Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
24 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
《ต้าฮั่นเทียนจื่อ 1》 三十七


สารบัญ | ตอนที่แล้ว | ตอนถัดไป

จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 1 - ตอนที่ 37


20 พฤศจิกายน 2550 / ปรับปรุงแก้ไข :



37-1


เว่ยชิงพายเรือพาไท่จื่อข้ามแม่น้ำหวงเหอ หลังจากที่ช่วยกันลากเรือขึ้นฝั่งและนั่งพักหายเหนื่อย เว่ยชิงก็ได้เอ่ยถามไท่จื่อ

“คนที่ไล่ตามจับเจ้าเป็นใครกันเหรอ”

“อาของข้าเอง”

“อาแท้ๆเหรอ แล้วอาแท้ๆจะตามฆ่าเจ้าทำไมกัน” เว่ยชิงสงสัย

“เจ้าคงคิดว่าเป็นเรื่องขำขำสินะ”

“ทำไมล่ะ”

“เจ้าได้ยินเค้าเรียกข้าว่าอะไรล่ะ”

“ข้าได้ยินว่าไท่จื่อ หากไท่จื่อไม่ใช่ชื่อของเจ้า งั้นเป็นอะไรล่ะ”

“เจ้าไม่รู้จริงๆเหรอเนี่ย”

“ไม่รู้” เว่ยชิงส่ายหน้า

“ข้าจะบอกกับเจ้ายังไงดีล่ะเนี่ย” จากนั้นไท่จื่อก็เงียบไปไม่พูดอะไรอีก

เมื่อไท่จื่อนิ่งเงียบ เว่ยชิงจึงเดาเรื่องเอาเอง “ใช่พ่อของเจ้าตายหรือเปล่า อาของเจ้าเลยคิดจะแย่งมรดกจากเจ้า เรื่องแบบนี้ในหมู่บ้านข้าก็มี”

“แย่งมรดกกันน่ะใช่ แต่ว่ามรดกชิ้นนี้ใหญ่มากเสียด้วย”

เว่ยชิงปลอบ “เจ้าไม่ต้องกังวลใจไป พวกเค้าตามมาไม่ทันหรอก หากไม่ถึงพรุ่งนี้ไม่มีทางหาเรือได้แน่”

“เรื่องนั้นข้าไม่กังวลหรอก ข้ากังวลใจเรื่องพี่เขยของข้าต่างหาก”

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะพายเรือย้อนกลับไปดูให้เจ้าเอง”



37-2


บุรุษลึกลับเข้ามาในห้องพักของอ๋องเหลียง เพื่อจะรายงานความคืบหน้าในการติดตามไท่จื่อให้ทรงทราบ

“ลากตัวกลับมาได้หรือเปล่า” อ๋องเหลียงตรัสถาม

“ลมแรงและคลื่นสูงแบบนี้ คงจะเป็นอาหารปลาไปแล้วล่ะ ท่านอ๋อง”

“เจ้ามั่นใจว่าเค้าตายแน่แล้วเหรอ”

“ข้าเห็นกับตาเลยท่านอ๋อง บนตัวเค้าไม่เพียงจะถูกยิงด้วยลูกธนูเจ็ดแปดดอกเท่านั้น แต่ละดอกยังล้วนโดนจุดสำคัญๆ(要害)อีกด้วย” พูดพร้อมกับยื่นผ้าคลุมที่มีรอยธนูให้อ๋องเหลียงดู

อ๋องเหลียงรับมาดูแล้วตรัส “ตามตัวเจ้าของที่พักเข้ามาหน่อยสิ”

ชายเจ้าของที่พักเดินเข้ามาคุกเข่าลงต่อหน้าอ๋องเหลียง

“ที่พักของเจ้ามีคนมาพักอยู่กี่คน” อ๋องเหลียงตรัสถาม

“ก็มีคนที่เพิ่งจะหนีไปเมื่อตะกี้นี้”

“นอกจากเค้าแล้วยังมีคนอื่นอีกหรือไม่”

“ไม่มีแล้วครับ ไม่มีใครอีกแล้ว”

“สักคนเดียวก็ไม่มีแน่นะ”

