• My Journey

แนะนำโรงแรมเด่นในจังหวัดอุบลราชธานี 1. อุ่นเรือน เรสซิเดนซ์ แอนด์ เรสเทอรองต์ (Aunruen Residence & Restaurant) อุ่นเรือน เรสซิเดนซ์แอนด์ เรสเทอรองต์ สถานที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของจังหวัดอุบลราชธานีด้วยการเดินทางที่สุดแสนสะดวกสบาย อุ่นเรือน เรสซิเดนซ์ แอนด์ เรสเทอรองต์อยู่ห่างจากสนามบินอุบลราชธานี และสถานีขนส่งเพียง 20 นาที บรรยายกาศภายในอุ่นเรือน เรสซิเดนซ์ แอนด์ เรสเทอรองต์ สุดแสนสบายคุณจะผ่อนคลายไปกับการบริการที่สุดแสนประทับใจของพนักงานต้อนรับและสถานที่พักโอ่อ่าหรูหราในสไตล์บูติครีสอร์ท ห้องพักสะอาดพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหนื่อยๆจากการท่องเที่ยวเดินป่า คุณสามารถว่ายน้ำผ่อนคลายในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อมสรรพด้วยบริการโลกออนไลน์ของคุณด้วย Free WiFi และยังเติมพลังได้ที่ร้านอาหารไทยต้นตำหรับที่อุ่นเรือน เรสซิเดนซ์ แอนด์ เรสเทอรองต์ เตรียมไว้บริการแด่ทุกท่าน นอกจากนี้อุ่นเรือน เรสซิเดนซ์ แอนด์ เรสเทอรองต์ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษจัดทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยว อาทิเช่น ไหว้พระ 9 วัดในเมืองอุบลราชธานี, อุบลราชธานี-ลาวใต้, ทัวร์ลาวใต้ 3 วัน 2 คืน,ทัวร์นครวัด - นครธม, และทัวร์ เวียดนาม 6 วัน5 คืน เป็นต้น สนใจ อุ่นเรือน เรสซิเดนซ์ แอนด์ เรสเทอรองต์ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ //www.aunruen.com หรือสอบถามโทร.045 301 191, 08-2757-8380 2. สุนี แกรนด์ โฮเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ (Sunee Grand Hotel & Convention Center) หากจะมาเที่ยวอุบลราชธานีแล้วต้องการที่พักคงปฏิเสธไม่ได้ว่า โรงแรมสุนีย์แกรนด์ โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับครอบครัวในสไตล์มาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว อันดับ 1ของจังหวัดอุบลราชธานีที่ใครๆ ต่างพูดถึงกัน ห้องพักของโรงแรมสุนีย์แกรนด์ โฮเทลแอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ มีมากถึง 222 ห้อง การบริหารงานอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Businessand Family Hotel นอกจาก โรงแรมสุนีย์แกรนด์ โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จะเป็นโรงแรมใจกลางเมืองอุบลราชธานีแล้ว การเดินทางก็แสนสะดวกสบายห่างจากสนามบินเพียง10 นาทีเท่านั้น ยังไม่หมดนะคะ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ยังครบครันในเรื่องความสะดวกสบาย เพราะอยู่ในพื้นที่ของ Sunee Tower ที่เป็นอาคารคอมเพล็กซ์ ซึ่งได้รวบรวมเอาแหล่งช็อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า, ซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่,ศูนย์จำหน่ายสินค้าไอที, ธนาคารและบริษัททางการเงิน รวมถึงเป็นแหล่งEntertainment Center ความบันเทิงไร้ขีดจำกัด, โรงภาพยนต์, สวนน้ำและอีกมากมายไว้บริการ ในส่วนของ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ยังมีบริการสปา นวดไทย ไว้คอยบริการให้กับท่านผู้ที่รักสุขภาพอีกด้วยด้วยการเดินทางที่แสนสะดวกประกอบกับความครบครันในการบริการ โรงแรมสุนีย์แกรนด์โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จึงเป็นโรงแรมอันดับต้นๆ ในใจของนักท่องเที่ยวที่เลือกมาใช้บริการเมื่อยามที่มาท่องเที่ยวณ เมืองอุบลราชธานีแห่งนี้ ช่องทางการติดต่อ //www.suneegrandhotel.com/โทร. 045-352900 3. อุบลบุรี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท (UbonBuri Hotel & Resort) โรงแรมอุบลบุรีโฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เป็นอีกโรงแรมหนึ่งที่นึกถึงทุกครั้งที่ต้องไปเที่ยวที่อุบลราชธานีโรงแรมอุบลบุรี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ทเป็นโรงแรมขนาด 