขาดแคลนอาหาร โรคภัยไข้เจ็บก็รุมเร้าทำให้เชลยเรือนหมื่นนั้นบาดเจ็บล้มตายกันเป็นอันมาก ซึ่งนั่นนับเป็นอดีตที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง

แต่ในปัจจุบันนี้ความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ยังเป็นแค่ความทรงจำ เหลือทิ้งไว้ให้คือความสวยงามไว้ให้คนรุ่นหลังได้ไปเยือน

สะพานข้ามแม่น้ำแควตั้งอยู่ที่ตำบล ท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ เข้าไปนิดเดียวเพียง 4 กิโลเมตรเมื่อไปถึงคุณก็จะพบกับความงดงามของสะพานเหล็กที่เป็นรูปโค้งตัดกับแม่น้ำแควใหญ่เมื่อได้ไปยืนอยู่บนนั้น ลมพัดเย็นสบาย หายร้อนกันไปเลยทีเดียวแต่วันที่แอดมินได้ไปนั้น คนจะมากไปสักหน่อย เลยเก็บภาพมาได้แบบติดผู้คนแต่สะพานก็ยังสวยอยู่ ถ้าจะให้ดี ต้องมีไปซ้ำอีกแน่นอนคิดว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมน่าจะเป็นช่วงเช้าๆ หรือไม่ก็เย็นๆ ไปเลยเค้ามีบริการรถรางด้วยนะคะ เปิดเป็นเวลาแต่วันนั้นต้องรีบกลับเข้ากรุงเทพ ไม่ได้ลองนั่งเลย เอาไว้คราวหน้ากะจะลองนั่งดูซักครั้งคงจะได้อีกอารมณ์หนึ่งตรงกันข้ามจะเห็นวิวของวัดและมีเจ้าแม่กวนอิมองค์โตตั้งตระหง่านรอให้พวกเราไปสักการะ

ตรงตีนสะพานมีร้านรวงเปิดขายสินค้าของที่ระลึกมากมายเลยค่ะใครที่อยากจะหาอาหารทาน หรือจะหาซื้อของฝากก็ซื้อกันได้ตรงนี้เลยค่ะ 

ทางรถไฟสายมรณะ

ถ้าเรานั่งรถไฟต่อไปอีกเราก็จะเจออีกหนึ่งทางรถไฟสายประวัติศาสตร์เช่นกันนั่นคือ ทางรถไฟสายมรณะ ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะเหตุผลเช่นเดียวกันกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว แต่เส้นทางนี้สวยงามกว่าสะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นอย่างมากแอดมินเทใจให้ทางรถไฟเส้นนี้มากกว่าเยอะเลยค่ะ 

เนื่องด้วยทางรถไฟสายโหดสายนี้ถูกสร้างขึ้นลัดเลาะภูเขาและเหวที่สูงชันน่าหวาดเสียวมากๆ ค่ะ ไปเที่ยวคราวนี้แอดมินได้สัมผัสทางรถไฟสายนี้อย่างใกล้ชิดกันเลยทีเดียวค่ะเราได้ไปพักกันที่ สวนไทรโยครีสอร์ท ซึ่งมีสถานีรถไฟตรงนั้นด้วยค่ะเราไปรอขึ้นรถไฟกันที่นั่นแต่ก่อนรถไฟจะมาเราสามารถเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์บนรางรถไฟได้อีกด้วยเรียกได้ว่าเสียวว้าบ กันเลยทีเดียว

เบื้องล่างคือเหวและแม่น้ำที่ไหลแรงใครชอบแอดเวนเจอร์หรือชอบความหวาดเสียวท้าทาย ก็สามารถเดินต่อไปจนสุดทางก็จะเจอกับถ้ำกระแซค่ะ แต่แอดมินขอบายใจไม่กล้าพอ เดินไป แค่ 300เมตรขาก็สั่นพั่บๆ แล้ว ขอไปแอ๊บเดินแล้วก็แช๊ะภาพซักสองสามภาพ 

เสียงวูดรถไฟดังมาแต่ไกลปู้นๆๆๆวิ่งกลับแทบไม่ทัน มารู้อีกที พี่คนขับรถไฟเค้าจะจอดให้คนเดินกลับจนหมดเสียก่อนค่ะค่อยขับไปต่อ ใครที่อยากจะติดรถไปที่ถ้ำกระแซด้วยก็เชิญเลยค่ะ ฟรีค่ะ พอรถกลับก็ค่อยกลับพร้อมรถก็ได้ค่ะ

สำหรับบทความนี้ขอฝากสองทางรถไฟสายประวัติศาสตร์นี้ให้เพื่อนๆได้ไปเยือนกันด้วยนะคะ รับรองได้เซลฟี่ กับวิวที่สวยงามมากๆ อย่างแน่นอน

-----------------------------------------