“ไม่มีครับ ไม่มีสักคนเดียวครับ”

“แล้วเรือข้ามแม่น้ำ(渡船)หวงเหอจะมาเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้เช้าครับ”

“งั้นเจ้าจงไปเตรียมสุราอาหาร(酒菜)เลี้ยงคนกับหญ้าแห้ง(草料)เลี้ยงม้าให้พร้อม คืนนี้พวกเราจะพักกันที่นี่”

“ข้าน้อยรับรองจะจัดการให้เรียบร้อยไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด ขอใต้เท้าได้โปรดวางใจ ข้าน้อยขอตัวไปดำเนินการก่อนนะครับ”



37-3


เว่ยชิงลากเรือลงน้ำแล้วนึกขึ้นได้หันไปถามไท่จื่อ “คราวนี้เจ้าต้องแย่แน่ๆ ม้าของเจ้าก็ไม่มีแล้ว แล้วเจ้าจะกลับฉางอันยังไง”

“เอาไว้ข้าค่อยคิดหาทางเองก็แล้วกัน”

เว่ยชิงเสนอตัว “ข้าขโมยม้าให้เจ้าเอาไหม ยกเว้นเจ้าแล้ว ข้าไม่เคยทำพลาด(失手)เลยสักครั้งเดียวนะ”

“ไม่ได้นะ ข้าจะไม่ยอม(不允许)ให้เจ้าขโมยม้าอีกเป็นอันขาด” ไท่จื่อรีบห้าม

“ถ้างั้น เจ้าเอาเงินนี้ติดตัวไว้ก็แล้วกัน” เว่ยชิงเอ่ยพร้อมกับล้วงมือไปหยิบเงินออกมาส่งให้ไท่จื่อ

“ข้าไม่เอา”

“เจ้าลองคลำดูที่ตัวเจ้าสิ ป่านนี้เงินของเจ้ามันหล่นลงไปในแม่น้ำหวงเหอหมดแล้ว เจ้าเอาไปเถอะ มีเงินติดตัวเดินทางดีกว่าไม่มีนะ” เว่ยชิงให้เหตุผลพร้อมกับยัดเงินใส่มือไท่จื่อ

“แล้วตัวเจ้าล่ะ จะทำยังไง”

“ง่ายจะตาย ในเมื่อกลับไปรายงานนายของข้าไม่ได้ ข้าก็ไม่กลับไปเท่านั้นเอง แล้วพบกันใหม่นะ” พูดจบเว่ยชิงก็ขึ้นเรือแล้วพายออกไป



37-4


หลี่หลิง ก้วนฟู และกัวเส่อเหริน ถูกหลิวอี้นำตัวไปทรมานโดยการแช่น้ำอยู่ที่คุกน้ำใต้ดิน

“น้ำเย็นจังเลย” หลี่หลิงบ่น

“ที่นี่ก็เย็นเหมือนเดิมนั่นแหละ ข้าจะบอกอะไรให้เจ้าฟัง ตอนนี้ข้ารู้สึกชินกับที่นี่แล้ว(旧地重游)นะ ไม่เห็นมีอะไรที่ข้าจะต้องกลัวเลย” กัวเส่อเหรินพูดข่มอย่างผู้มีประสบการณ์

“ในเมื่อเจ้าไม่กลัว มีหรือข้าจะกลัว ก็แค่แช่น้ำเองใช่ไหม” หลี่หลิงพูดเสียงอ่อยๆ

“เจ้าดูอย่างข้าสิ ข้าแซ่ก้วน(灌 - เติม, กรอก(น้ำ)) มีหรือที่ข้าจะต้องกลัวการแช่น้ำ” พูดโอ้อวดเสร็จก้วนฟูก็เงยหน้าส่งเสียงร้องตะโกน หลิวอี้ ไอ้หลานเนรคุณ อย่าให้ปู่ก้วนของเจ้าออกไปได้เชียวนะ ไม่อย่างนั้นน่าดู”

กัวเส่อเหรินเอ่ยกับก้วนฟู ก้วนฟู เจ้าไม่รู้หรือว่าน้ำที่แช่อยู่นี่ไม่ใช่น้ำธรรมดา แต่เป็นน้ำบ่อ อีกไม่นาน(总有一天)มันจะทำให้เจ้าหาเมียไม่ได้เลยสักคนเดียว”