4 ดาว ตั้งอยู่บนถนนศรีมงคลอำเภอวารินชำราบ ห่างจากสนามบินเพียง 6 นาทีเท่านั้น ความประทับใจแรกนอกจากตัวอาคารที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่ดูดีคลาสสิคแล้วคือการบริการที่สุดแสนประทับใจจากพนักงาน เมื่อเทียบกับราคาที่พักที่จ่ายไป ไม่แพงเลย เรียกว่าไม่ผิดหวังในการมาใช้บริการในห้องพักยังมีมุมพักผ่อนเล็กๆสำหรับนั่งมองวิวทิวทัศน์ด้วยระเบียงห้องหรือชานเรือนไว้นั่งชิลๆจิบน้ำชากาแฟซึ่มีไว้บริหารในห้องพักอีกด้วย เหนื่อยๆจากการท่องเที่ยวยังมีอ่างอาบน้ำในห้องพัก ไว้คอยบริการให้นอนแช่น้ำอุ่นแบบชิลๆมีบริการสระว่ายน้ำแยกความลึกของเด็กและผู้ใหญ่ให้อย่างชัดเจนความสะอาดวัดจากสายตาให้ผ่าน 100% มีบริการ Free WiFi ซึ่งนอกจากสามารถใช้บริการในห้องพักได้แล้วยังสามารถใช้บริการในบริเวณพื้นที่ต่างๆของโรงแรมได้อีกด้วย บรรยากาศโดยรวมโรงแรมอุบลบุรี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ทเป็นที่พักแบบสบายๆ แบบธรรมชาติ ไม่เน้นแสงสีเสีงแต่ก็มีร้านอาหารไว้บริการนะคะสถานที่ตั้งก็ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายๆ แห่ง เช่นวัดหนองป่าพงวัดป่านานาชาติ และบ้านคำปุน แหล่งผลิตงานผ้าหัตถศิป์ผ้าทอมือของฝากสำคัญของอำเภอวารินชำราบสุดท้ายนี้ขอบอกคำเดียวคะว่า โรงแรมอุบลบุรี โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ดีดี๊คุ้มที่ได้มาจริงๆ สำหรับการติดต่อจองห้องพัก สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร.045-266-7777  4. โรงแรมเอ็กเซลล่า (Excella Hotel) เป็นอีกโรงแรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้จริงๆที่ตั้งของโรงแรมแห่งนี้อยู่ในเขตตัวเมืองอุบลราชธานีเดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลาจากตัวเมืองเพียง5 นาที จากตลาดหนองบัวใช้เวลา 10 นาที จากสนามบินอุบลราชธานีใช้เวลาเพียง 12 นาทีความพิเศษของโรงแรมเอ็กเซลล่าสามารถเช็คอินเข้าห้องพักได้ตลอด 24 ชม. ค่าบริการห้องพักเริ่มต้นด้วยราคาไม่ถึง1 พันบาท ภายในห้องพักมีมุมครัวไว้บริการทั้งเครื่องไมโครเวฟและตู้เย็น และพื้นที่สำหรับการรับประทานอาหารไว้บริการด้วยภายในห้องยังมีโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนดูโทรทัศน์ระบบสัญญาณดาวเทียมแบบชิลๆสามารถใช้บริการ FreeWiFi ของโรงแรมได้ในทุกจุดของคนที่ขับรถมาเองมักกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยและจำนวนของที่จอดรถ สำหรับโรงแรมเอ็กเซลล่า หมดกังวลได้เลยคะ เพราะนอกจากจะมีลานจอดรถฟรีแล้วยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดเวลาตื่นเช้ามาไม่อยากออกจากห้อง โรงแรมเอ็กเซลล่ามีบริการเสริฟอาหารเช้าถึงห้องพักอีกด้วย สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ หมายเลขโทร.045-313314 และ 045-315-051  5. โรงแรมระพีพรรณวิลล์ (Rapeepan Ville Hotel) โรงแรมระพีพรรณวิลล์โรงแรมขนาดเล็กกระทัดรัดแบบบูติคโฮเท็ล ที่ตั้งของโรงแรมไม่ไกลจากตัวเมืองการเดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลาจากสนามบินเพียง 15 นาที จากสถานีขนส่ง 10 นาทีและจากโรงแรมไปสถานที่แหล่งท่องเที่ยวใช้เวลาเพียง 10 นาทีเช่นกันหากใครกำลังหาที่พักสำหรับเที่ยวงานประเพณีแห่งเทียนพรรษา “ทุ่งศรีเมือง”ขอแนะนำว่า โรงแรมระพีพรรณวิลล์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียวด้วยราคาที่พักหลักร้อยบาทถึงหลักพันนิดๆกับการบริการและความปลอดภัยเทียบได้กับเข้าพักในโรงแรมขนาดใหญ่โรงแรมระพีพรรณวิลล์มีลานจอดรถไว้บริการสำหรับท่านที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาเองทำให้คลายกังวลเรื่องความปลอดภัยของรถยนต์แสนรักไปได้เลย เรียกว่า