“แล้วน้ำบ่อกับแต่งเมีย(讨老婆)มันมาเกี่ยวอะไรกันด้วยล่ะ” ก้วนฟูสงสัย

“ทำไมจะไม่เกี่ยว ต่อให้แต่งเมียได้ นางก็จะเกลียดเจ้า ด่าว่าเจ้า ไม่แน่ว่านางอาจจะตะเพิดไล่เจ้าเข้าให้สักวัน”

ได้ยินดังนั้นหลี่หลิงตะโกนด่าทันที หลิวอี้ เจ้าสมควรตายโดยไร้ทายาทสืบสกุล(断子绝孙)จริงๆ”

“อย่าให้พวกเราหลุดออกไปได้ก็แล้วกัน” ก้วนฟูเสริม

“เจ้าคอยดูไว้นะ ไอ้ลูกไม่มีพ่อ” หลี่หลิงด่าอีกครั้ง

กัวเส่อเหริน ที่เจ้าพูดมาเมื่อตะกี้นี้ เจ้าไม่คิดจะแต่งเมีย(娶老婆)แล้วเหรอ” ก้วนฟูถาม

“ข้าจะบอกให้นะ ตอนนี้แม้แต่ผู้หญิงสักคนข้าก็ไม่สนใจเลยสักนิดเดียว แช่น้ำมาหลายวันจนทำให้ข้าปลงแล้ว หากข้าต้องไปเจอกับผู้หญิงเข้า แล้วสมมติว่านางชอบข้าจริง ข้าก็จะบอกกับนางว่า เจ้าอย่ามาหาข้าเลย ผู้หญิงข้าไม่สนใจหรอก และจากวันนี้ไปหากข้าแสวงหาผู้หญิงล่ะก็ ข้าก็ไม่ใช่คนแล้ว หาไปก็เหมือนกับคนตาบอดที่ทำอะไรไม่ได้ แล้วจะมีประโยชน์อะไร”

“งั้น..งั้น..ข้าก็ต้องขอโทษชิวฉานด้วยน่ะสิ” หลี่หลิงโวยวาย

หลี่หลิง ข้าจะบอกอะไรให้ ถึงใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงก็ยังมีใบเขียวอยู่ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าคนเค้าจะรอเจ้าน่ะ” ก้วนฟูแหย่

“ข้ารู้ดีว่านางชอบข้า” หลี่หลิงรีบแย้ง

“ชอบรึ ชอบแบบที่เด็กๆเค้าเล่นสร้างบ้าน(过家家)กันอย่างนั้นใช่ไหม” ก้วนฟูล้อ

“แม้แต่มือของนางข้าก็จับมาแล้ว” หลี่หลิงรีบคุย

“งั้นคราวหน้าเวลาที่เจ้าจับมือนางก็จะเหมือนกับที่เจ้าจับมือข้าน่ะสิ ที่ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย”

กัวเส่อเหรินรีบช่วย “เรื่องอย่างนี้ข้ารู้ดีและรู้จริงนะ ในใจของแม่นางชิวฉานน่ะคิดถึงแต่หลี่หลิงมากเลย”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร”

“ก็ข้าเห็นเนี่ยนหนูเจียวแกล้งหยอกล้อชิวฉานจนนางร้อนลนน่ะสิ ถ้าใจของนางไม่มีเจ้าแล้วนางจะร้อนลนทำไมกัน”

“นางว่ายังไงบ้าง เล่าให้ข้าฟังหน่อยสิ” ต่อมอยากรู้ของหลี่หลิงทำงานทันที

“ข้าพูดไปตอนนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร เจ้าคิดดูสิว่าตอนนี้เจ้าอยู่ที่ไหน อยู่ในคุกน้ำใต้ดินนะ ชิวฉานน่ะเหรอ นับจากวันนี้ไปเจ้ากับนางไม่มีวาสนาต่อกันแล้ว อยากมีวาสนาต่อกันก็รอไว้ชาติหน้าเถอะ ดูสิว่าพวกเจ้าจะมีโชค(运气)หรือเปล่า”

เมื่อเห็นหลี่หลิงทำหน้าเศร้าเดินไปเกาะลูกกรง ก้วนฟูจึงตามเข้าไปปลอบ หลี่หลิง เจ้าฟังข้านะ เจ้าเป็นลูกผู้ชาย(汉子) เจ้าจะปล่อยให้หลิวอี้หลานไม่รักดีคนนั้นมาดูถูกพวกเราไม่ได้ เจ้าได้ยินหรือเปล่า”

หลี่หลิง เจ้าฟังข้านะ พวกเราเป็นคนของไท่จื่อ คนของไท่จื่อก็ควรจะเป็นผู้กล้า อย่างประโยคที่ว่า ผู้กล้าต้องไม่หลั่งน้ำตา(英雄有泪不轻弹)”

หลี่หลิงตะโกนออกมาทันทีว่า หลิวอี้ ปล่อยข้าออกไปนะ ได้ยินไหม ไม่งั้นข้าจะ...”

ทันใดนั้นก็มีน้ำไหลตามท่อลงมาสาดเข้าใส่คนทั้งสามพร้อมกับเสียงเยาะเย้ยของนายทหาร “น้ำพอดื่มหรือเปล่า หากไม่พอดื่มยังมีอีกเยอะเลยนะ หรือจะเลหลังสาวๆพวกนั้นขายให้ข้าก็ได้นะ..”

หลี่หลิงเงยหน้าขึ้นไปด่า แต่จู่ๆนายทหารคนที่กำลังถูกตนเองด่าก็ล้มลง

ชิวฉาน ชิวฉานมาช่วยพวกเราแล้ว” หลี่หลิงบอก

หลี่หลิง เจ้าฝันไปหรือเปล่า” กัวเส่อเหรินคิดว่าหลี่หลิงพูดจาเพ้อเจ้อ

“ก็ข้า..ข้าเห็นชิวฉานนี่”

“พอ..พอแล้ว เลิกละเมอได้แล้ว” กัวเส่อเหรินปราม

“เป็นไปไม่ได้หรอก” ก้วนฟูเห็นด้วยกับกัวเส่อเหรินว่าหลี่หลิงเพ้อเจ้อ

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ ก็ข้าเห็นนางนี่ ต้องใช่นางแน่ๆ”

ทันใดนั้นก็มีลูกกุญแจหล่นลงมา “เห็นไหม ต้องเป็นชิวฉานแน่ๆ นางมาช่วยพวกเราแล้ว ดูสิ”

“ไม่ต้องพูดแล้ว รีบไปกันเถอะ” กัวเส่อเหรินเร่ง

ก้วนฟูหยิบลูกกุญแจแล้วเอ่ย “เลิกจินตนาการได้แล้ว(风花雪月) รีบไปเร็ว”

เมื่อทั้งสามออกมาจากคุกก็เห็นศพของทหารนอนตายเกลื่อนกลาดอยู่ตามทางเดิน



37-5


ทันทีที่ชิวฉานก้าวเท้าเข้ามาในห้องก็มีเสียงถามไล่ตามหลังมาว่า “นี่ก็เที่ยงคืน(半夜三更)แล้ว เจ้าออกไปไหนมา”

ชิวฉานสะดุ้งหันมาบอก “ข้า..ข้าไปเดินเล่นมา”

เนี่ยนหนูเจียวหยิบกระบี่จากมือของชิวฉานมาถือแล้วเอ่ยถาม “ไปจวนของเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อมาล่ะสิท่า”

“พี่ตามข้าไปเหรอ”

“ก็พอพี่ได้ยินมาว่า หลี่หลิงถูกจับตัวไป ก็เลยเกิดกลัวขึ้นมา(魂不守舍)น่ะสิ อีกทั้งพี่ก็คุ้นเคยกับทางเข้าออก(熟门熟路)ของจวนเป็นอย่างดี พี่ก็เลยไปดูคนรักของพี่สักหน่อยว่ายังสบายดีอยู่หรือเปล่า”

“พี่ล้อข้าเหรอ ยังไงคนที่ข้าไปช่วยก็ไม่ใช่เค้าสักหน่อย” ชิวฉานแสร้งเฉไฉ

“งั้นเจ้าไปช่วยใครกันล่ะ ก้วนฟูคนที่มีหนวดเคราเต็มหน้า หรือว่าคนท่าทางกระตุ้งกระติ้งกัวเส่อเหริน ไหนบอกพี่มาสิว่าเจ้าชอบคนไหนกัน”

“ข้าปิดอะไรพี่ไม่ได้เลยเหรอเนี่ย หากเป็นแบบนี้ต่อไปพี่ต้องกลายเป็นตงฟางซั่วแน่ๆ ข้าว่าพรุ่งนี้พี่ไปดูดวงวันละสามครั้งเถอะ” ชิวฉานแขวะใส่ก่อนจะเดินหนีไป



37-6


ในตอนเช้าที่คอกม้าของอ๋องเหลียง เว่ยชิงแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้เดินดุ่มๆหอบหญ้าเข้าไปเลี้ยงม้า ทหารออกมาไล่ว่าให้อาหารม้าแล้วก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน พอให้เสร็จก็รีบออกมาจากที่นั่น

ส่วนไท่จื่อเดินเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อจะขอซื้อม้า แต่มีเงินไม่พอที่จะซื้อ



37-7


“ท่านอ๋อง เรือได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว” บุรุษลึกลับเข้ามารายงานอ๋องเหลียงที่กำลังล้างหน้าล้างตาอยู่ในห้องพัก

“นำม้าไปขึ้นเรือ” อ๋องเหลียงสั่ง

“ทูลท่านอ๋อง ม้าของพวกเราล้มไม่ลุกเลย พะย่ะค่ะ” ทหารนายหนึ่งเข้ามารายงาน

“ว่าไงนะ” อ๋องเหลียงตกใจรีบตามออกไปดูที่คอกม้า ก็เห็นม้าทุกตัวนอนเอกเขนกเต็มไปด้วยขี้ม้าจึงตรัสถาม “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

“ท่านอ๋อง ต้องมีคนแกล้ง(捣鬼)แน่ๆ” บุรุษลึกลับเอ่ยพร้อมกับหยิบหญ้าขึ้นมาดู “นี่มันยาถ่าย(巴豆)นี่”



37-8


ไท่จื่อเดินไปเรื่อยเปื่อยเห็นข้างหน้ามีคอกม้าของทางการอยู่จึงรีบเดินเข้าไป

“นี่..นี่..จะไปไหน” เสียงนายทหารถามเมื่อเห็นไท่จื่อเดินทะเร่อทะร่าเข้ามา

“ขอถามอะไรหน่อย ที่นี่เป็นที่ๆซื้อขายม้าเร็วส่งข่าวของทางการใช่ไหม” ไท่จื่อถาม

“ใช่ แล้วยังไง” นายทหารบอกพร้อมกับส่งสายตามองจากหัวจรดเท้า

“ข้าต้องการม้าสักตัว”

“เจ้ามาเรื่องธุระจากหน่วยไหน มีเอกสารจากทางการหรือเปล่า”

“ข้าก็คือ...” ยังไม่ทันจะได้บอกว่าตนเองเป็นใครก็มีเสียงเรียกทักขึ้นมาซะก่อน

“คุณชายหลี่ คุณชายหลี่ ไม่ได้พบกันซะนาน ท่านคงสบายดีนะ(别来无恙)”

จางเชียน เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน” ไท่จื่อทักด้วยความแปลกใจ

“เค้าเป็นเพื่อนของข้าเอง คนทำการค้า” จางเชียนหันไปบอกนายทหาร แล้วหันมาบอกไท่จื่อ “คุยกันที่นี่ไม่สะดวก ตามข้ามาทางนี้”



37-9


“ทำไมต้องเรียกข้าว่าคุณชายหลี่ด้วยล่ะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ” ไท่จื่อเอ่ยถามขณะที่เดินตามจางเชียนไป

“ท่านก็ดูสิ มีทหารที่มาจากฉางอันตั้งมากมาย เพื่อสืบข่าวคราวของไท่จื่อ”