พักผ่อนนอนหลับรถไม่หายสบายใจคะพอถึงเคาน์เตอร์ต้อนรับพนักงานต้อนรับให้บริการแบบเป็นมิตรมากห้องพักมีระบบคีย์การ์ด ห้องพักสะอาดมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันการต้อนรับในห้องพักแอบน่ารักด้วยผลไม้สดที่วางไว้ต้อนรับซึ่งมีน้ำดื่มเย็นๆแช่ไว้ให้ด้วย เครื่องใช้ส่วนตัวและของใช้ในห้องน้ำมีอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผม รองเท้าเปลี่ยนสำหรับเดินในห้องพัก ผ้าต่างๆ ก็สะอาดมีกลิ่นหอมบนโต๊ะแบบมีหนังสือธรรมมะวางไว้ด้วยนะคะ เฟอร์นิเจอร์และของใช้ยังใหม่และพร้อมใช้งานทุกอย่างนอกจากนี้ราคายังไม่แพงแถมราคาห้องพักยังรวมบริการอาหารเช้าให้กับผู้ที่มาพักอีกด้วยโรงแรมระพีพรรณวิลล์ยังมีบริการ Free WiFiไว้สำหรับบริการทุกๆ ท่านไม่ต้องกลัวว่าจะขาดการติดต่อสื่อสารหากมาพักบริการที่นี่ด้วยขนาดโรงแรมที่กระทัดรัดทำให้ความเร็วของ WiFi แรงมากโดยรวมแล้วราคาของที่พักของโรงแรมระพีพรรณวิลล์กับการบริการที่ได้รับเรียกว่าคุ้มสุดคุ้มจริงๆ คุณสามารถดูรายละเอียดของโรงแรมระพีพรรณวิลล ได้จาก//www.rapeepanvill.com/ โทรศัพท์: 045-312841,0874582700 -------------------------------------------------------   Create Date : 08 กรกฎาคม 2558     Last Update : 17 ตุลาคม 2558 18:58:30 น. Counter : 878 Pageviews.   0 comment Share Tweet

หลบดราม่า บัตร Maroon 5 ซื้อตั๋วเครื่องบินราคาลด 50% เที่ยววันธรรมดาลั่นล้า ไม่แย่งชิง เห็น ททท.เค้าโปรโมทกันจั๊งงง เรื่องให้ไปเที่ยวธรรมดา แว๊บแรกคิดในใจ เหอะ ใครจะไปได้ก็ทำงาน เชื่อว่ามนุษย์งานประจำทุกคนคิดแบบนั้น  แน่นอนเรายังคงมีความคิดแบบนั้นจนกว่าจะได้ไปสัมผัสของจริง จนมีวันหนึ่งเมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว มีความคิดว่าอยากไปเที่ยวทะเลใต้แต่อยากไปนานๆ จัง แต่ถ้าจะไปนานๆ ได้ก็ต้องอาศัยวันหยุดยาวเดือนพ.ค.นับได้ว่าเป็นเดือนที่มีวันหยุดเยอะมาก เหลือบไปเห็นตัวเลขสีแดงมากมายบนปฏิทินจึงลงมือทำการจองตั๋วเครื่องบิน และโรงแรม กลับพบว่าสองสิ่งที่ทำให้ความอยากไปเที่ยวลดลงคือ ราคาที่แพงแสนแพงและเต็มไปทุกสิ่งอย่าง นี่ละน๊าพิษสงของการท่องเที่ยววันหยุดยาวนับว่าเป็นอุปสรรคหนึ่งของคนคิดอยากจะเที่ยว และนับว่าเป็นปัญหาระดับชาติของคนคิดอยากจะเที่ยวเลยทีเดียว วันนั้นถอดใจแล้ว  ขับรถกลับบ้านด้วยใจที่ห่อเหี่ยวฉันไม่ได้เที่ยวแล้ว ทันใดนั้นสปอตวิทยุผ่านหูเข้ามา มาแล้วๆ งาน ททท.วันธรรมดาน่าเที่ยว ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมลด 50% มันเหมือนเสียงสวรรค์เลยทีเดียว อยากรู้ว่ามันจะลดได้ซักแค่ไหนกันไปเที่ยวทั้งทีก็อยากไปให้มันสบาย นั่งเครื่องบินไป อยากได้โรงแรมดีๆ กดโทรศัพท์หาคุณแฟนหันรถกลับมุ่งตรงไปที่งาน มันถูกจริงๆ คร่าคุณผู้ช๊มมม ที่เค้าติดป้ายว่าลด 50% นั่นคือลดจริง ถูกจริง  และนี่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตการท่องเที่ยวของเราเลยก็ว่าได้ฉันจะไม่เที่ยววันหยุดอีกแล้ว มีหลายคนค้านในใจว่าก็ทำงานอ่ะ ก็มีวันลาก็ลาไปสิ คุณป้อม เจ้าของ tarad.com เคยพูดไว้ว่าการท่องเที่ยวคือการพักผ่อนที่ได้ชาร์จแบตเต็มที่เพื่อได้จะได้กลับมามีไฟในการทำงานต่อ ถ้าหากเราไปเที่ยวแล้วเราต้องเครียดตั้งแต่ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไปจนถึงต้องไปเที่ยวแบบเจอคนมากมายวุ่นวาย แย่งกันกิน กันใช้ แทนที่เราจะไปผ่อนคลายไปชาร์จแบตแบบที่เค้าว่า กลายเป็นได้รับความเครียดกลับมา  ไม่ต้องกลัวที่จะเดินไปบอกเจ้านายว่าขอลาพักร้อน คนไทยหลายคนกลัวการลา ทั้งๆ ที่การลาไม่ได้มีอะไรที่ผิด วันลาคือสิทธิ์ของเราบริษัทในเมืองไทยในเกือบ 100% มีวันลาพักร้อน ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า ให้ลาไปพักผ่อนมนุษย์เงินเดือนเกิน 50% เก็บวันลาพักร้อนเอาไว้ทำธุระใช่มันก็ไม่ผิด แต่เราลืมไปหรือเปล่าเราควรลาเพื่อไปพักผ่อนบ้าง ไปเที่ยวในเวลาที่ไม่พลุกพล่านวุ่นวายส่งผลให้สุขภาพจิตดี เมื่อสุขภาพจิตดีเราก็พร้อมที่จะกลับมาลุยงานที่มันหนักหน่วงต่อ เที่ยววันธรรมดาดีอย่างไรกับคุณป้อม ตั้งแต่นั้นมาพอเห็นมีโฆษณาจากสายการบินต่างๆมีลดราคาเยอะๆ  0 บาทบ้าง ลด 50% บ้าง เจอโรงแรมดีๆ มีลดราคามีเหรอที่เราจะพลาด รีบตะครุบไว้ก่อนเลยมันก็เปรียบเหมือนเป็นการบังคับตัวเองไปในตัวนะพอถึงเวลายังไงก็ต้องไปเพราะเสียดายตัง 555 เจ้านายหลายคนเดี๋ยวนี้ความคิดเค้าเปลี่ยนไปจริงๆ เค้าอาจจะรอให้เรามาลาพักร้อนเพื่อไปพักผ่อนบ้างก็ได้ อย่ากลัวไปเองลองไปเที่ยววันธรรมดาซักครั้งแล้วคุณจะติดใจ ** ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก pixabay.com ** ------------------------------------------ กล้าไม่กล้า..ท้าเที่ยววันธรรมดา!   Create Date : 07 กรกฎาคม 2558     Last Update : 7 กรกฎาคม 2558 12:40:36 น. Counter : 711 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ชวนเที่ยว 5 ที่เที่ยวสุดมหัศจรรย์ที่อุบลราชธานี 1. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม “อุบลเมืองดอกบัวงามแม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์ ฉลาดภูมิปัญญาท้องถิ่นดินแดนอนุสาวรีย์คนดีศรีอุบล“ แค่คำขวัญประจำจังหวัดก็ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเรานึกอยากไปสัมผัสกับสถานที่แห่งนี้แล้วสินะอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เมืองแห่งประวัติศาสตร์ ความประทับใจแรกของสถานที่แห่งนี้คงหนีไม่พ้นความสวยงามของหน้าผาที่สูงชัน ที่เกิดจากการแยกตัวของผิวโลกอุทยานแห่งชาติผาแต้มครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอสำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิไทรโดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาวอุทยานแห่งชาติผาแต้มนอกจากจะมีธรรมชาติที่สวยงามและแปลกตาแล้วยังมีเรื่องราวกล่าวขานกันมากมาย เนื่องจากในสมัยก่อนชาวบ้านเชื่อกันว่า ผาแต้มเป็นเขตหวงห้าม เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่แห่งความตายหากใครเกิดหลงเข้าไปก็จะมีอันตรายหรือเจ็บไข้ได้ป่วยปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานีเมื่อมาที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มแล้ว สถานที่ๆหลายคนพลาดไม่ได้ในการถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้แก่ “เสาเฉลียงคู่”แท่งหินทรายประติมากรรมขนาดใหญ่ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ไม่ต่ำกว่า180 ล้านปี ซึ่งเกิดจากการกันเซาะของน้ำและลม 2. อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ มาเที่ยวอุบลราชธานีทั้งทีอีกสถานที่หนึ่งที่พลาดไม่ได้นั่นคือ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะลักษณะอันโดดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะพบกับแก่งหินที่เป็นแผ่นหินขนาดใหญ่ที่กั้นขวางกลางลำน้ำมูลเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าแก่งตะนะ สายน้ำจากแก่งตะนะจะแยกแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกน้อยใหญ่ซึ่งอยู่บริเวณนี้นั่นเองอุทยานแห่งชาติตะนะตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 อำเภอ ของจังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่อำเภอโขงเจียม และอำเภอสิริธร ลักษณะทางธรรมชาติ เป็นที่ราบสูงสลับเนินเขาเตี้ยๆเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามป่าโดยรอบอุทยานแห่งชาติตะนะมีลักษณะเป็นป่าแดงหรืออีกชื่อหนึ่งคือป่าแพะต้นไม้ในป่าไม่สูงใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำมูล สำหรับจุดท่องเที่ยวสำคัญๆของอุทยานแห่งชาติตะนะ ได้แก่ ดอนตะนะ มีลักษณะเป็นสันดอนที่กั้นขวางลำน้ำมูลทำให้ลำน้ำแบ่งออกเป็นสองสายหากเดินไปทางตอนเหนือของดอนตะนะ จะพบกับหาดทรายที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนบนดอนตะนะยังมีสภาพป่าทางธรรมชาติให้ศึกษาอีกมากมายและยังเป็นป่าไม้สักธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอีกด้วย หรือท่านใดที่ไม่อยากยากลำบากในการเดินทางมากนักอาจให้บริการของการเดินข้ามสะพานแขวนไปก็ยังได้ ดอนตะนะมีความกว้างประมาณ 450 เมตรและยาว 700 เมตร นอกจากแก่งตะนะ และดอนตะนะแล้ว หากไม่พูดถึง น้ำตกตาดโตนก็ยังเรียกว่ามาไม่ถึงอุทยานแห่งชาติตะนะ น้ำตกแห่งนี้มีความสวยงามมากแห่งหนึ่งเกิดจากลำห้วยตาดโตนไหลผ่านลานหินสูงต่ำต่างๆเกิดเป็นแอ่งน้ำที่สามารถลงไปเล่นน้ำให้ชื่นฉ่ำอุราได้อย่างสบายใจและยังสบายตาไปกับดอกไม้นานาพันธุ์ที่ขึ้นอยู่รอบๆ บริเวณน้ำตกอีกด้วยหากต้องการเดินป่าชื่นชมธรรมชาติอันงดยังมีเส้นทางน้ำตกรากไทรไว้ให้นักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินป่าสามารถชื่นชมและศึกษาธรรมชาติของพืชพันธุ์ไม้มอส เฟิร์น ได้อย่างอิ่มเอมใจ 3. ผาชะนะได “ผาชะนะได” ชื่อนี้หลายๆ คนคงต้องบอกว่าคุ้นหูมากๆเพราะได้ยินทุกครั้งเมื่อฟังรายการพยากรณ์อากาศประจำวันของกรมอุตุนิยมวิทยาว่าพระอาทิตย์จะขึ้นเวลากี่โมง เนื่องจากจุดนี้เป็นจุดแรกของประเทศไทยที่เห็นแสงตะวันหรือแสงพระอาทิตย์แรกยามเช้าของประเทศไทยนั่นเองมีความเชื่อกันว่า หากใครได้ไปสัมผัสกับแสงแรกแห่งตะวัน ณ ผาชะนะไดแล้วเปรียบเสมือนกับเป็นการเติมพลังให้กับชีวิตเลยทีเดียวผาชะนะไดเป็นหน้าผาที่มีความสูงชัน ที่อยู่ในเขตพื้นที่ของเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้มจังหวัดหวัดอุบลราชธานี ลักษณะของผาชะนะไดจะเป็นหน้าผาสูงชันที่ยื่นออกไปนอกจากแสงแรกแห่งตะวันแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม เบื้องล่างเมื่อมองลงไปจะพบกับแม่น้ำโขงที่แบ่งกั้นพรมแดนไทย-ลาวเบื้องหน้าแนวเขาสลับสับซ้อนของภูเขาแดนลาวในฤดูหนาวยังเพิ่มความโรแมนติกไปกับทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงอีกด้วยด้วยการเดินทางไปยังผาชะนะไดที่ค่อนข้างยากลำบาก รถที่ขับไปได้นั้นต้องเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน4 ล้อ ไม่เช่นนั้นนักท่องเที่ยวก็ต้องอาศัยการเดินป่าเข้าไปแต่นั่นทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย 4. สามพันโบก “สามพันโบก” แกรนด์แคนยอน ณ ประเทศไทยสถานที่แห่งนี้หากใครได้เห็นได้สัมผัสแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า“นี่แหล่ะแกรนด์แคนยอน” สามพันโบก ตั้งอยู่ในเขตของตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิไทย จังหวัดอุบลราชธานีสามพันโบก ชื่อนี้อาจฟังดูแปลกๆ หู เอ๊ะ! มันคืออะไรกันนะ คำว่าโบกเป็นภาษาท้องถิ่นอีสานแปลว่า แอ่งหรือหลุม สามพัน ก็ตรงตัวเลย เมื่อรวมกันแล้วสามพันโบก คือ มีหลุมหรือแอ่งจำนวน 3,000 หลุม ซึ่งอาจเกิดการการอุปมาของลักษณะของสถานที่ๆมีแอ่งหลุมจำนวนมากมายนั่นเอง แอ่งหลุมเหล่านี้ชาวบ้านเชื่อกันว่าเมื่อสมัยดึกดำบรรพ์บริเวณนี้อาจเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ และใต้ผืนน้ำแห่งนี้มีแรงน้ำวนเศษตะกอนหินและทรายต่างๆ ที่อยู่ใต้น้ำกันเซาะชั้นหินต่างๆ ทำให้เกิดหลุมและเมื่อถึงยุคของการยกตัวแผ่นดินอีสาน พื้นดินใต้น้ำจึงกลายเป็นหลุมมากมายบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงในปัจจุบันสามพันโบกดินแดนแห่งหุบเหวและหินผาขนาดย่อมๆ ของเมืองไทยลักษณะของแก่งหินสามพันโบกมีความสวยงามแปลกตา มีลักษณะใหญ่บ้างเล็กบ้างรูปร่างเป็นวงกลมวงรีและอื่นๆ แตกต่างกันไปแล้วแต่ใครจะจิตภาพไปต่างๆ นานา การเดินทางนอกจากเส้นทางรถยนต์ที่เข้าถึงแล้วนักท่องเที่ยวนิยมที่จะนั่งเรือจากหาดสลึงที่บ้านสองคอน