“ถ้าอย่างนั้นก็มารับข้านะสิ” ไท่จื่อเอ่ยด้วยความดีใจแล้วรีบเข้าไปหากลุ่มทหาร

จางเชียนดึงมือไท่จื่อไว้ “เดี๋ยว..เดี๋ยว..ท่านคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ”

“จริงสิ ราชวงศ์ฮั่นไม่มีไท่จื่อคนที่สองหรอกนะ”

“จากที่นี่ไประหว่างทาง(沿途)เต็มไปด้วยทหาร ถ้าหากว่าข้าดูไม่ผิดล่ะก็ พวกเค้าไม่ได้มาต้อนรับไท่จื่อแน่ๆ แต่คล้ายกับมาตามจับตัวนักโทษ”

“คงไม่หรอก ใครจะกล้ากบฎล่ะ(大逆不道) เอาไว้ข้าจะลองดู” พูดจบไท่จื่อก็เดินไป

“หากท่านไม่เชื่อคำพูดของจางเชียนแล้วล่ะก็ จะลองดูก็ได้”

ไท่จื่อชะงักฝีเท้าหันกลับมาบอก “ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้า เพียงแต่ว่า..”

“ท่านรู้หรือเปล่าว่าที่ท่านเดินอยู่นี่มันคือที่ไหน”

“ที่ไหนล่ะ?”

“ท่านเข้ามาอยู่ในเขตของเหอหนาน(河南)แล้ว”

เหอหนาน? ก็ดินแดนในอาณัติ(属地)ของอ๋องเหลียงนี่ ข้าเชื่อเจ้าแล้ว จางเชียน เจ้ามีวิธีไหม”

“หากท่านคิดจะปิดบังฐานะและเดินทางโดยไม่ให้ใครรู้แล้วล่ะก็ ข้ามีม้าอยู่ตัวหนึ่ง”

“เจ้ามีม้าด้วยเหรอ”

“ม้าตัวนี้ตามข้ามาจากทางตอนเหนือของกำแพงเมืองฉางเฉิง มันรู้จักเส้นทางไปฉางอันดี”

“วันนี้ข้าได้ขี่ม้าของเจ้าหนึ่งตัว พรุ่งนี้ข้าจะคืนให้เจ้าสิบตัว..ไม่สิ..ข้าคืนม้าให้เจ้าหนึ่งฝูงเลยดีไหม”

“ข้าขออูฐ(骆驼)หนึ่งฝูงจะดีกว่า”

“อูฐเหรอ? เจ้าจะเอาอูฐไปทำไมกัน”

“ท่านไม่รู้เหรอว่า อูฐเปรียบเหมือนเรือแห่งทะเลทราย(沙漠之舟) ที่นอกด่านอี้ว์เหมิน(玉门) ทะเลทรายโกบี(沙漠瀚海)เปรียบเหมือนคลื่นยักษ์ในทะเล ช่วงเวลาที่ขี่อูฐเดินทางก็เหมือนดั่งนั่งเรือกลางมหาสมุทร”

“ไม่ว่า เจ้าจะเอาม้าหรือว่าอูฐ ข้าก็เป็นหนี้เจ้าอยู่ดี” ได้ยินที่ไท่จื่อเอ่ย จางเชียนถึงกับหัวเราะออกมา



37-10


อ๋องเหลียงหลังจากที่ข้ามแม่น้ำหวงเหอมาได้แล้วก็เดินทางมุ่งตรงไปยังที่ซื้อขายม้าเร็วส่งข่าวของทางการทันที เมื่อไปถึงก็ได้ตรัสถาม “เห็นไท่จื่อบ้างหรือเปล่า”

“เรียนท่านอ๋อง ไม่พบตัวไท่จื่อเลยจริงๆ พะย่ะค่ะ” นายทหารคนที่ได้พูดคุยกับไท่จื่อไปเมื่อสักครู่ได้ทูลบอก

“หากเห็นคนแปลกหน้า(生人)ก็จับตัวเอาไว้ให้หมด”

“แต่ว่าท่านอ๋อง วันนี้มีชายแปลกหน้า(陌生人)อยู่คนหนึ่งมาที่นี่ พะย่ะค่ะ”