อำเภอโพธิ์ไทรล่องเรือตามลำน้ำโขงระยะทางราวๆ 4 กิโลเมตรมาเที่ยวชมธรรมชาติที่สามพันโบกได้เช่นกันระหว่างเส้นทางเรือจะผ่านจุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำโขง มีชื่อเรียกว่า “ปากบ้อง”ซึ่งมีความกว้างเพียง 56 เมตรเท่านั้น เนื่องจากสามพันโบกเป็นสถานที่ๆความเจริญทางด้านวัตถุยังเข้าไม่ถึงผู้ที่นิยมแสงสีเสียงอาจไม่ใช่ทางท่องเที่ยวสำหรับท่านแต่หากว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบธรรมชาติ แสงหิ่งห้อยดวงไฟน้อยๆ ยามค่ำคืนเสียงของกระแสน้ำและธรรมชาติที่แปลกตาสามพันโบกเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานีที่ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด 5. อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามของจังหวัดอุบลราชธานีแล้วที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอยยังเป็นพื้นที่พรมแดนรอยต่อระหว่างประเทศจุดสำคัญที่เรียกว่า สามเหลี่ยมมรกต (Emerald Triangle) นั่นคือ เป็นพื่นที่รอยต่อระหว่างชายแดนประเทศไทย-ลาว-กัมพูชา จุดของสามเหลี่ยมมรกตกินบริเวณพื้นที่ประมาณ 12 ตารางกิโลเมตรส่วนของประเทศพื้นที่อยู่ ณ อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย พื้นที่ของประเทศลาวคือแขวงจำปาสัก ส่วนพื้นที่ของประเทศกัมพูชาคือ จังหวัดพระวิหารอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอยตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอน้ำยืน อำเภอบุณฑริก และอำเภอนาจะหลวยจังหวัดอุบลราชธานีสถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอยที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันมาก เช่นน้ำตกห้วงหลวง หรือเรียกกันว่าน้ำตกบัวเตว เป็นน้ำตกสูง 3 ชั้น ความสูงรวมราวๆ 30เมตร ความวิจิตรงดงามของน้ำตกห้วงหลวงอยู่ที่หุบเขาด้านล่างของน้ำตกมีน้ำเป็นสีเขียวมรกตตัดกับสีขาวของเม็ดทรายช่วงที่น้ำตกสวยที่สุดคือช่วงเดือนปลายฝนต้นหนาวเมื่อดื่มด่ำกับสุนทรียภาพของน้ำตกห้วงลวงแล้วท่านยังเดินทางต่อไปยังน้ำตกจุ๋มจิ๋มหรือน้ำตกประโอนละออได้เช่นกันน้ำตกแห่งนี้เกิดจากน้ำที่ไหลลดระดับจากมาจากน้ำตกห้วยหลวงนั่นเอง นอกจากน้ำตกแล้วยังมีแหล่งลานหินต่างๆ ให้ชื่นชมอีกมากมาย เช่น จุดชมวิวผาผึ้ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสวนหินพลานยาว สวนหินที่มีกลุ่มของหินธรรมชาติที่มีรูปร่างแปลกๆกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ท่านจะพบกับความงดงามตามแนวชายแดนสามเหลี่ยมมรกตได้จากจุดชมวิวผาผึ้งโดยที่ผาผึ้งจะมีชะง่อนผาและถ้ำเหมือนรังผึ้งขนาดเล็กใหญ่ๆ มากมายให้ชม ----------------------------------------   Create Date : 06 กรกฎาคม 2558     Last Update : 17 ตุลาคม 2558 18:32:10 น. Counter : 959 Pageviews.   0 comment Share Tweet

แนะนำโรงแรมน่าพักในหาดใหญ่ คราวนี้เรามาดูกันบ้างมีที่พักที่ไหนที่น่าสนใจบ้างในหาดใหญ่ประกอบไปด้วยโรงแรมน้อยใหญ่ตกแต่งหลากหลายสไตล์กันออก มีทั้งแบบโมเดิร์นและ ยังอนุรักษ์วัฒนธรรมของทางภาคใต้ไว้ บุรีศรีภู บูติก โฮเต็ล (BuriSriphu Boutique Hotel) ถึงแม้ว่าที่นี่จะคือภาคใต้แต่บุรีศรีภู บูติก โฮเต็ล ก็ยังเป็นโรงแรมหนึ่งเดียวที่ตกแต่งแบบสไตล์ล้านนาดูแหวกแนวไปอีกแบบ ข้าวของเครื่องใช้ ตกแต่งด้วยไม้สาน ผ้า เหล็ก และทองแดงที่ได้กลิ่นอายของล้านนา ภายนอกตัวตึกยังเต็มไปด้วยสวนต้นไม้ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายเหมาะแก่การพักผ่อนถึงโรงแรมนี้จะเป็นสไตล์ล้านนา แต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครันเช่นกันมีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ มี Wifi ความเร็วสูงให้บริการรอบตัวโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย  สถานที่ตั้ง: 310 ถนนศรีภูวนารถอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 โทรศัพท์: 0-7424-7111 โทรสาร: 0-7424-7164 อีเมล: info@burisriphuhotel.com เว็บไซต์: //www.burisriphuhotel.com โรงแรมหรรษา เจบี (Hansa JB Hotel) เมื่อพูดถึงโรงแรมหาดใหญ่โรงแรมหรรษาเจบี เป็นโรงแรมสุดฮิตอันดับต้นๆ เลยทีเดียวเนื่องด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย และตั้งอยู่ใจกลางเมืองสามารถรองรับกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ได้ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับมีห้องจัดเลี้ยงเพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักเป็นกรุ๊ป การเดินทางไปยังโรงแรมหรรษาเจบี จากตัวเมืองสงขลาตรงเข้าอำเภอหาดใหญ่ จะเจอวงเวียนน้ำพุ ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปประมาณ 500 เมตรมีป้ายบอกทางไปโรงแรมหรรษาเจบีหาดใหญ่ สถานที่ตั้ง: 99 ถนนจุติอนุสรณ์ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ สงขลา 90110 โทรศัพท์: 074234300 , 074234304 , 074234305 , 074234306 , 074234307 , 074234301 โทรสาร: 074234328 เว็บไซต์: //www.hansajbhotel.com ลีวาน่า (LeevanaHotel) เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว เพิ่งเปิดให้บริการ ราคาน่าคบหาไม่เกินหนึ่งพันบาทตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น ห้องโทนสีขาวทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มี Wifi ความเร็วสูงให้บริการทั่วตัวอาคารอีกด้วยถ้านักท่องเที่ยวคนไหนต้องการช็อปที่ตลาดกิมหยง แนะนำโรงแรมนี้เลยค่ะเดินทางไม่ไกลจากตลาดกิมหยงที่เป็นสวรรค์ของนักช็อป ด้านหน้ามีอาคารจอดรถกว้างขวางทางโรงแรมยังมีร้านอาหารไว้บริการสำหรับท่านที่ไม่อยากออกไปทานข้างนอกอีกด้วยถึงจะเป็นโรงแรมที่เปิดใหม่ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ อุปกรณ์ทุกอย่างทันสมัย  สถานที่ตั้ง: 738 ถนนราษฏร์อุทิศ, หาดใหญ่นอร์ธ,หาดใหญ่ 90110 ประเทศไทย โทรศัพท์: 074 363 3333 โทรสาร: 074 363 3334 โรงแรมวีแอล หาดใหญ่ (V.L. Hatyai Hotel) อีกหนึ่งโรงแรมหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่มีห้องพักไว้บริการถึง 100 ห้อง มีหลายแบบให้เลือกทั้งStandard room และ Luxurious suite เดินทางทางสะดวกอยู่ใกล้สถานีรถไฟ และรถทัวร์สามารถเดินไปถึงได้สบายๆ นอกจากนี้อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการไปช็อปที่ตลาดกิมหยงและเซ็นทรัลเฟสติวัลและใกล้แห่งบันเทิงอีกด้วยด้านล่างของโรงแรมมีร้านอาหารและห้องประชุมไว้บริการสำหรับแขกผู้เข้าพักที่จัดมาเป็นกรุ๊ปทัวร์  สถานที่ตั้ง: 1 - 3 - 5 - 7 ถ.นิพัทธ์อุทิศ 1 อ.หาดใหญ่จ.สงขลา 90110 โทรศัพท์: 074-223660-3, 352201-3 โทรสาร: 074-352210 คิส การ์เด้นโฮม ชิค โฮเต็ล (KissGardenhome Chic Hotel) โรงแรมราคาหลักพันต้นๆที่ตั้งอยู่ในกลางเมืองหาดใหญ่ เป็นโรงแรมระดับ 3ดาวที่การันตีว่า การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกมากว่า 3 ดาว มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นทั้งหมดเช่น อ่างอาบน้ำร้อน, สปา, บริการนวด,ซาวน่า, ห้องอบไอน้ำ สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวสถานบันเทิงหรือแหล่งช็อปปิ้งได้อย่างสะดวกสบาย สถานที่ติดต่อ: 51/2 ถ.หอยมุข ตลาดเมืองหาดใหญ่ หาดใหญ่, สงขลา90110 โทรศัพท์: 074234444 เว็บไซต์: //www.kissgardenhomechichotel.com -------------------------------------------   Create Date : 04 กรกฎาคม 2558     Last Update : 17 ตุลาคม 2558 18:26:41 น. Counter : 1392 Pageviews.   1 comment Share Tweet