“ท่าทางเค้าเป็นยังไง” อ๋องเหลียงรีบตรัสถาม

“อายุยี่สิบ แต่งตัวดูดี จะมาเอาม้าเร็วส่งข่าวกับข้าน้อย แต่ว่าไม่ได้แซ่หลิว(刘) รู้สึกว่าจะแซ่หลี่(李) พะย่ะค่ะ”

ทันทีที่ได้ยินลักษณะของชายแปลกหน้า อ๋องเหลียงก็สั่งการทันที “รีบไปตามตัวมาให้ข้าเดี๋ยวนี้”

“พะย่ะค่ะ”



37-11


ไท่จื่อสลับเปลี่ยนชุดแต่งกายกับจางเชียนแล้วก็เร่งรีบขี่ม้าเดินทางผ่านป้าเฉียว(灞桥)กลับสู่ฉางอันทันที

ทางด้านหลี่หลิง ก้วนฟู และกัวเส่อเหริน เมื่อออกจากคุกได้แล้ว ก็เร่งขี่ม้าเดินทางกลับฉางอันด้วยเหมือนกัน

“นี่ก้วนฟู เจ้าเร่งม้าให้มันเร็วๆหน่อยได้ไหม” กัวเส่อเหรินที่นั่งอยู่อย่างสบายใจเฉิบบนรถม้าได้ส่งเสียงสั่งก้วนฟูที่ทำหน้าที่เป็นคนบังคับม้า

“เจ้านั่งเฉยๆไปเถอะน่า”

กัวเส่อเหรินกลัวจะเหงาปากเลยหันไปทางหลี่หลิงที่ขี่ม้าอยู่ข้างๆ หลี่หลิง ไม่ต้องฝืนใจมากขนาดนั้นก็ได้ ข้าจะบอกอะไรให้อย่าง สิ่งที่ควรจะเป็นของเจ้ายังไงก็ต้องเป็นของเจ้า ไม่ใช่ของเจ้าต่อให้เจ้าเฝ้ามองก็ไม่ได้กลับไปหรอกนะ”

หลี่หลิงทำหน้าไม่พอใจ จนกัวเส่อเหรินต้องเอ่ยแก้เกี้ยว “มาจ้องหน้าข้าทำไม”



37-12


“เจ้ากลับมาแล้วเหรอ” ภรรยาของจางทังเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นนกพิราบที่ตนเองได้ปล่อยไปบินกลับมาเกาะอยู่ที่กรง จากนั้นก็เดินเข้าไปหาแล้วอุ้มขึ้นมา “เป็นเจ้าจริงๆด้วย คงจะเหนื่อยน่าดูใช่ไหม” พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นว่ามีจดหมายลับเสียบอยู่ที่ขาของนกตัวนั้น



37-13


“หยุดก่อน หยุดก่อน” เจ้าหน้าที่ร้องบอกภรรยาของจางทัง “ท่านเจ้ากรมของศาลกรมวังมีคำสั่งมาว่า งานที่ให้ท่านจางทำเป็นงานที่เร่งด่วนมาก ใครก็เข้าพบไม่ได้โดยเด็ดขาด”

“ขอบใจที่ยังให้เกียรติเรียกเค้าว่าท่าน แม้แต่คนในครอบครัวก็ยังไม่ให้พบ ทำราวกับเค้าเป็นยิ่งกว่านักโทษเสียอีก ขนาดนักโทษที่ถูกตัดหัวด้วยเครื่องกิลโลติน(断头台)ยังอนุญาตให้คนในครอบครัวส่งข้าวส่งน้ำได้เลย” ภรรยาของจางทังไม่สนใจรีบเดินตรงเข้าไปยังห้องที่จางทังใช้ทำงานทันที

“เดี๋ยวก่อน” เจ้าหน้าที่รีบวิ่งมาขวางหน้าไว้ “เจ้ามาส่งอาหารนะได้ แต่ว่าข้าจะเป็นคนนำเข้าไปให้เอง”

“เจ้านะเหรอ เจ้าคิดว่าจะทำแทนข้าได้ดีเหรอ นี่เป็นอาหารที่ข้าตั้งใจทำมาให้เค้าเป็นพิเศษ มีทั้งปลาแห้งอบเกลือ(腊鱼) เนื้อหมูเค็ม(腊肉) น่องไก่อบเกลือ(腊鸡腿) ข้ากลัวว่าอาหารจะไม่ถึงปากเค้าน่ะสิ”

“เจ้ากลัวว่าพวกเราจะแอบขโมยอาหารเค้ากินอย่างนั้นเหรอ” เจ้าหน้าที่ไม่พอใจ

“ใจคนยากแท้หยั่งถึง(人心隔肚皮) จะบอกว่าพวกเจ้าไม่เคยทำอย่างนั้นสิ”

“ส่งเสียงเอะอะอะไรกัน ตัวหนังสือสักตัวข้าเขียนไม่ออกเลย” จางทังเปิดหน้าต่างออกมาดู

จางทัง ก็พวกเค้าหาเรื่องนะสิ” ภรรยาของจางทังฟ้องทันที

“พวกเค้าก็ทำตามคำสั่งของเค้าน่ะ เจ้าจะไปถือสาหาความพวกเค้าทำไม เจ้ารีบขอโทษพี่ชายท่านนี้เสีย”

“ไม่ต้องขอโทษหรอก แต่ท่านเจ้ากรมสั่งเอาไว้ไม่ให้ใครไปรบกวนท่านจางจริงๆนะ”

“ท่านเจ้ากรมต้องการให้ข้าทุ่มเทให้กับงาน(专心致志) ตั้งใจทำงานให้เสร็จโดยเร็ว ความปรารถนาดีอยากให้งานออกมาดีมันผิดตรงไหนล่ะ เจ้ารีบขอโทษเค้าซะ” จางทังกำชับภรรยา

“เพราะข้าไม่ดีเอง” ภรรยาของจางทังเอ่ยคำขอโทษ

“ไม่..อย่าพูดแบบนั้นเลยนะ” เจ้าหน้าที่รู้สึกเกรงใจ

“ส่วนอาหารก็ส่งมาให้ข้าทางหน้าต่างนี่แหละ” จางทังบอกภรรยา

“ส่งให้ทางหน้าต่างเหรอ”

“ใช่ ในห้องนี้เป็นห้องเก็บความลับสำคัญของศาลกรมวัง แม้แต่เค้าก็ยังเข้ามาไม่ได้ ส่งมาทางหน้าต่างนี่แหละดีแล้ว”

ภรรยาของจางทังจึงนำตะกร้าอาหารยื่นส่งให้ทางหน้าต่างพร้อมกับกำชับ “น่องไก่อร่อยมาก ท่านพี่กินให้หมดอย่าเหลือทิ้งล่ะ”

จางทังรับมาพร้อมกับบอก “ได้ เจ้ากลับไปได้แล้วล่ะ”



37-14


จางทังรีบนำตะกร้าอาหารไปวางที่โต๊ะ แล้วรีบหยิบน่องไก่ออกมาค้นจนเจอจดหมายลับที่ซ่อนอยู่ ข้อความในจดหมายได้เขียนเอาไว้สองประโยคว่า “当归已归(ควรกลับกลับแล้ว) 仅止执黑(ครองดำเท่านั้น)

“รีบกลับไปได้แล้ว” เสียงเจ้าหน้าที่ดังขึ้นอยู่ที่ด้านนอก

“ใครอยากจะอยู่กับพวกเจ้ากันเชียว ข้ารอตะกร้าอาหารต่างหากล่ะ” เสียงของภรรยาทำให้จางทังรีบเก็บจดหมายแล้วนำพู่กันมาเขียนตัวอักษรไว้ที่ฝ่ามือ จากนั้นก็นำตะกร้าอาหารออกมาคืนทางหน้าต่าง

“เอาตะกร้าอาหารคืนไป” พูดจบจางทังก็ทิ้งตะกร้าลงบนพื้น เจ้าหน้าที่รีบเข้าไปค้นดูว่ามีอะไรซ่อนอยู่หรือไม่ จางทังอาศัยจังหวะนั้นยกฝ่ามือที่เขียนตัวอักษรว่า “(เจียว)” ให้ภรรยาดู





Create Date : 24 กันยายน 2550
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2550 14:40:39 น. 0 comments
Counter : 1098 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

WangAnJun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add WangAnJun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.