แนะนำที่เที่ยว Unseen ของเมืองหาดใหญ่ หาดใหญ่นับว่าเป็นเมืองหลวงของจังหวัดสงขลาได้เลยทีเดียวเป็นเมืองเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยย่านการค้า การท่องเที่ยวมากมายวันนี้จะมาแนะนำที่เที่ยว Unseen ของเมืองหาดใหญ่และโรงแรมน่าพักซัก 4-5 โรงแรมค่ะ  พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ เป็นพระธาตุที่สร้างขึ้นด้วยสแตนเลสทั้งองค์ตั้งอยู่บนเขาคอหงส์ที่มีทางโค้งคดเคี้ยวแต่ไม่ยาวมากสามารถเดินทางขึ้นไปโดยรถยนต์หรือมอเตอร์ไซด์ได้ชาวบ้านรู้จักกันในนามเจดีย์สแตนเลส เนื่องด้วยโครงสร้างส่วนใหญ่ทำจากสแตนเลสสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชมมายุครบ 60 พรรษา จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเจดีย์สแตนเลสนี้ประตูถูกเจาะเป็นวงกลมแตกแต่งด้วยสแตนเลสเส้นกลม มี 8 ช่องประจำวันเกิดนอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีสถานปฏิบัติธรรม และ เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ให้ไปสักการะอีกด้วย วนอุทยานควนเขาวัง วนอุทยานควนเขาวังเป็นอีกหนึ่งวนอุทยานที่มีน้ำตกที่สวยงามเหมาะสำหรับคนที่อยากหนีความวุ่นวายในตัวเมือง ไปสูดอากาศสดชื่นวนอุทยานควนเขาวังอยู่ห่างจากตัวเมืองหาดใหญ่เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้นสามารถเดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ตำบลฉลุย อำเภอหาดใหญ่และรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ค่าเข้าอุทยานสำหรับผู้ใหญ่ราคา 20-80บาท และ เด็ก ราคา 10-40 บาท น้ำตกโตนงาช้าง น้ำตกโตนงาช้างนับว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุดของอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาที่เรียกว่าน้ำตกโตนงาช้าง เพราะว่า โตนแปลว่าน้ำตก และลักษณะของน้ำตกนี้มีลักษณะแยกเป็น 2 สายคล้ายกับงาช้าง มีทั้งหมด 7 ชั้นชั้นที่นับว่าเป็นไฮไลท์ของน้ำตกนี้คือ ชั้นที่ 3 เราจะพบน้ำตกที่แยกออกมาเป็น 2 สายได้ที่ชั้นนี้ แต่ชั้นอื่นๆ ก็มีคามงามที่แตกต่างกันไปมีชื่อเรียกต่างๆกันไป ได้แก่ ชั้นที่ 1 โตนบ้า ชั้นที่ 2 โตนปลิว ชั้นที่ 3 โตนงาช้าง ชั้นที่ 4 โตนดำ ชั้นที่ 5 โตนน้ำปล่อย ชั้นที่ 6 โตนฤาษีคอยบ่อ ชั้นที่ 7 โตนเหม็ดชุน ซึ่งมีความสูง 1,550เมตร เราสามารถเดินทางโดยรถยนต์ไปถึงที่น้ำตกได้จากอำเภอหาดใหญ่ด้วยระยะทาง  26 กิโลเมตร ไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงานช้างได้เลย น้ำตกโตนหญ้าปล้อง นับว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและอยู่ใกล้ตัวเมืองมากๆอยู่บริเวณโรงเรียนหาดใหญ่พิทยาคมเดินทางเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้นเอง มีฝายกั้นน้ำเพื่อกั้นน้ำตกเป็นชั้นๆมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ลักษณะเป็นป่าดิบชื้นที่บริเวณด้านล่างของน้ำตกยังมีชาวบ้านนำของป่ามาขายให้เราได้ซื้อหากันได้อีกด้วย ตลาดน้ำคลองแห ปัจจุบันนี้ ที่ไหนๆเค้าก็มีตลาดน้ำกัน ที่หาดใหญ่ก็มีตลาดน้ำกับเค้าด้วยเหมือนกันตลาดน้ำที่ว่านี้คือตลาดน้ำคลองแห ตั้งอยู่ที่ ท่าน้ำวัดคลองแห ตำบลคลองแหอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เวลาเปิดทำการ: 16.00 - 20.00เพราะฉะนั้นต้องจัดตารางเวลาเที่ยวให้ดีตลาดน้ำนี้เปิดเฉพาะตอนเย็นจนถึงสองทุ่มเท่านั้นนับเป็นตลาดน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวของภาคใต้มีสินค้าท้องถิ่นมากมายให้เลือกซื้อเลือกหา ถ้าอยากได้สะตอสด อาหารใต้ อาหารมุสลิมก็แวะกันที่ตลาดนี้ได้เลย ----------------------------------   Create Date : 04 กรกฎาคม 2558     Last Update : 17 ตุลาคม 2558 18:19:10 น. Counter : 2295 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• KhunPa_Pui
• charavan
• yingkatoon
• made-from-heart
• GadZook!
• Webmaster - BlogGang